[**ดาวเหนือ**] ครอบครัวของเธอกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติการเงินที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากที่พ่อของเธอไปค้ำประกันเงินกู้สำหรับการลงทุน แต่กลับถูกหลอกให้ขาดทุนหนัก จนยืมเงินหนึ่งพันล้านกับคุณแม่ของ เจ้าของธุรกิจใหญ่ แต่แล้วครอบครัวเธอก็ไม่สามารถชำระได้ ทางเดียวที่พ่อแม่ของดาวเหนือคิดได้ คือการบังคับให้เธอแต่งงานกับ [**เจเคน**] เพื่อหวังให้เขายอมผ่อนปรนหนี้สินที่กำลังจะทำลายชีวิตครอบครัวของเธอ แต่การตัดสินใจแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของเธอ
Lihat lebih banyakในช่วงเวลาหลังจากที่พวกเขาคืนดีกัน เจเคนเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเขา แม้ว่าในตอนแรกเขาจะคอยตามใจเธอและดูแลเธออย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เขารู้สึกได้มากที่สุดคือการที่เขาไม่อยากให้เธออยู่เพียงลำพังอีกต่อไป เมื่อเห็นว่าท้องของเธอเริ่มนูนขึ้นอย่างชัดเจน เจเคนก็ย้ายมาอยู่อพาร์ตเม้นต์ของดาวเหนือ เพื่อที่จะได้ดูแลเธออย่างใกล้ชิดทุกๆ วัน เขาคอยตามใจเธอไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมนูอาหาร หรือแม้แต่การพาเธอไปซื้อของที่เธอต้องการ เขาคอยทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจและปลอดภัย และสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดคือการที่เขาเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าความรักที่แท้จริงไม่ใช่แค่การครอบครอง แต่คือการยอมรับและเคารพในตัวตนของอีกฝ่ายขณะกำลังทานข้าวเย็นกัน เขาหันไปมองดาวเหนือที่กำลังกินข้าวอย่างอร่อย ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นจนเขาเริ่มกังวลขึ้นมาเอง ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใยนั้นทำให้เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถกักขังเธอไว้ได้ดาวเหนือเอื้อมมือไปหยิบช้อนตักต้มจืดที่ยังมีควันลอยอุ่นๆ ใส่ชามให้เจเคน พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า"ลองทานดูนะคะ อันนี้ฉันตั้งใจทำเมนูที่คุณน่าจะชอบ"เจเคนร
สามวันหลังจากการทะเลาะครั้งนั้น เจเคนรู้สึกว่าถึงเวลาที่เขาควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจตามไปหาดาวเหนือ ถึงแม้ว่าจะยังรู้สึกถึงความผิดที่สะสมอยู่ในใจ แต่เขารู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้มันค้างคาไปได้หลังเลิกงงานเขาแวะเข้ามาแอบดูเธออีกครั้ง เห็นร่างบอบบางเดินออกมาจากซอยตามเวลาของทุกวัน เขาจึงเดินตามเธอมาจนถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ที่เธอมักจะมาทานบ่อยๆ ในย่านนี้เขาเห็นดาวเหนือกำลังกินก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ด้วยความอร่อย รอยยิ้มเล็กๆ ของเธอขณะกินแสดแสดแสดเผยให้เห็นถึงความสุขที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ ซึ่งทำให้เจเคนรู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง แม้ว่าจะรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองในอดีตก็ตามเจเคนเดินเข้าไปในร้านและสั่งก๋วยเตี๋ยวมาหนึ่งถ้วย เขานั่งลงด้านหลังดาวเหนือโดยที่เธอไม่รู้ตัว เขากินเงียบๆ มองเธอทานไปพลางสังเกตท่าทางของเธอที่ดูผ่อนคลาย ต่างจากในช่วงที่เขาเคยเห็นเธอเครียดจากการทะเลาะกันดาวเหนือเงยหน้าขึ้นจากถ้วยก๋วยเตี๋ยวเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ข้างๆ สายตาของเธอเหมือนจะมีคำถาม แต่เจเคนยิ้มให้เธอเบาๆ พร้อมกับยักไหล่ให้รู้ว่าเขาก็มากินแบบสบายๆ ไม่ต้องรู้สึกกังวลอะไร“ขอกลับห้องหนึ่
กระแสข่าวของมาลินกลายเป็นพาดหัวใหญ่ในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้านบวกและลบหลั่งไหลเข้ามาราวกับพายุ บรรยากาศในโซเชียลเต็มไปด้วยข้อความที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวมาลินนี่ใช่คนที่กำลังถ่ายซีรีส์เรื่องนั้นหรือเปล่า? ทำไมมีข่าวแบบนี้ออกมาได้?ภาพมันก็ชัดอยู่ จะเถียงว่าไม่เกี่ยวข้องได้ยังไงล่ะ?วงการบันเทิงเน่าเฟะแบบนี้เสมอแหละ ดาราก็แค่หุ่นโชว์ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มแฟนคลับที่ติดตามเธอมาตั้งแต่แรกยังคงออกมาปกป้องอย่างเต็มกำลังอย่าเพิ่งเชื่อข่าวปลอม! มาลินทำงานหนักมาตลอด เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งใครหรอกภาพแค่นั้นมันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย ใครก็เดินเข้าโรงแรมได้เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน เธอไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน!แต่ถึงแม้จะมีเสียงสนับสนุน ความกดดันก็ยังคงทับถมเข้ามาเรื่อยๆมาลินนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็กๆ ของเธอ มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่ไถหน้าจอโทรศัพท์ ภาพถ่ายและข่าวลือยังคงปรากฏบนหน้าฟีดไม่หยุดหย่อน ภาพเธอเดินเข้าออกโรงแรมกับเวลาที่ตรงกันกับเจ้าของนิตยสารแฟชั่นกลายเป็นประเด็นใหญ่ ข่าวลือเรื่อง "เสี่ยใหญ่" สนับสนุนเธอยิ่งทำให้กระแสวิจารณ์รุนแรงขึ้นเธอพยายามบอกตัวเองว่าเคยผ่านเรื่อง
เสียงเครื่องยนต์จากรถบรรทุกอุปกรณ์ ทีมงานเดินขวักไขว่ไปมาในกองถ่ายที่จัดขึ้นอย่างมีระเบียบ ทุกอย่างอยู่ในจังหวะที่รีบเร่ง แต่เป็นมืออาชีพ ผู้กำกับเดินตรวจเซ็ตพร้อมกับทีมโปรดักชัน ในขณะที่นักแสดงทยอยกันมาเตรียมตัวที่เต็นท์ข้างกองถ่ายมาลินเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอสวมชุดตามคาแรกเตอร์ตัวละคร เสื้อผ้าเรียบง่ายแต่สะท้อนบุคลิกที่ผู้กำกับตั้งใจ เธอสูดหายใจลึกขณะเดินไปยังจุดถ่ายทำ เธอรู้สึกถึงสายตาของทีมงานที่จับจ้องมาที่เธอ ไม่ใช่เพราะการตัดสิน แต่เป็นการจับตามองด้วยความคาดหวัง“ฉากแรกจะเป็นฉากสำคัญ เปิดตัวคาแรกเตอร์นางเอกของเรา คุณพร้อมไหม มาลิน?” ผู้กำกับถามด้วยน้ำเสียงที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อมั่นและความท้าทาย“พร้อมค่ะ” มาลินพยักหน้าแม้ในใจจะเต้นแรงเมื่อเริ่มถ่ายทำ มาลินทุ่มเทกับบทบาทอย่างเต็มที่ เธอตั้งใจฟังคำแนะนำจากผู้กำกับ และไม่อายที่จะถามหากมีสิ่งใดที่เธอยังไม่เข้าใจ แม้จะต้องถ่ายฉากเดิมซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้มุมกล้องที่สมบูรณ์แบบ เธอก็ไม่มีคำบ่น ความตั้งใจนี้ทำให้ทีมงานเริ่มมองเธอด้วยความชื่นชมในหนึ่งวันที่การถ่ายทำยาวนานจนเกือบดึก ทีมงานต่างเริ่มเหนื่อยล้า แต่มาลินยังคงร่าเร
บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเป็นทางการ โต๊ะไม้ขัดเงายาวสะท้อนแสงไฟสีขาวที่ส่องลงมาจากเพดาน เก้าอี้หนังสีดำเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ มาลินนั่งอยู่ตรงกลางฝั่งหนึ่งของโต๊ะ ข้างกายเธอคือโยธิน ผู้จัดการมือทองที่คอยช่วยเหลือและผลักดันเธออีกฝั่งหนึ่งคือทีมงานของบริษัทผู้ผลิตซีรีส์ชื่อดัง ทุกสายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังถือปากกาหมึกสีเงินในมือ"คุณมาลินครับ เซ็นตรงนี้" เสียงของโยธินดังขึ้นเบาๆ แต่ชัดเจนมาลินสูดหายใจลึก พยายามควบคุมอารมณ์ที่ตื่นเต้นและมือที่สั่นเล็กน้อย เธอมองไปยังกระดาษตรงหน้าที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือเล็กๆ อัดแน่น บ่งบอกถึงสัญญาและข้อตกลงระหว่างเธอกับบริษัทผู้ผลิต"พร้อมไหมครับ?" โยธินถามอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่เป็นกำลังใจให้มาลินพยักหน้า เธอกดปลายปากกาลงบนกระดาษ หมึกสีดำค่อยๆ สลักชื่อของเธอลงไปในบรรทัดล่างสุดของหน้าเอกสาร เสียงปากกาขูดไปบนกระดาษดูเหมือนดังก้องในความรู้สึกของเธอ นี่คือจุดเริ่มต้นของความฝันที่เธอเฝ้ารอทันทีที่เธอเซ็นเสร็จ เสียงปรบมือดังขึ้นจากทีมงานทุกคนในห้อง"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรา คุณมาลิน" ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตกล่าวพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นมาลิ
คนตัวเล็กตรงหน้าเข่ยงเท้าขึ้นจุมพิตเขาอย่างไม่เกรงกลัว วาคิมมองหญิงสาวที่เอาอกเอาใจเขาเป็นพิเศษ แบล็กการ์ดหนึ่งใบถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับเสียงกระซิบข้างใบหูของมาลิน“ค่าผูกเนคไท”มาลินรับการ์ดใบนั้นไว้ ร่างสูงกระตุกยิ้มก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองเธอหยิบการ์ดนั้นขึ้นมา สูดลมหายใจลึกพร้อมกลิ่นของเงินที่ลอยวนอยู่ในความคิด กลิ่นของแบล็กการ์ดบอกถึงพลังและอำนาจที่อยู่ในมือ"ยังไม่พอหรอกนะ" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหลับตา ภาพของวาคิมยังคงชัดเจนในความมืด มาลินไม่เพียงแต่ต้องการเอาชนะ เธอต้องการควบคุมเขาอย่างสมบูรณ์แบบเธอไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความรักหรือแค่ต้องการเอาชนะ แต่เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่ในกำมือของเธอ และเธอก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้กับความรักหลายสัปดาห์ต่อมายามเย็นในซอยเล็กๆ ของเมืองอบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารและเสียงพูดคุยจากร้านค้าข้างทาง ดาวเหนือเดินทอดน่องสบายๆ จากอพาร์ตเมนต์ของเธอมายังด้านหน้าซอย เธอสวมเสื้อยืดสีขาวธรรมดา กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะที่ดูเรียบง่าย ราวกับเป็นวันธรรมดาของหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่มีภาระหนักอึ้งใดๆเธอมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าประจำตรงมุมถนน รสชาติ
Komen