Share

บทที่ 793

Author: โม่เสียวชี่
ฮ่องเต้พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “เช่นนั้นก็นับว่าลำบากเจ้าแล้ว”

ยังไม่ทันขาดคำ ฮองเฮาก็กล่าวตามว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันก็รู้สึกว่าท่านหญิงเฉียวงานหนักเกินไปแล้ว ไม่เพียงต้องดูแลอิ้งจือ ยังต้องดูแลเหล่านางสนมในวัง ให้รับอิ้งจือมาอยู่ที่ตำหนักของหม่อมฉันดีหรือไม่เพคะ? อย่างไรเสีย ท่านหญิงเฉียวก็อาศัยอยู่ในจวนอ๋องผิงหยางในฐานะผู้อาศัย จะพาคนเข้าไปอยู่ด้วยย่อมดูไม่เหมาะนัก”

สำหรับจวนอ๋องผิงหยางแล้ว เฉียวเนี่ยนก็แค่แขกคนหนึ่ง ไหนเลยจะมีแขกที่พาแขกไปพักด้วยอีก?

ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ดีๆ บุตรสาวตระกูลเมิ่งคนหนึ่งย้ายเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องผิงหยาง นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าการให้เมิ่งอิ้งจือไปอยู่ที่เรือนนอนของฮองเฮานั้นเหมาะสมกว่าการอยู่ในจวนอ๋องผิงหยางเสียอีก

อย่างไรเสีย ฮองเฮาเป็นน้าของเมิ่งอิ้งจือโดยสายเลือด รับตัวมาเพื่อพักฟื้นก็ไม่เห็นจะผิดอะไร

แต่ก็ยังขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “แต่เมื่อครู่ท่านหญิงเฉียวยังบอกว่า แม่หนูตระกูลเมิ่งผู้นั้น ตอนนี้จำได้แค่นาง หากพาเข้าตำหนักมานี่ เกรงว่าจะโวยวายไม่หยุด กลับจะรบกวนการพักรักษาตัวของเจ้าด้วยซ้ำ”

คำพูดของฮ่องเต้นั้นล้วนแสดงถึงความห่วงใยในตัวฮ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 796

    ยามโพล้เพล้ เฉียวเนี่ยนพาเมิ่งอิ้งจือเข้าไปในวังหลวงรถม้าจอดลงหน้าประตูวังหลวง เฉียวเนี่ยนพยุงเมิ่งอิ้งจือลงจากรถม้าลุงเกิ่งยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล แต่ก็จนใจฮ่องเต้มีรับสั่งให้นางพาเมิ่งอิ้งจือเข้าไปในวังหลวงหากอ๋องยังอยู่ในเมืองหลวง ก็คงจะห้ามไว้ได้ แต่ตอนนี้เขาเป็นแค่สารถีต่ำต้อย จะทำอะไรได้หรือ?วังหลวงช่างกว้างใหญ่ ภายในยังมีกองทหารรักษาพระองค์ที่ไม่ขาดผู้มีวรยุทธสูงส่ง แม้แต่กรมวังยังมียอดฝีมือที่คอยอารักขาฮ่องเต้ หากเขาแอบเข้าไปในวังหลวงเพื่อปกป้องคุณหนูเฉียว เกรงว่ายังไม่ทันสว่างก็จะถูกหาว่าเป็นนักลอบสังหาร และถูกสั่งประหารด้วยการใช้ม้าห้าตัวฉีกกระชากร่างเป็นชิ้นๆ!เฉียวเนี่ยนเห็นสีหน้าของลุงเกิ่งอยู่แล้ว จึงยิ้มบางๆ ทันที “ลุงเกิ่งวางใจเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี ยิ่งไปกว่านั้น ท่านพี่เซียวก็เป็นผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ หากมีเรื่องอะไร ข้าจะไปขอความช่วยเหลือจากเขา”ลุงเกิ่งถึงได้พยักหน้าเล็กน้อย “คุณหนูระวังตัวด้วย”สิ้นเสียงลุงเกิ่ง หนิงซวงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นด้วยขอบตาแดงเรื่อ “คุณหนู บ่าวตามคุณหนูเข้าไปในวังหลวงด้วยไม่ได้จริงๆ หรือเจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 795

    “ขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ”เวลาผ่านไปราวธูปหนึ่งดอกหมดลง เฉียวเนี่ยนจึงออกจากเรือนนอนของฮองเฮา แล้วไปยังตำหนักฝูเหอเพื่อเยี่ยมสวีเหม่ยเหรินเมื่อเทียบกับตอนพบกันครั้งแรก สวีเหม่ยเหรินผอมลงไม่น้อย สีหน้าก็ดูสดใสกว่าก่อนมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้านางกำนัลของตน สวีเหม่ยเหรินยังคงเผยท่าทีเหนื่อยล้าออกมาเป็นบางครั้ง เพื่อให้นางกำนัลน้อยผู้นั้นคิดว่านางคือคนอ่อนแอที่ใกล้จะสิ้นชีวิตจริงๆโชคดีที่นางกำนัลผู้นั้นเป็นคนที่แยกแยะอะไรไม่ออก วันๆ เอาแต่เล่นสนุก ไม่รู้จักดูแลสวีเหม่ยเหริน ทำให้สวีเหม่ยเหรินรู้สึกผ่อนคลายขึ้นไม่น้อยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน สวีเหม่ยเหรินก็ดีใจมาก รีบออกมาต้อนรับทันที “ท่านหญิงเฉียวมาแล้วหรือ! เชิญข้างในเจ้าค่ะ เชิญนั่งก่อน!”เฉียวเนี่ยนถูกลากเข้าไปในห้อง สวีเหม่ยเหรินรินน้ำให้หนึ่งถ้วยแล้วจึงกล่าว “ขอบคุณท่านหญิงเฉียว ช่วงนี้ข้ารู้สึกว่าตัวเบาขึ้นมากนัก!”คนเรา กว่าจะรู้ว่าร่างกายแข็งแรงเป็นอย่างไร ก็ต่อเมื่อต้องล้มป่วยก่อนตอนนี้นางรู้สึกสดชื่นในตอนกลางวัน กลางคืนก็หลับสนิท แทบจะดีไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!ทว่าใบหน้าของเฉียวเนี่ยนกลับเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย “วันนี้ฮ่องเต้ตรัส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 794

    เฉียวเนี่ยนย่อมเข้าใจความหมายของฮองเฮาเป็นอย่างดีเหตุผลสำคัญที่นางทำร้ายสวีเหม่ยเหริน ก็เพราะเด็กในครรภ์ของสวีเหม่ยเหรินหากเฉียวเนี่ยนกล่าวในตอนนี้ว่าเด็กในครรภ์สุขภาพแข็งแรง เช่นนั้นหากวันข้างหน้าสวีเหม่ยเหรินเกิดตายทั้งกลม ฮ่องเต้ย่อมต้องสงสัยขึ้นมาแน่เพราะฉะนั้น นางจึงต้องให้เฉียวเนี่ยนไตร่ตรองให้ดี ว่าควรตอบเช่นไร!เฉียวเนี่ยนละสายตากลับมาก้มมองที่ปลายเท้าตนเอง แล้วจึงกล่าวขึ้นว่า “โชคดีที่ได้โอสถบำรุงจากฮองเฮาเด็กในครรภ์ของสวีเหม่ยเหรินจึงยังสุขภาพดีอยู่ เชื่อว่า หากสวีเหม่ยเหรินสามารถประคับประคองร่างกายตนเองได้จนถึงวันคลอด ทายาทในครรภ์ย่อมปลอดภัยไร้กังวลเพคะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาของฮองเฮาก็พลันเย็นชาขึ้นมาทันทีทว่าฮ่องเต้กลับพึงพอใจเป็นอย่างมาก รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งชัดเจนพระองค์หันไปมองฮองเฮา จูงมือของนางอย่างสนิทสนม พลางเอ่ยชมอย่างอ่อนโยนว่า “ล้วนเป็นความดีความชอบของเจ้า”ฮองเฮาเปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนโยนอ่อนหวานมานานแล้ว เมื่อได้รับคำชมจากฮ่องเต้ก็เพียงยิ้มกล่าวว่า “ในเมื่อฝ่าบาททรงมอบวังหลังให้หม่อมฉันดูแลแล้ว หม่อมฉันย่อมต้องช่วยแบกรับภาระของฝ่าบาทเพคะ”“เจ้าทำไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 793

    ฮ่องเต้พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “เช่นนั้นก็นับว่าลำบากเจ้าแล้ว”ยังไม่ทันขาดคำ ฮองเฮาก็กล่าวตามว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันก็รู้สึกว่าท่านหญิงเฉียวงานหนักเกินไปแล้ว ไม่เพียงต้องดูแลอิ้งจือ ยังต้องดูแลเหล่านางสนมในวัง ให้รับอิ้งจือมาอยู่ที่ตำหนักของหม่อมฉันดีหรือไม่เพคะ? อย่างไรเสีย ท่านหญิงเฉียวก็อาศัยอยู่ในจวนอ๋องผิงหยางในฐานะผู้อาศัย จะพาคนเข้าไปอยู่ด้วยย่อมดูไม่เหมาะนัก”สำหรับจวนอ๋องผิงหยางแล้ว เฉียวเนี่ยนก็แค่แขกคนหนึ่ง ไหนเลยจะมีแขกที่พาแขกไปพักด้วยอีก?ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ดีๆ บุตรสาวตระกูลเมิ่งคนหนึ่งย้ายเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องผิงหยาง นี่มันเรื่องอะไรกัน?ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าการให้เมิ่งอิ้งจือไปอยู่ที่เรือนนอนของฮองเฮานั้นเหมาะสมกว่าการอยู่ในจวนอ๋องผิงหยางเสียอีกอย่างไรเสีย ฮองเฮาเป็นน้าของเมิ่งอิ้งจือโดยสายเลือด รับตัวมาเพื่อพักฟื้นก็ไม่เห็นจะผิดอะไรแต่ก็ยังขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “แต่เมื่อครู่ท่านหญิงเฉียวยังบอกว่า แม่หนูตระกูลเมิ่งผู้นั้น ตอนนี้จำได้แค่นาง หากพาเข้าตำหนักมานี่ เกรงว่าจะโวยวายไม่หยุด กลับจะรบกวนการพักรักษาตัวของเจ้าด้วยซ้ำ”คำพูดของฮ่องเต้นั้นล้วนแสดงถึงความห่วงใยในตัวฮ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 792

    มองรอยยิ้มของเฉียวเนี่ยน ฮูหยินเมิ่งกลับไม่รู้สึกยินดีแม้แต่น้อยในฐานะฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลเมิ่ง นางย่อมมองออกได้ไม่ยาก ว่ารอยยิ้มของเฉียวเนี่ยนในเวลานี้หาได้อ่อนโยนเป็นมิตรดังที่เห็นภายนอกไม่กลับเหมือนเสือยิ้มยาก มองเผินๆ ดูอ่อนโยน ทว่าแท้จริงแล้วสามารถกัดจนพวกนางเลือดสาดโดยไม่ทันรู้ตัว!ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อยู่เบื้องหลังเฉียวเนี่ยนแต่ละคน ล้วนเป็นผู้ที่พวกนางไม่อาจล่วงเกินได้แม้แต่คนเดียวอีกทั้งวันนี้เฉียวเนี่ยนหาได้ขัดขวางพวกนางไม่ หากแต่เป็นนางเองที่คำนึงถึงชื่อเสียงของตระกูลเมิ่ง จึงไม่ยอมแข็งขืนพาเมิ่งอิ้งจือกลับไป!คิดถึงตรงนี้ ฮูหยินเมิ่งก็ยิ่งอึดอัดใจนัก แต่ก็ยังต้องฝืนยิ้มให้เฉียวเนี่ยนอยู่ดี จากนั้นจึงพาคนออกไปเมื่อมองแผ่นหลังของฮูหยินเมิ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าเฉียวเนี่ยนถึงได้ค่อยๆ จางหายไปหนิงซวงขยับเข้ามาใกล้เฉียวเนี่ยน แล้วเอ่ยเบาๆ อย่างอดไม่ได้ว่า “นางเป็นแม่แท้ๆ ของคุณหนูเมิ่ง เช่นนั้นนางจะทำร้ายคุณหนูเมิ่งได้อย่างไรหรือเจ้าคะ? คุณหนูคิดมากเกินไปหรือไม่?”“ข้าไม่ได้คิดมาก แต่เพราะข้าเป็นตัวอย่างที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงต้องคิดให้รอบคอบสักหน่อย” เฉียวเนี่ยนกล่าวอย่าง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 791

    ฮูหยินเมิ่งอุทานออกมาเสียงดัง รีบชักมือกลับไป แล้วก็มองเมิ่งอิ้งจือที่เหมือนคนเสียสติด้วยสีหน้าหวาดกลัว“เป็นไปได้อย่างไร?” นางถามด้วยความสิ้นหวัง แล้วราวกับนึกอะไรขึ้นได้ ก็หันไปมองเฉียวเนี่ยน “ท่านหญิงเฉียว อิ้งจือของข้า นางเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร...”เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มบาง แล้วเดินก้าวไปข้างหน้า มาหยุดยืนข้างกายเมิ่งอิ้งจือ“คุณหนูเมิ่ง ไม่เป็นไรแล้วนะ”เพียงคำเดียว เมิ่งอิ้งจือก็ค่อยๆ สงบลง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาเงยขึ้นมองเฉียวเนี่ยนอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ สงบนิ่งลงเมื่อเห็นภาพนี้ ฮูหยินเมิ่งก็พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะเฉียวเนี่ยนพูดว่า “ดูเหมือนตอนนี้คุณหนูเมิ่งจะจำข้าได้คนเดียว เมื่อคนอื่นเข้าใกล้ก็จะถูกนางผลักออกไป อย่าว่าแต่ฮูหยินเมิ่งเลย แม้แต่สาวใช้ของข้าเองก็ยังถูกนางข่วนจนมือถลอก”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงซวงก็รีบก้าวออกมา แสดงบาดแผลบนมือของตนให้ฮูหยินเมิ่งดูเมื่อวานนางก็ถูกเมิ่งอิ้งจือข่วนเอา แต่หลังจากได้รับการปลอบโยนจากคุณหนูของตนแล้ว เมิ่งอิ้งจือถึงจำได้ว่านางเป็นใคร นั่นจึงทำให้นางเข้าใกล้ได้แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉียวเนี่ยน สีหน้าของฮูหยินเมิ่งกลับยิ่งหม่นหม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status