Share

บอกสักคำ

Author: JustLazyInk
last update Last Updated: 2025-08-25 19:11:28

ดาวเหนือเดินกลับเข้ามาในงาน เธอหยิบเครื่องดื่มขึ้นแล้วดื่มจนหมดในคราเดียว ก่อนจะมองไปรอบๆ หาเจเคน เขายังคงอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักธุรกิจ โดยมีแฟนสาวของเขายืนเคียงข้างตลอดเวลา

หญิงสาววางแก้วเครื่องดื่มลง แล้วสาวเท้าออกไปจากห้องโถงใหญ่ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับได้ปลดปล่อยตัวเอง เมื่อก้าวออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก

ท้องฟ้ากลางคืนมืดสนิท เหลือเพียงแสงไฟจากตึกและถนนที่สะท้อนบนพื้น ลมเย็นพัดผ่านทำให้ต้นไม้ข้างตึกเคลื่อนไหวเบาๆ

ยังมีเสียงรถที่วิ่งไปมาดังคลออยู่ในบรรยากาศ ความเงียบสงัดดูเหมือนจะให้ความรู้สึกทั้งอบอุ่นและเหงาไปในเวลาเดียวกัน ในความมืดยังคงหลงเหลือแสงจากดวงดาว

ชวนให้คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาหรือสิ่งที่ยังคงรออยู่ในอนาคต

เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายคุ้นเคยจนต้องหลบหลีก

"ถ้าบอกกันสักคำ พี่ต้องกลับมายินดีกับดาวแน่”

วาคิมพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบระหว่างพวกเขา เขารู้ดีว่าแค่เธอบอกเขาตรงๆ ว่าจะแต่งงาน เขาก็ต้องมางานแต่งอย่างแน่นอน อย่างน้อยก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เขาก็ควรจะมายินดีกับเธอสักหน่อย ถือว่าเป็นการบอกลาที่ดี

“พี่…” ดาวเหนือพูดออกมาแค่คำเดียว แล้วก็เงียบไป เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายจากตรงไหนดี

“ขอโทษ” สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะพูดคำนี้ออกไป

“ไม่เป็นไร มันผ่านไปแล้ว” แม้คำพูดนี้จะหลุดออกจากปากเขา แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เมื่อเธอขาดการติดต่อไป เขาจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ จนต้องบินกลับมา ทั้งที่เคยบอกกับที่บ้านว่าจะไม่กลับมาอีก

“ตอนดาวกลับมาพาสปอร์ตก็ถูกยึดไปแล้ว คุณพ่อโกหกว่าคุณแม่ป่วย พอดาวรู้ก็อยากจะบินกลับแต่…”

ร่างเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น เศษน้ำตาที่กลั้นไว้ไหลรินอาบแก้มเนียนทั้งสองข้าง วาคิมยื่นมือมาตบไหล่เธอเบาๆ เป็นการปลอบใจ

เขาอยากจะดึงร่างบอบบางนี้เข้ามาในอ้อมแขนของเขา แต่ตอนนี้เขากลับทำได้เพียงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับคราบน้ำตาให้เธอ

การแต่งงานครั้งเกิดขึ้นเพราะพ่อแม่ทั้งสองครอบครัวตกลงกันแล้ว เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ แม้แต่ตอนนี้เธอยังถูกด่าว่าเป็นลูกเนรคุณ แล้วเธอต้องทำตัวอย่างไรถึงจะดีพอสำหรับพวกเขา

ดาวเหนือระบายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจออกมาทั้งหมด เธอรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ไม่มีความสุข

“พี่ได้เลื่อนตำแหน่งแล้วน่ะ” วาคิมส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ “แล้วก็ย้ายกลับมาที่ไทยด้วย”

เมื่อรู้ว่าเธอจะไม่มีทางจะกลับไปเขาจึงเลือกที่จะกลับมา หวังว่าจะได้เจอกันอีก หากว่าพวกเขายังมีโอกาส

“ดีใจด้วยค่ะ สิ่งที่พี่ต้องการเป็นจริงแล้ว” เขาเคยบอกเธอว่าอยากเป็นตำแหน่งสูงสุดของบริษัท วันนี้เขาทำได้แล้ว แม้เธอและเขาจะไม่ได้เคียงข้างกันเหมือนวันวาน

“แต่ตำแหน่งเลขายังว่าอยู่ ไม่มีใครเหมาะสมกว่าดาวอีกแล้ว” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงทว่าแฝงความนัยลึกซึ้ง ขณะที่สายตาลึกล้ำยากจะหยั่ง

เธอยังทำงานเป็นเลขาของเขาอยู่ แต่แล้วก็หายไปโดยไม่บอกกล่าว แม้แต่ใบลาออกก็ยังไม่ได้เขียน

ดาวเหนือมองร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย

เขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่กลมของเธอแล้วพูดขึ้น “ถ้าสนใจก็มาสัมภาษณ์ได้ทันที”

เมื่อทั้งสองออกมาคุยกันเป็นเวลานาน จึงแยกย้ายกันกลับเข้าไป วาคิมให้เธอกลับเขาไปก่อน แล้วเขาจะเข้าไปหลังจากเธอห้านาที

ดาวเหนือเข้าห้องน้ำไปแต่งหน้าเพิ่ม เธอร้องไห้จนเครื่องสำอางเปื้อนหมดแล้ว จึงแต่งเติมใหม่อีกหน่อยแล้วกลับเข้างานไป

“พวกคุณรู้จักกันมาก่อนเหรอ” หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงเดินออกมาขวางหน้าเขา วาคิมปรายตามองเธอแล้วเบี่ยงตัวไปอีกทาง

“ทำไมถึงไม่ตอบละค่ะ”

“ไม่เกี่ยวกับคุณ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แล้วเดินผ่านร่างหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ไป

มาลินออกมารับสายคุยโทรศัพท์นอกงาน เพราะในงานเลี้ยงเสียงดังเกินไปไม่สะดวกคุย ขณะที่กำลังจะกลับไปเข้าไป เธอเห็นพวกเขายืนคุยกันในที่ห่างไกลสายตาผู้คน

เธอจำได้ทันทีว่าหญิงสาวในความมืดนั้นคือภรรยาของเจเคน คนที่เข้ามาแทนตำแหน่งภรรยาที่เธอควรได้

ชายหนุ่มเมื่อครู่ เธอเองก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มาลินไม่ได้ยินบทสนทนาที่พวกเขาคุยกัน แต่เธอมั่นใจได้ว่าระหว่างพวกเขาต้องมีอะไรแน่

มาลินเดินตามวาคิมเข้ามา เห็นพวกเขายืนในระยะห่างที่ไม่มากนัก เธอจึงเดินไปใกล้ดาวเหนือ แล้วใช้รองเท้าของเธอจะเหยียบกระโปรงสีขาวจนดาวเหนือทรงตัวไม่อยู่

ดวงตาของดาวเหนือเบิกกว้างเมื่อรู้ตัวว่าเธอกำลังจะล้มลง มือของเธอพยายามจะยืดออกไปเพื่อทรงตัว แต่ไม่ทันแล้ว ร่างของเธอกำลังจะพุ่งไปข้างหน้า

ทันใดนั้น มือแกร่งก็พุ่งเข้ามา จับเอวเธอไว้แน่น ร่างของดาวเหนือเกือบจะไปถึงพื้น แต่เขาก็สามารถยึดไว้ได้ทันเวลา แรงจากการจับของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและมั่นคงในทันที

ขณะที่เจเคนกำลังจะยื่นมือไปช่วย แต่ดูเหมือนเขาจะชะงักเมื่อเห็นว่าเธอได้รับการช่วยเหลือแล้ว จากนั้นเขาก็ยืนมองอยู่ห่างๆ ด้วยสายตาที่ไม่สามารถคาดเดาได้

“เป็นอะไรหรือเปล่า” วาคิมเอ่ยถามหญิงสาวที่เขายึดร่างเธอไว้ได้ทัน

ดาวเหนือรีบผละตัวออกจากเขา เพราะมีสายตาอีกหลายคู่จับจ้องอยู่ เธอสายหน้าเป็นคำตอบ

“พี่คิมอยู่นี่เอง หายไปไหนมา” คู่หมั้นของเขาเดินเข้ามาใกล้ ทว่าสายตาของเขายังจับจ้องอยู่บนร่างของดาวเหนือ

“เกิดอะไรขึ้นค่ะ” ณิชาเห็นพี่ชายเอาแต่จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าจึงเอ่ยถามเขา

“ไม่มีอะไร” เขาตอบอย่างบ่ายเบี่ยง

สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวแปลกหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะถอยออกไปจากตรงนี้ นัยน์ตาคู่นั้นราวกับมีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่พอใจ

บางทีความรู้สึกนั้นอาจเป็นเพียงแค่ความระแวงของเธอ แต่สิ่งที่แน่ชัดคือเขาหันมามองเธอด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความไม่เป็นมิตร แม้ไม่พูดอะไร

มาลินถอยออกมาเช่นกัน ผู้คนเริ่มเปลี่ยนความสนใจกัน ดาวเหนือมองแผ่นหลังคุ้นเคยเดินห่างออกไปจนสุดสายตา

“รู้จักกันเหรอ” มาลินถามขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อเห็นว่าเขาหายไปแล้ว

“เปล่าค่ะ”

เธอรู้สึกได้ถึงสาแววของคู่หนึ่งคล้ายแฝงอารมณ์ชนิดหนึ่งที่อ่านยาก หญิงสาวหลุบสายตาลงต่ำเพื่อหลบคำพูดโกหก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะจำนนรัก   เข้าใจ

    ในช่วงเวลาหลังจากที่พวกเขาคืนดีกัน เจเคนเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเขา แม้ว่าในตอนแรกเขาจะคอยตามใจเธอและดูแลเธออย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เขารู้สึกได้มากที่สุดคือการที่เขาไม่อยากให้เธออยู่เพียงลำพังอีกต่อไป เมื่อเห็นว่าท้องของเธอเริ่มนูนขึ้นอย่างชัดเจน เจเคนก็ย้ายมาอยู่อพาร์ตเม้นต์ของดาวเหนือ เพื่อที่จะได้ดูแลเธออย่างใกล้ชิดทุกๆ วัน เขาคอยตามใจเธอไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมนูอาหาร หรือแม้แต่การพาเธอไปซื้อของที่เธอต้องการ เขาคอยทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจและปลอดภัย และสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดคือการที่เขาเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าความรักที่แท้จริงไม่ใช่แค่การครอบครอง แต่คือการยอมรับและเคารพในตัวตนของอีกฝ่ายขณะกำลังทานข้าวเย็นกัน เขาหันไปมองดาวเหนือที่กำลังกินข้าวอย่างอร่อย ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นจนเขาเริ่มกังวลขึ้นมาเอง ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใยนั้นทำให้เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถกักขังเธอไว้ได้ดาวเหนือเอื้อมมือไปหยิบช้อนตักต้มจืดที่ยังมีควันลอยอุ่นๆ ใส่ชามให้เจเคน พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า"ลองทานดูนะคะ อันนี้ฉันตั้งใจทำเมนูที่คุณน่าจะชอบ"เจเคนร

  • พันธะจำนนรัก    อพาร์ทเมน

    สามวันหลังจากการทะเลาะครั้งนั้น เจเคนรู้สึกว่าถึงเวลาที่เขาควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจตามไปหาดาวเหนือ ถึงแม้ว่าจะยังรู้สึกถึงความผิดที่สะสมอยู่ในใจ แต่เขารู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้มันค้างคาไปได้หลังเลิกงงานเขาแวะเข้ามาแอบดูเธออีกครั้ง เห็นร่างบอบบางเดินออกมาจากซอยตามเวลาของทุกวัน เขาจึงเดินตามเธอมาจนถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ที่เธอมักจะมาทานบ่อยๆ ในย่านนี้เขาเห็นดาวเหนือกำลังกินก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ด้วยความอร่อย รอยยิ้มเล็กๆ ของเธอขณะกินแสดแสดแสดเผยให้เห็นถึงความสุขที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ ซึ่งทำให้เจเคนรู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง แม้ว่าจะรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองในอดีตก็ตามเจเคนเดินเข้าไปในร้านและสั่งก๋วยเตี๋ยวมาหนึ่งถ้วย เขานั่งลงด้านหลังดาวเหนือโดยที่เธอไม่รู้ตัว เขากินเงียบๆ มองเธอทานไปพลางสังเกตท่าทางของเธอที่ดูผ่อนคลาย ต่างจากในช่วงที่เขาเคยเห็นเธอเครียดจากการทะเลาะกันดาวเหนือเงยหน้าขึ้นจากถ้วยก๋วยเตี๋ยวเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ข้างๆ สายตาของเธอเหมือนจะมีคำถาม แต่เจเคนยิ้มให้เธอเบาๆ พร้อมกับยักไหล่ให้รู้ว่าเขาก็มากินแบบสบายๆ ไม่ต้องรู้สึกกังวลอะไร“ขอกลับห้องหนึ่

  • พันธะจำนนรัก   ถล่ม

    กระแสข่าวของมาลินกลายเป็นพาดหัวใหญ่ในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้านบวกและลบหลั่งไหลเข้ามาราวกับพายุ บรรยากาศในโซเชียลเต็มไปด้วยข้อความที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวมาลินนี่ใช่คนที่กำลังถ่ายซีรีส์เรื่องนั้นหรือเปล่า? ทำไมมีข่าวแบบนี้ออกมาได้?ภาพมันก็ชัดอยู่ จะเถียงว่าไม่เกี่ยวข้องได้ยังไงล่ะ?วงการบันเทิงเน่าเฟะแบบนี้เสมอแหละ ดาราก็แค่หุ่นโชว์ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มแฟนคลับที่ติดตามเธอมาตั้งแต่แรกยังคงออกมาปกป้องอย่างเต็มกำลังอย่าเพิ่งเชื่อข่าวปลอม! มาลินทำงานหนักมาตลอด เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งใครหรอกภาพแค่นั้นมันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย ใครก็เดินเข้าโรงแรมได้เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน เธอไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน!แต่ถึงแม้จะมีเสียงสนับสนุน ความกดดันก็ยังคงทับถมเข้ามาเรื่อยๆมาลินนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็กๆ ของเธอ มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่ไถหน้าจอโทรศัพท์ ภาพถ่ายและข่าวลือยังคงปรากฏบนหน้าฟีดไม่หยุดหย่อน ภาพเธอเดินเข้าออกโรงแรมกับเวลาที่ตรงกันกับเจ้าของนิตยสารแฟชั่นกลายเป็นประเด็นใหญ่ ข่าวลือเรื่อง "เสี่ยใหญ่" สนับสนุนเธอยิ่งทำให้กระแสวิจารณ์รุนแรงขึ้นเธอพยายามบอกตัวเองว่าเคยผ่านเรื่อง

  • พันธะจำนนรัก   ไม่เสียโอกาศ

    เสียงเครื่องยนต์จากรถบรรทุกอุปกรณ์ ทีมงานเดินขวักไขว่ไปมาในกองถ่ายที่จัดขึ้นอย่างมีระเบียบ ทุกอย่างอยู่ในจังหวะที่รีบเร่ง แต่เป็นมืออาชีพ ผู้กำกับเดินตรวจเซ็ตพร้อมกับทีมโปรดักชัน ในขณะที่นักแสดงทยอยกันมาเตรียมตัวที่เต็นท์ข้างกองถ่ายมาลินเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอสวมชุดตามคาแรกเตอร์ตัวละคร เสื้อผ้าเรียบง่ายแต่สะท้อนบุคลิกที่ผู้กำกับตั้งใจ เธอสูดหายใจลึกขณะเดินไปยังจุดถ่ายทำ เธอรู้สึกถึงสายตาของทีมงานที่จับจ้องมาที่เธอ ไม่ใช่เพราะการตัดสิน แต่เป็นการจับตามองด้วยความคาดหวัง“ฉากแรกจะเป็นฉากสำคัญ เปิดตัวคาแรกเตอร์นางเอกของเรา คุณพร้อมไหม มาลิน?” ผู้กำกับถามด้วยน้ำเสียงที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อมั่นและความท้าทาย“พร้อมค่ะ” มาลินพยักหน้าแม้ในใจจะเต้นแรงเมื่อเริ่มถ่ายทำ มาลินทุ่มเทกับบทบาทอย่างเต็มที่ เธอตั้งใจฟังคำแนะนำจากผู้กำกับ และไม่อายที่จะถามหากมีสิ่งใดที่เธอยังไม่เข้าใจ แม้จะต้องถ่ายฉากเดิมซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้มุมกล้องที่สมบูรณ์แบบ เธอก็ไม่มีคำบ่น ความตั้งใจนี้ทำให้ทีมงานเริ่มมองเธอด้วยความชื่นชมในหนึ่งวันที่การถ่ายทำยาวนานจนเกือบดึก ทีมงานต่างเริ่มเหนื่อยล้า แต่มาลินยังคงร่าเร

  • พันธะจำนนรัก   นักแสดงเต็มตัว

    บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเป็นทางการ โต๊ะไม้ขัดเงายาวสะท้อนแสงไฟสีขาวที่ส่องลงมาจากเพดาน เก้าอี้หนังสีดำเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ มาลินนั่งอยู่ตรงกลางฝั่งหนึ่งของโต๊ะ ข้างกายเธอคือโยธิน ผู้จัดการมือทองที่คอยช่วยเหลือและผลักดันเธออีกฝั่งหนึ่งคือทีมงานของบริษัทผู้ผลิตซีรีส์ชื่อดัง ทุกสายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังถือปากกาหมึกสีเงินในมือ"คุณมาลินครับ เซ็นตรงนี้" เสียงของโยธินดังขึ้นเบาๆ แต่ชัดเจนมาลินสูดหายใจลึก พยายามควบคุมอารมณ์ที่ตื่นเต้นและมือที่สั่นเล็กน้อย เธอมองไปยังกระดาษตรงหน้าที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือเล็กๆ อัดแน่น บ่งบอกถึงสัญญาและข้อตกลงระหว่างเธอกับบริษัทผู้ผลิต"พร้อมไหมครับ?" โยธินถามอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่เป็นกำลังใจให้มาลินพยักหน้า เธอกดปลายปากกาลงบนกระดาษ หมึกสีดำค่อยๆ สลักชื่อของเธอลงไปในบรรทัดล่างสุดของหน้าเอกสาร เสียงปากกาขูดไปบนกระดาษดูเหมือนดังก้องในความรู้สึกของเธอ นี่คือจุดเริ่มต้นของความฝันที่เธอเฝ้ารอทันทีที่เธอเซ็นเสร็จ เสียงปรบมือดังขึ้นจากทีมงานทุกคนในห้อง"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรา คุณมาลิน" ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตกล่าวพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นมาลิ

  • พันธะจำนนรัก   ความสุข

    คนตัวเล็กตรงหน้าเข่ยงเท้าขึ้นจุมพิตเขาอย่างไม่เกรงกลัว วาคิมมองหญิงสาวที่เอาอกเอาใจเขาเป็นพิเศษ แบล็กการ์ดหนึ่งใบถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับเสียงกระซิบข้างใบหูของมาลิน“ค่าผูกเนคไท”มาลินรับการ์ดใบนั้นไว้ ร่างสูงกระตุกยิ้มก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองเธอหยิบการ์ดนั้นขึ้นมา สูดลมหายใจลึกพร้อมกลิ่นของเงินที่ลอยวนอยู่ในความคิด กลิ่นของแบล็กการ์ดบอกถึงพลังและอำนาจที่อยู่ในมือ"ยังไม่พอหรอกนะ" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหลับตา ภาพของวาคิมยังคงชัดเจนในความมืด มาลินไม่เพียงแต่ต้องการเอาชนะ เธอต้องการควบคุมเขาอย่างสมบูรณ์แบบเธอไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความรักหรือแค่ต้องการเอาชนะ แต่เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่ในกำมือของเธอ และเธอก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้กับความรักหลายสัปดาห์ต่อมายามเย็นในซอยเล็กๆ ของเมืองอบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารและเสียงพูดคุยจากร้านค้าข้างทาง ดาวเหนือเดินทอดน่องสบายๆ จากอพาร์ตเมนต์ของเธอมายังด้านหน้าซอย เธอสวมเสื้อยืดสีขาวธรรมดา กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะที่ดูเรียบง่าย ราวกับเป็นวันธรรมดาของหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่มีภาระหนักอึ้งใดๆเธอมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าประจำตรงมุมถนน รสชาติ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status