“คิดว่าฉันจะสนเหรอ เธอนี่ตัวปัญหาจริงๆ” ว่าจบก็หันหลังเดินไปที่ประตู
เวนิสาถอนหายใจแรงๆ พยายามลุกยืนด้วยสองขาแต่ไม่สำเร็จ
“โอย...นั่งพักก่อนแล้วกัน ไม่ไหวๆ” บอกตัวเองแล้วนั่งลงที่เดิม ทว่านาทีถัดมาร่างของเธอก็ถูกอุ้มด้วยแขนแกร่งของคนที่ชอบเอ็ดอึง หน้าตาเขาไม่สบอารมณ์นัก
“น่ารำคาญ” ปากบ่นว่า แต่สองแขนอุ้มร่างเวนิสาดิบดี
หญิงสาวค้อนฟ้าค้อนลม
“ไม่ใช่ความผิดฉันสักหน่อย พี่ต่างหากที่ดึงฉันลงสระ”
“ก็เธอใส่ชุดว่ายน้ำมา เป็นใครก็ต้องรู้ว่ามาว่ายน้ำ จะไปรู้ได้ไงว่าว่ายน้ำไม่เป็น” เขาชี้แจง
เวนิสาค้อนให้อีกวงใหญ่ ยกสองแขนโอบรอบคอแกร่งของพี่ศศินคนดี
“ฉันกลัวจริงๆ นะ น้ำเข้าปากเข้าจมูกฉันจนหายใจไม่ออก แสบกะโหลกไปหมดเลย” เธออ้อนบ้าง ได้ยินเสียงศศินถอนหายใจเบาๆ เขาพาเธอเดินออกจากโรงยิม เข้าไปในบ้าน โชคดีที่ลุงวศินไม่อยู่เลยไม่ต้องอธิบายอะไร
“ลงได้แล้ว ขึ้นบันไดเอง” เขาสั่งแต่หญิงสาวส่ายหน้าดิก
“อือ...บอกแล้วว่าขาเปลี้ย ไม่มีแรงเลย ถ้าพี่ปล
“พูดมากจริง ง่วงไม่ใช่เหรอ นอนสิ นอนๆ”แนะแล้วต้องเดินกลับมาเอาหมอนของเวนิสาโยนไปบนที่นอนฝั่งของตัวเองแทนที่หมอนอันเดิมที่ยกให้หล่อนหญิงสาวดึงขาขึ้นมาอย่างยากลำบาก การออกกำลังกายวันแรกทำเอาเธอร้าวระบมไปทั้งตัว ศศินแลเห็นรอยแดงบนหน้าแข้ง แอบส่ายหน้าให้กับท่อนขาอันบอบบาง เขาเปิดลิ้นชักข้างเตียงหายาที่มีไว้เพื่อนวดบรรเทาอาการกล้ามเนื้ออักเสบ หน้าแข้งของเวนิสาเริ่มบวมนิดๆ แลเห็นเป็นมันวาว พรุ่งนี้คงได้ปวดกว่านี้หากไม่รีบหายากันเอาไว้เขาปีนขึ้นไปบนที่นอน หยิบหมอนข้างทิ้งไปเสียแล้วดึงขาหล่อนมาวางบนตัก ก่อนจะเริ่มทายาแล้วนวดเบาๆ“อย่าเตะกระสอบทรายอีกล่ะ เธอไม่เหมาะกับมันหรอก ใช้เครื่องเล่นอย่างอื่นที่พอเล่นได้ก็พอ”“พี่ให้ฉันเข้าไปในนั้นหรือคะ สาวใช้บอกว่านั่นเป็นที่ส่วนตัวของพี่ พี่หวงนี่นา”เขาเบะปากใส่คนที่ออกตัวราวกับเกรงอกเกรงใจ“เธอข้ามขั้นตอนการขออนุญาตไปแล้วนี่ หรือไม่จริง”แม่จอมแสบยิ้มแหยๆ เรื่องนั้นมันก็จริงละนะ“อืม...เย็นดีจัง มือพี่นิ้ม...นิ่ม”
เวนิสาถอนใจยาวๆ โล่งอกที่มันยังไม่เกิดขึ้น แม้เตรียมตัวมาเพื่อสิ่งนี้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอก็อดหวั่นใจไม่ได้ เธอยังอ่อนเดียงสาในเรื่องราคะ บางครั้งมันก็ดูน่ากลัวเกินกว่าจะรับไหวเธอรีบอาบน้ำอย่างที่เขาสั่ง พออาบเสร็จออกมาจากห้องน้ำก็เจอเขาในห้องแต่งตัว เขามีผ้าเช็ดตัวพันไว้รอบเอวสอบ เธออายจนไม่กล้ามองหน้า เขาก็เดินผ่านเธอไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอรีบแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเขาจะอาบน้ำเสร็จ เตรียมตัวเข้านอน ไม่สนมื้ออาหารที่สมควรรับประทานสิบห้านาทีให้หลังศศินก็ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัว กลิ่นแชมพูอ่อนๆ โชยมาก่อนตัวเสียอีก“นี่...ไม่ลงไปกินข้าวเหรอ”คนถูกถามส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว มีหมอนวางบนตัก กอดมันไว้แก้เขิน เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แค่เดินออกจากห้องไปเวนิสาไถลตัวลงมานอนที่พรมลายสวย วางหมอนลงแล้วนอนหนุนมัน ถอนหายใจรอบที่ร้อย ข่มตาให้หลับแต่หลับไม่ลง สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นยังกรุ่นอยู่ในมโนจิต กลิ่นเขา ลมหายใจเขา รสจุมพิตของเขาช่างชัดเจนในหัวใจนี่เธอ...หลงรักศศินอย่างหัวปักหัวปำแล้วใช่ไหม แย่จริง...แล้วถ้าวันหนึ่ง
“คิดว่าฉันจะสนเหรอ เธอนี่ตัวปัญหาจริงๆ” ว่าจบก็หันหลังเดินไปที่ประตูเวนิสาถอนหายใจแรงๆ พยายามลุกยืนด้วยสองขาแต่ไม่สำเร็จ“โอย...นั่งพักก่อนแล้วกัน ไม่ไหวๆ” บอกตัวเองแล้วนั่งลงที่เดิม ทว่านาทีถัดมาร่างของเธอก็ถูกอุ้มด้วยแขนแกร่งของคนที่ชอบเอ็ดอึง หน้าตาเขาไม่สบอารมณ์นัก“น่ารำคาญ” ปากบ่นว่า แต่สองแขนอุ้มร่างเวนิสาดิบดีหญิงสาวค้อนฟ้าค้อนลม“ไม่ใช่ความผิดฉันสักหน่อย พี่ต่างหากที่ดึงฉันลงสระ”“ก็เธอใส่ชุดว่ายน้ำมา เป็นใครก็ต้องรู้ว่ามาว่ายน้ำ จะไปรู้ได้ไงว่าว่ายน้ำไม่เป็น” เขาชี้แจงเวนิสาค้อนให้อีกวงใหญ่ ยกสองแขนโอบรอบคอแกร่งของพี่ศศินคนดี“ฉันกลัวจริงๆ นะ น้ำเข้าปากเข้าจมูกฉันจนหายใจไม่ออก แสบกะโหลกไปหมดเลย” เธออ้อนบ้าง ได้ยินเสียงศศินถอนหายใจเบาๆ เขาพาเธอเดินออกจากโรงยิม เข้าไปในบ้าน โชคดีที่ลุงวศินไม่อยู่เลยไม่ต้องอธิบายอะไร“ลงได้แล้ว ขึ้นบันไดเอง” เขาสั่งแต่หญิงสาวส่ายหน้าดิก“อือ...บอกแล้วว่าขาเปลี้ย ไม่มีแรงเลย ถ้าพี่ปล
แล้วพอศศินแวบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว เวนิสาก็รีบวิ่งขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า มีชุดว่ายน้ำติดมาด้วยแม้ว่าไม่เคยใส่ก็ตาม มันเป็นชุดแบบทูพีชสีแดงที่รวีกานต์ซื้อให้ตอนวันเกิดปีที่แล้ว มันสวยเซ็กซี่แต่มีหน้าที่แค่ใส่แล้วเดินเล่นชายหาด เธอจัดการสวมมันบนร่าง ลำบากนิดหน่อยเพราะตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ พอสวมเสร็จก็รีบคว้าเอาเสื้อคลุมแล้วกลับลงมาที่ยิม เสียงแหวกสายธารของศศินดังมาให้ได้ยิน สองแขนเขาจ้วงน้ำ จ้วงเอาๆ อยู่ที่ปลายสุดของสระ ส่งสายน้ำแตกกระเซ็นราวกับฉลามหนุ่มผู้ปราดเปรียว ช่างน่ามองเสียนี่กระไร“อา...สวรรค์ของชะนีไร้คู่ แขนขาวยาวน่าฟัด กล้ามท้องเป็นลอน ช่วงขาสุดเซ็กซี่ โอ๊ย...เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม...” เวนิสาเคลิ้มฝัน เดินไปตามแนวยาวของขอบสระพร้อมกับฉลามหนุ่มที่กำลังจ้วงน้ำในท่าผีเสื้อ เธอจัดการถอดเสื้อคลุมทิ้ง แล้วก็ได้ผล ศศินถึงกับหยุดการจ้วงแขน แล้วโผล่หน้าขึ้นมามองเธอ“นี่! อย่าบอกนะว่าใส่ชุดนั้นมาจากบ้านน่ะ”หญิงสาวกลอกตาเบาๆ หมายความว่าอย่างไร นี่หวงหรอ กลัวว่าคนอื่นจะเห็นเธอในชุดสุดเซ็กซี่ละสิ“ใช่ค่ะ เปลี่
[5]กีฬาในร่ม-----------ศศินกลับมาถึงคฤหาสน์ศิวเศขรหลังเวนิสาราวชั่วโมงเศษ เขาไม่ได้อยู่บนห้องอย่างที่ควรจะเป็น เวนิสาเที่ยวตามหา และพบว่ากิจกรรมที่เขาโปรดปรานอีกอย่างคือการออกกำลังกาย เขามีโรงยิมส่วนตัวอยู่ด้านข้างของคฤหาสน์ เธอเพิ่งรู้ว่ามันคือโรงยิม นึกว่าโกดังเก็บของเพราะเห็นประตูปิดมิดชิด สาวใช้บอกว่านั่นคือสถานที่ส่วนตัวของเขา ห้ามใครไปรบกวนหากเขาเข้าไปในนั้น แต่ใครที่ว่านั่นไม่มีทางใช่เวนิสา หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นแบบนักกีฬา เผยต้นขาขาวให้พอเซ็กซี่ ผมยาวสลวยถูกมัดไว้ดิบดี ดูแคล่วคล่องพร้อมลงสนามกีฬาหญิงสาวรีบลงมาที่ยิม เปิดประตูเหล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ การสร้างความสนิทสนมเพื่อกระชับความสัมพันธ์นั้น เธอต้องทำทุกวิถีทาง ในเมื่อเขาชอบออกกำลังกาย เธอก็จะชอบด้วย เฮ้อ...แค่คิดก็เหนื่อยตุบตับๆ ตุบตับๆเสียงหมัดหนักๆ กระทบกระสอบทรายที่แขวนอยู่ เวนิสามองร่างสูงของชายในดวงใจ เขาอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามรัดติ้วมีหยาดเหงื่อชโลมกายมันวาว รอบกาย
ห่างออกไปไม่เท่าไร ดวงตาคมกล้าของบุรุษผู้หนึ่งจ้องมองสตรีที่คุ้นตา ทั้งขุ่นเคืองไม่น้อยเมื่อมั่นใจว่าหล่อนคือใคร มีคนมาส่งแถมขับรถเสียหรู คงเป็นคู่เดตของหล่อนสินะ แล้วนั่น...ยังจะพารอยยิ้มหวานมาถากถางหัวใจเขาอีกรวีกานต์เดินมาที่ร้านกาแฟเจ้าประจำ เธอยกมือเคาะผนังกระจกเพื่อเรียกคนข้างในกึกๆๆเสียงเคาะกระจกดังขึ้นที่ด้านนอก ปลายภูละมือจากแก้วกาแฟที่เพิ่งเสิร์ฟให้ลูกค้า มาจ้องคนที่ยืนยิ้มแป้นรออยู่ ใบหน้างามช่างแต่งแต้มด้วยความสุขจนน่าหมั่นไส้ หล่อนโบกมือให้ แต่เขาไม่เล่นด้วย ทำเมินแล้วเดินหนีไปยังโต๊ะประจำของหล่อน รวีกานต์เดินเข้าประตูร้านมา“นี่...เป็นอะไร ฉันยิ้มให้ทำไมทำหน้าบึ้งล่ะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่หมั่นไส้น่ะ”“หมั่นไส้? ใคร...ฉันเหรอ” ถามเขาอย่างงงๆ“ใช่มั้ง” บุรุษร่างสูงตอบแบบพาลนิดๆ ผ้ากันเปื้อนถูกถอดทิ้งทันทีที่รวีกานต์นั่งลงตรงข้าม“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”“งั้นเหรอ ไปเดตมาละสิ”คนสวยยิ้มหวาน “รู้ได้ไง”&l