LOGINเมฆินทร์กลับเข้ามาในห้องประชุมที่บรรยากาศยังคงตึงเครียดจากเหตุการณ์ก่อนหน้า เขาทรุดตัวลงนั่งตรงหัวโต๊ะ สั่งให้ทีมงานเริ่มการประชุมต่อด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
"เอาล่ะ! กลับมาที่งานของเรา" เมฆินทร์ตบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะอย่างแรงเพื่อเรียกสติทุกคน "แผนการรีแบรนด์ครั้งนี้ต้องเดินหน้าต่อ! โดยเฉพาะส่วนของสื่อโปรโมท เราได้กำหนดคิวถ่ายภาพนิ่งสำหรับ โปรโมทโซนสระว่ายน้ำและบีชคลับไว้แล้ว"
หัวหน้าทีมการตลาดรีบเปิดสไลด์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"ครับ ผอ.! เราได้วางคอนเซ็ปต์ไว้ว่าจะเป็นภาพที่เน้นความหรูหราแบบเป็นกันเอง โดยมีคุณ 'เจนนี่' นางแบบที่เราได้จองตัวไว้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้น... แต่... "
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะพูดต่อ "เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ผู้จัดการของคุณเจนนี่โทรมาแจ้งว่าเธอเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยที่ข้อเท้า ไม่สามารถเดินทางมาถ่ายทำได้ตามกำหนดในวันพรุ่งนี้ครับ"
เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้องประชุม แผนงานที่วางไว้พังไม่เป็นท่า เมฆินทร์กำหมัดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดลงไปอีกขั้น
"ยกเลิก? จะให้ยกเลิกแผนการทั้งหมดงั้นเหรอ?" เมฆินทร์ถามเสียงเย็น
"คุณรู้ไหมว่าเรามีเวลาจำกัดแค่ไหนกว่าจะเข้าช่วงไฮซีซั่น?"
"เราพยายามหาตัวเลือกสำรองแล้วครับ ผอ. แต่การหา 'นางแบบมืออาชีพ' ที่มีคาแรคเตอร์ตรงตามที่วางไว้ได้ทันภายในคืนนี้... เป็นไปไม่ได้เลยครับ" หัวหน้าทีมพูดอย่างจนปัญญา
ทันใดนั้น เสียงสดใสของเมย์ที่เดินกลับเข้ามาในบริเวณระเบียงพร้อมวายุและจารวีก็ดังขึ้น เมย์เห็นพี่ชายเธอกำลังโมโหและทีมงานกำลังเครียด จึงเดินเข้ามาดูด้วยความอยากรู้
"มีอะไรเหรอคะพี่เมฆ? ทำไมทำหน้าเหมือนโลกจะแตก" เมย์ถามอย่างไม่เกรงใจ
"เรื่องของบริษัท เมย์! อย่ามายุ่งไปเล่นที่ไหนก็ไป...ไป!" เมฆินทร์ตอบด้วยความหงุดหงิด
"อ๋อ... นางแบบแคนเซิลเหรอ!"
เมย์กวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง แล้วสายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่จารวี เพื่อนรักของเธอกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ วายุอย่างเงียบๆ ในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่เผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ
ที่จารวีไม่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เป็นเพราะร่างกายของเธอยังไม่หายดีเท่าไหร่ เมฆินทร์จึงอนุญาตให้เธอมีเวลาพัก เพื่อชดเชยกับความรู้สึกผิดของตัวเอง
เมย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ แผนการผุดขึ้นในหัวเธอทันที นี่คือโอกาสทอง! โอกาสที่จะให้จี๊ดได้เห็นว่าตัวเองสวยงามและน่าดึงดูดแค่ไหน และยังช่วยพี่ชายที่น่าหมั่นไส้ให้ทำงานสำเร็จด้วย
"ง่ายจะตายไปค่ะพี่เมฆ! จะไปจ้างนางแบบแพงๆ ทำไม ในเมื่อ 'นางฟ้า' ของเรายืนอยู่ตรงนี้แล้ว" เมย์เดินเข้าไปโอบแขนจารวีเพื่อนสนิท
"นางฟ้า? ใคร?"
หัวหน้าทีมการตลาดมองอย่างงง ๆ
เมย์หมุนตัวจารวีเบา ๆ ให้หันไปเผชิญหน้ากับทุกคนในห้องพร้อมกับยิ้มกว้าง แล้วกล่าวด้วยความมั่นใจเกินร้อย "ก็เพื่อนรักของเมย์ไงคะ! จี๊ดนี่แหละ! นางแบบจำเป็นคนใหม่ของพี่เมฆ!"
คำพูดของเมย์สร้างความตกตะลึงไปทั่วห้อง เมฆินทร์เองก็เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เขาจ้องมองจารวีจากหัวจรดเท้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการที่ยากจะควบคุม
"เป็นไปไม่ได้!"
เมฆินทร์ตอบทันควันด้วยน้ำเสียงที่รุนแรงและเย็นชา เขารู้ว่าจารวีไม่ชอบการเป็นจุดสนใจ และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ... เขาไม่อยากให้ใครเห็นเรือนร่างที่น่าปรารถนาของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือเบียร์!
"ทำไมจะไม่ได้คะพี่เมฆ!"
เมย์ไม่ยอมแพ้ เธอกดไหล่จารวีให้นั่งลง แล้วเริ่มยุทธการขายเพื่อนแบบไม่สนใจความรู้สึกของคนฟัง
"ทุกคนดูสิคะ! เมย์ไม่ได้เข้าข้างเพื่อนนะ แต่พี่เมฆเคยเห็นเพื่อนเมย์ใส่บิกินี่ไหมคะ? บอกเลยว่า หุ่นระดับนางฟ้า! ขาเรียวยาวเหมือนนางแบบอินเตอร์! ผิวที่ขาวนวลจนน่าอิจฉา! และที่สำคัญที่สุด... หน้าอกที่ใหญ่และสวยกว่าเจนนี่ตั้งเยอะ! เธอแค่ไม่มั่นใจเฉย ๆ! ถ้าเธอได้ใส่ชุดที่เหมาะสมแล้วลงถ่าย... รับรองว่าภาพโปรโมทของรีสอร์ทพี่จะ ไวรัล ไปทั่วประเทศเลยค่ะ!"
จารวีหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เธอพยายามจะลุกหนี แต่เมย์ก็รั้งเธอไว้แน่น
"เมย์! พอได้แล้ว! ฉันไม่ทำ!"
จารวีกระซิบเสียงเครียด
วายุยืนมองเหตุการณ์ด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เขายกมือขึ้นปิดปากกลั้นขำกับท่าทีของเพื่อนรักที่กำลังจะ 'เสียของรัก' โดยไม่ได้ตั้งใจ
เมฆินทร์ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เขาพยายามจะปฏิเสธ แต่สมองของเขากลับฉายภาพจารวีในชุดบิกินี่... ภาพที่เขาเคยเห็นในค่ำคืนที่เร่าร้อนนั้น... มันเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการโปรโมทจริง ๆ
หัวหน้าทีมการตลาดที่เห็นแววตาครุ่นคิดของเมฆินทร์จึงเสริมขึ้นอย่างมีหวัง
"ผอ. ครับ... คุณเมย์พูดถูกนะครับ... คาแรคเตอร์คุณจารวีเข้ากับคอนเซ็ปต์ 'ความหรูหราแบบเข้าถึงได้' ของเราได้ดีกว่าคุณเจนนี่ด้วยซ้ำ และเราไม่ต้องเสียเวลาหาใครอีกแล้วครับ!"
เมฆินทร์เงียบไปครู่ใหญ่ เขากัดกรามแน่น สายตาคมกริบจ้องตรงไปที่หญิงสาวที่กำลังพยายามหลบตาเขา
เขาจะยอมให้คนอื่นได้เห็นสิ่งที่ 'เป็นของเขา' งั้นหรือ?... ไม่! แต่ถ้าปฏิเสธ... งานก็จะพัง และเขาจะถูกมองว่าไร้เหตุผล
เขาจึงต้องจำใจตอบตกลง
เช้าวันถ่ายทำ
จารวีมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก เธอหมุนตัวช้าๆ ค่อยดึงเสื้อลงตรงหัวไหล่ เผยให้เห็นรอยจ้ำสีม่วงคล้ำบริเวณหัวไหล่ และรอยแดงจางๆ ตรงร่องอก ซึ่งเป็นร่องรอยแห่งความต้องการที่รุนแรงและยากจะควบคุมของเมฆินทร์ เมื่อคืนก่อน
'เขาทำได้ยังไงกันนะ... ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะควบคุมไม่ได้ขนาดนั้น' เธอคิดอย่างขมขื่น
เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้าเมื่อนึกถึงคำพูดที่เมย์ใช้บรรยายเรือนร่างของเธอต่อหน้าทุกคนในห้องประชุม ตอนนี้เธอต้องมาเป็น นางแบบจำเป็น เพื่อช่วยให้จบโปรเจ็คนี้ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ... ต้องโชว์ร่องรอยของความสัมพันธ์ลับที่เธอพยายามจะปกปิด
จารวีรีบเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางอย่างลนลาน เธอหยิบ คอนซีลเลอร์ เนื้อหนาสำหรับปกปิดอย่างดี เธอต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นร่องรอยพวกนี้
เธอค่อยๆ แต้มและเกลี่ยคอนซีลเลอร์ลงบนผิวอย่างพิถีพิถัน พยายามทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอที่สุด ความรู้สึกอับอายปะปนกับความจำเป็นในการทำงาน ทำให้เธอต้องยอมกลืนความรู้สึกส่วนตัวทั้งหมดลงไป
'ต้องไม่มีใครรู้!' เธอสั่งตัวเอง พลางสวมเสื้อคลุมทับไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องพักไปยังห้องแต่งตัวชั่วคราวตามที่ทีมงานเตรียมไว้
ในห้องแต่งตัวชั่วคราว จารวีถูกปิ๋ม (สไตลิสต์) และทีมงานเร่งแต่งหน้าทำผมอย่างเต็มที่ เมย์นั่งอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจเพื่อนรักที่ดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
"จี๊ด! สวยมากเลยแก! ดูสิ... พี่ปิ๋ม แต่งหน้าให้แกจนจำไม่ได้แล้วนะเนี่ย! สวยจนโลกต้องตะลึง!" เมย์พูดอย่างตื่นเต้น
จารวีมองตัวเองในกระจกด้วยสายตาที่ว่างเปล่า "เมย์... แกดูสิ... ฉันไม่มั่นใจเลย... ชุดบิกินี่มัน... มันโป๊ไปไหม"
เธอสวมชุดบิกินีที่ถูกออกแบบมาอย่างหรูหราสำหรับคอนเซ็ปต์ 'สวยแซ่บ Exclusive' ซึ่งเปิดเผยรูปร่างของเธออย่างชัดเจน
"โป๊อะไรกัน! นี่มันชุดว่ายน้ำนะที่รักจ๋า! แล้วดูหุ่นแกสิ!" เมย์พูดพลางใช้สายตาสำรวจทรวดทรงของจารวีด้วยความชื่นชมอย่างจริงใจ
"ฉันบอกแล้วไงว่าแกหุ่นดีขนาดไหน! บูม ๆ แบบนี้ใครๆ ก็อยากได้! นมใหญ่ เอวคอด ขาเรียวสวย... หายากนะยะที่ธรรมชาติจะปั้นมาเป๊ะขนาดนี้!"
"ก็จริงค่ะ..." ปิ๋มเสริม "คุณจารวีคะ คุณคือของจริงค่ะ! เจนนี่ ที่เราจ้างมายังต้องพึ่งซิลิโคนเลยนะคะ! แต่ของคุณจารวี... มันธรรมชาติและเซ็กซี่อย่างมีระดับมากค่ะ! มั่นใจหน่อยนะคะ! คุณกำลังช่วยให้กับโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัทเลยนะ!"
เมย์จับมือจารวี "ยัยจี๊ด! อย่าไปคิดมากถึงเรื่องงาน! คิดซะว่าแกกำลังได้โชว์ความสวยของตัวเองให้โลกเห็น! มาถึงขั้นนี้แล้ว! เดินหน้าเท่านั้น! ฉันอยู่ตรงนี้! สู้ ๆ นะเพื่อน!"
คำพูดของเมย์และปิ๋มทำให้จารวีหายใจเข้าลึก ๆ เธอรับรู้ถึงความจริงใจของเพื่อนและสถานการณ์ที่บีบบังคับ เธอพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เริ่มรวบรวมความมั่นใจ
ปริศนาชายชุดดำตัดภาพกลับมายังในรถขณะที่เมย์และเมฆินทร์ ภายในรถ เมย์ยังคงคาใจเรื่องเหตุการณ์ที่คอนโดของจารวี"พี่เมฆ... เรื่องชายชุดดำวันนั้น ตกลงพี่ว่ามันเป็นใครกันแน่" เมย์เริ่มถาม น้ำเสียงจริงจังขึ้นทันทีที่ไม่มีจารวีอยู่ด้วยเมฆินทร์ขมวดคิ้ว มือหนากำพวงมาลัยแน่น เขามองกระจกข้างด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ "พี่ก็ยังไม่แน่ใจนัก แต่มันมีบางอย่างที่พี่รู้สึก แปลก""แปลกยังไงคะ?""คำพูดของมันไง ที่พูดกับจี๊ดว่า 'จำฉันไม่ได้เหรอ' ถ้าเป็นสตอล์กเกอร์ที่คลั่งไคล้ผลงานการถ่ายแบบ มันควรจะพูดอะไรที่บ่งบอกถึงการชื่นชม หรือต้องการครอบครอง ไม่ใช่คำถามที่เหมือนเป็นการ ทวงความจำ แบบนั้น"เมย์พยายามคิดตาม "หรือว่าจะเป็นศัตรูของจี๊ดตอนสมัยเรียน? หรือตอนที่เธอเป็นนักกีฬา?""พี่ก็คิดอยู่ แต่นั่นมันเรื่องนานมาแล้ว แถมจี๊ดก็บอกว่าเธอไม่มีปัญหากับใครเลย" เมฆินทร์ถอนหายใจ "แต่ที่สำคัญคือ... ปฏิกิริยาของมันตอนที่เห็นพี่""ปฏิกิริยาอะไรคะ?""มันเหมือน ตกใจ มากกว่าที่จะกลัว หรือโกรธที่ขัดขวางการทำร้ายจี๊ด พอพี่ถีบมันออกไป มันพยายามจะดึงหมวกคลุมหน้ากลับมากกว่าจะคว้ามีด มันอยากจะปิดบังตัวตนมากจริง ๆ"เมย์ชั่งใจ
อากาศบนภูยามค่ำคืนช่างหนาวเหน็บเสียจนต้องขดตัว แต่ความหนาวนี้ก็มิอาจเทียบได้กับความเร่าร้อนที่กำลังปะทุขึ้นในเต็นท์...ในเต็นท์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว แสงไฟดวงน้อยส่องให้เห็นเงาตะคุ่มๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างเร่งเร้า ริสา ถูกรุกเร้าจนเสียงหอบหายใจขาดห้วง มือเล็กจิกลงบนแผ่นหลังกว้างของธนาอย่างลืมตัวเพื่อยึดเหนี่ยวตัวเองไว้กับความรู้สึกที่พุ่งทะยานธนาจูบเธอหนักหน่วงและดูดดื่มราวกับจะกลืนกินทุกอณูของร่างกาย เสียงกระซิบพร่าๆ คลอไปกับเสียงผ้าปูที่นอนเสียดสี... เป็นภาพที่ใครเห็นก็รู้ว่าคนข้างในกำลังใช้ความหนาวเป็นข้ออ้างในการมอบความอบอุ่นให้กันและกันอย่างไร้ขีดจำกัด!"ไอธนา มึงดับไฟด้วย!" เสียงตะโกนของเมฆินทร์ ดังข้ามมาพรึ่บ! ไฟในเต็นท์ก็ดับลง เหลือเพียงความมืดมิดที่ช่วยปกปิดความเร่าร้อนที่ดำเนินต่อไป...(...!...)เมฆินทร์ดึงจารวีเข้ามากอดไว้แน่นจนร่างบางแทบจะจมหาย ซบใบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมๆ ของเธอ กลิ่นหอมหวานของเธอปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบให้ตื่นขึ้นทันที อ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นจนความหนาวที่มีอยู่มลายหายไปสิ้น"หนาวจัง... ขอกอดหน่อยนะ" เสียงทุ้มนุ่มกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าว รดริน
เมย์กลับมาหาจารวีที่คอนโดในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เมย์ก็โวยวายด้วยความตกใจ"อะไรนะ! นี่ฉันทิ้งแกไว้คนเดียวแป๊บเดียว เกิดเรื่องเลยเหรอ! แบบนี้ที่แกรู้สึกว่าเหมือนมีคนตามแกมองแกอยู่ มันก็เรื่องจริงสิ! สต๊อกเกอร์ไหม? พวกที่ชื่นชมผลงานแกผ่านที่แกถ่ายแบบกับพี่จีน่าหรือเปล่า? ไม่สิ... ถ้าเป็นพวกคลั่งไคล้ ถึงขนาดต้องเอามีดจี้คอกันเลยเหรอ! แต่แกก็ไม่มีศัตรูที่ไหนนี่" เมย์รัวใส่ด้วยความสงสัย"ฉันคุ้นเสียงนะ เหมือนเคยได้ยินเสียงที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก... มันพูดว่าจำฉันไม่ได้เหรอ ... ใคร? ฉันต้องจำใครได้?" จารวีพึมพำเมย์รีบสรุป "เท่ากับว่ามันตามแกอยู่ตลอด คิดดูสิ ไม่งั้นมันจะรู้ได้ยังไง ว่าแกอยู่คนเดียวได้ถูกจังหวะแบบนี้ เพราะปกติเราจะอยู่ด้วยกันตลอด""อือ... ก็จริงของแกนะเมย์""ดีนะที่ตอนนั้นพี่เมฆอยู่ด้วย" เมย์เผลอหลุดปาก"เดี๋ยวก่อนยัยเมย์! แกหมายความว่ายังไง นี่เป็นแผนของแกเหรอ""แฮ่ ๆ ๆ ... ขอโทษที ฉันอยากให้แกกับพี่เมฆได้เจอกัน ได้คุยกันบ้างอ่ะ""อย่าไปว่าเมย์เลยครับ พี่เป็นคนขอให้เมย์ช่วยเอง ก็พี่เป็นห่วงเรานี่" เมฆินทร์รีบสวนขึ้นจารวีสบตาเมฆินทร์อย่างอ่อนใจ แต่ในใ
บทสนทนาทางโทรศัพย์เมฆินทร์กับเมย์"ฮัลโหลเมย์ พี่มีเรื่องจะถามหน่อย" เสียงทุ้มกรอกลงไปในโทรศัพท์"พี่โทรมาพอดีเลย เมย์ก็มีเรื่องจะบอก" ปลายสายตอบกลับทันที "คือพี่จีน่ามาชวนจี๊ดไปถ่ายแบบ แต่พี่ไม่ต้องตกใจนะ ยังไม่ได้ออกจากงาน แค่ชวนให้ลองดูเฉยๆ""แล้วจี๊ดว่าไง? ตกลงไหม?" เขารีบถามด้วยความสนใจ"ดูเหมือนจะสนใจนะ" เธอตอบเสียงอ้อมแอ้ม "พี่จีน่าพูดถูก ถ้าจี๊ดยังอยู่กับความกลัวแบบนี้เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นปกติ? ให้ลองดูก็ดีเหมือนกัน""พี่ไม่มีสิทธิ์ห้ามอะไรเขาอยู่แล้ว ฝากเมย์ดูแลด้วยนะ" เขาเน้นย้ำ"เมื่อกี้พี่กำลังจะถามอะไรเมย์นะ?" เธอถามย้อนขึ้น"อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ไว้เจอกันพี่ค่อยถามก็ได้ วันหยุดนี้พี่จะกลับกรุงเทพฯ เมย์ช่วยพี่หน่อยได้ไหม?ทำยังไงก็ได้ให้พี่ได้เจอจี๊ดสักครั้ง" เขาขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง"จะโอเคเหรอพี่? เดี๋ยวแม่จะว่าไหม?" เมย์กังวล"แค่ครั้งเดียวนะเมย์ ช่วยพี่หน่อยเถอะ พี่มีเรื่องจะคุยกับจี๊ด และก็อยากเจอหน้า ขอแค่ครั้งเดียวจริงๆ""ก็ได้ค่ะ เมย์จะพยายาม" เธอยอมรับปากบทสนทนาของเมฆินทร์กับเพื่อนหลังวางสายจากเมย์ เมฆินทร์กดโทรศัพท์หาวายุทันที"วายุ ช่วงนี้มึงว่างไหม? ช่วยกูคิ
6 เดือนผ่านไปอย่างเชื่องช้าทรมาน สำหรับเมฆินทร์ที่ถูกย้ายไปเชียงใหม่ และจารวีที่ทำงานที่กรุงเทพฯ มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาเหมือนขาดใจ เพราะเขาไม่มีโอกาสได้ดูแลเธอ ส่วนจารวี... แม้จะยังรัก... แต่ความหวาดกลัวก็ยังคงฝังลึกและเจ็บปวดจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจารวีทำงานในบริษัทของครอบครัวเมฆินทร์ภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวดของ นภา รองประธานบริษัทผู้มีอำนาจล้นเหลือ ครอบครัวของเมฆินทร์ประกาศชัดเจนว่าห้ามใครมายุ่งหรือทำอันตรายเธอโดยเด็ดขาดนภาจัดการไล่พนักงานที่เคยซุบซิบนินทาว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงหรือพูดในทางไม่ดีออกไปทั้งหมด และกำชับห้ามใครคิดร้ายอีกต่อไปการปฏิบัติของทุกคนในบริษัทต่อจารวีเหมือนเป็นลูกสาวคนหนึ่งในครอบครัว ซึ่งตัวเธอเองก็รู้สึกอึดอัดใจกับสถานะที่ได้รับ แต่นภาต้องการชดใช้ความผิดที่ลูก ๆ ของเธอเคยทำพลาด ไม่ว่าจะในอดีตของเมย์ หรือในปัจจุบันของเมฆินทร์ การดูแลเธอในระดับนี้จึงยังน้อยไปด้วยซ้ำในความรู้สึกของผู้เป็นแม่วันเวลาที่ผ่านไปได้ช่วยเยียวยาจิตใจของจารวีให้ดีขึ้น แต่ก็ยังมีเงื่อนปมบางอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจของเธอเสมอมา วันนี้ ความคับข้องใจนั้นกำลังจะถูกคลี่คลายลง เมื่อมีหญิงสา
ล็อบบี้และสติของเมย์เมฆินทร์อุ้มร่างที่ไร้สติของจารวีวิ่งออกมาจากลิฟต์ไปยังล็อบบี้อย่างบ้าคลั่ง สภาพเขาตอนนี้มีแต่ร่องรอยการต่อสู้ เหงื่อท่วมกาย ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอย่างไรต่อบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ใครก็ได้! เรียกรถ! เรียกรถพยาบาล!พนักงานที่เคาน์เตอร์ต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกับภาพชายคลั่งที่อุ้มหญิงสาวตัวซีดเซียวเมย์วิ่งตามมาติด ๆ คว้ากระเป๋าจี๊ดไว้แน่น เธอเห็นความตกตะลึงจนสติแตกของพี่ชาย จึงพุ่งเข้าใส่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันทีเมย์เสียงเฉียบขาดและเร่งรีบ ตอนนี้ต้องการรถไปส่งที่ท่าเรือข้ามเกาะด่วนที่สุด! เร็วเข้า! ตอนนี้!เธอชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเมฆินทร์ พยายามใช้ไพ่ตายที่สร้างขึ้นมาผู้หญิงคนนี้... เธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง... ฉันกลัวว่าเธอจะ แท้งลูก! ให้รีบไปส่งที่ท่าเรือข้ามฝั่ง! ตอนนี้! เครื่องมือการแพทย์และสถานพยาบาลบนเกาะนี้มันไม่พอแน่ ๆ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก... รีสอร์ทของคุณจะรับผิดชอบไม่ไหว!พนักงานรีบประสานงานกันอย่างตื่นตระหนกโดยทันที เมื่อได้ยินคำว่า 'แท้งลูก' และ 'รับผิดชอบไม่ไหว'เมฆินทร์หันไปมองน้องสาว ใบ







