แม้ในตอนนี้ เซียวเหิงจะยังไม่ได้เห็นสภาพของเฉียวเนี่ยนชัด ๆ แต่การตามติดมาในเส้นทางนี้ เสื้อตัวที่ถูกกิ่งไม้เกี่ยวขาดไป เลือดที่ติดตามกิ่งไม้และหนามที่ผิวหนัง แม้กระทั่งเส้นผมที่ติดอยู่ตามกิ่งไม้ทำให้เซียวเหิงรู้ว่า เฉียวเนี่ยนตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผลนางพูดว่าเจ็บ แต่ก็ไม่บอกว่าเจ็บตรงไหนแต่คงจะเจ็บมากจริง ๆ จนถึงขนาดร้องไห้หนักขนาดนี้ใจของเซียวเหิงในขณะนี้เจ็บปวดเช่นกันทันใดนั้น เขาหันหลังให้และก้มลงเหมือนกับหลายครั้งในสิบปีที่ผ่านมาเขาพูดเสียงเบาว่า "มานี่สิ"เมื่อมองไปยังแผ่นหลังที่เคยคุ้นเคยอย่างลึกซึ้ง เฉียวเนี่ยนในตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนทุกสิ่งในโลกนี้หมุนวนเป็นภาพที่ไม่ชัดเจนแต่ถึงอย่างนั้น เฉียวเนี่ยนก็ยังยื่นมือออกไปตามสัญชาตญาณ เอื้อมไปที่บ่าของเขาและพิงตัวลงบนนั้นเซียวเหิงอุ้มนางขึ้น มือหนึ่งประคองตัวนางไว้ อีกมือหนึ่งดึงดาบยาวที่ติดเอวออกมา และเริ่มโบกไปมา ขจัดหนามที่ขวางหน้าไปทีละกิ่งแสงจันทร์ยังคงสะท้อนผ่านกิ่งไม้ลมเย็นในยามค่ำคืนยังคงพัดมาอย่างหนาวเหน็บแต่ในขณะนั้นเฉียวเนี่ยนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนอนอยู่บนหลังของเซียวเหิงในวัยแรกแย้มจึงทำให้นางรู้สึก
เมื่อความทรงจำในอดีตถาโถมเข้ามา นางถูกพัดพาไปโดยไม่สามารถหลีกหนีได้ จนลืมที่จะพยายามหลบหนีนางคิดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆนางจะคิดได้อย่างไรว่าเขาจะเชื่อใจนาง?เขาไม่เคยเชื่อมั่นในตัวนางอย่างเด็ดขาดเลยความเย็นยะเยือกค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในใจเฉียวเนี่ยนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จึงกอดแขนของตัวเองเพื่อหาความอบอุ่นแต่ความหนาวเย็นไร้ขอบเขตกลับรุมเร้าเข้ามาจากทุกทิศทาง ทำให้ร่างกายของนางสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเซียวเหิงกลับไม่รู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นอะไรเขาคิดว่า นางคงจะโมโหจากเรื่องวันนี้จนทำให้ตัวเองรู้สึกหนาวเย็นขึ้นเขามองไปที่เสื้อคลุมในมือของตัวเอง ขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร และเรียกคนขับรถม้าให้ขับต่อไปความจริงจะเป็นอย่างไร เขากลับไปตรวจสอบก็รู้ ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลก่อนยามไห้ รถม้าก็มาถึงหน้าจวนเซียวเฉียวเนี่ยนเปิดม่านรถออก แล้วเห็นเซียวเหิงยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมเอื้อมมือออกมาหานางเขาคงจะเห็นว่านางข้อเท้าพลิก จึงแสดงท่าทางเอาใจใส่เช่นนั้นแต่เฉียวเนี่ยนกลับเพิกเฉยกับเขา ทนกับความเจ็บปวดที่ข้อเท้าและลงจากรถม้าเซียวเหิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่านางเป็นอะไรกัน
เฉียวเนี่ยนคิ้วขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่าเซียวชิงหน่วนเข้าใจนางผิดไปแล้วแต่นางไม่ได้ต้องการโต้เถียงกับเซียวชิงหน่วนในตอนนี้ไร้หลักฐานไร้พยาน ไม่ว่านางจะพูดอะไร เซียวชิงหน่วนก็ไม่มีวันเชื่อทว่าแววตาของเซียวเหอกลับมืดครึ้มลงในฉับพลัน สายตาที่มองไปยังเซียวชิงหน่วนเจือด้วยความขุ่นเคือง "ก่อนความจริงจะปรากฏ ห้ามพูดจาส่งเดช"เซียวชิงหน่วนไม่ยอมขึ้นมาทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนรน "ทำไมถึงบอกว่าความจริงยังไม่ปรากฏ? ข้าอยู่กับท่านแม่ในตอนนั้น เกือบจะถูกพวกคนเลวทำร้ายแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้รอง ผลลัพธ์คงเลวร้ายเกินกว่าจะคาดคิด!"เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ดวงตาของเซียวชิงหน่วนก็แดงก่ำ เห็นได้ชัดว่านางถูกทำให้หวาดกลัวไม่น้อย แม้ในตอนนี้ก็ยังไม่หายตกใจน้ำเสียงของนางอดไม่ได้ที่จะแฝงความน้อยใจ "ข้ายังเป็นห่วงนาง คิดจะไปตามหานาง แต่ใครจะรู้ว่านางกลับหนีเอาตัวรอดไปก่อนแล้ว!"ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของแม่เซียวก็ย่ำแย่ถึงขีดสุด เมื่อนึกถึงตอนที่ตนกับหน่วนหน่วนรีบร้อนออกตามหาเฉียวเนี่ยน แต่กลับได้รับแจ้งว่าเฉียวเนี่ยนหนีไปแล้ว หัวใจของนางก็เย็นเยียบแทบถูกความสิ้นหวังกลืนกินแต่เวลานี้ไม่ใช
เซียวชิงหน่วนเองก็แอบตกใจอยู่เล็กน้อยนางฟื้นขึ้นมาในขณะที่กำลังนอนอยู่กับแม่เซียวหลังโขดหินก้อนใหญ่ข้างกายนั้นมีสี่คนคอยเฝ้าอยู่นางย่อมต่อสู้ขัดขืน แต่เพียงไม่กี่กระบวนท่าก็ถูกปราบลงอย่างง่ายดายและในตอนนั้นเอง หลินยวนก็พาชายชุดดำคนหนึ่งที่นางจับตัวมาได้เข้ามา...เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เซียวชิงหน่วนก็ขมวดคิ้ว มองไปยังเฉียวเนี่ยนแล้วกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องมาเสียดสี แม้พี่สะใภ้รองจะไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ แต่เมื่อนางสามารถฉวยโอกาสตอนชิวอวี่เผลอ พลิกกลับมาฆ่าชิวอวี่ได้ เช่นนั้นนางก็สามารถฉวยโอกาสตอนที่นักลอบสังหารเผลอ จับตัวเขาได้เช่นกัน! อย่างไรเสีย ข้ากับท่านแม่ก็ได้พี่สะใภ้รองช่วยไว้ นี่คือความจริง!”หลินยวนก็รีบเสริมขึ้นตามคำของเซียวชิงหน่วนทันที "ท่านพี่คงไม่รู้ ตอนนั้นชิวอวี่คิดจะลวนลามข้า แต่เขากลับสะดุดหินในถ้ำจนล้มลง ตอนนั้นข้าตกใจแทบแย่ ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงจากไหน จึงดึงปิ่นออกมาแล้วแทงเข้าไปในร่างของชิวอวี่ หลังจากพบว่าชิวอวี่ตายแล้ว ข้าก็กลัวมากจึงถอยไปอยู่ที่มุมถ้ำ อาจเพราะในถ้ำนั้นมืดสนิท นักลอบสังหารที่เข้ามาจึงไม่พบตัวข้า ข้าจึงฉวยโอกาสตอนที่เขาหันหลัง วิ่งเข้าไปข้างหลังเขา ใช้
สายตาของเฉียวเนี่ยนในครั้งนี้ แฝงความหมายลึกซึ้งเกินคาดหัวใจของหลินยวนบีบรัดแน่นขึ้นมาในทันที ราวกับเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก นางหันศีรษะเล็กน้อย มองไปทางเสี่ยวหวนใช่แล้ว แม้ว่าชิวอวี่จะตายไปแล้ว แต่เรื่องที่นางร่วมมือกับชิวอวี่ยังมีอีกคนที่รู้เสี่ยวหวนเองก็ถูกสายตาของเฉียวเนี่ยนทำให้สะดุ้งเฮือก ยังไม่ทันตั้งตัวดี ก็พบว่าหลินยวนหันขวับมามองนางด้วยเช่นกันแววตาที่แฝงความอำมหิตวูบผ่านไปนั้น ทำให้นางรู้สึกขนลุกซู่เสี่ยวหวนรีบก้มหน้าลงทันที ไม่กล้ามองอีกขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงเซียวชิงหน่วนที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นอย่างขุ่นเคือง "นางหมายความว่าอย่างไรกัน? ที่ว่าคนทำชั่วมากเข้าย่อมพบจุดจบของตนเอง นางกำลังจะสื่อถึงอะไรอยู่กันแน่!?”อย่างไรเสียหลินยวนก็เป็นสหายสนิทของเซียวชิงหน่วนมาสามปี ย่อมรู้ดีว่าจะรับมืออย่างไร จึงรีบกล่าวขึ้นทันที “หน่วนหน่วน เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้เลย บางทีท่านพี่อาจจะเข้าใจข้าผิดไปจริง ๆ”“พี่สะใภ้รอง!” เซียวชิงหน่วนมีท่าทีราวกับ ‘หวังดีแต่เขาไม่รับ’ ขึ้นมาทันที “อย่าพูดเข้าข้างนางอีกเลย! เรื่องวันนี้…”แต่ยังไม่ทันพูดจบ เสียงเย็นเยียบของเซียวเหอก็ดังขึ้นขัด “เรื่
แต่หลินยวนก็ทำได้เพียงแสดงท่าทางอ่อนแอออกมา นางโค้งตัวเล็กน้อยแล้วกล่าวกับเซียวเหิง “เช่นนั้นข้ากลับไปพักก่อนนะเจ้าคะ ท่านพี่เหิงก็รีบพักผ่อนนะเจ้าคะ!”พูดจบก็หันหลังเดินจากไปเซียวเหิงไปที่แผ่นหลังของหลินยวน เขายกมือขึ้นสัมผัสที่เสื้อคลุมของตัวเอง ดวงตาของเขายิ่งขุ่นเคืองมากขึ้นตลอดทางกลับเรือน หลินยวนก็ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งเมื่อกลับมาถึงห้องของตัวเอง หลินยวนถึงได้เบาเสียงพูดขึ้น “ปิดประตู”เสี่ยวหวนใจเต้นแรงขึ้น แต่ก็ยังคงเชื่อฟัง หันไปปิดประตูแต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อหันกลับมา หลินยวนไปยืนอยู่ข้างหลังนางเมื่อไรก็ไม่รู้ระยะใกล้มากจนเสี่ยวหวนเกือบจะตกใจจนขาอ่อนล้มลงไปเมื่อเห็นเสี่ยวหวนมีสีหน้าเคร่งเครียด หลินยวนจึงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เด็กโง่ กลัวอะไรงั้นหรือ?”นางพูดพลางดึงมือเสี่ยวหวนมา "อย่ากังวลเลย ตอนนี้ชิวอวี่ก็ตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องที่เราทำกับเขา ขอแค่เจ้ากับข้าปิดปากเงียบ ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรเราได้!"นางพูดคำว่า "เรา"มันหมายถึงการผูกมัดเสี่ยวหวนกับนางเข้าด้วยกัน!เสี่ยวหวนมองหลินยวนที่มีท่าทางดูใจดีเช่นนี้ แต่ความกลัวในใจของนางกลับยิ่งทวีขึ้นไปอีก ขณะนั้นนา
อีกด้านหนึ่ง ภายในเรือนของเซียวเหอ แสงโคมยังคงส่องสว่างอยู่เฉียวเนี่ยนใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามจึงชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยหนิงซวงยืนอยู่ด้านหลังเฉียวเนี่ยน ขณะใช้ผ้าเช็ดเส้นผมที่ยังเปียกหมาดไปพลาง ก็ลอบเช็ดน้ำตาของตนเองไปพลางเมื่อครู่ นางเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจนร่างกายของคุณหนูเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น และบาดแผลที่ถูกกรีดใหม่ในวันนี้ ทำให้หัวใจของนางแทบแหลกสลายแม้แต่เส้นผมก็กระจายหลุดร่วงไปไม่น้อย หนังศีรษะยังมีรอยขีดข่วนให้เห็น เห็นได้ชัดว่า คืนนี้คุณหนูของนางต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด!แต่พวกคนด้านนอกนั้น กลับกล่าวโทษคุณหนูของนางว่าเป็นฝ่ายหนีเอาตัวรอดคนเดียว!ช่างเป็นพวกตาบอดกันทั้งหมด!หากไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องเป็นตาย คุณหนูของนางจะยอมทำให้ตัวเองเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!หนิงซวงทั้งโกรธทั้งสงสารแทบขาดใจ แต่ก็ทำได้เพียงกลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ กลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะได้ยินเข้าแต่เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ยินอยู่ดีนางหันกลับไปมองหนิงซวงพลางกล่าวปลอบโยน "ไม่เอาน่า ข้าก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วนี่มิใช่หรือ?”ใครจะรู้ว่าเพียงคำปลอบของเฉียวเนี่ยนประโยคนี้ กลับทำให้หนิงซวงร้องไห้หนักกว่าเดิม “เ
หนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็คิดพิจารณาอย่างลึกซึ้ง "หรือว่า หลังจากชิวอวี่ฟื้นขึ้นมา เขายังรู้สึกไม่พอใจ จึงคิดจะทำร้ายคุณหนูรอง ผลสุดท้ายกลับโดนคุณหนูรองฆ่าเสียเอง?”เซียวเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชากล่าวว่า “อาจเป็นไปได้ แต่ความเป็นไปได้ที่หลินยวนฆ่าเขาเพื่อปิดปากกลับสูงกว่า”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าตาม “นางน่าจะฆ่าเขาตอนที่ชิวอวี่ยังหมดสติอยู่ ถ้าไม่เช่นนั้น นางคงไม่สามารถต่อกรกับชิวอวี่ได้”เพราะหลินยวนแทบไม่เคยฝึกวรยุทธเลยจี้เยว่รู้สึกตกใจเล็กน้อย “นายหญิงน้อยรองที่ดูเหมือนอ่อนแออย่างนี้ จริง ๆ แล้วสามารถลงมือได้ทารุณขนาดนี้เชียวหรือ?”หนิงซวงเย็นเสียงไม่พอใจออกมา “นางแค่ทำเป็นแกล้งอ่อนแอเท่านั้นเองเจ้าค่ะ! ก่อนหน้านี้ยังจ้างคนฆ่า ตอนนี้ก็ลงมือเอง! ไม่รู้ว่าต่อไปจะทำอะไรอีก!”หนิงซวงยิ่งรู้สึกว่า หลินยวนช่างเป็นคนที่น่ากลัวจริง ๆ!เซียวเหอเงียบไปไม่พูดอะไร แต่ก็เห็นด้วยกับคำพูดของหนิงซวงอย่างมากจากนั้นเฉียวเนี่ยนก็ค่อยพูดขึ้นว่า "ตอนนี้ ข้ากลับเริ่มกังวลเรื่องเสี่ยวหวน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวเหอก็มีสีหน้าหนักใจขึ้นเสี่ยวหวนคือสาวใช้ที่รู้ความลับของหลินยวนมากที่สุด ด
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด