Share

พลิกชะตารัก มรดกเซียน
พลิกชะตารัก มรดกเซียน
Author: หลงเทียนหยา

บทที่ 1

ปีนี้ฉินหมิงอายุได้ยี่สิบหกปี เขาขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเขยที่มีชื่อเสียงเลวร้ายที่สุดในเมืองเจียงเฉิงหลังจากแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาได้สามปี ในสามปีมานี้เขาก็ไม่ต่างจากเป็นทาสของตระกูลหม่าเลยสักนิด ทั้งหาบน้ำล้างเท้า ไม่มีศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อคืนในที่สุดเขาก็ระเบิดออกมา!

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ตลอดทั้งวันเขาทำงานเหมือนวัวเหมือนควายในบริษัทของตระกูลหม่า เงินเดือนของเขาก็ถูกนำไปให้กับหม่าลู่ภรรยาของเขา ที่เขาไม่อาจแตะเนื้อต้องตัวเธอได้

เมื่อเขากลับบ้านตอนเย็น เขายังต้องซักผ้า ถูพื้น ทำอาหาร ฯลฯ เขาทำงานบ้านทั้งหมดโดยไม่ปริปากบ่น

เดิมทีเขาคิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ภรรยาของเขาประทับใจและทำให้เธอรักเขาไปชั่วชีวิต แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาจากภรรยาของเขากลับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่!

เด็ก!

ใช่แล้ว!

ฟังไม่ผิดหรอก ภรรยาที่เขาไม่กล้าแตะต้องมาตลอดสามปีกำลังตั้งท้อง!

และเขาจะได้เป็นพ่อคนแล้ว!

ช่างน่ายินดีจริง ๆ!

“ฉินหมิง ให้แกซักเสื้อผ้าให้สะอาดยังทำไม่ได้เลย ให้ถูพื้นให้สะอาดก็ทำไม่ได้!”

“คนไร้ประโยชน์อย่างแกจะทำอะไรได้อีก!”

“บ้านเราเลี้ยงแกไว้จะมีประโยชน์อะไร? เลี้ยงสุนัขก็ยังดีกว่าแกซะอีกมั้ง!”

เสียงด่าทอรุนแรงดังขึ้นเรื่อย ๆ แม่ยายหลี่เหอหลานชี้หน้าฉินหมิงแล้วตะโกนด่าออกมา

ฉินหมิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยที่แดงก่ำเพราะความโกรธ

"แม่!"

ฉินหมิงกัดฟันทนข่มเสียงของเขาลง

“อย่าเรียกฉันว่าแม่นะ เศษสวะอย่างแกไม่คู่ควรจะเรียกฉันแบบนั้น!”

ท่าทีที่หลี่เหอหลานแสดงออกเปี่ยมไปด้วยการดูถูก และรังเกียจเหยียดหยาม

ฉินหมิงเงียบ และไม่กล้าที่จะโต้เถียง

เมื่อสามปีที่แล้ว นายท่านแห่งตระกูลหม่าล้มป่วยกะทันหัน และเขาได้บังเอิญเจอเข้า

เขาแบกนายท่านหม่าขึ้นหลัง พาวิ่งไปสามสี่กิโล และส่งนายท่านหม่าไปโรงพยาบาลได้ทันท่วงที จึงสามารถช่วยชีวิตนายท่านหม่าไว้ได้

หลังจากนั้นนายท่านหม่ายืนกรานว่าจะให้แต่งงานกับหลานสาวของเขา หม่าลู่ ซึ่งอาจทำไปเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แม้ว่าทุกคนในครอบครัวจะคัดค้านก็ตาม

จากนั้นเป็นต้นมา เขาได้เข้ามาในตระกูลหม่าเป็นลูกเขยอยู่สามปี

สามปี!

สามปี!

เกรงว่าหินเย็น ๆ ก้อนหนึ่งคงทำให้ฉินหมิงอบอุ่นได้มากกว่ากระมั้ง?

เขาเหน็บหนาวหัวใจกับการถูกดูถูกเหยียดหยามของสองแม่ลูกคู่นี้เหลือเกิน!

อาจเป็นเพียงเพราะเขาเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีความสามารถหรือชาติตระกูล ครอบครัวของหม่าลู่จึงดูถูกเขาไม่เหลืออะไรดี

ไม่ว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหน ครอบครัวของหม่าลู่ก็มักจะจับผิดเขาเสมอ ไม่ทุบตีก็ด่าว่าเขาอยู่ทุกครั้งไป

ในตระกูลหม่าคนเดียวที่ดีต่อเขาคือ นายท่านหม่า

เมื่อก่อนนายท่านหม่าปกป้องเขา หลี่เหอหลานแม่ยายของเขาก็พอเก็บอาการได้บ้างเล็กน้อย

แต่หลังจากนายท่านหม่าเสียชีวิตด้วยอาการป่วยเมื่อเดือนที่แล้ว ครอบครัวของหลี่เหอหลานก็เริ่มแข็งกร้าวมากขึ้น และต้องการจะไล่เขาออกไป

เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ที่สุดในบ้าน และชีวิตของเขาแย่ยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก...

ประตูเปิดออก หม่าลู่ที่แต่งตัวทันสมัยตามแฟชั่นและมีกลิ่นแอลกอฮอล์เดินเข้ามา เธอสวมถุงน่องสีดำเดินมาอยู่ต่อหน้าผู้คน บวกกับหน้าแดงจากการมึนเมาที่ทำให้ผู้ชายหน้าไหนคงไม่มีใครต้านทานความเย้ายวนใจเช่นนี้ได้

เธอ!

เธอกลับมาแล้ว

ฉินหมิงเงยหน้าขึ้น ความเจ็บปวด และความเศร้าก็เพิ่มขึ้นภายในใจ ทั้ง ๆ ที่ท้องอยู่แต่เธอยังคงออกไปดื่มข้างนอก!

ฉินหมิงเข้าไปช่วยเธอโดยไม่รู้ตัว

แต่เขากลับถูกหม่าลู่ปัดออกไป

"อย่าแตะต้องตัวฉัน!"

“รีบเก็บของแล้วรีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ พรุ่งนี้เราจะไปที่อำเภอเพื่อหย่ากัน!”

"ทำไมล่ะ?"

ในเวลานี้ แม่ยายเพิ่งเดินออกมาเห็นฉินหมิงยืนบื้ออยู่เฉย ๆ จึงด่าเขาอย่างไม่พอใจว่า

“ฉินหมิง ทำไมแกยังยืนบื้ออยู่แบบนั้น ยังไม่รีบไปตักน้ำมาล้างเท้าให้ลู่ลู่อีก!”

พูดจบแม่ยายก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทางเดินเข้ามาหาหม่าลู่ด้วยท่าทีเหมือนกับนางกำนัลประคองฮองเฮา แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ทำไมถึงดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้? ไม่ดีกับเด็กในท้องนะ"

“ไม่ง่ายเลยกว่าจะท้องกับคุณชายซุนได้ จะให้หลุดง่าย ๆ ไม่ได้หรอก”

แม้เด็กยังไม่เกิดแต่แม่ยายก็เริ่มคาดหวังว่าจะเป็นเด็กผู้ชาย เพราะถ้าเป็นเด็กผู้ชาย หลานชายก็จะส่งเสริมลูกสาวของเธอให้เชิดหน้าชูตาได้ แต่เพราะยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แม่ยายจึงกะว่าจะเก็บฉินหมิงเอาไว้ดูแลลูกสาวของเธอก่อน เผื่อลูกสาวต้องการคนดูแลจะได้ประหยัดค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก

"ไม่ต้องแล้ว!"

“ฉินหมิง ในช่วงสามปีที่ผ่านมาฉันทนกับเศษสวะอย่างแกมานานเต็มทีแล้ว!”

“พรุ่งนี้พวกเราไปหย่ากันเถอะ!”

หม่าลู่เหลือบมองฉินหมิงอย่างเย่อหยิ่ง เย็นชา และดูถูก

ในตอนนี้หัวใจของฉินหมิงเจ็บปวดเหมือนถูกลูกศรนับพันทิ่มแทง เขารู้ตัวว่าตัวเขาไม่คู่ควรกับหม่าลู่ เขาจึงทำงานหนักไม่หยุดพักมาตลอดสามปี หวังเพียงว่าจะได้รับการยอมรับจากหม่าลู่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันถึง คือหลังการทุ่มเททำงานหนักทั้งหมดของเขา เขากลับได้รับคำว่าหย่ามาแทน!

"อืม ก็จริง"

แม่ยายที่คิดตกแล้วจึงพูดว่า "ตอนนี้เรามีลูกของคุณซุนแล้ว หากอยู่ด้วยกันต่อไปคงจะส่งผลเสียซะมากกว่า"

“แม่ ฉันเหนื่อยแล้ว แม่ช่วยพยุงฉันกลับห้องหน่อย!”

“เห็นหน้าเจ้าขี้แพ้นี่แล้วรู้สึกขยะแขยง!”

หม่าลู่ลูบท้องของเธออย่างภาคภูมิใจ และเริ่มกังวลว่าเมื่อท้องของเธอขยายใหญ่ขึ้น พวกนางจิ้งจอกคนอื่นก็จะแอบเข้ามาหาคุณซุน หลี่เหอหลานแม่ยายเข้ามาช่วยพยุงหม่าลู่เข้าไปในห้อง และพูดประชดฉินหมิงว่า

“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก? ทำไม อยากอยู่รับบทเป็นพ่อคนรึไง?”

ทันใดนั้น ความอัปยศอดสู ความโกรธ และอารมณ์อื่น ๆ หลั่งไหลเข้ามาในใจของฉินหมิง เขาเป็นเหมือนสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ ถูกขับออกจากบ้านอย่างโหดร้าย ทุกสิ่งที่เขามีที่บ้านเป็นเวลาสามปี แม้แต่บัตรประจำตัวประชาชนก็ถูกโยนลงถังขยะ ในขณะนี้สิ่งที่หนักอึ้งที่สุดในใจของฉินหมิงก็คือ ความสิ้นหวัง

เขาไม่มีที่อยู่

หลังจากทำงานมาสามปี เขามอบค่าแรงทั้งหมดให้กับแม่ยาย และคนอื่น ๆ ไม่ให้เงินเขาเลยสักแดง ในตอนนี้เขากลายเป็นสุนัขจรจัด หนำซ้ำยังไม่มีบ้านแล้วจริง ๆ

ฉินหมิงเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางที่ไปสุสาน สภาพอากาศที่หนาวเย็นและมืดหม่นก็เข้ามาปกคลุมเขาไว้

เขายืนอยู่หน้าหลุมศพอย่างอ้างว้าง เขาลืมตามองภาพตรงหน้า แต่ไม่สามารถหลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว

เขาไม่รู้ว่าจะโกรธ สิ้นหวัง หรือผิดหวังดี

เขายืนอยู่หน้าหลุมศพอย่างเงียบ ๆ นี่เป็นหลุมศพของนายท่านหม่า ในช่วงสามปีที่ผ่านมามีเพียงนายท่านหม่าเท่านั้นที่คอยปกป้องและดูแลเขา ตอนนี้เขาถูกไล่ออกมาแล้ว เขาอยากจะมาไหว้หลุมศพนายท่านหม่าอีกสักครั้งหนึ่ง

แม้จะพูดว่าเขามาไหว้ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่มีเงินสักบาทกับตัวเลย เขาซื้อกระดาษเงินกระดาษทองที่ถูกที่สุดยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

“คุณปู่ ขอบคุณมากที่ดูแลผมมาตลอดสามปี…”

“พรุ่งนี้ผมจะหย่ากับหม่าลู่แล้ว…”

“ผมทำให้คุณปู่ผิดหวังแล้ว...”

ยามค่ำคืน ขอบตาของฉินหมิงแดงก่ำ เขาคุกเข่าลงไหว้หลุมศพนายท่านหม่าหลายครั้งติดต่อกัน ในใจรู้สึกขมขื่นและโศกเศร้าอย่างอธิบายไม่ได้

หลังจากไหว้หลุมศพเสร็จแล้ว

ฉินหมิงหยิบจี้หยกออกมาแล้วถือมันไว้ในมือ เขานั่งบนพื้นพิงหลังกับหลุมศพอย่างเหม่อลอย สายตาของเขาว่างเปล่าและหมองหม่น ราวกับกำลังเลียบาดแผลในใจของเขาตามลำพัง

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ราวกับบางสิ่งสัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยวและความอัปยศอดสูในใจ จี้หยกเรียบ ๆ บนหน้าอกของเขาเกิดแสงสว่างวาบสีขาวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว...

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status