หน้าหลัก / รักโบราณ / พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง / ตอนที่ 9  ป้อนน้ำแกงท่านอ๋อง

แชร์

ตอนที่ 9  ป้อนน้ำแกงท่านอ๋อง

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-19 01:10:32

 

หลินเย่ยกชามน้ำแกงขึ้นป้อนเขา คำแล้วคำเล่าจนหมด สายตาที่มองไปยังคนตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย เขาไม่พูดไม่บ่นอะไร ทำเพียงดื่มน้ำแกงของนางเงียบๆพร้อมกับอ่านรายงานและบางครั้งก็จับพู่กันมาขีดๆเขียนๆต่อจากรายงานนั้นเท่านั้น

หลินเย่อ่านบางฉบับที่เขานำขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการสร้างผังเมืองใหม่และการกำจัดขุนนางที่เคยทุจริตในเมืองฉีโจว

“น้ำแกงหมดแล้ว เช่นนั้นหม่อมฉัน…ขอตัวก่อนเพคะ”

“ฝนหมึกให้ข้าที”

“เพคะ!!”

“เจ้าได้ยินแล้วนี่ ฝนหมึก…ให้ข้า”

“แต่ว่า….”

“ไม่ทำก็ออกไป ข้าจะอ่านรายงานต่อ”

หลินเย่ทำท่าค้อนไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร สัญชาตญาณอยากเอาตัวรอดสั่งให้นางทำตามคำสั่งเขา เมื่อไหร่ที่นางออกจากตำหนักอ๋องได้นั่นคือวันที่นางจะได้รับอิสระอีกครั้ง

นางฝนหมึกให้เขาไปเรื่อยๆพร้อมกับแอบอ่านรายงานบางฉบับจนตาเริ่มปรือเพราะความง่วง แต่ท่านอ๋องอ่านฎีกาพวกนี้มาทั้งวันได้อย่างไรกันนะ

ตัวนางเริ่มเอียงไปมาซึ่งจื่อหลิงเองก็เห็นแล้ว เขาจึงดึงแท่นฝนหมึกนั้นออกจากมือและดึงตัวนางให้ล้มมานอนลงไปที่ตักของเขาแทน หลินเย่ขดตัวนอนลงโดยมิได้สนใจว่าที่นี่คือที่ใด…

หนึ่งชั่วยามถัดมา

“พี่จื่อหลิง ท่านต้องไม่เชื่อแน่ว่าวันนี้ข้าไปพบผู้ใดมา ท่านทายสิเพคะ”

จื่อหลิงตกใจเมื่อหลานมู่เอ๋อร์เดินเข้ามาในห้องของเขากะทันหัน เขาพยายามเอาผ้าห่มปกปิดไม่ให้นางเห็นว่าหลินเย่นอนอยู่ที่ขาของเขา แต่ไม่ทันแล้ว หลินเย่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับได้ยินเสียงของมู่เอ๋อร์ชัดเจน

“อืม….”

หลินเย่หันขึ้นไปมองจื่อหลิงซึ่งใช้ฝ่ามือกดหัวนางลงบนตักไม่ให้นางลุกพร้อมกับกระซิบ

“อย่าลุกขึ้นมา นอนลงไป!!”

หลินเย่ทำตามทันที นางไม่รู้ว่าเขาคุยกับผู้ใด รู้เพียงว่าเป็นเสียงของสตรี

“งั้นหรือ เหตุใดเจ้าไม่ชวนเขามาที่นี่ด้วยเล่า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะชอบพอเจ้าก็เป็นได้”

“ท่านอ๋องพูดเรื่อยเปื่อยแล้ว ข้าไม่ได้ชอบเขา ท่ามก็รู้ว่าคนที่ข้าชอบ….”

“หลานมู่เอ๋อร์!! คือว่าตอนนี้ข้ายังมีรายงานที่ต้องตรวจอีกมาก อย่างไรแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถอะนะ”

“รายงานอะไร มากถึงเพียงนั้นเชียวหรือเพคะ ไหนหม่อมฉันขอดูหน่อยสิเพคะ”

“อย่าเข้ามา!! คือว่า…ข้าแต่งตัวไม่เรียบร้อย และนี่เป็นห้องทำงานข้า เจ้าเป็นสตรี ไม่ควร…”

“เหตุใดเซียงถงเหยาทำได้ข้าทำไม่ได้….เพคะ!! นี่เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่!!”

หยางหลินเย่ลุกขึ้นพร้อมกับส่งชุดคลุมคืนให้ท่านอ๋องและลุกขึ้นมา นางไม่ได้ตอบคำถามของหลานมู่เอ๋อร์ เพียงแค่เดินไปยกถาดน้ำแกงเพื่อจะเดินออกไป น่าจะมีคนนำน้ำแกงไปอุ่นมาอีกรอบแล้วเพราะหม้อนั้นร้อนจัดอีกครั้ง

“ข้าถามว่า!! เจ้ามาทำอะไรที่นี่นังแพศยา!!”

“หลานมู่เอ๋อร์!! ห้ามหยาบคาย”

“หยาบคายงั้นหรือ ท่านก็รู้ว่านาง!!”

“หลานมู่เอ๋อร์ เจ้าออกไปก่อน”

“พี่จื่อหลิง นี่ท่าน…กับนาง…”

“ข้าขอตัวก่อน”

“เดี๋ยว เจ้ายังไปไม่ได้ เจ้าเอาอะไรมายั่วยวนพี่จื่อหลิงอีก เขารักพี่สาวข้า รักแบบไม่มีผู้ใดมาทดแทนได้ เจ้ามีสิทธ์อะไรมาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าเจ้าจะใช้สักกี่มารยาก็ไม่มีทางที่พี่  จื่อหลิงจะหลงกลเจ้า!!”

หลินเย่หันไปมองนางด้วยความโกรธ นางเหลือบไปมองท่านอ๋องเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร นางเพียงยกถาดน้ำแกงร้อนๆนั่นออกไป หลานมู่เอ๋อร์เห็นว่านางกำลังจะออกไปจึงได้ยกถาดน้ำแกงนั้นราดใส่ตัวพระสนมทันที

“กรี๊ด!!….”

น้ำแกงนั้นราดใส่หลินเย่ทันทีโดยที่นางไม่ทันตั้งรับได้ทันจนตัวนางทรุดลงกับพื้น ทหารองครักษ์และหลงอี้วิ่งเข้ามาตามเสียงร้องและเสียงชามแตก

 อาจูรีบวิ่งเข้ามาหานาง ท่านอ๋องรีบรุดวิ่งเข้ามาถึงตัวหลินเย่ก่อนผู้ใดและช้อนตัวนางที่เต็มไปด้วยน้ำแกงร้อนๆนั้นขึ้น

“หลานมู่เอ๋อร์ เจ้าทำเกินไปแล้วนะ!! ทหาร จับตัวนางออกไป ไม่มีคำสั่งข้าห้ามนางเข้ามาในตำหนักอ๋องอีก เอาตัวนางออกไป!!”

""พ่ะย่ะค่ะ""

“พี่จื่อหลิง ท่านจะทำกับข้าแบบนี้ไม่ได้ ข้าเป็นน้องพี่ถิงอันนะ ท่านต้องตามใจข้าสิ นังนั่นมันใช้มารยาหลอกท่าน น้ำแกงนั่นไม่ได้ร้อนสักนิด พี่จื่อหลิง”

“คุณหนูหลาน เชิญออกไปจากตำหนักขอรับ”

“ไม่ ข้า…”

หลงอี้ชักดาบออกมาข่มขู่นางจนนางหยุดร้อง เขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น ปกติแล้วนางจะไม่แสดงตัวเกรี้ยวกราดต่อหน้าท่านอ๋องขนาดนี้ วันนี้นางเกิดบ้าอะไรขึ้นมา เขาคงไม่ยอมปล่อยให้นางเข้าใกล้ท่านอ๋องอีกเป็นครั้งที่สอง

“เร็วเข้า เรียกหมอหลวงมา!!”

“เพคะ”

“ปล่อยข้าลงเถอะ ข้าไม่เป็นไร”

“เจ้าอยู่เฉยๆเถอะ”

มี่อินตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นว่าหลินเย่ถูกท่านอ๋องอุ้มเข้ามาด้วยสภาพที่เปียกน้ำแกงไปทั้งตัว ตอนนี้ไหล่แขนและคอบางส่วนนางถูกลวกจนแดงไปหมด 

“เจ้าไปเตรียมน้ำเย็น ข้าจะพานางไปแช่”

“หม่อมฉันไปเองได้”

“อย่ามาดื้อกับข้าตอนนี้”

“แต่ว่า”

เขาก้มลงกระซิบนางอย่างเหลืออด สาวใช้ต่างพากันเบือนหน้าหนีทันทีเมื่อท่านอ๋องทำเช่นนั้น

“เรือนร่างเจ้ามีตรงไหนที่ข้ายังไม่เห็น อย่าดื้อมิเช่นนั้นเรื่องที่ตกลงกันไว้ก็ไม่ต้องพูดถึงอีก”

“หม่อมฉันจะบอกว่าเดินไปเองได้เท่านั้น”

“หากไม่ฟังก็ไม่ต้องคุยเรื่องออกไปข้างนอกอีก”

“คนฉวยโอกาส”

“เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด ข้าทำเพราะต้องรับผิดชอบเท่านั้น หากข้าไม่สั่งคนเอาน้ำแกงนั่นไปอุ่นเจ้าคงไม่ถูกลวก”

“นี่ท่าน…เป็นท่านนี่เอง”

“น้ำเตรียมเรียบร้อยหรือยัง”

“ทูลท่านอ๋อง เรียบร้อยแล้วเพคะ พระสนม หม่อมฉันจะเปลี่ยนชุด…”

“ไม่ต้อง เอาชุดออกมาให้ข้าก็พอ หากท่านหมอมาก็บอกให้รอก่อน ข้าจะดูว่าบาดแผลนางมีมากเท่าใด โดนลวกที่ใดบ้าง”

""เพคะ""

เขาอุ้มร่างของพระสนมเข้าไปยังห้องด้านหลัง ถังน้ำเย็นอยู่ตรงหน้า เมื่อเขาวางนางลงพร้อมกับปลดชุดของนางออก

“เดี๋ยวก่อน!!”

“ข้าไม่ได้ถอดหมดหรอก ไม่ต้องห่วง”

เขาพูดตามนั้น เขาถอดเพียงเสื้อและชุดด้านนอกของนางออก เหลือเพียงชั้นในบางเบาอยู่ด้านใน ผิวขาวเนียนตรงหน้าทำเอาเขาหายใจไม่ทั่วท้อง

“ข้าจะอุ้มเจ้าลงอ่างน้ำเย็น อดทนไว้ แต่มันจะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้ รอท่านหมอมาเราจะออกไปกัน พร้อมหรือยัง”

“หม่อมฉัน…แช่เองได้”

“มาเถอะ ยิ่งนานเจ้าจะยิ่งแสบร้อน”

“ไม่นะ หม่อมฉันกลัวน้ำเย็น อย่าปล่อยหม่อมฉันลงไปนะ!!”

นางกอดคอเขาแน่นเมื่อเขาอุ้มร่างนางขึ้นพร้อมกับจะนำตัวนางลงในอ่างไม้นั้น เขาตกใจเพราะไม่คิดว่านางจะกอดเขาแน่นเช่นนี้ นางคงกลัวจริงๆ แต่นางมาจากเมืองเหนือ เหตุใดจึงกลัวน้ำเย็น

“เจ้าบอกว่า…เจ้ากลัวน้ำเย็นงั้นหรือ”

“มันหนาว มัน….ไม่เอาหม่อมฉันไม่แช่”

“ไม่ได้ แผลเจ้าจะแสบร้อนขึ้นเรื่อยๆ น้ำเย็นจะช่วย…"

“ไม่ๆๆ ขอร้องละท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ไปแล้ว ไม่ไปข้างนอกแล้วก็ได้แต่อย่าเอาหม่อมฉันแช่ในนี้ หม่อมฉันกลัว”

“นี่เจ้า…เหตุใดจึงกลัวจนตัวสั่นเช่นนี้ พระสนมเจ้ามีอะไรกับน้ำเย็นนี่”

“…..”

“เอาอย่างนี้ ข้าจะลงไปแช่น้ำนี้กับเจ้า ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทิ้งเจ้าแน่ ตกลงหรือไม่”

“อย่านะ ท่านอ๋องจะเปียกไปด้วยนะเพคะ”

“ข้าไม่ได้กลัวเปียกและไม่กลัวเย็นแต่ข้าช่วยเจ้าได้หากเจ้าเป็นตะคริวหรือเกิดกลัวขึ้นมา ตกลงหรือไม่”

หลินเย่ที่หน้าซีดเพราะความกลัว นางกลัวจริงไม่ได้โกหก เพราะเขาสังเกตจากสีหน้าที่ประหม่านั้นและเสียงหัวใจที่เต้นแรงของนาง

“พร้อมนะ”

นางโผกอดคอเขาแน่นอีกครั้ง จื่อหลิงนึกขอบใจหลานมู่เอ๋อร์ที่ทำน้ำแกงหกใส่นางเล็กน้อยเพราะอย่างน้อยเขาก็เห็นในมุมนี้ของนาง

 หากว่านางไม่แยกเขี้ยวและสาดสายตาเกลียดชังที่มีเอาไว้สำหรับเขาอยู่เสมอมาให้ นางก็เป็นคนที่น่ารักคนหนึ่งเช่นกัน น้ำเย็นค่อยๆซึมสู่ผิวด้านในของทั้งคู่ เมื่อเฟิ่งอ๋องค่อยๆหย่อนตัวลงในอ่าง

หลินเย่ก็กอดเขาแน่นมากขึ้นกว่าเดิมปลายเท่าจนตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่านางกลัวสุดชีวิตและเขาเองอาจจะตายได้เพราะถูกนางรัดคอ

“ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่ เจ้าจะปลอดภัยแน่ข้าสัญญา”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 3  งานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่  

    งานอภิเษกองค์หญิงจินลั่วเฟยงานอภิเษกยิ่งใหญ่ดังคำประกาศที่ฝ่าบาทได้แจ้งเอาไว้จริงๆ บัดนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงของชุนฮัวต่างพากันตกแต่งซุ้มดอกไม้และประดับธงมงคลทั่วทุกบ้าน และทางวังหลวงยังจัดให้มีขบวนรถม้าเพื่อแห่ขบวนคู่บ่าวสาวของราชวงศ์ตามธรรมเนียมของชุนฮัวด้วยเช่นกันบ่าวสาวในชุดสีขาวบริสุทธ์ปักด้วยเพชรและทองทั้งตัวจากช่างฝีมือดีของในวังที่เพียรตัดชุดนี้ขึ้นมาอย่างประณีต องค์ชายฟงเจ้าหนานจับมือองค์หญิงจินลั่วเฟยขึ้นรถม้าที่ประดับด้วยดอกไม้พร้อมกับรับตะกร้ามาจากสาวใช้ ในนั้นบรรจุแผ่นทองเต็มสองตะกร้า เพื่อให้ทั้งคู่โปรยแจกราษฎรในเมืองหลวงระหว่างที่ขบวนแห่เริ่มออกจากวังหลวง“ข้าน่าจะมาแต่งที่ชุนฮัวบ้างนะ พิธีการของที่นี่ช่างน่าสนใจยิ่งนัก”“พระองค์อยากแต่งที่ชุนฮัวหรืออยากได้พระสนมที่ชุนฮัวเพิ่มเพคะ”“เปล่านะๆ ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าอย่าเข้าใจข้าผิด เจ้าดูสิ พวกเขานั่งรถม้าโบกมือให้ประชาชนที่มารอร่วมยินดีกับพวกเขาทั้งสองข้างทาง ช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ในฉีโจวเราไม่มีพิธีแบบนี้เกิดขึ้นเลยสักครั้ง”“ชุนฮัวเป็นเช่นนี้มานานแล้วเพคะ เพียงแต่ว่านานๆถึงจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เหล

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 2  พิธีสู่ขอองค์หญิง    

    แคว้นชุนฮัว“หลินเย่ ถึงแล้ว”“จื่อหลิง เหตุใดจึงหนาวเช่นนี้เพคะ”“ตอนนี้ชุนฮัวคงเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว มาเถอะ ข้าจะสวมเสื้อคลุมกับถุงมือให้”“ขอบพระทัยเพคะ”“หลินเย่ พี่เฟิ่งพวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง”“อ้อ เจ้าหนานหลินเย่คงไม่ค่อยชินเท่าไหร่น่ะ เห็นบ่นว่าหนาวลั่วเฟยล่ะ”“พานางไปดื่มชาร้อนด้านในก่อนเถอะ ลั่วเฟยบอกให้กข้ามารับพวกท่านเข้าไปด้านในก่อน อีกห้าสิบลี้กว่าจะถึงชุนฮัว ต้องพักที่นี่ก่อน”“ได้สิ อีกเดี๋ยวข้าจะตามเข้าไป แล้วเนี่ยฝานกับลั่วเจินเล่า”“พวกเขาเข้าไปแล้วขอรับ”“ได้ เช่นนั้นข้าจะรีบพาหลินเย่ตามเข้าไป”“ได้ขอรับ”“หลินเย่ ไหวหรือไม่”“จื่อหลิง หนาวจังเลยเพคะ หม่อมฉันไม่อยากออกไปเลย”“มาเถอะ ข้าพยุงเจ้าไปเองนะ ลั่วเฟยให้เจ้าหนานมาตามเราเข้าไปด้านใน อยู่ตรงนี้จะหนาวนะ ไปเถอะหลินเย่ค่อยๆเดินออกมาด้านนอกรถม้าที่จอดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมก่อนถึงแคว้นชุนฮัว นางเดินลงจากรถม้าและรีบโผเข้ากอดเฟิ่งอ๋องทันทีเพราะความหนาวเย็นเขาพยุงนางและพาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมที่คนที่เหลือนั่งดื่มชารออยู่ ลั่วเฟยเมื่อเห็นหลินเย่เดินเข้ามาจึงรีบนำเตาอุ่นมือวิ่งเอาไปให้นาง“หลินเย่ นี่เตาอุ่นมื่อ เจ้าอุ้มเอ

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 1 เดินทางกลับแคว้นชุนฮัว

    “พี่หญิงข้าจะรีบไปรีบกลับนะเจ้าคะ ท่านอยู่ที่นี่ต้องดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ”“ไปเถอะเจ้าไม่ต้องห่วงข้ากับท่านพ่อนะ เที่ยวให้สนุก”“แม่ชีหลาน ไว้พบกันวันขึ้นเขานะ”“ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”ท่านอ๋องหันไปมองหน้าสหายที่ตะโกนบอกกับหลานผิงอันอยู่ข้างรถม้าของเขา เฟิ่งจื่อหลิงรู้สึกว่าท่าทีของสหายข้างๆแปลกไป หลายวันมานี้เขาขอตัวไปเฝ้าและรับอาสาส่งยาของท่านหมอไปที่จวนสกุลหลานนอกเมืองและมักจะหายไปหลายชั่วยามในแต่ละวัน“เจ้าจะรอจนนางกลับไปบำเพ็ญเพียรก่อนจึงจะยอมบอกความรู้สึกหรืออย่างไร”“ท่านอ๋อง พระองค์ทรงตรัสอะไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแต่....”“อย่ามาใช้คำพวกนี้กับข้า เป็นสหายกับเจ้ามาหลายปี มาตอนนี้จะมาเรียกข้าเช่นนี้ บอกข้ามาเจ้ากำลังตกหลุมรักเข้าแล้วสินะ”“จื่อหลิงเจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล ข้าน่ะ...”“พี่ใหญ่ ท่านพี่ พวกท่านคุยอะไรกันอยู่เพคะ”“อ้อ...หลินเย่ข้ามีอะไรจะบอกเจ้าด้วย คือว่า..”“ก็ได้ๆ เฟิ่งจื่อหลิงเจ้าคนเจ้าเล่ห์ ข้ายอมรับ เจ้าอย่าพึ่งบอกหลินเย่นะ นางหวงหลานผิงอันยิ่งกว่าผู้ใดเสียอีก”“เรื่องนี้น้องรองของเจ้าก็รู้สินะ”“ใช่ นางรู้”“แล้วเหตุใดให้หลินเย่รู้ไม่ได้เล่า”“น้องสามไม่เหมื

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 40 สัญญาใต้ดวงดาว  (ตอนจบ )

    “หม่อมฉันเองก็มีความสุขมากเพคะ ที่พวกเราอยู่กันพร้อมหน้าเช่นนี้ เสียดายที่ท่านพ่อหลานมาไม่ได้”“ใต้เท้าหลานคงต้องรักษาตัวอีกสักพัก เขาตามไปอยู่ที่วัดกับแม่ชีหลานอาจจะทำให้สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นมาก็เป็นได้”“ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเพคะ”พวกเขาเข้ามาร่วมวงสนทนาเป็นวงใหญ่เมื่อท่านอ๋องและพระชายามาร่วมด้วยทำให้กลุ่มของพวกเขาเสียงดังกว่าผู้ใดในงานเลี้ยงจนเป็นที่จับตามอง“องค์ชาย หากว่าท่านกลัวว่าฝ่าบาททของชุนฮัวไม่ยกองค์หญิงให้ เช่นนั้นข้าจะเป็นตัวแทนฝ่ายเจ้าบ่าวไปสู่ขอให้ท่านดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง พระองค์ตรัสจริงหรือไม่เรื่องนี้กล่าวเล่นๆไม่ได้นะเพราะข้าจริงจังมาก”“ข้าไม่ได้กล่าวเล่นๆ ในเมื่อช่วยให้พวกท่านสมหวังได้เหตุใดจึงจะช่วยไม่ได้กันเล่า ถือโอกาสพาหลินเย่กลับไปเยี่ยมบ้านด้วย ใช่หรือไม่เนี่ยฝาน”“ดี ยอดเยี่ยม ขบวนรถม้าครั้งนี้คงราวกับคาราวานขนส่งสินค้าข้ามแดนเลยกระมังดูจากผู้ที่ร่วมเดินทางแล้วมีมากเหลือเกิน”“เป็นหน้าที่ท่านกับหลงอี้แล้วล่ะที่ต้องดูแลพวกเราตอนเดินทาง ว่าอย่างไรองค์ชายฟงเจ้ายังกลัวอยู่หรือไม่”“หากว่าท่านอ๋องเอ่ยปากขนาดนี้ มีทุกคนช่วยพูด ข้าเชื่อว่างานนี้ฝ่าบาททไม่ยอมก็ต้

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 39 ข่าวดีล่าสุด

    งานแต่งตั้งพระชายาท่านอ๋องชุดสีแดงสลับขาวปักเลื่อมลายนกยูสีทองบนฉลองพระองค์พร้อมกับเครื่องประดับสีทองถูกสวมลงบนเรือนร่างของพระสนมหยางหลินเย่ เมื่อเกี้ยวจอดอยู่หน้าตำหนักเพื่อมารับพระสนมไปที่ท้องพระโรงเพื่อทำพิธีแต่งตั้งพระชายา “เมื่อขึ้นเกี้ยวนี้ไปกลับเข้ามาอีกครั้งต้องเป็นพระชายาแล้วนะหลินเย่ เจ้าต้องจำเอาไว้ว่าภารกิจหลังจากนี้เจ้ากับท่านอ๋องต้องร่วมใจกันทำเพื่อชาวฉีโจว”“เจ้าค่ะพี่รอง พี่ใหญ่เล่าเพคะ”“พวกเขาไปรออยู่ที่ท้องพระโรงแล้ว เหลือข้ากับผิงอันรอส่งเจ้าที่ตำหนัก”“พี่หญิง”“น้องพี่…วันนี้เจ้างดงามมากจริงๆ ใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดีเชื่อใจและมั่นใจในกันและกัน เจ้ากับท่านอ๋องคือคู่ที่สวรรค์ลิขิต ไปได้แล้วข้ากับลั่วเจินจะไปรอเจ้าที่ท้องพระโรง”“เจ้าค่ะ”หยางหลินเย่เดินขึ้นเกี้ยวอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นพระราชพิธีเพื่อแต่งตั้งนางขึ้นเป็นพระชายา ชุดแดงขาวปักนกยูงสีทองยางลากพื้นเมื่อนางเดินถือหนังสือแต่งตั้งสีทองเดินขึ้นยังท้องพระโรงด้านในนั้นมีเฟิ่งอ๋องที่สวมชุดสีเดียวกันกับนางนั่งที่ประทับรออยู่แล้วเพื่อสวมรัดเกล้าพระชายาให้กับพระชายา เมื่อเดินไปยังหน้าพระที่นั่งที่รายล้อมไปด้วยเหล่าข

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 38  บทรักข้ามคืน

    หลินเย่กลับมาที่ห้องบรรทมอีกครั้งในตอนค่ำเพื่อเสวยมื้อค่ำกับท่านอ๋อง ซึ่งตอนนี้ทำท่านั่งโกรธอยู่ที่โต๊ะเสวยพร้อมกับสีหน้าเรียบเฉยอย่างที่เขาเคยทำเมื่อเริ่มโกรธ“ท่านอ๋องเพคะ เนื้อไก่นี่อร่อยนะเพคะ พระองค์ลองชิมดูเพคะ”เขาทำเพียงแค่มองและขยับเนื้อไก่นั้นเอาวางไว้ริมชาม คนที่ตักให้ถึงกับขำกับท่าทางของคนตัวโตตรงหน้าที่งอนราวกับเด็กๆพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่สนใจนาง“ท่านอ๋อง…..”“จื่อหลิง….”หลินเย่งัดไม้ตายสุดท้ายมาเมื่อนางขยับตัวเข้ามาใกล้เขาและจงใจใช้อกอวบแน่นนั้นบดเบียดแขนของเขาอย่างจงใจจนคนที่ถูกยั่วนั้นใบหูเริ่มแดงขึ้น“ท่านพี่….ไม่สนใจหม่อมฉันจริงหรือเพคะ”คำว่า “ท่านพี่” ของนางเกือบทำให้เขาใจอ่อน แม้ว่าจะรีบยกชามข้าวขึ้นมาบดบังรอยยิ้มนั้นเกือบไม่ทันแต่ไม่นานเขาก็กลับมาตีหน้าเฉยชาอีกครั้ง“ข้าจะกินข้าว”“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์อยากจะกิน….อย่างอื่นเสียอีก…เฮ้อ เช่นนั้นก็เชิญพระองค์เสวยไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน”“จะ…เจ้าไม่กินหรือ…”เสียงที่เริ่มสะอึกเพราะคำว่า “อาบน้ำ” ที่นางบอกทำให้คนฟังคิดไปไกลจนเตลิดแต่ยังไม่เท่ากับสิ่งที่นางกำลังจะทำ“ใช่เพคะ วันนี้ร้อนอบอ้าว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status