Episode 55 : ทบทวน

“ปล่อยก่อนค่ะ” ฉันดันอกแกร่งของร่างสูงตรงหน้าออก พร้อมกับขยับตัวออกห่างจากเขา

“พี่สกายต้องไปขอโทษเพื่อนของชูใจ” ฉันเอ่ยบอกกับเขาออกไปเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เขาไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ ถ้าเขาไม่ไปขอโทษแซมมี่ฉันนี่แหละจะจัดการกับเขาเอง

“ครับ”

“คะ?” ฉันมองร่างสูงตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ‘ทำไมมันช่างง่ายดายขนาดนี้ล่ะ’ ฉันได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับมองจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพึ่งได้ยิน

“พี่จะไปขอโทษเพื่อนของหนู แต่ตอนนี้พี่ต้องลงโทษหนูก่อน” พี่สกายเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน พร้อมกับลูบลงที่หัวของฉันอย่างเอ็นดู

“อื้อออ...” เราจ้องตากันอยู่อย่างนั้นสักครู่ก่อนที่พี่สกายจะโน้มตัวลงมาประกบจูบฉันเอาไว้ รสจูบที่นุ่มละมุนจะให้หลงเคลิ้มได้อย่างง่ายดาย ลิ้นร้อนค่อยๆ สอดแทรกเข้ามาหาความหวานในโพรงปากของฉัน ในขณะที่มือหนาค่อยๆ บรรจงลูบไล้เอวบางของฉันอย่างเบามือ

“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ?”

พี่สกายไม่สนใจฟังฉันเขายังคงพยายามรุกล้ำเข้ามาหาความหวานจากร่างกายของฉัน ริมฝีปากหนาโลมเลียซอกคอขาวเนียนของฉันอย่างหิวกระหาย มือหนาของเขาวางลงบนอกอวบของฉันก่อนที่เขาจะขย้ำมันแรงเกินไปจนฉันต้องเอ่ยปากบอกกับเขา

“เบาๆ ค่ะ”

“พี่สกายหยุดนะคะ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย?”

“เหมือนหนูจะลืมว่าพี่เป็นผัวเราทบทวนกันหน่อยดีไหม?” พี่สกายเอ่ยบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงที่เหนือกว่า เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันก่อนที่มุมปากของเขาจะแสยะยิ้มร้ายออกมา

“ขี้ตั๋ว...ชูใจไปเป็นเมียของพี่ตอนไหน?”

“หึหึ”

“พี่สกาย...อะ อื้ออออ” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรร่างสูงตรงหน้าก็ทิ้งตัวลงมาทับร่างของฉันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะกดจูบลงมาที่ริมฝีปากของฉันอย่างหนักหน่วง มือหนาลูบไล้ลงไปบีบสะโพกงามของฉันอย่างแรงจนใบหน้าของฉันเหยเกไปด้วยความเจ็บปวด

“เบาๆ หน่อยค่ะ”

“...” พี่สกายเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของฉันด้วยความประหลาดใจ แต่เขาก็ยอมทำตามที่ฉันบอกอย่างว่าง่าย เขาจะสงสัยก็คงไม่แปลก เพราะปกติแล้วบทรักของเราไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ถึงพริกถึงขิงตลอด ไม่ว่าเขาต้องการอะไรฉันก็จัดให้เขาได้ตลอด

รสจูบที่รุนแรงค่อยๆ นุ่มละมุนขึ้น มือหนาที่ก่อนหน้านี้กำลังบีบเค้นอกอวบของฉันอย่างแรง เขาค่อยๆ ผ่อนแรงลงเขานวดคลึงบริเวณเต้าทั้งสองของฉันอย่างเบามือ

“อะ อื้อ” นิ้วเรียวของเขาหยอกล้อยอดอกของฉันอย่างรู้งาน ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันท้องหรือบาง แต่เพียงสัมผัสที่แผ่วเบาของเขาก็ทำให้ฉันเสียวซ่านไปทั้งตัว

“อืม หนูยังหวานเหมือนเดิมเลยนะครับ” พี่สกายผละริมฝีปากของฉันอย่างอ่อยอิง เราทั้งคู่สบตากันและกันในขณะที่มือหนาของเขายังคงลูบไล้ปากอวบอิ่มของฉันอย่างอ่อนโยน

ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา ฉันจึงเอื้อมมือขึ้นไปลูบแก้มของเขาอย่างหลงใหล ฉันไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของเขามากี่วันแล้วนะ ‘คิดถึงจัง’

“ใส่มาเลยได้ไหมคะ?”

“ครับ?”

พี่สกายชะงักไปเล็กน้อยเหมือนเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด ฉันจึงเอ่ยบอกกับเขาออกไปอีกครั้ง

“เอาของพี่ใส่เข้ามาเลยชูใจพร้อมแล้วค่ะ”

“...”

“เร็วๆ สิคะ”

“คะ ครับ”

“ไม่ทันใจเลย” ฉันเอ่ยพึมพำออกมาก่อนจะผลักอกแกร่งของเขาออกอย่างแรง ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายขึ้นคล่อมร่างสูงตรงหน้าแทนมือบางของฉันถอดการเกงของเขาออกอย่างรวดเร็ว

“หนูครับ”

“นอนเฉยๆ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าก่อนจะขยับตัวลงไปเล็กน้อย พร้อมกับกุมความเป็นชายที่ขยายใหญ่ของร่างสูงตรงหน้าเอาไว้

“อะ โอ้วววว หนูครับ”

มือบางของฉันชักท่อนเอ็นของเขาขึ้นลง ก่อนที่ฉันจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากครอบครองความเป็นชายของเขา ฉันตวัดลิ้นร้อนขึ้นลงอย่างชำนาญจนทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าเผลอบิดเกร็งไปด้วยความเสียวซ่านกับสัมผัสที่เร่าร้อนของฉัน

“อะ อ้า ซี๊ดดดด” พี่สกายครางออกมาไม่เป็นศัพท์ มือหนากำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเพื่อระบายความต้องการของตัวเอง

ฉันบำเรอชายหนุ่มตรงหน้าด้วยปากของฉันไม่หยุด ก่อนที่น้ำเชื้อขาวขุ่นของเขาจะไหลเยิ้มออกมาจากปลายหัวบานของท่อนเอ็น ฉันดื่มด่ำกับน้ำขาวขุ่นของเขาอย่างพอใจ

“เด็กดี”

มุมปากของฉันยกยิ้มออกมาอย่างพอใจในท่าทีของร่างสูงตรงหน้า ฉันรีบผละริมฝีปากออกจากความเป็นชายของร่างสูงตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับดึงชั้นในลายลูกไม้ออก ก่อนจะขึ้นมาคล่อมเขาเอาไว้อีกครั้ง

“นะ หนูครับ อะ...” ฉันถกเดรสสีดำสนิทของตัวเองขึ้นก่อนจะขยับเอวบางของตัวเองไปมาเบาๆ เพื่อให้กึ่งกลางของฉันสัมผัสกับความเป็นชายของเขา

สวบบบบบ!!

“อะ โอ้ว ซี๊ดดดดด / อะ อ่าส์” เสียงของฉันกับพี่สกายครางออกมาดังลั่นห้อง ร่างของเราบิดเกร็งด้วยความเสียวซ่าน

“อะ จุกไหมครับ?” พี่สกายชันตัวขึ้นมาพิงกับหัวเตียง พร้อมกับโอบกอดเอวเบาของฉันเอาไว้ไม่ยอมห่าง ชายหนุ่มเอ่ยถามฉันออกมาด้วยความเป็นห่วง มือหนาอีกข้างของเขาลูบลงที่แก้มนุ่มนิ่มของฉันอย่างอ่อนโยน

“นั่งเฉยๆ ก็พอเดี๋ยวที่เหลือชูใจจัดจากเองค่ะ”

ปึก ปึก ปึก!!!

“อะ โอ้ววว เบาๆ ครับ” พี่สกายเอ่ยบอกกับฉันเสียงกระเส่าด้วยความเสียวซ่านและเป็นห่วงฉันไปพร้อมๆ กัน มือหนาของเขาลูบไล้หน้าท้องของฉันเบาๆ ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดผูกกันเป็นปมด้วยความสงสัย

“อะ อ่าส์...” ฉันขยับขึ้นลงอย่างเป็นงานด้วยความเสียวซ่าน ยิ่งกายเปลือยเปล่าของเราแนบชิดกันมากเท่าไหร่ ความต้องการของฉันมันก็เหมือนจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

บทรักที่ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นคนเริ่มแต่ฉันเป็นคนรับจบ ฉันกอดรอบลำคอของเขาเอาไว้แน่นก่อนที่เราทั้งคู่จะปลดปล่อยความสุขของกันและกันออกมา

“อะ อ๊ะ อ๊ายยยย / อะ ซี๊ดดดดด”

ฉันทิ้งตัวลงซบกับอกแกร่งของเขาอย่างหมดแรง พี่สกายประคองร่างบางของฉันนอนลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือ ก่อนที่เขาจะนอนข้างกายของฉันพร้อมกับดึงฉันเขาไปกอดเอาไว้อย่างห่วงแหน

จุ๊บ จุ๊บ!!!

“พี่รักหนูมากนะครับ” พี่สกายพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังของฉัน ก่อนที่เขาจะกระซิบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาข้างหนูของฉัน มือหนาของเขาเลื่อนลงมาลูบหน้าท้องของฉันอยู่อย่างนั้น

“...” กิจกรรมที่เราพึ่งทำร่วมกันทำให้ร่างกายของฉันที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ในขณะนี้ รู้สึกอ่อนเพลียอย่างบอกไม่ถูก ฉันจึงเผลอหลับไปในที่สุด

2 ชั่วโมงต่อมา...

“อื้อ...” ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดของพี่สกาย ฉันค่อยๆ พลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับเขา เราทั้งครู่สบตากันอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา

“หนูดูอวบขึ้นนะครับ”

“ก็ชูใจกินเก่ง”

พี่สกายเอ่ยออกมาพร้อมกับมือหนาของเขาลูบลงที่แก้มขาวเนียนของฉันอย่างอ่อนโยน มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะเอ่ยประโยคต่อมาที่ทำให้ฉันไปต่อไม่เป็น...

“ถ้าหนูไม่บอก พี่ก็คิดว่าหนูกำลังอุ้มท้องลูกของพี่อยู่...”

“พูดอะไรของพี่ ลุกได้แล้วค่ะพี่ต้องไปขอโทษแซมมี่เดี๋ยวนี้” ดวงตาของฉันเบิกโพรงขึ้นมาก่อนที่ฉันจะเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับผลักร่างสูงตรงหน้าออก

“โอเคครับ หนูอยากอาบน้ำก่อนไหมครับ” พี่สกายยกยิ้มหวานขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามฉันออกมาเสียงอ่อน

“อาบค่ะ” ฉันบอกกับร่างสูงตรงหน้าก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล

เราทั้งคู่ใช้เวลาจัดการกับตัวเองไม่นานก่อนจะพากันเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่แซมมี่รักษาตัวอยู่ทันที

โรงพยาบาล

“แซมมี่เป็นอย่างไงบ้าง?” ฉันเดินเข้าไปหาเพื่อนรักที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสะอาดสะอ้านจากก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยรอยบาดแผลจากฝีมือของพี่สกาย

“ฮือออ นังชะนีน้อง ว๊ายยยยย!! ไม่เอาแล้วนะคะหนูเป็นกระเทย เป็นชู้กับชะนีนางนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”

แซมมี่เงยหน้าขึ้นมามองฉันก่อนที่เธออ้ามือออกเพื่อจะกอดกับฉัน แต่เธอก็ต้องชะงักไปทันทีที่เห็นชายหนุ่มที่ทำให้เธอต้องมีสภาพเป็นแบบนี้เดินตามหลังฉันเข้ามา แซมมี่รีบอธิบายให้พี่สกายเข้าใจเธอในทันทีพร้อมกับยกมือขึ้นมาบังหน้าของตัวเองเอาไว้

“พี่ขอโทษนะครับ”

“พี่ยอมรับว่าพี่ตั้งใจ ตอนนั้นพี่ฟิวส์ขาดจริงๆ ครับ”

“... / ...”

“ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดที่จะรับผิดชอบเอง และถ้าน้องแซมมี่ต้องการไปทำหน้าใหม่ที่เกาหลีพี่ก็ยินดีออกค่าใช่จ่ายให้ทั้งหมดครับ”

“จริงเหรอคะ? อะ โอ้ย” แซมมี่ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยถามพี่สกายออกมาอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“จริงสิครับ ขอแค่น้องแซมมี่ยกโทษให้พี่ ไม่ว่าต้องการอะไรพี่หาให้ได้หมดเลยครับ”

“แซมมี่ยกโทษให้ก็ได้ค่ะ แต่อย่าลืมที่พี่พูดไว้นะคะ”

“ครับ”

“นี่ชะนีน้อยหล่อนมีชูก้าแดดดี้เป็นของตัวเองหรือไงยะ น่าอิจฉาจัง...” แซมมี่ดึงเสื้อของฉันเบาๆ ก่อนที่เธอจะกระซิบบอกกับฉันอย่างหมั่นไส้

“อุ๊ย!!” แซมมี่ปล่อยมือออกจากเสื้อของฉันทันทีที่เห็นว่าพี่สกายกำลังมองมาที่เราอยู่ก่อนแล้ว ถึงพี่สกายจะไม่ได้มีทีท่าคลุกคลามแซมมี่ แต่เธอก็ยังคงกลัวเขาอยู่มาก เป็นใครก็คงกลัวไม่ต่างจากแซมมี่หรอก พี่สกายในตอนนี้ก็ดูโหดและน่ากลัวมากจริงๆ นั่นแหละ

“ว่าแต่พี่ชื่ออะไรเหรอคะ?”

“พี่ชื่อสกายครับ เป็นสามีของชูใจ” พี่สกายตอบคุถามของแซมมี่พร้อมกับเดินเข้ามาโอบไหล่ของฉันเอาไว้อย่างต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ

ปึก!!

“ขี้ตั๋ว ชูใจไปเป็นของพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” ฉันใช้ศอกกระแทกใส่หน้าท้องแกร่งของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของฉันเบาๆ ก่อนจะหันไปถามเขาเสียงดังฟังชัดด้วยความสงสัย

“อยากให้พี่ทบทวนอีกรอบเหรอครับ?”

“ทบทวนอะไรของพี่ ไม่ต้องมาพูดเลย”

“ไม่ให้พี่พูดงั้นเดี๋ยวพี่ทำให้ดู”

“พี่สกาย!!”

“พอแล้วค่ะ!! ไม่ต้องเถียงกันกระเทยเวียนหัวไปหมดแล้วค่ะ”