ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่เฉียวเนี่ยนได้ยินเสียงของหลินเย่ว์ก็เกิดความรู้สึกรำคาญอย่างหาที่เปรียบไม่ได้นางหันไปมองเขา เห็นเขาผลักเด็กรับใช้ที่กำลังประครองเขาอยู่ออก แล้วเดินกระเผลกเข้ามาทางนางอย่างรวดเร็ว "ขอโทษท่านแม่เสีย !"เฉียวเนี่ยนพินิจมองเขาปราดหนึ่ง คงเพราะแผลที่หลัง หลินเย่ว์จึงยืนได้ไม่ตรงนัก อีกทั้งหน้าผากยังมีเม็ดเหงื่อผุดพรายอยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ที่สาวก้าวเข้ามานั้นทำให้เขาเจ็บราวกับเหลือเพียงอีกแค่ครึ่งชีวิตแต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังเลือกที่จะตำหนินางโดยไม่ห่วงเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นที่จริงแล้วเมื่อมาลองๆ คิดดูให้ดี หลินเย่ว์มีนิสัยเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก เพียงแต่ยามนั้นหลินเย่ว์คอยปกป้องนางอย่างไม่คิดชีวิต ทว่าหลังจากที่หลินยวนกลับมา ก็เริ่มเพ่งเล็งนาง ปรักปรำนางโดยไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเฉียวเนี่ยนรู้สึกหนาวเหน็บในใจ แต่กลับกล่าวออกมา "ท่านโหวน้อย เมื่อวานหลังจากที่สั่งให้ข้าขอโทษแล้วก็ถูกเฆี่ยนไปยกใหญ่ วันนี้เตรียมใจจะโดนลงโทษแบบใดอีกหรือ"พูดถึงเรื่องเมื่อวาน หลินเย่ว์ก็อดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้ แต่กลับยังคงดื้อดึง เชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเฉียวเนี่
แผลที่หลังนางยังเจ็บอยู่เลย !แม้เมื่อวานหลินเย่ว์จะถูกตีจนสลบไป แต่ไม้กวาดพวกนั้นที่ใช้ตีเขายังไม่หักเลยสักด้าม อีกทั้งแผลที่หลังของหลินเย่ว์ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ดังนั้นวันนี้เขาถึงได้ลงจากเตียงได้ส่วนนางเล่า ?เพียงแค่ไม่กี่ครั้งก็ตีจนไม้กวาดหักเป็นท้อน ด้วยเรี่ยวแรงที่หนักหน่วง ทำให้ส่วนหน้าตัดที่หักออกจากกันขูดหลังนางเป็นแผลลึกเห็นได้เลยว่าเมื่อวานหลินเย่ว์เพียงแค่ต้องการจะตีนางให้ถึงแก่ชีวิตก็เท่านั้นแม้เฉียวเนี่ยนไม่ได้พูดให้ชัดเจน แต่ความดูถูกเหยียดหยามนี้ หลินเย่ว์กลับรับรู้ได้อย่างแท้จริงเขาพลันถลาเข้าไปใส่เฉียวเนี่ยนพร้อมกับยกหมัดขึ้นมา "ข้าว่าเจ้าคงถูกตีน้อยเกินไปถึงได้ปากแข็งเช่นนี้"ฮูหยินหลินรีบกอดรัดหลินเย่ว์เอาไว้ทันที "เย่ว์เอ๋อร์ อย่าวู่วาม !"ใครจะคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับก้าวเข้าไปหาหลินเย่ว์อีกก้าว "ท่านโหวน้อยยังอยากทุบตีข้าอยู่อีกหรือ วันนี้ตั้งใจจะตีที่ใด หน้าฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา ต้องการให้ข้ายื่นมันไปให้ท่านด้วยตัวเองหรือไม่"เห็นนางอวดดีเช่นนี้ ความโกรธของหลินเย่ว์ก็ยิ่งลุกโชน เกือบจะหลุดจากพันธนาการของฮูหยินหลินได้แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหนิงซวงจะพุ่งเข้
"เฉียวเนี่ยน" หลินเย่ว์โกรธเกรี้ยว แต่กลับถูกหญิงสาวสองคนกอดเอาไว้ ทำให้ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเฉียวเนี่ยนก็ขี้เกียจจะต่อความยาวกับหลินเย่ว์แล้วเช่นกัน มองไปทางฮูหยินหลิน "ของกำนัลวันนี้ล้วนแต่เป็นของที่ฮ่องเต้และกุ้ยเฟยประทานให้ข้า เช่นนั้นก็ควรส่งไปยังเรือนฟางเหอของข้าเป็นธรรมดา ถูกไหม"ของกำนัลเหล่านี้ แม้ฮ่องเต้และกุ้ยเฟยประทานให้เฉียวเนี่ยน แต่ตามหลักแล้วควรจะนำเข้าคลังของจวนโหวแต่ในเมื่อเฉียวเนี่ยนถามออกมา ฮูหยินหลินก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งยังรู้สึกว่านี่ก็เป็นการชดใช้ให้กับเฉียวเนี่ยนสำหรับเรื่องเมื่อสามปีก่อนด้วยเช่นกันครั้นแล้ว นางจึงพยักหน้าทั้งน้ำตา "ก็ ก็ส่งไปที่เรือนเจ้าเถอะ"ได้ยินประโยคนี้ของฮูหยินหลินแล้ว บนใบหน้าของเฉียวเนี่ยนถึงได้เผยรอยยิ้มที่แท้จริงออกมาเสียที ก่อนจะโน้มตัวลงทำความเคารพฮูหยินหลินแล้วพาหนิงซวงกลับหลังหันเดินจากไปเห็นท่าทางได้ใจสุดจะบรรยายของนาง ดวงตาคู่นั้นของหลินเย่ว์ก็ลุกโชนไปด้วยดวงไฟ เขาถามอย่างอดไม่ได้ "ท่านแม่ ท่านให้นางไปทำไม"ยามนี้ฮูหยินหลินถึงจะยอมปล่อยหลินเย่ว์สักที สูดจมูก "ในจวนก็ไม่ได้ขัดสนสิ่งใด ยิ่งไปกว่านั้น เดิมก็เป็
กับคนอื่นในบ้าน ยามนี้เฉียวเนี่ยนอุกอาจมาดมั่นเป็นธรรมดาแต่กับฮูหยินเฒ่า นางกลับรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ อย่างน่าประหลาดนางไม่รู้ว่าหากฮูหยินเฒ่ารู้ว่าตนออกปากขอของกำนัลที่ฮ่องเต้และกุ้ยเฟยประทานให้มาไว้กับตัว จะตำหนิดุด่าว่านางไม่รู้ธรรมเนียมหรือไม่เวลานี้ ฮูหยินเฒ่าน่าจะกำลังตื่นอยู่ไม่ผิดคาด ตอนที่เฉียวเนี่ยนมา ฮูหยินเฒ่ากำลังดื่มยาเฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกหนึ่งที จัดท่าทางของตนเรียบร้อยแล้วถึงจะเข้าไปคาราวะฮูหยินเฒ่าในห้อง ด้วยกลัวว่าฮูหยินเฒ่าจะดูออกว่านางบาดเจ็บฮูหยินเฒ่าเห็นเฉียวเนี่ยนก็ดีใจ รีบกวักมือเรียกนาง "ข้าได้ข่าวว่า พระราชโองการพระราชทานพิธีสมรสมาถึงแล้วหรือ"เฉียวเนี่ยนนั่งลงข้างฮูหยินเฒ่า จับมือนางไว้พลางพยักหน้า "เจ้าค่ะ มาแล้ว ฝ่าบาทและกุ้ยเฟยพระราชทานของกำนัลจำนวนไม่น้อย ข้า...ข้าเอามาหมดแล้ว"น้ำเสียงของเฉียวเนี่ยนเจือความรู้สึกผิด นางกลัวว่าท่านย่าจะว่านางละโมบบนโลกใบนี้ นางมีเพียงแค่ท่านย่าเป็นญาติเพียงคนเดียวแต่ใครจะรู้ ฮูหยินเฒ่ากลับหัวเราะร่าออกมา "ดี ทำดีมาก เนี่ยนเนี่ยนของข้านับว่าฉลาดได้สักครั้งแล้ว"เฉียวเนี่ยนตะลึง "ท่านย่าจะไม่ต่อว่าหลานว่า
เฉียวเนี่ยนกลับไปใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ในเรือนฟางเหอไม่พบผู้ใดอีกครั้งนอกจากออกไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่า นางก็แทบไม่ได้ก้าวออกจากห้องตัวเองเลยประการแรก เพราะแผลที่หลังของนางจำเป็นต้องพักผ่อนฟื้นฟู ประการที่สองนางเองก็รำคาญที่จะต้องเห็นคนอื่นในจวนแห่งนี้จริงๆโดยเฉพาะหลินยวนกลัวเหลือเกินว่าไม่ได้ระวังตัวถูกนางพบเข้า แล้วนางจะเข้าหาอีก ไม่รู้ว่าจะใช้ลูกไม้อุบายอะไรบ้างความเป็นจริง หลินยวนก็มาที่นี่ในช่วงหลายวันนี้บอกว่าดอกเหมยแดงดอกที่ใหญ่ที่สุดในเรือนลั่วเหมยบานแล้ว งดงามยิ่งนัก แม้แต่กลิ่นหอมก็ชวนให้คนหลงใหล นางรู้ว่าเฉียวเนี่ยนชอบดอกเหมย จึงตั้งใจมาเชิญเฉียวเนี่ยนด้วยตัวเองเป็นการเฉพาะแต่ครั้งนี้ อย่าว่าแต่แจ้งให้เฉียวเนี่ยนรู้ แม้แต่ประตูเรือนฟางเหอ หนิงซวงก็ไม่ยอมให้หลินยวนผ่านเข้ามา บอกเพียงแค่ว่าคุณหนูของนางยังนอนพักรักษาบาดแผลอยู่ ไม่สะดวกออกไปไหนต่อให้หลินยวนจะไม่รู้ความเพียงใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะต้องลากผู้ป่วยออกไปชมดอกเหมยให้ได้ เรื่องนี้จึงจบลงไปได้ต่อมา เฉียวเนี่ยนรู้เรื่องนี้จากปากของสาวใช้คนอื่นก็ตบรางวัลหนิงซวงด้วยปิ่นปักผมด้ามหนึ่งผู้คนเหล่านั้นที่สามารถนำพ
เดินไปอีกเพียงแยกเดียวก็เป็นถนนชุนซานแล้วเฉียวเนี่ยนมองดูฝูงชนตรงหน้า เบียดเสียดกันแน่นขนัดจนไม่อาจผ่านไปได้จริงๆ ถึงได้ขานตอบ "ได้"นางลงรถม้าไปพร้อมกับหนิงซวง แล้วสั่งให้คนขับรถมารับพวกนางดึกๆ จากนั้นก็เดินตามกลุ่มคนไปยังถนนชุนซานแม้จะยังไม่ถึงถนนชุนซาน แต่ข้างทางก็มีแผงลอยเรียงรายอยู่มากมาย ขายของกระจุกกระจิกแปลกใหม่และน่าสนใจหนิงซวงสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นแค่เด็กสาว เห็นของเหล่านั้นก็เดินไม่ตรงทางทันที "คุณหนู ดูนี่สิ หน้ากากนี่งดงามเหลือเกิน"เห็นหนิงซวงเดินจ้ำอ้าวไปที่แผงลอยอย่างรวดเร็ว หยิบหน้ากากที่วาดลายหน้างิ้วชิ้นหนึ่งขึ้นมา "คุณหนูสวมอันนี้จะต้องงามมากๆ แน่"เฉียวเนี่ยนไม่ได้ชอบเท่าใดนัก ขมวดคิ้วมุ่น ทว่าไม่รอให้นางเอ่ยปาก หนิงซวงก็ซื้อหน้ากากนั่นมาเสียแล้วนางเดินเข้ามาตรงหน้าเฉียวเนี่ยนด้วยความตื่นเต้นดีใจ "คุณหนูลองใส่ดู"เห็นท่าทางระรื่นขนาดนี้ของนาง เฉียวเนี่ยนจึงปฏิเสธไม่ลง ทำได้เพียงแค่หยิบหน้ากากขึ้นมาสวมแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่สวมหน้ากาก ตรงหน้ากลับไม่เห็นร่างของหนิงซวงเสียแล้วนางใจหายวาบ ได้ยินเพียงแค่เสียงของหนิงซวงดังมาจากกลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ค
มาอีกแล้วณ ขณะนั้น ในหัวของเฉียวเนี่ยนปรากฏเพียงสามคำนี้วนเวียนอยู่สิ่งที่นางเกลียดที่สุดคือการเห็นหลินยวนในสภาพเช่นนี้และเมื่อพบว่าเฉียวเนี่ยนมองมาที่ตน หลินยวนถึงเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางอ่อนแอ แล้วทำความเคารพเฉียวเนี่ยน “ยวนเอ๋อร์คารวะพี่สาว”เสียงของนางสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ แต่นางไม่ได้ร้อง เพียงกลั้นน้ำตาเอาไว้ในดวงตา ทำให้คนเห็นยิ่งรู้สึกสงสารเซียวชิงหน่วนเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว “ยวนเอ๋อร์ เจ้าใจดีเกินไปแล้ว! นางตั้งใจเกี้ยวพาราสีคู่หมั้นของเจ้า เจ้ายังจะไปคารวะนางอีก! พูดตามตรง เจ้าควรตบหน้าไปหนึ่งฉาดเสียมากกว่า!”ฝูงชนรอบข้างยังคงเดินผ่านไปมา เพียงแต่ช้าลงเล็กน้อยเพราะคำพูดของเซียวชิงหน่วนอาจเป็นเพราะไม่อยากพลาดช่วงเวลา ’สองสตรีแย่งชิงหนึ่งบุรุษ’ นี้ล่ะสิหลินยวนมองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาหวาดกลัว โดยไม่ได้พูดอะไรเซียวเหิงขมวดคิ้วจ้องเซียวชิงหน่วนตาเขม็ง “หากเจ้าอยากจะหาเรื่องกัน ก็กลับไปก่อนเลย”เมื่อเห็นว่าเซียวเหิงเข้าข้างเฉียวเนี่ยน เซียวชิงหน่วนจึงไม่พอใจ “พี่ชาย เหตุใดจึงเข้าข้างนางตลอด? ก่อนหน้านี้พี่ชายยังไม่แม้แต่จะมองนางเลย! อย่าบอกนะว่าสามปีที่ไม่ได้เจอกัน พ
แต่แล้วกลับเห็นเซียวเหิงเอ่ยปากขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สาวใช้ของเจ้าล่ะ”เฉียวเนี่ยนหันไปมองด้านหลัง “ไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว”“หึ!” เซียวชิงหน่วนแม้จะปิดปากอยู่ก็ยังส่งเสียงไม่พอใจออกมาเพื่อแสดงความไม่เชื่อเฉียวเนี่ยนไม่อยากสนใจนาง ก็ได้ยินเซียวเหิงเอ่ยว่า “วันนี้คนพลุกพล่าน เจ้าตัวคนเดียวอาจไม่ปลอดภัย เดินทางด้วยกันเถิด”นี่จะชวนเฉียวเนี่ยนไปชมโคมไฟด้วยกันอย่างนั้นหรือ?หลินยวนเบิกตากว้างขึ้นทันที น้ำตาก็ยิ่งไหลหนักขึ้นไปอีกเซียวชิงหน่วนก็ปิดปากไม่ไหวแล้ว ตะโกนเรียกเสียงดังว่า “พี่ชาย!”เพียงแต่เมื่อครู่โดนตักเตือนไปแล้ว นางจึงไม่กล้าพูดคำอื่นออกมาขณะนี้เอง หนิงซวงก็กลับมายืนข้างๆ เฉียวเนี่ยนอีกครั้ง “คุณหนู!”เฉียวเนี่ยนหันไปมอง ก็เห็นสาวใช้ถือของมาเต็มสองมือ ทั้งผลไม้เคลือบน้ำตาล ขนมกุ้ยฮวา และตุ๊กตาไม้ตัวเล็กๆ คงจะเป็นของที่นางพูดว่าน่าสนใจเมื่อครู่นี้แหละนางถอนหายใจเสียงเบาด้วยความระอา “ช่วงนี้ให้เงินเจ้ามากไป?”มาได้ไม่นาน นางก็ซื้อของมามากเพียงนี้แล้ว!หนิงซวงยิ้มอย่างเขินอาย แล้วโค้งคำนับเซียวเหิงและคนอื่นๆ ก่อนจะเข้ามาใกล้เฉียวเนี่ยน และกระซิบว่า “บ่าวก็
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด