แชร์

ตอนที่ 17 ไฟสีฟ้า

ผู้เขียน: Abyssgloom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-28 23:10:52

1 ชั่วโมงก่อนการหลบหนี เกิดเหตุไฟไหม้ที่สถานพยาบาลของเมือง

ในห้องสอบปากคำที่มืดสลัว มีเพียงแสงจากโคมไฟเวทมนตร์ที่ลอยอยู่กลางอากาศช่วยให้เห็นใบหน้าของลีน่า หญิงสาวผมสีส้มอมทองที่สวมแว่นหนาๆ และชุดเครื่องแบบของกิล เธอก้มมองสมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยลายมือเรียบเรียงอย่างละเอียด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายผู้รอดชีวิตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"คุณช่วยเล่าอีกครั้งได้ไหมคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น?" ลีน่าถามเสียงนุ่ม แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง เธอยกปากกาขนนกขึ้นจรดลงบนกระดาษ ขณะที่มองจ้องมองอีกฝ่าย ชายผู้นั้นกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะเริ่มเล่า

“มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ ตอนนั้นพวกผมกำลังนั่งเฝ้าผู้ป่วยอยู่ในห้อง แต่แล้วชายคนหนึ่งก็ถูกพยาบาลพาตัวเข้ามา...เขาดูซีดเซียวเหมือนไม่มีแรง”ชายคนนั้นลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ

"ผมได้ยินพวกพยาบาลพูดกัน เห็นว่าเป็นคนที่ลูกสาวของตระกูลวัลธอเรนให้พาตัวมา ทุกคนก็เลยไม่ได้สงสัย หรือ สนใจอะไรเกี่ยวกับตัวเขามากนัก…."

หญิงสาวพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาเล่าต่อ "แล้วอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นคะ?"

"จู่ๆ ร่างกายของเขาก็ลุกเป็นไฟครับ! ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน ไฟพวกนั้นดูไม่ใช่ไฟธรรมดา มันมีสีฟ้าสว่าง ก่อนที่เขาจะกรีดร้องท่ามกลางผู้คน และ วิ่งผ่านทั่วห้อง โจมตีทุกอย่างไม่เลือกหน้า!"

น้ำเสียงของชายผู้เล่าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขากุมมือที่สั่นเทาไว้แน่น เธอจดคำพูดเหล่านั้นลงอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะถามต่อ

"แล้วคุณสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับเขาไหม? ท่าทาง หรือลักษณะบางอย่างที่ผิดปกติ?"

"ผมไม่แน่ใจ แต่..." ชายคนนั้นพยักหน้า "ดวงตาของเขาก่อนที่จะคลุ้มคลั่ง…อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นสีขาวสนิท ไม่มีลูกตาดำเหมือนกับคนทั่วไป เหมือนกับว่าเขาถูกอะไรบางอย่างครอบงำ…."

“ขอบคุณมากคะสำหรับข้อมูล เจ้าหน้าที่ของเราจะพาคุณไปยังที่ปลอดภัยเอง”

เธอพูดจบ ก็มีเจ้าหน้าหลายคนพาชายคนนั้นออกไป หญิงสาวที่กำลังอ่านข้อมูลอยู่ก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะหันไปถามเจ้าหน้าที่ข้างตัว

"คุณบอกว่าเขาไม่มีสิ่งใดติดตัวมาเลยใช่ไหมคะ?"

"ใช่ครับ เขาไม่มีเอกสาร ไม่มีของใช้ส่วนตัวเลย แถมในฐานข้อมูลของเมือง ก็ไม่มีชื่อของเขาปรากฏอยู่ด้วย"

“งั้นก็หมายความว่า อาจจะเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองมาอย่างผิดกฏหมาย แต่เพราะได้รับการรับรอง เลยไม่ได้ถูกส่งตัวไปที่สถานกักกันงั้นสิน่ะ….แล้วได้ส่งจดหมายเชิญตัวเธอมารึยัง”

ผู้ช่วยมีสีหน้าที่ลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ

“ยังครับ….ถึงยังไงเธอก็เป็นคุณหนูจากตระกูลวัลธอเรน เกรงว่าคงไม่เหมาะสมที่จะเรียกตัวมาในเวลานี้…..”

"ฉันเข้าใจเรืื่องฐานะของเธอ แต่สถานการณ์ในตอนนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเธอโดยเร็วที่สุด โปรดเตรียมจดหมายและส่งไปทันที ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง"

ผู้ช่วยคนนั้นได้ยินก็รีบตอบตกลง และ เดินออกไปทันที ทิ้งให้หญิงสาวอยู่ในห้องสอบสวนตามลำพัง แต่ตอนที่เธอกำลังเตรียมตัวไปสถานที่เกิดเหตุ ก็มีพนักงานอีกคนรีบวิ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็๋ว

“คุณลีน่าแย่แล้วครับ!” เขาเรียกเสียงดัง ก่อนจะกระซิบบางอย่างให้เธอได้ยิน ทำให้เธอแทบจะเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจทันที

"ห้องพักของรุ่นพี่..." เธอพึมพำเบาๆ แล้วรีบหมุนตัววิ่งออกไปทันที

อาคารที่เคยเป็นที่พักของเอรอสถูกไฟไหม้จนเหลือเพียงโครงสร้างไม้สีดำเกรียม กลิ่นควันยังคงลอยคลุ้งในอากาศ หญิงสาววิ่งฝ่ากลุ่มคนที่มุงดูจนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เธอถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่งด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน

“เอรอสล่ะ? เขาอยู่ไหน?”

“พยานบอกว่าเขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าครับ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเห็นเขากลับมา”

เจ้าหน้าที่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักใจ

เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มไม่ได้อยู่ในห้องตอนเกิดเหตุ แต่สายตาเธอก็ยังจับจ้องไปที่ซากอาคารที่เสียหาย เธอเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องที่ไหม้จนแทบไม่เหลือร่องรอย

“สาเหตุล่ะ?” ลีน่าถามขณะมองไปรอบๆ

“เหมือนกับเหตุการณ์ก่อนหน้าครับ” เจ้าหน้าที่อีกคนตอบ

“มีชายนิรนามคนหนึ่ง จู่ๆก็บุกเข้าไปในห้อง ก่อนที่ไฟจะลุกท่วมร่างแล้วเผาทำลายทุกอย่าง...”

เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะเสริมด้วยเสียงแผ่วเบา

“ร่างของเขาจะถูกไฟเผาจนกลายเป็นเศษซากเหมือนที่เจอในสถานพยาบาล...”

เธอขมวดคิ้วแน่น เดินเข้าไปสำรวจพื้นที่ในห้องพัก ซากศพที่เหลืออยู่เหมือนกับในรายงานก่อนหน้านี้  ถูกเผาไหม้จนดำเกรียม ไร้เค้าโครงใบหน้า มีแต่ร่องรอยที่ดูเหมือนการระเบิดของพลังเวทที่ไม่สามารถควบคุมได้

เธอย่อตัวลงมองใกล้ๆ หยิบถุงมือขึ้นมาสวมเพื่อสัมผัสเศษวัตถุที่แตกกระจัดกระจายรอบศพ บางชิ้นดูเหมือนเป็นเศษแก้วหรือผลึกเวทมนตร์ แต่ก็ไม่มีอะไรชัดเจนพอที่จะบอกถึงต้นตอ

"เกิดอะไรขึ้น? หรือจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ?…" เธอพึมพำเบาๆ สายตามองรอบห้องด้วยความกังวล ก่อนจะลุกขึ้นยืน หันไปหาเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง

“ตรวจสอบสถานที่แห่งนี้อย่างละเอียด และ ตามหาตัวให้เจอ ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาหายไปไหน”

ชายคนนั้นสบตาเธอ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เขายืนตัวตรงก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“เข้าใจแล้วครับ!”

เจ้าหน้าที่หนุ่มก้มหน้ารับคำสั่งอีกครั้ง ก่อนจะรีบหมุนตัวไปทำงานตามที่สั่ง ทิ้งเธอยืนอยู่กลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง

เธอหลับตาลง สูดลมหายใจลึกเพื่อพยายามตั้งสติ แม้หัวใจของเธอจะเต็มไปด้วยคำถามและความวิตก แต่การเสียสมาธิในตอนนี้จะไม่ช่วยอะไร

“รุ่นพี่... เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่?”

เสียงพึมพำนั้นจางหายไปกับสายลม ขณะที่หญิงสาวหันกลับไปยังทีมสำรวจ แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นห่วงเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่กังวล เธอต้องทำงานของเธอให้เรียบร้อยก่อนเหมือนกับที่เขาเคยบอกเธอเอาไว้

ตัดกลับมาที่อีกด้านหนึ่ง

ในความเงียบงันของคุกใต้ดิน ร่างของชายหนุ่มยังคงนิ่งสงบอยู่ในเงามืด เสียงกุญแจมือที่พันธนาการเขาหลุดออกด้วยเวทมนตร์บางอย่าง

ผู้คุมคนใหม่ยืนนิ่งอยู่หน้าลูกกรง ดวงตาของเขาขุ่นมัวไร้ประกาย ร่างกายเคลื่อนไหวแข็งทื่อราวกับหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณ

ไม่มีคำพูดใด ไม่มีเสียงอธิบาย ทุกอย่างชัดเจนในตัวมันเอง ผู้คุมตรงหน้านี้กำลังถูกสิงสู่อยู่

ชายหนุ่มลุกขึ้น ยืดตัวเต็มความสูง สายตาเย็นชาเพียงกวาดมองผู้คุมแวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวเดินไปสู่ประตูที่เปิดอ้า ออกจากกรงขังด้วยความเงียบเชียบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 รากไม้ที่ชอนไช

    แสงแดดยามบ่ายแผดเผาลงบนพื้นกรวด ผ่านหลังคากระเบื้องเก่าจนเกิดเงาแสงวูบวาบ รถม้าที่ประดับตราสัญลักษณ์ของตระกูลแล่นช้าๆ ไปตามถนน ผู้คนริมทางยังคงเดินกันขวักไขว่เช่นทุกวัน เพียงแต่คราวนี้ สายหลายคู่ก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองรถม้าคันนั้นด้วยความสงสัยและกระซิบกระซาบกันเบาๆม่านผ้าถูกแง้มออกเล็กน้อยจากด้านใน เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่หลบซ่อนอยู่ เอเลน่านั่งนิ่งอยู่ตรงเบาะเบื้องหลัง มือวางบนตักขณะกุมกล่องในมืออย่างเรียบร้อย ดวงตาเหม่อมองภาพผู้คนที่เคลื่อนไหวอยู่ภายนอกโดยไม่เอ่ยถ้อยคำใดตั้งแต่ลงจากสถานี เธอก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในสายตาของผู้คนรอบตัว สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และ ความไม่ไว้ใจ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเดินมาถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาล ข่าวลือแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวเธอเองในตอนนี้ก็ยังไม่อาจออกมาชี้แจงอะไรได้ เพราะหลักฐานยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่การรอให้การสืบสวนเสร็จเรียบร้อยแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ได้ เธอเป็นคนพาชายคนนั้นไปที่โรงพยาบาลเอง โดยที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเขาอันตรายหรือไม่ จนกระทั่ง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 ผู้เฝ้ามองจากเบื้องล่างบัลลังก์

    “ถ้าอย่างนั้น ก็ตามที่ตกลงกันไว้” เอลดริกกล่าวเสียงหนักแน่น ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสี ดวงตาที่ซึ่งเคยแฝงด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้สงบลงเล็กน้อย ราวกับความเคลือบแคลงก่อนหน้านี้ได้ถูกคลี่คลายสลายไปจนหมด“ข้าจะกลับไปจัดการเรื่องให้มันเรียบร้อบ พวกเราจะได้รับรองว่าท่านเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบอย่างถูกต้องจริงๆ”เอรอสในรูปลักษณ์อาร์วิน เมื่อได้ฟังก็เอนหลังลงเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้เนื้อดี เสียงลมหายใจที่หลุดออกมาราวกับปลดภาระในใจบางอย่าง แต่แม้เขาจะพยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าในแววตากลับยังไม่ลดความระวังลง“ในเมื่อเรื่องสำคัญตกลงกันได้แล้ว…ก็มาเข้าสู่เรื่องต่อไป”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นทางการขึ้นเล็กน้อย“ข้าได้ส่งคนไปนำเครื่องตรวจสอบพลังเวทย์มาแล้ว อีกไม่นานก็คงมาถึง… หากผลออกมาเป็นไปตามที่ว่าจริงๆ ก็จะสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้”เอรอสเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นนิดหนึ่งคล้ายจะเย้ยขัน “จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ?”“จำเป็น?” เอลดริกกล่าวเสียงเรียบ ดวงตาที่เคยมองด้วยความเกรงใจเปลี่ยนเป็นแน่วแน่“เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี และ เพื่อความชัดเจนว่าท่านคือผู้เสียหายจริงๆ เร

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 เมื่อเงาในอดีตทับซ้อนกับปัจจุบัน

    โจชัวเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้านิ่งเงียบ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ดังแผ่วเบาในห้องรับรองอันเงียบสงัด แสงแดดยามเช้าผ่านม่านผ้าเนื้อบางที่ปลิวไหว เฉดสีทองอบอุ่นสะท้อนผ่านแว่นตาทรงเรียบที่เขาสวมอยู่ ท่ามกลางแสงนั้น ใบหน้าของเขายิ่งดูเย็นชาและยากจะคาดเดาพื้นไม้โอ๊คขัดมันสะท้อนเงาของหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วในมุมห้อง โซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มรับร่างของเธอไว้ราวกับรู้ตำแหน่งอย่างเหมาะสมที่สุดคาร์ลินนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างามบนเก้าอี้ไม้บุหนัง ผมยาวเป็นลอนคลื่นสีม่วงเข้มถูกรวบไว้อย่างหลวมๆ ด้านหลัง ดวงตาสีชมพูจางทอประกายราวอัญมณีต้องแสง ภายใต้แสงสลัวในห้อง มันดูราวกับกำลังเรืองแสงอยู่เบาๆเธอสวมชุดคลุมจอมเวทย์สีดำแต่งขอบม่วงเข้ม ลายอักขระเวทแผ่เรืองแสงบางๆ ตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวและผ้าคลุมไหล่ยาวที่ปักตราสัญลักษณ์ขององค์กรอย่างประณีต ท่าทางของเธอสงบเฉย...แต่ไม่อาจมีใครละสายตาได้แม้จะไม่เอ่ยสักคำ แต่พลังของเธอก็แผ่ซ่านอย่างชัดเจน หนาวเย็น ลึกลับ และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกันมือเรียวของเธอถือถ้วยชาพอร์ซเลนเนื้อดี ลวดลายสีม่วงอมเทาทอแสงเบาบางจากเวทเสริมพลังที่สลักอยู่ที่ก้นถ้วย...ชาร้อนนั้นแทบ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 เงามืดนำทาง

    แสงอรุณยามเช้าส่องผ่านม่านเมฆจางๆ ทอแสงลงมาบนถนนหินเปียกชื้นจากน้ำค้าง รถม้าค่อยๆโยกไปตามเส้นทางที่เงียบสงบ ทำให้บรรยากาศภายในยิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีกโจชัวนั่งนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของรถม้า ดวงตาสีฟ้าทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่สายตากลับไม่ได้จับจ้องสิ่งใดโดยเฉพาะ เขาเพียงมองออกไปเพื่อไล่ความไม่สบายใจที่เก็บไว้เท่านั้นเมื่อคืนมันแย่พอสมควรสำหรับเขา แม้ตอนนี้จะเก็บอารมณ์ไว้ แต่ใครที่รู้จักเขาดีพอ ย่อมรู้ว่าเขากำลังอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนเขาถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่ใช่เพราะมันยากหรือเสี่ยงอันตราย แต่เพราะมันทำให้เขานึกถึงอดีต—อดีตที่เขาต้องทนมองดูภรรยาถูกกระทำการทดลองต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากจดจำภาพนั้นฝังลึกเข้าไปในใจ เพื่อเฝ้ารอวันที่จะได้แก้แค้นมาถึงและคนที่ขอให้ทำการผ่าตัดในครั้งนี้ ก็รู้ดีว่าเขาผ่านเหตุการณ์อะไรมา ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังบังคับให้เขาทำ โดยอ้างเรื่องบุญคุณ แม้ว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ และ นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณแล้ว ก็มีแต่ต้องทำแต่สิ่งที่ได้รับหลังจากนั้น…ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดแรกที่ได้รับหลังจากทำการผ่าตัดเสร็จ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ความจริงที่ถูกบิดเบือน

    "ท่านอาร์วิน จอมเวทย์จากหอคอยเวทมนตร์ต้องการเข้าพบขอรับ"เอรอสในรูปลักษณ์ของอาร์วินลืมตาขึ้นจากความคิด เขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดบอกให้รู้ว่าอีกสักพักใหญ่เอเลน่าถึงจะเดินทางกลับมาที่เมือง ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้เธอเข้ามาวุ่นวายเกี่ยวกับการเจรจาในครั้งนี้แน่นอนว่าหัวข้อเจรจาคงเป็น เรื่องที่อาร์วินถูกจับทรมาณอยู่ในคุกลับใต้ดินตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยที่พวกมันไม่รู้ตัว และ มันก็ยากจะปกปิดเพราะเอเลน่าดันอุ้มเขาออกมากลางถนน...ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะมาก ทำให้ผู้คนต่างเห็นว่าพวกเราออกมาจากพื้นที่ของหอคอย และ มันกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทำไมชายที่หายตัวไปถึงออกมาจากที่นั้น? หรือว่าหอคอยจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวคู่หมั้นของตระกูลวัลธอเรนจริงๆ?และที่สำคัญยิ่งกว่า...คนที่จับตัวมาจริงๆมันหายไปไหน เขารู้อะไรรึเปล่า? แล้วในการทอดสอบ เขาได้รับอะไรกลับมา นั้นคือสิ่งที่พวกมันอยากรู้จริงๆเขาหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดต่อว่า… แต่ก็พอดี เขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงต้องเผาโรงพยาบาล ในหนังสือพิมพ์ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้ชี้แจงอะไร ถ้าอยากรู้ก็คงต

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 40 ในที่สุด ฉันก็เจอคุณ

    ภายในห้องพักที่เงียบสงัด แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่าง ความทรงจำพร่าเลือนราวกับเป็นเพียงเงาของอดีตค่อยๆไหลซึมหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับเป็นลางบอกเหตุถึงเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นเธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองได้ไปสถานที่แห่งหนึ่งกับชายคนนึง จำได้ว่าได้รับขนมรสขมและชาสมุนไพรจากหมอคนนั้น และ หลังจากนั้น……ว่างเปล่าคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในอก‘…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?’ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา สาวใช้ในชุดเครื่องแบบสีเรียบก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สงบนิ่ง ราวกับไม่รู้ว่าคนในห้องได้สติอยู่ เธอถือพานน้ำชาที่ควันลอยขึ้นเป็นสายบางๆ วางลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างนุ่มนวลเมื่อสาวใช้หันกลับมา สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับหญิงสาวที่กำลังลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง สีหน้าที่เรียบนิ่งของสาวใช้ก็เปลี่ยนไปในทันที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มหน้านอบน้อม“คุณ...คุณฟื้นแล้วหรือคะ?” เสียงของเธอแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความโล่งใจ“ข้า...ข้าขอโทษที่เข้ามารบกวน ข้าจะรีบไปแจ้งท่านอาร์วินให้ทราบในทันที”ชื่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status