ภาพคุณหมอหนุ่มที่คุ้นหน้าเดินจับมือหญิงสาวแสนสวยออกจากห้องทำงานเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับบุคลากรในโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะไม่มีใครเคยเห็นคุณหมอหนุ่มทำแบบนี้มาก่อนถึงได้รู้สึกแปลกตาและแปลกใจเป็นอย่างมากและหนึ่งในนั้นก็คือฟ้ารดาที่กำลังจะกลับบ้าน ภาพที่เห็นนอกจากสร้างความแปลกใจให้เธอแล้วยังสร้างความเสียใจให้เธออีกด้วย กุมารแพทย์สาวทอดสายตามองคนที่เธอรู้สึกพิเศษจนลับตาพลางขบคิดว่าเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกัน...คนรู้จักกันธรรมดาไม่จับมือถือแขนกันอย่างนั้นเป็นแน่
“มองไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะหมอฟ้า หมอเสือเขากำลังนอกใจเธอชัดๆ” เสียงพยาบาลสาวขี้อิจฉาเอ่ยขึ้น นางพยาบาลสาวไม่ชอบฟ้ารดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเยาะเย้ยและเสี้ยมกุมารแพทย์สาวในทางที่ผิด ฟ้ารดาหันหน้ามามองพยาบาลสาวก่อนจะเดินหนีอย่างไม่สนใจสร้างความโมโหให้พยาบาลสาวอย่างมากจนเผลอคิดในใจอย่างโกรธแค้น
‘ฉันจะทำให้เธออับอายให้ได้ฟ้ารดา หมอเสือเขากำลังนอกใจเธอแบบนี้คงเจ็บไม่น้อยฉันจะทำให้เรื่องนี้รู้ไปทั่วโรงพยาบาลเลย’
ด้านคนถูกมองว่านอกใจทั้งที่ไม่เคยคบยังคงจับมือมัณฑนากรสาวไม่ยอมปล่อยทั้งที่สาวเจ้าสะบัดก็แล้วจนในที่สุดแพรวารินทร์ก็หยุดเดินแล้วหันไปพูดกับผู้เป็นสามี
“คุณหมอไม่ต้องจูงก็ได้ แพรไม่หลงหรอก”
“พี่ไม่ได้กลัวหลงแค่อยากจับมือหนูแพรแค่นั้น” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแต่ในใจกลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้จับมือหญิงสาวและเดินเคียงข้างกันมา อัตราการเต้นของหัวใจก็ผิดปกติไปเช่นกัน
แค่จับมือก็ใจเต้นขนาดนี้ ความรู้สึกมันไม่ได้จางหายไปเลย ชายหนุ่มลอบยิ้มยอมรับความรู้สึกข้างในจิตใจอย่างยินดี เพราะเขาเก็บความรู้สึกนั้นมาหลายปีทำให้ไม่แน่ใจว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่หรือไม่การจับมือหรือใกล้ชิดกับอดีตเพื่อนน้องสาวคนนี้จึงถือเป็นการทดสอบความรู้สึกได้ดี ตอนนี้เขารู้แล้วว่ายังเหมือนเดิมแต่จะทำให้คนข้างๆรับรู้ด้วยนี้สิต้องทำไง
“อยากจับ? ถามจริงเถอะนี่หลังจากเดินตามพี่เมฆออกไปจากห้องของทรายเนี่ยหัวคุณหมอไปกระแทกอะไรรึเปล่าดูไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยนะ ให้คุณหมอเขาเช็กหน่อยมั้ยคะ?” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างสงสัยกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของหมอหนุ่มตั้งแต่ขอโอกาสจากเธอสิ่งที่แพรวารินทร์พูดทำให้หมอหนุ่มถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“ฮะฮะฮ่า หนูแพรพี่เป็นประสาทศัลยแพทย์นะครับพี่รู้พี่ไม่ได้ป่วยหัวไม่ได้กระแทกอะไรด้วยแต่อยากลองดูว่าจับมือหนูแพรแล้ว...ตรงนี้มันรู้สึกยังไง” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจับมือหญิงสาวยกขึ้นมาทาบอกข้างซ้ายมือบางที่ถูกยกขึ้นทาบอกแกร่งสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อที่เต้นรัวอยู่ภายใน โลกทั้งใบคล้ายมีเพียงเธอและเขาหากไม่มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น
“ไอ้เสือโลกนี้ไม่ได้มีแค่นายสองคนนะเพื่อน” ปัญจวัตรเอ่ยแซวเพื่อนรักความจริงเขาคงต้องกลับบ้านไปแล้วหากไม่ได้ยินข่าวลือที่แพร่สะพัดรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งจนต้องเดินมาดู
“ยังไม่กลับเหรอ?” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเพื่อนรักแม้จะลดมือลงแล้วแต่ยังกุมมือหญิงสาวไว้แน่นด้านคนถูกกุมมือหาได้สะบัดออกได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มจับไว้ในใจคิดหาคำตอบว่าในจังหวะที่มือบางสัมผัสอกแกร่งหัวใจของใครมันเต้นแรงกว่ากันแล้วทำไมใจเธอกับเขาถึงได้เต้นในจงหวะเดียวกันแบบนี้
“ก็ว่าจะกลับแต่ได้ยินข่าวลือที่แพร่เร็วยิ่งกว่า4G ก็เลยมาดู ที่แท้สาวที่หมอพงศ์พยัคฆ์จับมือเดินออกจากห้องทำงานก็คือน้องแพรนี่เอง กลัวน้องหลงรึไงวะเสือ?” ปัญจวัตรยังคงแกล้งแหย่เพื่อนรักและน้องสาวให้เขินไปข้างแต่เหมือนจะไม่สำเร็จเมื่อเพื่อนรักเปลี่ยนเรื่องอย่างทันท่วงที
“ไปห้องหนูทรายกันไอ้ปัญจ์ ไหนๆก็ยังไม่กลับมาเร็ว” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเพื่อนไปแต่มือก็ไม่ยอมปล่อยมัณฑนากรสาว ปัญจวัตรได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินตามไป
ห้องพักพิมพ์พิชชา
ก็อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนร่างของพงศ์พยัคฆ์จะเปิดเข้ามาภาพที่เห็นตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้คุณสิงหา คุณหญิงพราวกะรัตและพิมพ์พิชชาเป็นอย่างมากและสร้างรอยยิ้มให้ทั้งสามได้ดีเช่นกันแม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูจากที่จับมือถือแขนกันมาแบบนี้ทั้งสามก็พอเดาได้ว่าต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่
“หนูแพรบอกว่าเราอยากกินข้าวพร้อมพี่เหรอยัยตัวแสบ?” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามน้องสาวคำพูดของพี่ชายทำให้ดีใจจนแทบกระโดด เธอรู้สึกว่าเธอได้พี่ชายคนเดิมกลับมาแล้ว
“พี่เสือของทรายกลับมาแล้วมากอดหน่อย” พิมพ์พิชชาเอ่ยอย่างดีใจพร้อมทำท่ายกแขนอ้อนพี่ชายให้กอดเหมือนตอนเด็ก ๆ ด้าน “พี่เสือ” ก็จัดให้ตามคำขอเดินเข้าไปกอดน้องสาวก่อนจะผละออกแล้วหันไปยกมือไว้ผู้เป็นพ่อและแม่
“เสือขอโทษนะครับที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง ต่อไปนี้เสือจะเป็นลูกที่ดี พี่ที่ดี และสามีที่ดีครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษผู้เป็นพ่อและแม่จากใจจริงสร้างความดีใจแก่สองสามีภรรยาเป็นอย่างมากที่ผ่านมาแม้จะเข้าใจว่าบุตรชายโกรธที่ปู่บังคับจนต้องประชดแต่ทั้งสองก็ไม่เคยเข้าใจว่าบุตรชายทำไมต้องนิ่งเฉยให้เวลากับงานมากกว่าครอบครัว
คุณสิงหาลูบไหล้ลูกชายก่อนจะพูดบางสิ่ง “เสือเป็นลูกที่ดี เป็นพี่ที่ดีมาตลอด ต่อไปนี้ก็ทำตัวให้เป็นสามีที่ดี แค่นี้พ่อกับแม่ก็ไม่มีอะไรต้องผิดหวังในตัวเสือแล้ว”
“เสือจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมกับโผเข้ากอดคนเป็นแม่ที่อ้าแขนรออยู่แล้ว อ้อมกอดของมารดามันยังอุ่นเสมอแม้เขาไม่ได้สัมผัสมา9ปีเต็ม ๆ ที่ผ่านมายอมรับว่าเขาแทบจะไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เลยถ้าทั้งคู่ไม่เรียกพบอันเนื่องมาจากเขารีบออกมาทำงานและกลับดึกเพื่อจะได้ไม่ต้องพบหน้าแพรวารินทร์ให้ตัวเองต้องเจ็บปวด...มันช่างบ้าบอสิ้นดี เพียงเพราะทิฐิต่อปู่และความเข้าใจผิดเขาถึงได้เป็นลูกอกตัญญูได้ขนาดนี้
“เอ่อ...ซึ้งกันพอยังค่ะทรายหิวข้าว” พิมพ์พิชชาเอ่ยขึ้นขัดจังหวะซึ้ง ๆจนปัญจวัตรส่ายหน้าหันไปดุน้องสาวเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก
“โธ่ยัยตัวแสบพี่กำลังอิน หมดกันซึ้ง กันอยู่ดี ๆ หิวซะงั้นดูเพื่อนเราสิน้องแพร”
“แกนี่น๊า ยัยทรายมาหิวอะไรตอนนี้ แต่จะว่าไปฉันก็หิวเหมือนกันแหะ”
“ใช่มั้ยล่า เห็นมั้ยพี่ปัญจ์ไม่ได้มีแต่ทรายที่หิวยัยแพรยังหิวเลย” ปัญจวัตรถึงกับส่ายหัวเมื่อสองสาวรวมกำลังกันแกล้งตนพงศ์พยัคฆ์ คุณสิงหา และคุณหญิงพราวกะรัตถึงกับหัวเราะอย่างมีความสุข
“ขออนุญาติค่ะอาหารมาแล้วค่ะ”เสียงของพยาบาลสาวดังขึ้นหยุดบรรยากาศสุขสันต์ไว้
“มีแต่ข้าวต้มอ่ะทรายอยากกินอย่างอื่นได้มั้ยค่ะคุณพยาบาล” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามพร้อมทำหน้าเบื่ออาหารตรงหน้าพยาบาลสาวส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเอ่ยบอก
“ไม่ได้ค่ะคุณต้องทานตามนี้ค่ะ”
“แต่ทรายเบื่อนะคะคุณพยาบาลนะนะนะ” พิมพ์พิชชาอ้อนพยาบาลสาวอย่างน่ารักแม้จะไม่รู้จักกันจนคนเป็นพี่ต้องออกมาปราม
“อย่าใจอ่อนนะครับคุณปุ้มยัยตัวแสบเนี่ยร้ายนัก กินข้าวต้มไปก่อนนะหนูทรายเดี๋ยวผ่าตัดเสร็จหนูทรายอยากได้อะไรพี่หามาให้หมดเลยนะครับ”
พยาบาลสาวแทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอหนุ่มผู้ได้ฉายาเสือยิ้มยากแสนเย็นชาประจำโรงพยาบาลเอ่ยเสียงนุ่มแถมไม่ติดเย็นชาเหมือนก่อน
“คุณปุ้มครับ หมอเสือไม่ใช่หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนะครับไม่ต้องอึ้งขนาดนั้นก็ได้” ปัญจวัตรเอ่ยบอกพร้อมกับกลั้นหัวเราะอย่างสุดกำลังแหงล่ะถึงไม่ใช่นางพยาบาลสาวคนนี้คนอื่นก็ต้องมีอึ้งและงงกันล่ะ เพราะตั้งแต่ทำงานที่นี่บุคลากรในโรงพยาบาลไม่เคยได้เห็นเพื่อนรักยิ้มหรือพูดเสียงนุ่มรื่นหูจนได้ขนานนามว่าเสือยิ้มยากแสนเย็นชามาครอบครอง
“ก็มันแปลกนี่ค่ะหมอปัญจ์ ไม่ให้อึ้งไงไหว”
“ไม่แปลกหรอกครับคุณปุ้มที่นายเสือจะพูดแบบนี้กับคนในครอบครัว” ปัญจวัตรเอ่ยบอก บุคลากรในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ภูมิหลังของพงศ์พยัคฆ์สักเท่าไหร่เพราะหมอหนุ่มค่อนข้างเก็บตัวแถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของโรงพยาบาลทำให้ไม่มีใครกล้าถามประวัติความเป็นมาของหมอหนุ่ม
“ครอบครัวเหรอค่ะจริงสิถึงว่าคนไข้นามสกุลคุ้นๆแต่หมอ...” ก่อนที่นางพยาบาลสาวจะถามต่อโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดีนางพยาบาลสาวจึงจำต้องขอตัวออกจากห้องไป
“หิวก็กินสิครับหนูทราย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกน้องสาวส่วนตัวเองก็หยิบข้าวกล่องที่ได้สั่งให้คนเอามาส่งก่อนหน้านี้มาเปิดให้บิดามารดาและภรรยา กลิ่นอาหารลอยมาปะทะจมูกพิมพ์พิชชาจนอดเสียดายไม่ได้
“แพรแบ่งฉันมั้งดิ” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกเพื่อนสาวพร้อมทำหน้าอ้อน ๆ แพรวารินทร์ใจอ่อนกับเธอเสมอข้อนี้เธอรู้ดี
“เอาไปเลยมีแต่ผักมีประโยชน์คุณหมอคงไม่ว่า” แพรวารินทร์ยอมยกข้าวกล้องมาให้เพื่อนแล้วหันไปมองข้าวต้มปลาที่คงเป็นเธอที่ต้องทานมันลงไปทั้งที่ไม่ชอบแต่เพื่อเพื่อนเธอยอม แพรวารินทร์ยกถ้วยข้าวต้มมาที่โต๊ะพลางจะยกช้อนขึ้นตักแต่กล่องข้าวกล่องหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า
“กินนี่ดีกว่าครับ ส่วนข้าวต้มเนี่ยพี่กินเองส่วนหนูทรายพี่อนุโลมให้ครั้งเดียวนะครับปัญจ์มากินด้วยกันมั้ย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกภรรยาและน้องสาวก่อนหันไปถามเพื่อนรัก
“ไม่อ่ะกลับดีกว่าสัญญากับม้าไว้ว่าจะกลับไปกินข้าวกับม้า” ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนจะยกมือไหว้พ่อแม่เพื่อนแล้วออกไปอย่างสบายใจงานนี้มีหรือปัญจวัตรจะไม่บอกผู้เป็นปู่เล็กอย่างพ่อเลี้ยงพยัคฆ์
“เทคแคร์ดีนะพี่เสือ ทรายถามหน่อยสิ” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามผู้เป็นพี่ทันทีหลังจากที่พี่ชายทำท่าจะเช็ดปากให้เพื่อนรัก
“ถามอะไร” มือหน้าที่ชะงักกลางอากาศเอื้อมไปเช็ดปากให้ภรรยาก่อนจะถามกลับแต่สิ่งที่น้องสาวถามกลับทำให้แพรวารินทร์ที่กำลังยกน้ำขึ้นมาดื่มแก้เขินถึงกับสำลัก
“ที่พี่เสือทำแบบนี้เรียกจีบรึเปล่าค่ะ”
“แค่ก ๆ”พงศ์พยัคฆ์หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากแพรวารินทร์ก่อนจะหันมาตอบคำถามน้องสาวจนคนในห้องถึงกับยิ้มกับคำตอบยกเว้นแพรวารินทร์ที่ถึงกับช็อค
“จีบเหรอ? จะเรียกว่าจีบก็ได้มั้ง พี่กำลังจีบภรรยาตัวเองอยู่”
สายตาคมมองโต๊ะทำงานที่มีร่องรอยของการกรีดอย่างขบคิดว่าใครกันที่ทำแบบนี้ ใครที่เกลียดเธอถึงขนาดนี้ ใครกัน? ฟ้ารดาเฝ้าถามตัวเองโดยไม่รู้สึกถึงการมาของใครบางคน“ทำอะไรอยู่คะพี่ฟ้า ตายแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นคะพี่ฟ้า ทำไมโต๊ะถึงได้เป็นแบบนี้” เสียงร้องอย่างตกใจของคนข้างหลังทำให้ฟ้ารดาถึงกับสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่หลังเธอคือสุนิสาหรือนิดพยาบาลสาวรุ่นน้องที่ดีกับเธอคนนึงแต่เมื่อเกิดข่าวลือเรื่องเธอกับพงศ์พยัคฆ์เมื่อสามเดือนก่อนทำให้เธอเปลี่ยนความคิดในทันทีเพราะสุนิสาเป็นคนนึงที่เอาข่าวลือไปใส่สีตีไข่จนไม่เหลือเค้าความจริงเธอจึงหลีกเลี่ยงที่จะคบค้ากับคนหน้าซื่อใจคดหน้าไหว้หลังหลอก“มีอะไรเหรอคะคุณนิด” ฟ้ารดาเอ่ยตอบเสียงเรียบราวกับไม่รู้สิ่งที่พยาบาลสาวเคยทำแต่ก็ไม่ได้ยินดีที่จะคุยด้วย“ทำไมพี่ฟ้าทำเสียงแบบนั้นล่ะคะน่ากลัวมากเลย”สุนิสาแกล้งใสซื่อจนถ้าเธอไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นใสซื่อจริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แค่ตกใจไปหน่อยคุณนิดมีอะไรก็พูดมาเถ
ร่างสูงของอัคนีเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างของคนที่ทาบทามเขามาทำงานที่นี่“สวัสดีครับอาจารย์” อัคนีเอ่ยทักอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม เขานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง เขาได้รู้จักกับแดนสรวงเมื่อ7ปีก่อนสมัยเรียนแพทย์ปี1แดนสรวงเป็นอาจารย์หมอที่เขาสนิทด้วยที่สุดหลังจากเรียนจบอาจารย์หมอหนุ่มทาบทามเขาให้มาทำงานที่นี่หลายครั้งแต่เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัวทำให้ปฏิเสธไปจนในช่วง2ปีมานี้ที่ฟ้ารดาย้ายมาทำงานที่นี่ทำให้เขาลังเลอยากตามมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งปัญจวัตรโผล่เข้ามาทำให้เขาติดต่ออาจารย์หมอคนสนิทอย่างรวดเร็ว“ไงอัคนี นึกยังไงถึงอยากย้ายมา หวงพี่สาวเหรอ?”แดนสรวงเอ่ยถามลูกศิษย์คนสนิทอย่างขบขัน ไม่คิดว่าที่เคยพูดว่าหวงพี่สาวมากจะหวงขนาดยอมย้ายตามมาขัดขวางเลยทีเดียว สงสารก็เเต่เพื่อนรักของญาติผู้น้องป่านนี้จะรู้รึยังว่าตัวป่วนมาถึงถิ่นแล้ว“หวงมากครับจารย์ ว่าแต่จารย์รู้จักไอ้หน้าจืดปัญญาอ่อนที่มาป้วนเปี้ยนเกาะเกะพี่สาวผมแค่ไหน” อัคนีเอ่ยถามแดนสรวงถึงปัญจวัตร
หลังจากที่พิมพ์พิชชาวางสายจากปลายสายหญิงสาวก็ยืนมองบรรยากาศอย่างมีความสุขกับแผนการทำให้สองสาวขี้อิจฉาหน้าแตกกับใครบางคน“ทำแบบนี้ไม่กลัวแพรโกรธเหรอครับทราย”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้พิมพ์พิชชาต้องสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอคือรณพีร์นั่นเองเขายืนฟังเธอตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่ได้แสดงตัวเท่านั้นพิมพ์พิชชาหันมามองก่อนจะเอ่ยบอก“ความลับนะคุณพีร์อย่าให้ยัยแพรรู้เชียว”“มันก็ต้องมีอะไรมาแลกกันสิ แบบเงินมาผ้าหลุดอะไรประมาณเนี่ย” รณพีร์เอ่ยบอกพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย“ก็ได้คุณอยากได้อะไร”พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างเป็นรอง“ดินเนอร์กันสักมื้อ เสาร์นี้” รณพีร์เอ่ยบอกและลุ้นรอคำตอบจากหญิงสาว“ก็ได้เสาร์นี้” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะถามต่อ “วันศุกร์คุณว่างมั้ยถ้าว่างมาแจมกับแผนของฉันหน่อยนะ”“ได้สิ ผมก็เบื่อที่จะต้องถูกคนโยงไปทำร้ายคนอื่นแล้ว ถ้าเรื่องไม่จบผมคงต้องไล่พวกเธอออก”รณพีร์เอ่ยบอกตามใจคิดปัญหานี้บานปลายมานานแล้วเขาเองก็ควรทำอะไร
รุ่งเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสพิมพ์พิชชาเดินยิ้มน่าระรื่นเข้ามาในบริษัทพร้อมแพรวารินทร์ด้วยกิริยาอาการที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากมายหลังจากพักผ่อนมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวจะได้กลับไปทำงานที่รักอีกครั้งหลังจากหยุดไป1เดือนเต็มๆและที่ทำให้ดีใจยิ่งกว่าคือจะได้ไปเจอหน้าใครบางคนที่หายหน้าไปทั้งอาทิตย์แต่ยังส่งดอกไม้มาเยี่ยมทุกวันอย่างเจ้านายสุดหล่อด้วย“นี่เลิกยิ้มได้แล้วแก ฉันนึกว่าเดินกับคนบ้า” แพรวารินทร์ออกเสียงปรามอย่างไม่จริงจัง ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาเพื่อนรักเอาแต่ยิ้มกว้างจนเธอได้แต่งง นางจะดีใจอะไรขนาดนั้นเล่นใหญ่จริง ๆ“ก็คนมันดีใจอ่า เดือนนึงแล้วน๊าที่ฉันไม่ได้มาทำงานคิดถึงงานแล้วก็เพื่อนร่วมงานจะแย่”“หรา ไม่ใช่คิดถึงคนที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เหรอจ๊ะ”แพรวารินทร์ถามกลับอย่างรู้ทัน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคิดอย่างไรอยู่“รู้มากไปแล้วยะ ไปเข้าไปทำงานกันได้แล้ว”พิมพ์พิชชาว่าให้ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้าไปทำงาน“อ้าว ยัยทรายดูดมาทำงานแล้วเหรอนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหล่อนซะแล้
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ