1 ปีต่อมา...
ภูเก็ต
“ชูใจเป็นเพื่อน และเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเบียร์กับหม่อน ชูใจสมควรที่จะมีความสุขที่สุด เพราะชูใจเป็นผู้หญิงที่มีแต่ให้ไม่ว่าจะกับใคร...”
“ถ้าวันนั้นเบียร์ไม่ได้ชูใจช่วยเอาไว้ วันนี้เราคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ฮึกกกกก พี่สกายโชคดีมากนะคะที่ได้ผู้หญิงที่แสนดีคนนี้ไปครอบครอง ฝากเพื่อนรักของพวกเราด้วยนะคะ”
ฟองเบียร์เช็คคราบน้ำตาออกจากแก้มขาวเนียนของตัวเอง พร้อมกับเอ่ยความในใจออกมาเสียงสั่น ใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มของเธอทำให้ทุกคนทราบซึ้งและเข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อออกมาเป็นอย่างดี
“ขอบคุณค่ะ เราเองก็รู้สึกโชคดีเหมือนกันพี่มีเบียร์กับหม่อนเป็นเพื่อน” ฉันรับกระดาษทิชชูมาจากเจ้าบ่าวของฉันก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองอย่างเบามือ พร้อมกับเอ่ยบอกกับทั้งสองคนออกไปเสียงใสตามความรู้สึกของตัวเอง
“ลำดับต่อไปเชิญคุณตะวันค่ะ”
“ก่อนอื่นตะวันต้องขอขอบคุณแขกทุกท่านที่ร่วมเดินทางมาไกลถึงภูเก็ต และก็ขอขอบคุณทุกท่านที่รักและก็เอ็นดูชูใจน้องสาวของตะวัน ขอบคุณมากค่ะ”
“ชูใจ...เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เราสองคนจำความได้ ไม่ว่าพี่จะมีปัญหาอะไรก็มีน้องคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด พี่รู้สึกดีใจและโชคดีมากที่ชูใจเกิดมาเป็นน้องของพี่ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้พี่คนนี้ก็จะคอยอยู่เคียงข้างน้องตลอดไป”
“พี่สกาย...ตะวันขอฝากน้องสาวด้วยนะคะ ถ้าเกิดมีวันไหนที่พี่ไม่ได้รู้สึกรักชูใจแล้ว ได้โปรดอย่าทำร้ายเธอพาเธอกลับมาคืนให้ตะวันนะคะ” พี่ตะวันเอ่ยบอกกับพี่สกายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“ไม่มีวันนั้นแน่นอนครับ” พี่สกายยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะตอบกลับพี่สาวของฉันออกไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และแววตาที่แน่วแน่
“ลำดับต่อไปเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...”
“ผมต้องขอขอบคุณทุกคนมากนะครับที่มาร่วมกันเป็นสักขีพยานให้กับเราทั้งสองคนในวันนี้ ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่าเราทั้งคู่ผ่านอะไรมาด้วยกันบ้าง ขอบคุณทุกการช่วยเหลือ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กับเราทั้งสองคนมาโดยตลอด ขอบคุณมากครับ”
แปะๆๆๆ !!!
“เจ้าสาวคนสวยของผม...” พี่สกายหันกลับมามองหน้าฉันอีกครั้ง ก่อนที่เขาเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปลื้มปิติยินดี
“พี่ขอโทษที่เคยทำให้หนูต้องเสียงมากๆ วัน ณ ที่แห่งนี้พี่ขอสัญญาว่าพี่จะเป็นสามีที่ดี พี่จะทำให้หนูเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดเท่าที่พี่จะทำได้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามพี่มั่นใจว่าเราจะผ่านมันไปได้เหมือนกับที่เราทำมันมาด้วยกันเสมอ พี่รักหนูที่สุดนะครับเด็กดีของพี่”
แปะๆๆๆ !!!
โห้ ฮิ้ววววววว~~
“หนูก็รักพี่สกายมากๆ หนูอยากทำให้พี่รู้ว่าหนูภูมิใจในตัวพี่มากขนาดไหน วันนี้มีสิ่งเดียวที่หนูอยากจะขอ...หนูอยากขอให้พี่เลิกโทษตัวเอง พี่สกายดูแลหนูได้ดีมากๆ หนูอยากให้พี่รู้ว่าพี่เป็นคนเดียวที่หนูอยากจะมีชีวิตอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต”
แปะๆๆๆ !!!
โห้ ฮิ้ววววววว~~
เสียงพูดคุยปะปนไปกับเสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวณ ก่อนที่นักดนตรีจะเริ่มบรรเลงเพลงแจ๊สฟังสบายประสานไปกับเสียงคลื่นที่ดังขึ้นมาเป็นระยะ
งานแต่งงานเล็กๆ ของฉันถูกจัดขึ้นมาบริเวณชายหาดเดียวกับที่ฉันกับพี่สกายตกลงปลงใจที่จะคบกัน การแต่งงานในครั้งนี้พี่สกายเป็นคนตามใจฉันทั้งหมด ภายในงานจึงมีเพียงแขกที่เราสองคนสนิทสนมด้วยเท่านั้น
งานแต่งงานเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากคนที่พวกเรารัก และก็มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาเองก็รักฉันกับพี่สกายเช่นกัน
เพล้ง เพล้ง!!!
“...” เสียงของพี่สกายเคาะขวดแก้วเสียงดัง ทำให้ทุกคนหันกลับมามองที่เราทั้งสองคนเป็นตาเดียว ฉันกับพี่สกายยืนขึ้นอีกครั้งก่อนที่เจ้าบ่าวของฉันจะรับหน้าที่ประกาศข่าวดีให้กับทุกคนได้รู้
“ผมขออนุญาตขัดจังหวะทุกท่านสักครู่นะครับ เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่พิเศษของเราทั้งสองคน เราอยากจะบอกกับทุกคนที่อยู่ในที่นี่ว่าตอนนี้ผมกับชูใจกำลังเป็นพ่อและแม่แล้วครับ”
“ห๊ะ? / ..?...”
ทุกคนจ้องมองมาที่ฉันกับพี่สกายอย่างอึ้งๆ อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาพึ่งจะได้ยิน ฉันกับพี่สกายยกยิ้มออกมาก่อนที่จะโชว์ภาพอัลตร้าซาวด์ที่ถืออยู่ให้พวกเขาดู
“ตอนนี้ชูใจกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้วครับ”
โห้ ฮิ้ววววววว~~
เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาด้วยความปลื้มปิติ ก่อนที่เพื่อนๆ จะเดินเข้ามาแสดงความยินดีกับฉัน
“จริงเหรอลูก?” ม๊าเดินมาหาฉันเป็นคนแรกก่อนที่ท่านจะเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มือบางลูบลงที่หน้าท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยของฉันอย่างอ่อนโยน
“จริงค่ะม๊า”
“ม๊าจะร้องไห้ ม๊าดีใจกับหนูทั้งคู่ด้วยนะลูก”
“ขอบคุณค่ะ / ขอบคุณครับม๊า”
“ฮึกกก ฮือออ”
“ร้องไห้ทำไมอะเบียร์เพื่อนท้องนะ เพื่อนไม่ได้จะไปออกรบ” ใบหม่อนเอ่ยถามแฟนสาวของเขาออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน
“ก็เราดีใจนี่ ดีใจมากๆ เลย” เบียร์เอ่ยออกมาก่อนที่เธอจะเดินเข้ามากอดฉันเอาไว้ ใบหม่อนยกยิ้มออกมาก่อนที่เราทั้งสามจะกอดกันกลม น้ำตาแห่งความยินดีไหลออกมาไม่ขาดสาย
“น้องท้องแล้วจริงๆ ใช่ไหม?” พี่ตะวันเช็ดน้ำตาของตัวเองออกก่อนที่เธอจะเอ่ยถามฉันออกมาอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“จริงค่ะ น้องท้องแล้วจริงๆ”
“แล้วนี่พี่ได้หลานสาวหรือหลานชาย?”
“พี่ตะวันรองเดาดูสิคะ?” ฟองเบียร์ที่ยืนอยู่ข้างฉันเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไป พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเธอ
“อืมมมมม คุณแม่สวยขนาดนี้พี่ว่าได้ลูกผู้ชาย”
“แต่เบียร์คิดว่าผู้หญิงค่ะ”
“เสียงแตกแบบนี้ต้องรอเฉลยจากคุณแม่แล้วล่ะ” ใบหม่อยเอ่ยขึ้นก่อนที่ทุกคนจะหันมามองหน้าฉันเป็นตาเดียว
“ยังไม่ทราบค่ะ ชูใจกับพี่สกายตกลงกันไว้ว่าจะรู้ทีเดียวพร้อมกับตอนลูกคลอดออกมาค่ะ” ฉันยกยิ้มออกมาก่อนจะตอบทุกคนกลับไปตามตรง
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรพวกเรารอได้อีกแค่ 4 เดือนก็ได้เจอหน้ากันแล้ว”
“ใช่แล้ว...หลานป้า” พี่ตะวันเอ่ยออกมาก่อนที่เธอจะลูบลงที่หน้าท้องแบนราบของฉันอย่างอ่อนโยน
เช้าวันต่อมา...
“อื้อออ...” ฉันครางออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยลืมตาตื่นขึ้นมามองไปยังภาพตรงหน้า ชายหนุ่มที่ฉันคุ้นเคยเดินมาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“รู้สึกไม่สบายตัวเหรอครับ?”
“ปวดขาค่ะ”
“งั้นนอนเฉยๆ นะครับเดี๋ยวพี่นวดให้ครับ”
พี่สกายเอ่ยบอกกับฉันก่อนที่เขาจะลงมือนวดให้ฉันอย่างตั้งใจ ฉันจ้องมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มออกมา ฉันรู้ตัวเองดีว่าฉันเป็นคนที่โชคดีมาตลอด ตอนนี้ฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิม ฉันช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอกับเขา...
ถ้าวันนั้นฉันไม่ได้เจอเขา เราทั้งคู่คงไม่ได้มีกันและกันอย่างวันนี้ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขพี่สกายก็ได้พิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วว่าเขาสามารถทำได้อย่างที่เขาเคยพูดไว้จริงๆ และไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรของแค่มีผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยเท่านี้แหละที่ชีวิตนี้ฉันต้องการ...
“พี่สกายขา”
“ขา?”
“พี่สกายคิดว่าลูกในท้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ?” ฉันเอ่ยถามเข้าออกไปพร้อมกับมองไปที่เขาอย่างรอฟังคำตอบ
“พี่คิดว่าผู้หญิงครับ แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายพี่ก็รักเขา รักมาก มากกว่าชีวิตของพี่”
“เพราะอะไรรู้ไหมครับ?” พี่สกายเป็นฝ่ายถามฉันกลับมา พร้อมกับมุมปากของเขายกยิ้มออกมา
“เพราะอะไรเหรอคะ?”
“เพราะพี่รักแม่ของเขามากกว่าชีวิตของพี่ไงครับ”
“...” ฉันยกยิ้มออกมาก่อนจะดึงร่างสูงตรงหน้าเข้ามากอดเอาไว้ พร้อมกับซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขาอย่างออดอ้อน
“รักนะคะ”
‘ถ้าคนบนฟ้าส่งผู้ชายคนนี้มาให้ฉันรัก ได้โปรดอย่าทำให้ฉันพลัดพรากจากเขาอีก ได้โปรดประทานพรให้เราสองคนอยู่ด้วยกันไปตราบนานเท่านานด้วยเทอญ’
[จบบริบูรณ์]
4 เดือนต่อมา...ห้องคลอด“พี่สกายคะ พี่สกาย”“พี่สกาย”“คะ ครับ” พี่สกายขานรับเสียงเรียกของฉันออกมาอย่างตกใจ ก่อนที่เขาจะขยับหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าของฉัน“ถ้าหนพูดอะไรซึ้งๆ พี่จะร้องไห้ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ออกไปเสียงอ่อน ในขณะที่คุณหมอกับพยาบาลกำลังทำคลอดให้กับฉัน ฉันเลือกที่จะคลอดลูกด้วยวิธีการผ่าคลอด ฉันยอมรับว่าตัวเองค่อนข้างกลัวฉันจึงขอคลอดลูกด้วยวิธีนี้“ร้องครับ หนูรู้ไหมหัวใจของพี่เต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว” พี่สกายเอ่ยบอกกับฉันเสียงสั่น พร้อมกับน้ำตาคลออยู่ที่ตาคมทั้งสองข้างของเขา“หนูได้ยินอยู่ค่ะ” ฉันหัวเราะออกมาก่อนจะเอ่ยบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใสอย่างเช่นทุกครั้ง“ตอนนี้หนูรู้สึกยังไงบ้างครับ?” พี่สกายเอ่ยถามฉันออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมยกมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาจับไหล่เปลือยเปล่าของฉันเอาไว้“หนูรู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมูที่กำลังขึ้นเขียงเลยค่ะ”“หมูน้อยของพี่”“หัวอยู่นี้...” เสียงของคุณหมอที่พูดขึ้นมา ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกายของฉันเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข“ตื่นเต้นครับ หนูตื่นเต้นไหมครับ?”“ตื่นเต้นค่ะ พี่สกายใจเย็นๆ
1 ปีต่อมา...ภูเก็ต“ชูใจเป็นเพื่อน และเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเบียร์กับหม่อน ชูใจสมควรที่จะมีความสุขที่สุด เพราะชูใจเป็นผู้หญิงที่มีแต่ให้ไม่ว่าจะกับใคร...”“ถ้าวันนั้นเบียร์ไม่ได้ชูใจช่วยเอาไว้ วันนี้เราคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ฮึกกกกก พี่สกายโชคดีมากนะคะที่ได้ผู้หญิงที่แสนดีคนนี้ไปครอบครอง ฝากเพื่อนรักของพวกเราด้วยนะคะ”ฟองเบียร์เช็คคราบน้ำตาออกจากแก้มขาวเนียนของตัวเอง พร้อมกับเอ่ยความในใจออกมาเสียงสั่น ใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มของเธอทำให้ทุกคนทราบซึ้งและเข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อออกมาเป็นอย่างดี“ขอบคุณค่ะ เราเองก็รู้สึกโชคดีเหมือนกันพี่มีเบียร์กับหม่อนเป็นเพื่อน” ฉันรับกระดาษทิชชูมาจากเจ้าบ่าวของฉันก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองอย่างเบามือ พร้อมกับเอ่ยบอกกับทั้งสองคนออกไปเสียงใสตามความรู้สึกของตัวเอง“ลำดับต่อไปเชิญคุณตะวันค่ะ”“ก่อนอื่นตะวันต้องขอขอบคุณแขกทุกท่านที่ร่วมเดินทางมาไกลถึงภูเก็ต และก็ขอขอบคุณทุกท่านที่รักและก็เอ็นดูชูใจน้องสาวของตะวัน ขอบคุณมากค่ะ”“ชูใจ...เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เราสองคนจำความได้ ไม่ว่าพี่จะมีปัญหาอะไรก็มีน้องคอยช่วยเหลืออยู่
[สกาย]1 สัปดาห์ต่อมา...ภูเก็ต“ชูใจหลับไปแล้วเหรอวะ?” ไอ้เพิร์ชเอ่ยถามขึ้นมาก่อนจะหยิบแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นมาดื่ม“หลับไปแล้ว”ขณะนี้ครอบครัวของผมอยู่กันที่ภูเก็ต ผมกับชูใจตัดสินใจร่วมกันว่าจะพาลูกที่จากไปของเรามาลอยอังคารที่นี่ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตอยู่กับชูใจตลอดเวลา เรื่องที่เกิดขึ้นผมรู้ดีว่าชูใจคือคนที่เจ็บปวดที่สุดเธอย้ำกับผมหลายต่อหลายครั้งว่าเราสองคนต้องไปต่อ ‘เธอเชื่อว่าสักวันลูกจะกลับมาเกิดกับเราอีกครั้ง’ เธอทำให้ผมเห็นว่าเธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมากแค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วเธอก็ยังคงบอบช้ำกับเหตุการณ์ในวันนั้นอยู่“แล้วนี้มึงจะเอายังไงต่อวะ?” ไอ้ฮันเตอร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผมเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่มันจะยื่นเอกสารในมือมาให้กับผม“โชคดีของพวกมันที่ชิงตายกันไปก่อน ไม่อย่างนั้นกูจะทำให้พวกมันรู้ว่าตายทั้งเป็นเป็นยังไง” ผมอ่านเอกสารผลการชันสูตรพลิกศพในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองยังท้องทะเลที่มืดสนิทตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ผมว่างเอกสารลงตรงหน้าก่อนที่เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบผมไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนดี...ผมแค่ไม่ทำร้ายใครก่อน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ความอดทนของผมสิ้นสุ
ห้องพักฟื้น...“ชูใจ” สกายเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างคนรักของเขาที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า มือหนาลูบแก้มขาวเนียนที่บวมช้ำเป็นรอยแดงของร่างบางอย่างเบามือ“พี่ทะนุถนอมหนูมาอย่างดี...พี่ขอโทษนะครับ” ชายหนุ่มอุ้มมากุมมือบางของคนรักเอาไว้ไม่ยอมห่างสายตาของทุกคนมองไปยังสกายและชูใจเป็นตาเดียวด้วยความสงสารทั้งคู่จับใจ รอไม่นานหมอเจ้าของไข้กับเพิร์ชก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับ“หมอชูใจเป็นยังไงบ้าง?” สกายเอ่ยถามคุณหมอตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะมองไปยังหมอเพิร์ชเพื่อนรักของเขาที่อยู่ไม่ไกลอย่างรอคำตอบ“ไอ้เพิร์ช?”“ตอนนี้คุณชูใจพ้นขีดอันตรายแล้วครับ ...”“ขอบคุณมากครับ ไม่ว่าหมอต้องการอะไรผมจะหามาให้...” สกายยกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ เหมือนกับคนอื่นๆ ที่อยู่ภายในห้อง เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้นมาเป็นระยะ“แต่ผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ผมไม่สามารถช่วยเหลือทารกในครรภ์ของเธอได้ครับ”“มะ หมายความว่ายังไง?” รอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่มหุบลงทันที ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามหมอหนุ่มตรงหน้าออกไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ตาคมมองไปยังชายตรงหน้าและเพื่อนรักของเขาสลับกันอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ
รถสปอร์ตหรูชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะพลิกคว่ำต่อหน้าต่อตาของเขา หัวใจของที่แข็งแกร่งดั่งหินผากระตุกวูบเขาทั้งเจ็บปวดทั้งหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“ชูใจ!!” เสียงของสกายร้องเรียกคนรักของเขาออกมาเสียงหลง ร่างสูงรีบวิ่งเข้าไปใกล้รถที่เกิดอุบัติเหตุตรงหน้าทันทีด้วยความเป็นห่วงหญิงสาวที่อยู่ด้านในจับใจ“ชูใจ!! มะ ไม่นะ” ตะวันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอด้วยความหวาดกลัว ตะวันรู้ดีว่าในรถคันนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ชูใจน้องสาวของเธอเพียงคนเดียว แต่มีหลานสาวของเธอที่อยู่ในครรภ์ของชูใจอีกด้วยที่เธอเป็นห่วง“พี่ตะวัน” เสียงของน้ำมนต์ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ก่อนที่ร่างบางจะกอดตะวันเอาไว้แน่น ในขณะที่เพิร์ชกับฮันเตอร์ และลูกน้องของพวกเขาช่วยสกายดึงประตูรถหรูที่ตอนนี้เหลือเพียงเศษเหล็กออก~~วี้...หว่อ~~ วี้...หว่อ~~ วี้...หว่อ~~“หนูครับ” ทันทีที่ประตูรถเปิดออกสกายก็รีบอุ้มคนรักของเขาออกมาทันที ขายาวรีบก้าวไปยังรถพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลในทันที“หนูครับ ได้ยินเสียงพี่ไหม ฮึกกกก ลืมตาขึ้นมามองหน้าพี่หน่อยนะครับ” สกายมองดูเลือดที่ไหลท่วมร่างบางในอ้อมกอดของเขาด้วยความเจ็บ
“สามคนพ่อ แม่ ลูกงั้นเหรอคะ?” ฉันเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับมองไปยังชายหญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างเอาเรื่องมือทั้งสองข้างของฉันจะถูกมัดตรึงเอาไว้ด้านหลัง แต่ตัวของฉันยังคงขยับได้อยู่ ฉันค่อยๆ ขยับลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับพวกเขา พร้อมกับพยายามแกะเชือกที่มัดมือของฉันออก“ชูใจ!!!”“เธอไม่ได้สลบอย่างนั้นเหรอ?” พี่โมนาเอ่ยถามฉันออกมาด้วยความตกใจ“ใช่ฉันไม่ได้หลับ ฉันได้ยินสิ่งที่พวกคุณคุยกันชัดทุกคำ”“งั้นเธอก็รู้แล้วสินะว่าลูกในท้องของฉันเป็นลูกของไนท์ไม่ใช่ไอ้สกาย” พี่โมนาเอ่ยออกมาเสียงเรียบอย่างไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดเลยสักนิด“ไหนๆ เธอก็ต้องตายอยู่แล้วฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญ...”“คืนนั้นไอ้สกายมันเรียกหาแต่เธอ พอฉันพามันมาถึงเตียงมันก็อ้วกใส่ฉันและก็หลับเป็นตาย ฉันไม่ได้มีอะไรกับมันและก็ไม่เคยคิดจะมีด้วย”“พี่ทำแบบนี้ทำไมคะ?”“ไนท์?” ฉันเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าแต่เธอกลับเงียบใส่ฉัน ฉันจึงหันไปเรียกอดีตเพื่อนรักของฉันแทน ฉันมองไปที่ไนท์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง“ไอ้สกายมันทำให้น้องของฉันต้องตาย มันพรากแก้วตาดวงใจไปจากฉันมันก็สมควรได้รับแบบนั้นกลับไปเช่นกัน” ฉันหันมาจ้อง