“ผมเห็นว่ายังไงคุณก้องภพก็จบมาทางนี้โดยตรง ผมก็อยากจะเห็นฝีมือของคุณก้องภพในการมาช่วยคุณตีรณาบริหารห้างของเราก็เลยคิดว่าอยากจะให้คุณก้องภพเป็นคนคุมการก่อสร้างของห้างที่สิงคโปร์ในครั้งนี้นะครับ” เสียงหวานหัวเราะขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินอมรเทพเสนอขึ้น
“แล้วหุ้นส่วนทุกท่านว่ายังไงกันคะ เห็นด้วยกับคุณอมรหรือเปล่าคะ” หุ้นส่วนหลายคนหันไปมองหน้าอมรเทพแล้วมีท่าทางอึกอัก ตีรณาก็ดีดนิ้วขึ้นทันที
“เปาะ!”
“นี่ไม่มีแรงสนับสนุนให้น้องชายดิฉันเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลโปรเจคการสร้างห้างสรรพสินค้าในครั้งนี้เลยเหรอคะ” เธอพูดขึ้นมาอย่างขำ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธออ่านเกมออกอยู่แล้วว่ายังไงหุ้นส่วนที่มีประสบการณ์ คงจะไม่เอาชีวิตและเงินของตัวเองไปฝากไว้กับเด็กที่ไม่เป็นงานคนหนึ่ง ดีไม่ดีอาจจะทำให้การเปิดห้างในครั้งนี้ล่าช้าก็ได้ ไม่ว่าจะเกิดการสะดุดใด ๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัททุกคนไปด้วยแน่นอน
“แสดงว่าการเงียบของหุ้นส่วนทุกท่านเป็นคำตอบแล้วนะคะ คุณอมรเทพ” เธอหันไปพูดกับอมรเทพด้วยใบหน้าของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า จนอมรเทพกัดกรามกรอดด้วยความโมโหที่โดนเด็กเมื่อวานซืนนั้นหักหน้าในที่ประชุม
“ผมก็แค่อยากจะสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่นะครับ เผื่อคุณก้องภพเนี่ยอาจจะมีความสามารถเพราะยังไงก็เรียนจบมาทางด้านนี้ ถ้าจะให้คุณก้องภพลองทำงานก็ไม่เสียหายนะครับ ยังไงบริษัทนี้ก็เป็นของคุณก้องภพด้วย เพราะคุณก้องภพก็ใช้นามสกุลรักษิโรทัยด้วยเช่นกัน”
“ใช่ค่ะ ก้องภพเป็นน้องชายของดิฉันและก็ใช้นามสกุลรักษิโรทัยเหมือนกับดิฉันแต่สิ่งที่เราไม่เหมือนกันคือ แม่ของดิฉันเป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาค่ะ” คำตอบของเธอทำให้ผู้ถือหุ้นที่นั่งประชุมพร้อมหน้ากันนั้นถึงกับต้องนิ่งงันไปทันที เพราะทุกคนต่างรู้ว่าความจริงที่ว่าคนที่พยุงให้ห้างนี้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ในทุกวันนี้ก็คือปารียาแม่ของตีรณาจริง ๆ ส่วนนฤบดินทร์ก็เป็นแค่ลูกชายเจ้าของห้างเท่านั้น เขาแค่รับหน้าที่ดูแลบริหารห้างนี้ต่อจากภรรยาผู้ล่วงลับด้วยสภาพที่หุ้นส่วนนั้นใจหายใจคว่ำอยู่หลายครั้ง จนในวันที่ตีรณาเรียนจบและได้เข้ามาดูแลห้างสรรพสินค้าของตระกูลรักษิโรทัยที่เพิ่งจะเปลี่ยนมือเป็นผู้บริหารใหม่ไฟแรงอย่างตีรณาก็เมื่อ 4ปีที่แล้วนี่เอง แต่หลังจากที่เธอเข้ามาบริหารก็ทำให้หุ้นของห้างนั้นได้กำไรแบบก้าวกระโดดคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าตีรณาลูกสาวของปารียานั้นทั้งสวยและมีความเก่ง เธอนั้นสืบทอดความเก่งทางสายเลือดจากปารียามาโดยแท้
“ถ้าทุกท่านไม่มีอะไรสงสัยแล้ว ดิฉันขอพักการประชุมสักยี่สิบนาทีนะคะ แล้วเรามาเจอกันใหม่ตอนเก้าโมงยี่สิบนะคะ” แต่แล้วก็มีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธอด้วยความไม่พอใจ
“อีเด็กเมื่อวานซืน ปากดีนัก” อมรเทพมองตาตีรณาด้วยความไม่พอใจ เขายอมรับว่าตีรณานั้นเก่งกว่านฤบดินทร์หลายเท่า ตั้งแต่เธอมาบริหารงาน เธอก็ทำให้ห้างกลับมายิ่งใหญ่และรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบคือความอวดดีและความถือดีของเธอนี่แหละ เขาอยากให้ก้องภพหลานชายของเขานั้นได้ก้าวขึ้นมานั่งตำแหน่งรองประธานบริษัทจะได้เรียนรู้งานต่อไปก้องภพก็จะสามารถดูแลธุรกิจของครอบครัวได้และเขาก็จะพลอยสุขสบายไปอีกด้วย ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ถือหุ้นเล็ก ๆ
ไลลาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องประชุมก็เจอเข้ากับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอหันกลับไปมองที่ห้องประชุมอีกครั้งเห็นว่าตีรณากำลังยืนประชุมกับผู้ถือหุ้นด้วยท่าทางจริงจังแต่แล้วเธอก็รีบเดินแกมวิ่งตรงไปหาผู้ชายที่หล่ออย่างกับพระเอกหนังยืนอยู่ตรงหน้าห้องทำงานของตีรณา
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณธมกรใช่ไหมคะ”
“ครับ ใช่ครับ” คนเอ่ยตอบแววตาแสนเศร้าและดวงตาบวมเป่งเหมือนกับว่าเขาร้องไห้มาทั้งคืนยังไงอย่างนั้น
“เอ่อ! ถ้าอย่างนั้นเชิญข้างในห้องก่อนนะคะ พอดีว่าคุณนากำลังประชุมอยู่ค่ะ”
“นานหรือเปล่าครับ” ท่าทางของเขาเหมือนกำลังรีบร้อนจะไปที่ไหน ไลลาส่ายหน้าให้เขาเล็กน้อย
“ไม่นานแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณนาก็จะเบรกประชุมแล้วก็จะมาจดทะเบียนสมรสกับคุณนะคะ เชิญคุณธมกรเข้าไปข้างในก่อนค่ะ” เธอรีบทำหน้าที่เปิดประตูและผายมือเชิญผู้ชายตัวสูงให้เดินเข้าไปในห้องทำงานของตีรณา
“เชิญนั่งที่โซฟาก่อนนะคะ ว่าแต่คุณธมกรจะรับกาแฟหรือชาดีคะ”
“ผมขอแค่น้ำเปล่าครับ” ไลลาหันมาส่งยิ้มให้เขาและรีบเดินออกไปเตรียมน้ำดื่มมาให้กับแขกคนสำคัญจะว่าไปทั้งสองคนนี้ก็มีอะไรคล้าย ๆ กัน ต่างคนต่างไม่สนใจในการจดทะเบียนหรือแต่งงานในครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ เธอรู้ว่าทั้งสองคนถูกผู้ใหญ่นั้นหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่คิดเลยว่าการหมั้นหมายตั้งแต่เด็ก ๆ จะถือเป็นจริงเป็นจังและสุดท้ายก็จบลงด้วยการจดทะเบียนสมรสทั้ง ๆ ว่าที่เจ้าบ่าวของตีรณานั้นไม่ได้ไปจดทะเบียนสมรสตามนัด
“ทำไมสังคมปัจจุบันนี้แปลก ๆ คนจะแต่งงานกันกลับไม่เคยเห็นหน้าค่าตากัน แถมยังยอมจดทะเบียนสมรสกันง่าย ๆ ด้วย” เธอบ่นพึมพำและแล้วก็ได้ยินเสียงลิฟต์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ติ๊ง!” เจ้าหน้าที่จากทางอำเภอก็เดินทางมาถึงในขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของตีรณา
“สวัสดีค่ะ เจ้าหน้าที่ที่มาทำเรื่องจดทะเบียนสมรสใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเชิญข้างในเลยค่ะ” ไลลาทำหน้าที่เชิญแขกเข้าไปในห้องอีกครั้ง
“สวัสดีครับ” เจ้าหน้าที่กล่าวทักทายผู้ชายที่นั่งรอเขาอยู่ด้านในห้องแล้ว
“สวัสดีครับ” ธมกรกล่าวทักทายกลับอย่างมีมารยาททั้ง ๆ ที่ในใจของเขานั้นรวดร้าว เขาอยากจะตรงดิ่งไปหาสิกานต์ตั้งแต่เช้า แต่กลับต้องมาจดทะเบียนสมรสตามคำสั่งของผู้เป็นบิดาและผู้เป็นย่า ว่าวันนี้ยังไงเขาจะต้องจดทะเบียนสมรสตามข้อตกลงที่เขาได้ให้ไว้กับมานิตย์ว่าถ้ายอมให้เขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นเวลา 4 ปี เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสก่อนที่เขาจะบินไปเรียน แต่แล้วทุกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นดังหวัง เพราะคนที่เขาต้องการจะไปใช้ชีวิตด้วยเธอกลับนอนอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยอาการโคม่าหลังจากถูกรถชนเมื่อวานนี้
ผู้ชายต่างวัยสองคนที่นั่งรอตีรณาอยู่ในห้องทำงานของเธอ ไม่นานก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“กริ่ง!” เบอร์โทรของโรงพยาบาลปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ชายหนุ่มรีบกดรับสายทันที
“สวัสดีครับ” ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงหลังจากนิ่งฟังปลายสายอยู่ชั่วอึดใจ
“ว่ายังไงนะครับ” เขาถามขึ้นเสียงดังจนไลลาและเจ้าหน้าที่ที่มาทำการจดทะเบียนสมรสนั้นตกใจหันมองหน้าเขาเป็นตาเดียว ในที่นี้คงไม่มีใครจะตกใจไปมากกว่าเขาแล้ว เมื่อสิ่งที่เขาได้ยินนั้นคือสิ่งที่เขาไม่อยากจะได้ยินเลยทั้ง ๆ ที่ใจเขาก็รู้ดีว่ามันคงจะถึงเวลามีแล้วจริง ๆ
ตอนที่ 11ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้ว “ก็ยังจัดไม่เสร็จดีหรอกค่ะแต่ว่าก็ต้องรีบมาที่นี่ก่อนค่ะ” เธอตอบแล้วชายตาไปมองผู้เป็นแม่เลี้ยงด้วยท่าทางสะใจที่เห็นใบหน้าของกนกขวัญนั้นอ้าปากค้างเมื่อรู้ว่าเธอย้ายไปอยู่กับธมกรและไม่ได้มีเรื่องบาดหมางใด ๆ กันแต่คนที่ต้องมึนงงกับเรื่องนี้คือนฤบดินทร์ลูกสาวของเขาจะย้ายไปอยู่กับธมกรตอนไหนในเมื่อเช้าเขายังเจอตีรณาอยู่ที่บ้านอยู่เลย“แล้วจะย้ายไปอยู่ด้วยกันได้ยังไงคะ เมื่อเช้าขวัญก็ยังเห็นลูกนาอยู่ที่บ้านอยู่เลยนะคะแล้วก็ไม่เห็นจะเก็บค่าเก็บของย้ายมาอยู่คอนโดกับคุณธมกรเลย” กนกขวัญขัดขึ้นทันทีเพราะเธอไม่เชื่อว่าทั้งสองจะย้ายไปอยู่ด้วยกันได้จริง ๆ“แล้วคุณแม่เลี้ยงนี่เป็นยุงในมุ้งหรือยังไงคะถึงได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนา” เธอหันไปจ้องหน้าผู้เป็นแม่เลี้ยงยังไม่ลดละที่เอาแต่ขัดเธออยู่ตลอดเวลา 
ตอนที่ 10นัดเจอสามีความจริงแล้วธมกรเพิ่งจะวางสายจากผู้เป็นบิดา วันนี้ทั้งสองตระกูลจะต้องกินข้าวพร้อมหน้ากัน ธมกรก้มหน้าดูที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองไม่นานเขาก็กดอ่านข้อความที่ตีรณานั้นส่งมาให้“วันนี้เจอกันที่โรงแรม” ข้อความเพียงสั้น ๆ เมื่อเขาอ่านข้อความของตีรณาส่งมาให้เขาเสร็จแล้วเขาก็จัดห้องที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาก็วันนี้ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเขาก็เดินทางตรงไปยังโรงแรมตามเวลาที่ทั้งสองได้นัดหมายกันไว้ประตูโรงแรมสุดหรูเปิดออกธมกรเดินก้าวเข้ามายังประตูโรงแรมศัตรูและยืนมองไปรอบ ๆ อยู่ยืนอยู่ตรงกลางโรงแรมและได้มองไปรอบ ๆ ผู้คนมากมายแต่งตัวดีเพราะโรงแรมใจกลางเมืองราคาแพงหูฉี่สำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักเท่านั้น“เธอจะมาถึงหรือยังนะ” คำถามที่ชวนหงุดหงิดใจไม่รู้ว่าภรรยาที่จดทะเบียนด้วยจะมาถึงหรือยังและแล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งใบหน้าพริ้มเพรา เขาจึงพิมพ์ข้อความถามเธอเข้าไปให้เธอ“คุณใส่เสื้อสีอะไร” ไลลาหันไปมองเจ้านายสาวที่นั่งอยู่ เธอก
ตอนที่ 9การนัดเจอกันของสองตระกูล“อะไรนะครับ”“ก็งแต่งงานไง ในเมื่อหลานจดทะเบียนสมรสตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว หลานก็ควรแต่งงานให้เรียบร้อยใคร ๆ ก็รู้ว่าเราเป็นดองกับตระกูลนั้นมาตั้งนานแล้วนะ” ธมกรอึกอักไปทันที เมื่อพูดถึงงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงที่เขาจดทะเบียนสมรสด้วย“พอพูดถึงการแต่งงานกับหนูนา ทำไมต้องชะงักฮะเจ้ากร” เขาไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับผู้เป็นย่าและผู้เป็นพ่ออีกแล้ว มันคงจะหมดแล้วสินะกับอิสรภาพที่เขาเคยมีหลังจากที่ตีรณากลับจากสนามบินเธอก็ต้องไปที่บริษัททันทีพร้อม Video Call คุยเรื่องปัญหาของสินค้าที่ส่งไม่ตรงเวลากับวิโรจน์ทันทีกว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน“ไลลา” เธอหันไปหาเลขาสาวที่ฟุบหลับอยู่ตรงโซฟา“คะ ว่ายังไงคะคุณนา”“แทนที่เธอจะช่วยจดรายละเอียดกลับมานอนเฝ้าฉันเนี
ตอนที่ 21 วาสนานี้ตา “ขอบคุณมากนะคะที่คุณกรมาส่งตา” ธมกรพยุงร่างกลมกลึงตรงไปยังลิฟต์ของคอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทนัก หญิงสาวรีบซบเข้าที่อกของแกร่งและกอดเอวเขาไว้แน่นจนธมกรรู้สึกตกใจ “ถึงห้องของสิตาแล้วค่ะ” เธอเปิดเข้าไปในห้องและหันหน้ามาส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม “ขอบคุณมากนะคะ ว่าแต่คุณกรเข้ามาดื่มน้ำก่อนดีไหมคะ” “ไม่เป็นไรครับ ผมจะรีบกลับบ้าน” “เข้ามาสักหน่อยเถอะค่ะ ถือว่าเป็นการขอบคุณที่มาส่งตา ถ้าไม่ได้คุณกรตาคงจะแย่กว่านี้” เธอถือวิสาสะดึงแขนของธมกรให้เข้ามาในห้องแล้วรีบปิดประตูทันที ธมกรเดินเข้ามาในห้องเขาเห็นรูปถ่ายของสิตาที่ถ่ายกับสิกานต์วางอยู่บนตู้หนังสือ ชายหนุ่มเดินไปยืนมองทำให้ดวงตาเขาสั่นไหวขึ้นมา ใบหน้าสวยหวานที่เขาคอยจ้องมองในเวลาที่เธอหลับทำให้เขาคิดถึงเธอขึ้นมาไม่น้อย “พี่กานต์ค่ะ เป็นพี่สาวของตาแต่ตอนนี้พี่กานต์เสียชีวิตแล้วค่ะ” ธมกรพย่าามสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันมาพยักหน้าให้เธอ “เราสองคนพี่น้องรักกันมากเลยนะคะและสนิทกันเป็นที่สุด พี่กานต์ไม่น่าเสียไปเร็วเลย” น้ำเสียงของเธอดูสั่นเครือและเหลือบมองใบหน้าของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาดูเศร้าหมองลงจนหญิงสาวยิ้มเจ้า
ตอนที่ 8ไปรับสามีที่ไม่เคยเห็นหน้า“ก๊อก ๆ ๆ!” เสียงเคาะประตูขัดการประชุมดังขึ้น ตีรณาหันไปมองประตูห้องประชุมที่กำลังเปิดกว้างออกและแล้วก็มีร่างเล็กของไลลาเดินเข้ามายักคิ้วหลิ่วตาเชิงบอกเป็นนัยว่ามีเรื่องสำคัญ ตีรณาหันมองไลลาแล้วขมวดคิ้วมุ่น“คุณนาคือพอดีว่าท่านประธานใหญ่โทรมาหลายสายแล้วนะคะบอกว่าสามีของคุณนากำลังจะกลับมาในวันนี้ค่ะ แล้วก็กำลังจะถึงสนามบินแล้วค่ะ ท่านประธานใหญ่บอกว่าให้คุณนาไปรับคุณธมกรด้วยค่ะ” ไลลากระซิบบอกผู้เป็นเจ้านายสาวทันที ถ้าหากว่าไปช้าคงจะเกิดปัญหาอีกเป็นแน่“เอ่อ! พอดีว่านามีเรื่องด่วนนะคะ ถ้าอย่างนั้นนาขอหยุดการประชุมไว้เพียงเท่านี้ก่อนได้ไหมคะแล้วค่อยมาต่อกันในพรุ่งนี้” เธอรีบบอกยุติการประชุมทันทีเพื่อที่จะไปให้ถึงสนามบินให้เร็วที่สุด“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกวันนี้ล่ะ” น้ำเสียงของเธอเจอแกมดุของตีรณานั้นบ่งบอกว่าเธอร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วไลลาไม่ค่อยจะพลาดเรื่องสำคัญ“ขอโทษทีนะคะคุณนา คือว่า เอ่อ ไลลาลืมค่ะ ไลลาก็ไม่รู
ตอนที่ 7 อดีตที่ขมขื่น“กานต์ทำไมคุณถึงทิ้งผมไปได้ ผมไม่เข้าใจ” ความเจ็บปวดที่แสนจะทรมานนั้นบาดลึกเข้าไปในหัวใจของเขา เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะทิ้งเขาไว้คนเดียวแบบนี้“มันเป็นความผิดของผมเอง ผมไม่เข้มแข็งพอ ผมไม่มีความกล้า ผมไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าผมกล้าที่จะบอกกับพ่อว่าผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น ผมมันเลว” ชายหนุ่มเอาแต่โทษตัวเองที่ไม่มีความสามารถดูแลปกป้องและไม่กล้ายืดอกรับกับผู้เป็นพ่อของตัวเองว่าเขานั้นได้มีคนที่รักอยู่แล้ว มือหนาที่สั่นเทาจับแผ่นกระดาษมาคลี่เปิดดูยิ่งทำให้หัวใจของเขาบีบรัดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะกระดาษแผ่นนั้นคือใบอัลตราซาวด์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่เปื้อนเลือดของสิกานต์ติดมาด้วย ตอนที่เขาไปส่งเธอถึงนะห้องฉุกเฉินแต่หมอออกมาบอกเขาว่าตอนนี้อาการของเธอแย่มากทำให้เธอตกเลือดและเสียเด็กในท้องไปแล้ว“ทำไมคุณไม่บอกว่าคุณกำลังท้องหรือที่คุณไม่ยอมรอผมอีกฝั่งของถนนเพราะคุณอยากจะบอกผมว่าคุณกำลังท้อง ทำไมกานต์ ทำไม” เขาร้องไห้อย