หลิวเหมียนพลันมองเจ้าแฝดทั้งสองปั้นตุ๊กตาหิมะที่หน้าเรือน ชีวิตในที่แห่งนี้ช่างไม่ดีเอาเสียเลย นางไม่ขออะไรมากขอเพียงได้หย่ากับเจ้าคนชั่วนั่น จากนั้นนาก็จะเลี้ยงดูเจ้าแฝดให้มีความสุข
สกุลเดิมป่านนี้คงไม่คิดถึงนางแล้วกระมัง เพราะลีเฟยแท้ ๆ ขัดขวางไม่ยอมให้หลิวเหมียนคนก่อนไปพบบิดามารดาทำให้นางต้องตัดขาดกับบ้านเดิมโดยถาวร
"ท่านแม่ข้าหิวข้าวแล้ว" กวนหนิงกับกวนหยูเอ่ยพร้อมกัน
"แม่นมเฝ้าเจ้าแฝดไว้ให้ดี ข้าจะไปโรงครัวเล็ก" แน่นอนว่านางต้องทำอาหารให้เจ้าแฝดกิน เป็นบะหมี่ที่นางเอาออกมาจากกระเป๋าวิเศษ หลิวเหมียนลงมือเคี่ยวบะหมี่ให้เจ้าแฝด...
พอแม่นมหวังเก็บผ้าหลังเรือนพอกลับมาก็ไม่เห็นท่านหญิงน้อยทั้งสองเสียแล้ว ใบหน้าแม่นมหวังมีเหงื่อไหลพราก ๆ ออกมา นางต้องรีบตามหาสองแฝด
"พี่ใหญ่พี่จะหาท่านอ๋องจริง ๆ รึ" กวนหยูถามพี่สาวที่เดินมาถึงทางแยกระหว่างสามเรือน เรือนใหญ่พระชายาเอกไปทางซ้าย เรือนไหวอ๋องไปทางขวา
"ถามเขา ว่าเขารักท่านแม่รึไม่" กวนหนิงไม่อบากให้มารดาโดนชายารองกลั่นแกล้งอีกต่อไป ในตอนที่เจอไหว
ในจังหวะนั้นอ้ายกุ้ยเฟยกับเหล่าข้าหลวงย่างกรายผ่านมาพอดี พระนางจะไปเรือนของไหวอ๋อง
"พวกเจ้าเป็นลูกใคร" อ้ายกุ้ยเฟยพลันมองสองแฝด ช่างหน้าเหมือนไหวอ๋องกวนเทียนอย่างมากวัยเยาว์
"คารวะท่านย่า" สองแฝดพลันเอ่ยขึ้น
"หุบปากเดี๋ยวนี้ พระนางเป็นใครแล้วพวกเจ้าเป็นใครถึงกล้าเอ่ยเช่นนี้ มารดาไม่สั่งสอน" เเม่นมเมิ่งด่ากราด
"กวนหนิงกวนหยู" ทุกสายตาพลันมองสตรีชุดขาวกับสาวใช้แก่ ๆ คนหนึ่งรีบวิ่งมาทางเจ้าแฝด
อ้ายกุ้ยเฟยจำได้นางคือหลิวเหมียนบุตรสาวของแม่ทัพหลิวชาง นางยังอยู่ดี อยู่ในจวนอ๋องอีกทั้งยังมีลูกให้ไหวอ๋องอีก
"เสด็จแม่" ชายาเอกกับเหล่าคนรับใช้ออกมาต้อนรับมิคาดคิดว่าจะได้เห็นอ้ายกุ้ยเฟยกับเจ้าแฝดนรก
"ลีเฟย"
"เสด็จแม่อย่าไปสนใจพวกกาฝากเลยเจ้าค่ะ พวกเราไปหาไหวอ๋องกันดีกว่า" อ้ายกุ้ยเฟยเชื่อฟังชายาเอกมุ่งหน้าไปที่เรือนไหวอ๋อง
เมื่อมาถึงเรือนสองแฝดพลันคุกเข่าอย่างสำนึกผิด พวกนางสองคนแอบหนีไปในตอนแม่นมหวังไปเก็บผ้า
"ข้าจะลงโทษพวกเจ้าอย่างไรดี เหตุใดถึงไปเพ่นพ่านเช่นนั้น" นางกังวลว่าสองแฝดจะถูกชายาเอกรังแก
"ท่านแม่เจ้าขาอย่างลงโทษพวกข้าเลย พวกข้าแค่อยากเจอท่านพ่อ" กวนหนิงคิดเช่นนั้น หากท่านพ่อยอมรับท่านแม่ ชีวิตในจวนอ๋องของพวกเราก็จะสุขสบายดี
"พวกเจ้าคิดว่าเจ้าอ๋องโง่รักพวกเจ้ารึ แม้แต่ชายตามองเขายังไม่ทำเลย หลายปีมานี้ ข้าไม่เคยได้เบี้ยจากเขาเลย เลิกฝันลม ๆ แร้ง ๆ ได้แล้ว"
สองแฝดมองหน้ามารดา "ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ" ทั้งสองเข้าใจดี
"ดี รอวันข้าหย่า ข้าจะพาพวกเจ้าไปใช้ชีวิตด้านนอกเอง" ไหวอ๋องไม่รักนางจะมารักลูกของนางได้อย่างไร เด็กน้อยช่างไร้เดียงสาโดยแท้
แม่นมหวังได้แต่พาสองแฝดกลับเข้าไปด้านในเรือนหลิวเหมียนพลันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย...
อีกด้านหนึ่ง
"เสด็จแม่ไม่น่าลำบากมาหาลูกเลย" ไหวอ๋องนั่งบนเก้าอี้จันทน์หอมเห็นพระมารดามาหาถึงเรือน
"ลูกรักเจ้าจากเมืองหลวงไปหกปี จะไม่ให้แม่กังวลได้อย่างไรเล่า" หลายปีมานี้อ้ายกุ้ยเฟยคิดถึงไหวอ๋องมาตลอด
"เมื่อไรเจ้ากับชายาเอกจะมีทายาทกันเสียที" เมื่อพูดเช่นนี้ลีเฟยถึงกับหน้าแดงเลยทีเดียว ไหวอ๋องพลันนิ่งเงียบ
"เสด็จแม่ก็ไหวอ๋องเพิ่งจะกลับมานะเจ้าคะ" ลีเฟยเอ่ยด้วยความเขินอาย
"เอาอย่างนี้ ข้าขอมอบผินเจียวให้เจ้าแล้วกัน นางคือนางกำนัลคนสนิทของข้า นางจะเป็นอนุของเจ้า" ใบหน้าของลีเฟยพลันแข็งค้างขึ้นมาทันที หลังรู้ว่าอ้ายกุ้ยเฟยมอบอนุให้ไหวอ๋อง
ลำพังนังสารเลวหลิวเหมียนก็รับมืออยากแล้ว นี่ให้อนุมาอีก
ไหวอ๋องมองไปที่พระมารดา "ขอบคุณท่านมาก" ไหวอ๋องพลันถอนหายใจ พูดคุยไม่นานไหวอ๋องก็ให้ชายาเอกไปส่งพระมารดาหน้าจวน
ในจวนอ๋องชายาเอกให้สาวใช้จัดเรือนหลังเล็กแก่อนุผิน
ไหวอ๋องพลันมองเรือนที่มีแต่ความวุ่นวาย เขาไม่คิดว่ากลับมาครั้งนี้เขาจะหมดรักลีเฟย เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หรือเพราะเขาเห็นหลิวเหมียนกับสองแฝด
"หวังชา" ไม่นานนักลูกน้องคนสนิท ก็พลันปรากฏตัวขึ้น
"ไปจับตาดูชายารอง วัน ๆ นางทำอะไรบ้าง อีกทั้งตรวจสอบเรื่องเด็กแฝดใช่ลูกข้ารึไม่" หวังชาพลันมองหน้าไหวอ๋อง
หวังชารับคำแล้วหายตัวไปประดุจสายลมทันที
ไหวอ๋องบอกไม่ถูกเหมือนกันว่า การปีนเตียงของนางในครั้งนั้นมันจะติดขนาดนั้นรึ แค่ครั้งเดียว เขาไม่มีทางเชื่อ คนแพศยาเช่นนางต้องมีบุรุษใดซ่อนไว้ในเรือน หากเจ้าแฝดเป็นธิดาเขาจริง ๆ เขาพร้อมจะดูแลแต่หากนางหลอกลวงเขา เขาจะสังหารนางด้วยมือเขาเอง
ใบหน้าไหวอ๋องเหี้ยมโหดยิ่งนัก หลิวเหมียนไม่เจอกันนาง นางก็ยังคงเป็นนังจิ้งจอกล่อลวงเขาวันยังค่ำ มุมปากหนาเผยอยิ้ม
"ฝ่าบาทชายาเอกรัชทายาททรงนั่งคุกเข่ามาหลายวันแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ" เกากงกงเห็นแก่ครั้งก่อนที่หลิวเหมียนเคยมีน้ำใจให้เขา กระนั้นเขาจึงรายงานต่อฝ่าบาททุก ๆ ชั่วยาม"ปล่อยนางเถอะ ครั้งนี้เราช่วยอะไรนางมิได้จริง ๆ" กวนเหิงจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อรัชทายาททำผิดโทษก็ไม่ต่างจากการลงโทษประชาชน โอรสสวรรค์ทำผิดต้องรับโทษเช่นกัน จะอยู่เหนื่อยกฎหมายได้อย่างไร เจ้าไปฆ่าเขา เขาก็ต้องฆ่าเจ้า มันก็สมควรแล้ว หากมีการให้ท้ายคนใหญ่คนโต บ้านเมืองจะน่าอยู่ได้อย่างไร กฎหมายจะมีไว้ทำไม หากทำผิดไม่ได้รับโทษกวนเหิงพลันถอนหายใจอย่างเหนื่อย อีกทั้งยังไอเป็นเลือด เกากงกงพลันรีบหายาให้ฝ่าบาททันมีหลิวเหมียนพลันมีของวิเศษติดตัวมา แน่นอนว่านางดื่มน้ำอุ่นตลอด อีกทั้งกินอาหารในของวิเศษ นางมิได้โง่นะ ใบหน้างามเผยอยิ้ม ไม่ลืมทาสีผึ้งเพื่อทำให้ปากซีด นางแต่งหน้าให้ป่วยด้วยเครื่องสำอางสมัยใหม่ยามเช้าของวันถัดมาหิมะตกลงมาอย่างหนัก เกากงกงพบว่าชายาเอกรัชทายาทพลันได้หายไปแล้ว หรือนางจะทำใจมิได้ ช่างเถอะก็ดีเหมือนกัน นางจะมิได้เห็นรัชทายาทในสภาพที่น่าเวทนากวนเหิงนั่งบนบัลลังก์ทองพลันมองหยางอ๋อง เยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง และเหล่าข
จวนอ๋องหลิวเหมียนมาถึงห้องนางนอนอย่างสบายใจ นางเหนื่อยมาทั้งวัน ไหวอ๋องจุมพิตที่หน้าผากงาม เรื่องในวันนี้หยางอ๋องกับชิงฮองเฮาต้องไม่พอใจเขาอย่างแน่นอนแม้ไหวอ๋องรับตำแหน่งรัชทายาทแล้ว แต่ทว่าเขาก็ยังคงอยู่ในตำหนักอ๋องตามเดิมมิได้ย้ายไปตำหนักใหม่ เขายังไม่ประกาศเรื่องตั้งครรภ์ของหลิวเหมียนออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นผลดีกับนางอีกอย่างหยางอ๋องคงจะไม่หยุดเป็นแน่แท้คงต้องคิดหาวิธีแย่งตำแหน่งรัชทายาทกับเขาเป็นแน่นอนหลิวเหมียนพลันมองหน้าไหวอ๋อง เขาคิดอันใดอยู่ "ท่านอ๋องคิดอะไรอยู่เจ้าคะ" นางนำน้ำแกงรังนกมามอบให้เขา เพราะเห็นเขาอยู่ห้องหนังสือทั้งวัน"อาเหมียน ข้ากำลังคิดว่าหยางอ๋องคงไม่หยุดนิ่งแน่นอน เพราะตำแหน่งรัชทายาทเป็นของเขา แต่ทว่าบัดนี้เสด็จพ่อมอบให้ข้า ข้าเกรงว่าเขาจะต้องมีแผนร้าย อีกทั้งได้ยินมาว่า เขาตีสนิทกับรัชทายาทจ้าวตี้เมื่อหลายวันก่อนนี้" ที่แท้ท่านอ๋องของนางกังวลเรื่องนี้เอง"ท่านอ๋องเอาอย่างนี้ดีรึไม่ ส่งคนไปซุ่มดูรัชทายาทจ้าวตี้กับหยางอ๋องดีกว่า หากพวกเขามีแผนการอะไร พวกเราจะได้รับมือง่าย" หลิวเหมียนพลันแนะนำ"ดีเหมือนกันข้าก็คิดเช่นนั้น" กระนั้นไหวอ๋องได้ส่งสาวใช้ยอดฝีมองสอ
หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างเยาะเย้ย ไหวอ๋องไม่คิดว่านางจะฉลาดเพียงนี้ แต่ทว่าหากนางแพ้ เขาจะต้องแต่งหญิงอื่นเป็นชายาเอก หากนางชนะ เมืองจินจะตกเป็นของต้าโจวจ้าวตี้พลันปวดศีรษะขึ้นมาทันที หากแพ้จะต้องเสียเมืองจินแน่นอน หากชนะน้องสาวจะได้เป็นชายาอ๋องมันช่างไม่คุ้มเอาเสียเลยจ้าวเหลียนมองหน้ารัชทายาทนึกเสียใจภายหลังเสียจริง ๆ"องค์หญิงจ้าวเหลียนมิกล้ารึ" หลิวเหมียนเห็นฝ่ายตรงข้ามเงียบไปเลยถามขึ้น"ใครว่า เรากล้าเราตกลง" จ้าวเหลียนออกปากไปแล้วขุนนางแต่ละท่านต่างรอชมการแสดงครั้งนี้ องค์หญิงจ้าวเหลียนดีดพิณฉิน เพลงของนางเริ่มจากความอ่อนหวาน แสดงถึงความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่รักกันมิได้เพราะครอบครัวกีดกัน รักระหว่างคนเร่ร่อนกับบุตรสาวขุนนางจะเป็นไปได้อย่างไร คนที่ฟังองค์หญิงจ้าวดีพิณจนจบต่างร้องไห้ไปกับความรักของทั้งสองคนเลือกผูกคอตายไปด้วยกัน ช่างเป็นรักที่นิรันดร์เสียจริง"เยี่ยมมาก" เหล่าขุนนางต่างเอ่ยชมไม่ขาดปากยิ่งทำให้จ้าวเหลียนได้ใจยิ่ง ว่านางจะต้องชนะหลิวเหมียน นางจะต้องได้เป็นชายาอ๋องหลิวเหมียนพลันยิ้มให้ทุกคน นางนั่งลงกรีดนิ้วลงไปในสายพิณ สายลมพัดกระทบหน้าของนาง หลิวเหมียนพลันรู้ว
หลิวเหมียนมัวยุ่งกับการขายครีมหน้าเด้งของนาง นางขายผ่านโรงหมอจางหยง กำไรนับหมื่นในแต่ละเดือน หลิวเหมียนพลันมีความสุขยิ่งนักแม่นมหวังก็พลันวิ่งวุ่นกับท่านหญิงน้อยทั้งสองในจวน"เหมียนเอ๋อร์นี่คือชุดของเจ้ากับเจ้าแฝดที่จะไปร่วมงานเลี้ยงต่อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวช่วงเย็น" หลิวเหมียนพลันมองไหวอ๋องที่ยืนใกล้นางมาก"ท่านถอยออกไปเลยนะ ข้าเหม็น"เหตุใดนางถึงได้เหม็นกลิ่นตัวของไหวอ๋องเช่นนี้อวก !!! หลิวเหมียนพลันอาเจียนออกมา "ไปตามหมอหลวงมาเร็ว" เขารีบอุ้มนางไปที่เตียงใหญ่ทันทีหลิวเหมียนกำลังคิดว่ารอบเดือนของนางไม่มาสองเดือนแล้ว หรือว่านางจะตั้งครรภ์ ไหวอ๋องก็คิดเหมือนกับหลิวเหมียนไม่นานนักหมอหลวงก็พลันมาถึงตรวจชีพจรของหลิวเหมียนใบหน้าของท่านหมอมีรอยยิ้มเจือปนอยู่"ข้าน้อยขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องด้วย ชายาเอกมีชีพจรมงคลพ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงประสานมือคำนับไหวอ๋องดีใจจึงพูดไม่ออกวันนั้นไหวอ๋องตกรางวัลให้บ่าวในจวนทุกคนในจวนหมอหลวงก็เช่นกัน หลิวเหมียนพลันอึ้งงันไม่น้อย นางท้องแล้ว น่าจะประมาณสองเดือนกระมังในงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวจัดขึ้นช่วงเย็น หลิวเหมียนกับไหวอ๋องไปด้วยกัน สองแฝดไม่อยากไปร
ปีใหม่ผ่านพ้นไปหลิวเหมียนพลันแจกเงินซองแดงให้กับบ่าวทุกคนในจวนอ๋อง คนในจวนอ๋องมีร้อยกว่าชีวิต หลิวเหมียนช่างเป็นนายหญิงที่ดีเสียจริงยามนี้หิมะพลันตกโปรยปราย หลิวเหมียนในชุดผ้าคลุมสีดำ ใบหน้างามล้ำ พลันมองอาหารของร้านอันดับหนึ่ง กุ้งแช่น้ำปลา อีกหนึ่งเมนูที่หลิวเหมียนมอบให้จ้าวหยงจ้าวหยงพลันมองพี่สาวคนดีของเขา นางช่างเก่งเรื่องคิดสูตรอาหารเหลือเกิน"พี่หญิงช่างเก่งยิ่งนัก คิดสูตรอาหารให้ข้า" จ้าวหยงสั่งให้คนไปเตรียมกุ้งแช่น้ำปลามาให้หลิวเหมียนลองทาน ไม่นานนักสาวใช้ก็พลันยกถาดกุ้งแช่น้ำปลาเข้ามาทันทีที่หลิวเหมียนสบตากับสาวใช้นางต้องตกใจอย่างมาก สาวใช้นางนี้คล้ายอนุผินเจียวที่หายตัวไปเดือนก่อน "สาวใช้คนนี้ของเจ้า เจ้าไปเอานางมาจากไหน" เสี่ยวชีพลันตกใจมากไม่คิดว่านายหญิงจะถามหาที่มาที่ไปของนาง"นายหญิงบ่าวความจำเสื่อมอย่าไล่บ่าวไปเลยเจ้าค่ะ" เสี่ยวชีพลันคุกเข่าลง จ้าวหยงพลันมองเสี่ยวชี"พี่หญิง เสี่ยวชีโดนทำร้าย นางอยู่ในรถเข็นผักใบหน้าอาบไปด้วยเลือดเมื่อเดือนก่อน นางจำตัวเองไม่ได้ ข้าเลยเก็บนางไว้" ผินเจียวก็มาหลบร้านอาหารอันดับหนึ่ง ไหวอ๋องพลิกแผ่นดินหา ถึงหานางไม่เจอ"นางคืออนุของ
หลิวเหมียนพลันมองสถานที่แห่งนี้ ด้านหลังที่โอบล้อมไปด้วยไม้ไผ่ นางไม่คิดว่าจวนอ๋องจะมี บ่อน้ำพุร้อนยังไม่ทันที่นางจะถามหวังชาว่าเกิดอะไรขึ้นกับไหวอ๋อง หวังชาหายตัวไปก่อนเสียแล้ว"เหมียนเอ๋อร์ช่วยข้าด้วย" จู่ ๆ ไหวอ๋องโผล่ขึ้นมาจากน้ำพุ ร่างหนาพลันเปลือยกายด้านบน เขาสวมเพียงกางเกงชั้นในสีขาว หลิวเหมียนพลันมองห่อหมกขนาดใหญ่มารดามันเถอะ นางเลือดกำเดาไหลแล้ว ใบหน้าหลิวเหมียนร้อนผ่าว"ข้าโดนยาปลุกกำหนัด เจ้าช่วยข้าด้วย" ไหวอ๋องดึงนางเข้ามากอดพร้อมจุมพิต หลิวเหมียนพลันเบิกดวงตาอย่างกว้าง นางตกใจ นางจะหย่ากับเขาแล้ว เขาจะมาทำเช่นนี้กับนางมิได้ไหวอ๋องจูบอย่างดูดดื่มจนนางแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งปากยังบวมอีกต่างหาก"ข้าไม่ยอม ข้าจะหย่าท่าน" "ข้ารักเจ้า ทุกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เป็นข้าที่หูเบา เป็นข้าที่เชื่อคนอื่นมิได้ใส่ใจเจ้า" ไหวอ๋องพูดออกมาจากใจจริง ในวันที่เขารู้เรื่องว่านางเป็นคนช่วยเขาจากการจมน้ำเพราะเขาเป็นตะคริว นางช่วยขึ้นมาแต่ถูกลีเฟยสวมรอยว่าเป็นคนช่วยเขาไว้หลิวเหมียนเหมือนจะใจอ่อนเคลิบเคลิ้มไปกับเขา ร่างบางจุมพิตท่ามกลางบ่อน้ำพุร้อน อาภรณ์ของหญิงสาวปลดออกจนหมด หลิวเหมียนหลั