หน้าหลัก / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 18 พบกับคนที่ไม่คาดฝัน

แชร์

ตอนที่ 18 พบกับคนที่ไม่คาดฝัน

ผู้เขียน: Abyssgloom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-28 23:11:04

เอรอสก้าวออกจากคุกอย่างเงียบงัน สายตาของเขาสำรวจชายที่ถูกสิงอยู่เบื้องหน้า แต่พบเพียงคฑาและชุดคลุมเวทมนตร์ ไม่มีสิ่งของอื่นใดที่จะใช้ประโยชน์ได้ ชายตรงหน้าเคร่งครัดต่อหน้าที่จนไม่พกสิ่งใดที่นอกเหนือความจำเป็น ซึ่งเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับสถานการณ์เช่นนี้

ในขณะที่เขากำลังคิดหาทางต่อ เสียงหนึ่งดังก้องขึ้น ฝ่าความเงียบในคุกใต้ดิน เสียงที่แหบต่ำและเย็นเยียบ ราวกับเล็ดลอดออกมาจากรอยแยกในโลกแห่งความตาย

“ข้าทำตามสัญญาแล้ว... ถึงเวลาที่เจ้าต้องชดใช้”

เสียงนั้นไม่ได้ออกมาจากปากของชายที่ถูกสิง แต่มันดังขึ้นราวกับสะท้อนมาจากทุกมุมของห้อง ร่างของชายที่ถูกครอบงำค่อยๆ เงยหน้าขึ้น รอยยิ้มบิดเบี้ยวปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ซีดเซียว ดวงตาของเขาไร้แววชีวิต ทว่ากลับมีประกายสีดำลุกวาวอยู่ภายใน

จากมือของเขา มีดสีดำสนิทปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันยื่นไปทางเอรอส ราวกับมีชีวิตของมันเอง

เขารับมีดมาอย่างระมัดระวัง สายตาของเขาจ้องปีศาจโดยไม่หลบเลี่ยง แต่ไม่ทันที่เขาจะลงมือ เสียงของปีศาจก็ดังก้องขึ้นอีกครั้ง

“เจ้าไม่คิดจะเปลี่ยนข้อกลงเป็นวิญญาณของชายผู้นี้หรือ? คิดว่าเลือดของตัวเองมีค่าพอจะชดเชยกับสิ่งที่ข้าทำให้หรือไง?” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความยั่วยุและเยือกเย็น

ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ เขาเพียงมองปีศาจด้วยแววตาเรียบเฉย ก่อนจะใช้ปลายมีดจิ้มลงบนปลายนิ้วของตัวเองอย่างแผ่วเบา หยดเลือดเล็กๆ ไหลซึมลงสู่คมมีดสีดำ

“ถ้าอยากรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน ลองชิมดูสิ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ปีศาจหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เงามืดสีดำจะเลื้อยออกมาจากร่างของชายที่มันสิง ควันดำเคลื่อนไปยังปลายมีด ราวกับกำลังดมกลิ่นบางอย่าง เมื่อมันสัมผัสหยดเลือด เสียงคำรามต่ำดังขึ้นในอากาศ ราวกับเสียงครางของสัตว์ร้ายในความมืด

“นี่มัน… เกินกว่าที่ข้าคาดไว้...” เสียงนั้นเปลี่ยนเป็นกระซิบแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยความโลภ

“กลิ่นของจิตญาณที่น่าพิศมัย หอมหวาน... ช่างแตกต่างจากเลือดมนุษย์ทั่วไปนัก”

ชายหนุ่มไม่รอให้มันตั้งสติ เขาเฉือนฝ่ามือของตัวเองอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากบาดแผล มีดในมือเริ่มดูดเลือดช้าๆราวกับสิ่งมีชีวิตที่กระหาย ขวดแก้วใบหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันลอยขึ้นรับเลือดที่หยดลงมาจนเต็ม

ปีศาจยื่นมือไปหยิบขวดขึ้นมา มันเปิดฝาอย่างช้าๆกลิ่นเลือดกระจายไปทั่วคุกใต้ดิน เสียงสูดดมที่ยาวนานและลึกดังขึ้น ก่อนที่มันจะดื่มเลือดเข้าไปอย่างช้าๆ

ความเงียบครอบงำทุกสิ่ง ยกเว้นเสียงที่ดังขึ้นในลำคอของปีศาจ “รสชาติที่แท้จริง... มันลึกซึ้ง... เข้มข้น... และน่ากลัว...” เสียงหัวเราะต่ำดังขึ้นในความมืด น้ำเสียงนั้นแฝงด้วยความพึงพอใจที่น่าสะพรึงกลัว

“มนุษย์... เจ้าช่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก นี้มิใช่สิ่งธรรมดา...”

ขณะที่ปีศาจยังจมอยู่กับความโลภและพึงพอใจ เขาสบโอกาสจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด ขวดที่สองปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันลอยไปรับเลือดที่หยดลงมาจากมีดจนเต็ม

เมื่อกระบวนการสิ้นสุด ปีศาจหยุดนิ่ง มันจ้องมองเขาด้วยดวงตาไร้แววที่เรืองแสงในความมืด

“ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดพ้นในคืนนี้มนุษย์ แต่จงรู้ไว้... ข้าจะเฝ้าจดจำรสชาติของเจ้า เจ้าจะอยู่ในสายตาข้าตลอดไป ”

เสียงหัวเราะของมันดังก้องขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เงามืดทั้งหมดจะหายลับไป ร่างชายที่ถูกสิงทรุดลงกับพื้น เขาเดินเข้าไปตรวจชีพจร

“ยังมีชีวิตอยู่...” เขาพึมพำ ก่อนจะจัดการวางชายคนนั้นไว้ในมุมที่ปลอดภัย ขณะที่มองมือที่มีแผลจากการถูกกรีด เลือดยังหยุดไหลไม่สนิท ในใจเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ดีที่เลือกทำแบบนี้

แผนในตอนแรกของเขาคือ การใช้แก่นมานาที่กลืนไปก่อนหน้านี้ เพื่อทำวงเวทย์อัญเชิญปีศาจ แล้วใช้จิตวิญญาณของผู้คุมที่เข้ามาใหม่เป็นเครื่องสังเวย

แต่กลับกลายเป็นว่า คนที่มาเฝ้าเขาต่อนั้น ดันเป็นคนรู้จักของผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขาไม่มีทางเลือก เลยต้องเปลี่ยนเครื่องสังเวยเป็นเลือดของเขาที่พึ่งใช้ครั้งแรกแทน โชคยังดีที่ดูเหมือนว่ามันจะใช้น้อยกว่าที่คิดไว้มาก เลยไม่จำเป็ฯต้องพักนานอะไรนานขนาดนั้น 

นี้คือโอกาสเดียวที่จะสำรวจหอคอยเวทมนตร์ให้ได้มากที่สุด เป็นหนึ่งในสถานที่ๆเขาไม่เคยย่างก้าวเข้ามาเลย เพราะมีกฏห้ามคนนอกห้ามเข้า ถึงแม้จะไม่คิดว่า ด้วยความสัมพันธ์ของเธอกับผู้ชายคนนั้น จะทำให้เธอไม่เคยมาที่นี้ก็ตามแต่สำรวจไว้หน่อยก็ไม่เสียหายอะไร เพราะยังไงก็พอมีเวลาอยู่แล้ว

คิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ตัดสินใจสำรวจสถานที่แห่งนี้ต่อ ก่อนจะเริ่มเดินไปในโถงทางเดินอันมืดมิด

เขาเดินช้าๆ ผ่านโถงทางเดินในคุกใต้ดิน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เสียงก้าวเท้าดังก้องสะท้อนกลับมาเบาๆ ราวกับมันกำลังเตือนให้ตื่นตัว ชายหนุ่มเดินกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างละเอียด ไล่สำรวจทุกซอกทุกมุมของกำแพงหินเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและรอยร้าว

เขาหยุดอยู่ที่ประตูเหล็กบานหนึ่งที่ปิดสนิท ลองผลักมันเบาๆ แต่ประตูไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย จึงก้มลงสำรวจรอยต่อและบานพับ บางทีอาจมีร่องรอยที่ชี้ให้เห็นว่ามีคนอื่นเคยพยายามเปิดประตูนี้มาก่อน แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงสนิมและฝุ่นหนาที่บ่งบอกว่าไม่มีใครแตะต้องมานานหลายปี

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ร่างสูงยังเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ความหวังที่จะพบใครหรือเบาะแสสำคัญเริ่มจางหาย ทว่าทันใดนั้นเอง ก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ สายลมแผ่วเบาพัดผ่านหลัง มันไม่ควรเกิดขึ้นในสถานที่ปิดตายเช่นนี้ เขาหยุดนิ่งในทันที ปล่อยประสาทสัมผัสทุกส่วนให้ทำงานเต็มที่ ลมหายใจแผ่วเบาขณะที่สำรวจที่มาของสายลมนั้น

ในที่สุดก็พบมันรอยแตกเล็กๆ ที่แทบมองไม่เห็นตรงกำแพงมุมหนึ่ง ลมที่พัดผ่านออกมานั้นแสดงให้เห็นว่ามีโพรงหรือห้องลับอยู่ด้านหลัง มือแกร่งพยายามสัมผัสกำแพงรอบๆ ตรวจหากลไกหรือปุ่มซ่อน แต่ไม่พบอะไร จึงถอยหลังออกมา สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เขาหลับตาลง สูดลมหายใจลึกๆ และเมื่อเปลือกตาคู่นั้นเปิดอีกครั้ง แววตาเปลี่ยนไป — เป็นประกายสีแดงที่ดุดันและทรงพลัง

ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง กล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเข้ม  พลังกำลังมหาศาลปรากฏขึ้นมาแต่ยังคงควบคุมมันไว้อย่างมั่นคง

ก่อนลงมือ เขาร่ายเวทย์เก็บเสียงโดยใช้พลังเวทย์จากหัวใจออกมาเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงความผิดแปลกที่เกิดขึ้นในส่วนลึกของจิตวิญญาณ แต่เขาไม่มีเวลาที่มาสนใจ พื้นที่รอบตัวเงียบสนิท แม้แต่เสียงหินแตกก็จะไม่เล็ดลอดออกไปได้ จากนั้นใช้หมัดอันทรงพลังกระแทกกำแพงด้วยแรงเต็มที่ หินแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นห้องๆนึงที่ถูกซ่อนอยู่ภายใน

เมื่อก้าวเข้าไปข้างใน แสงสลัวจากเปลวไฟในโคมไฟเวทมนตร์เก่าๆ ที่ตั้งอยู่ตามผนังส่องให้เห็นภาพที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น เย็นเยียบและอ่อนแรง ชายผู้มีผมสีทองและดวงตาสีฟ้าสดใส แต่บัดนี้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากการทรมาน รอยฟกช้ำและรอยแผลลึกกระจายอยู่ทั่วตัว แม้กระทั่งสีของดวงตาก็ดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

อาร์วิน แคร์นัส... คู่หมั้นของเพื่อนสมัยเด็ก เอเลน่า วัลธอเรน

ก่อนทันได้คิดหรือตัดสินใจทำสิ่งใด เสียงบางอย่างดังขึ้นเบาๆ ราวกับลมหายใจสุดท้ายที่เกือบสิ้นสุดลง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 รากไม้ที่ชอนไช

    แสงแดดยามบ่ายแผดเผาลงบนพื้นกรวด ผ่านหลังคากระเบื้องเก่าจนเกิดเงาแสงวูบวาบ รถม้าที่ประดับตราสัญลักษณ์ของตระกูลแล่นช้าๆ ไปตามถนน ผู้คนริมทางยังคงเดินกันขวักไขว่เช่นทุกวัน เพียงแต่คราวนี้ สายหลายคู่ก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองรถม้าคันนั้นด้วยความสงสัยและกระซิบกระซาบกันเบาๆม่านผ้าถูกแง้มออกเล็กน้อยจากด้านใน เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่หลบซ่อนอยู่ เอเลน่านั่งนิ่งอยู่ตรงเบาะเบื้องหลัง มือวางบนตักขณะกุมกล่องในมืออย่างเรียบร้อย ดวงตาเหม่อมองภาพผู้คนที่เคลื่อนไหวอยู่ภายนอกโดยไม่เอ่ยถ้อยคำใดตั้งแต่ลงจากสถานี เธอก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในสายตาของผู้คนรอบตัว สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และ ความไม่ไว้ใจ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเดินมาถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาล ข่าวลือแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวเธอเองในตอนนี้ก็ยังไม่อาจออกมาชี้แจงอะไรได้ เพราะหลักฐานยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่การรอให้การสืบสวนเสร็จเรียบร้อยแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ได้ เธอเป็นคนพาชายคนนั้นไปที่โรงพยาบาลเอง โดยที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเขาอันตรายหรือไม่ จนกระทั่ง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 ผู้เฝ้ามองจากเบื้องล่างบัลลังก์

    “ถ้าอย่างนั้น ก็ตามที่ตกลงกันไว้” เอลดริกกล่าวเสียงหนักแน่น ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสี ดวงตาที่ซึ่งเคยแฝงด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้สงบลงเล็กน้อย ราวกับความเคลือบแคลงก่อนหน้านี้ได้ถูกคลี่คลายสลายไปจนหมด“ข้าจะกลับไปจัดการเรื่องให้มันเรียบร้อบ พวกเราจะได้รับรองว่าท่านเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบอย่างถูกต้องจริงๆ”เอรอสในรูปลักษณ์อาร์วิน เมื่อได้ฟังก็เอนหลังลงเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้เนื้อดี เสียงลมหายใจที่หลุดออกมาราวกับปลดภาระในใจบางอย่าง แต่แม้เขาจะพยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าในแววตากลับยังไม่ลดความระวังลง“ในเมื่อเรื่องสำคัญตกลงกันได้แล้ว…ก็มาเข้าสู่เรื่องต่อไป”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นทางการขึ้นเล็กน้อย“ข้าได้ส่งคนไปนำเครื่องตรวจสอบพลังเวทย์มาแล้ว อีกไม่นานก็คงมาถึง… หากผลออกมาเป็นไปตามที่ว่าจริงๆ ก็จะสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้”เอรอสเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นนิดหนึ่งคล้ายจะเย้ยขัน “จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ?”“จำเป็น?” เอลดริกกล่าวเสียงเรียบ ดวงตาที่เคยมองด้วยความเกรงใจเปลี่ยนเป็นแน่วแน่“เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี และ เพื่อความชัดเจนว่าท่านคือผู้เสียหายจริงๆ เร

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 เมื่อเงาในอดีตทับซ้อนกับปัจจุบัน

    โจชัวเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้านิ่งเงียบ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ดังแผ่วเบาในห้องรับรองอันเงียบสงัด แสงแดดยามเช้าผ่านม่านผ้าเนื้อบางที่ปลิวไหว เฉดสีทองอบอุ่นสะท้อนผ่านแว่นตาทรงเรียบที่เขาสวมอยู่ ท่ามกลางแสงนั้น ใบหน้าของเขายิ่งดูเย็นชาและยากจะคาดเดาพื้นไม้โอ๊คขัดมันสะท้อนเงาของหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วในมุมห้อง โซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มรับร่างของเธอไว้ราวกับรู้ตำแหน่งอย่างเหมาะสมที่สุดคาร์ลินนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างามบนเก้าอี้ไม้บุหนัง ผมยาวเป็นลอนคลื่นสีม่วงเข้มถูกรวบไว้อย่างหลวมๆ ด้านหลัง ดวงตาสีชมพูจางทอประกายราวอัญมณีต้องแสง ภายใต้แสงสลัวในห้อง มันดูราวกับกำลังเรืองแสงอยู่เบาๆเธอสวมชุดคลุมจอมเวทย์สีดำแต่งขอบม่วงเข้ม ลายอักขระเวทแผ่เรืองแสงบางๆ ตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวและผ้าคลุมไหล่ยาวที่ปักตราสัญลักษณ์ขององค์กรอย่างประณีต ท่าทางของเธอสงบเฉย...แต่ไม่อาจมีใครละสายตาได้แม้จะไม่เอ่ยสักคำ แต่พลังของเธอก็แผ่ซ่านอย่างชัดเจน หนาวเย็น ลึกลับ และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกันมือเรียวของเธอถือถ้วยชาพอร์ซเลนเนื้อดี ลวดลายสีม่วงอมเทาทอแสงเบาบางจากเวทเสริมพลังที่สลักอยู่ที่ก้นถ้วย...ชาร้อนนั้นแทบ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 เงามืดนำทาง

    แสงอรุณยามเช้าส่องผ่านม่านเมฆจางๆ ทอแสงลงมาบนถนนหินเปียกชื้นจากน้ำค้าง รถม้าค่อยๆโยกไปตามเส้นทางที่เงียบสงบ ทำให้บรรยากาศภายในยิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีกโจชัวนั่งนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของรถม้า ดวงตาสีฟ้าทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่สายตากลับไม่ได้จับจ้องสิ่งใดโดยเฉพาะ เขาเพียงมองออกไปเพื่อไล่ความไม่สบายใจที่เก็บไว้เท่านั้นเมื่อคืนมันแย่พอสมควรสำหรับเขา แม้ตอนนี้จะเก็บอารมณ์ไว้ แต่ใครที่รู้จักเขาดีพอ ย่อมรู้ว่าเขากำลังอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนเขาถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่ใช่เพราะมันยากหรือเสี่ยงอันตราย แต่เพราะมันทำให้เขานึกถึงอดีต—อดีตที่เขาต้องทนมองดูภรรยาถูกกระทำการทดลองต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากจดจำภาพนั้นฝังลึกเข้าไปในใจ เพื่อเฝ้ารอวันที่จะได้แก้แค้นมาถึงและคนที่ขอให้ทำการผ่าตัดในครั้งนี้ ก็รู้ดีว่าเขาผ่านเหตุการณ์อะไรมา ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังบังคับให้เขาทำ โดยอ้างเรื่องบุญคุณ แม้ว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ และ นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณแล้ว ก็มีแต่ต้องทำแต่สิ่งที่ได้รับหลังจากนั้น…ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดแรกที่ได้รับหลังจากทำการผ่าตัดเสร็จ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ความจริงที่ถูกบิดเบือน

    "ท่านอาร์วิน จอมเวทย์จากหอคอยเวทมนตร์ต้องการเข้าพบขอรับ"เอรอสในรูปลักษณ์ของอาร์วินลืมตาขึ้นจากความคิด เขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดบอกให้รู้ว่าอีกสักพักใหญ่เอเลน่าถึงจะเดินทางกลับมาที่เมือง ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้เธอเข้ามาวุ่นวายเกี่ยวกับการเจรจาในครั้งนี้แน่นอนว่าหัวข้อเจรจาคงเป็น เรื่องที่อาร์วินถูกจับทรมาณอยู่ในคุกลับใต้ดินตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยที่พวกมันไม่รู้ตัว และ มันก็ยากจะปกปิดเพราะเอเลน่าดันอุ้มเขาออกมากลางถนน...ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะมาก ทำให้ผู้คนต่างเห็นว่าพวกเราออกมาจากพื้นที่ของหอคอย และ มันกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทำไมชายที่หายตัวไปถึงออกมาจากที่นั้น? หรือว่าหอคอยจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวคู่หมั้นของตระกูลวัลธอเรนจริงๆ?และที่สำคัญยิ่งกว่า...คนที่จับตัวมาจริงๆมันหายไปไหน เขารู้อะไรรึเปล่า? แล้วในการทอดสอบ เขาได้รับอะไรกลับมา นั้นคือสิ่งที่พวกมันอยากรู้จริงๆเขาหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดต่อว่า… แต่ก็พอดี เขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงต้องเผาโรงพยาบาล ในหนังสือพิมพ์ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้ชี้แจงอะไร ถ้าอยากรู้ก็คงต

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 40 ในที่สุด ฉันก็เจอคุณ

    ภายในห้องพักที่เงียบสงัด แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่าง ความทรงจำพร่าเลือนราวกับเป็นเพียงเงาของอดีตค่อยๆไหลซึมหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับเป็นลางบอกเหตุถึงเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นเธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองได้ไปสถานที่แห่งหนึ่งกับชายคนนึง จำได้ว่าได้รับขนมรสขมและชาสมุนไพรจากหมอคนนั้น และ หลังจากนั้น……ว่างเปล่าคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในอก‘…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?’ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา สาวใช้ในชุดเครื่องแบบสีเรียบก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สงบนิ่ง ราวกับไม่รู้ว่าคนในห้องได้สติอยู่ เธอถือพานน้ำชาที่ควันลอยขึ้นเป็นสายบางๆ วางลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างนุ่มนวลเมื่อสาวใช้หันกลับมา สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับหญิงสาวที่กำลังลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง สีหน้าที่เรียบนิ่งของสาวใช้ก็เปลี่ยนไปในทันที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มหน้านอบน้อม“คุณ...คุณฟื้นแล้วหรือคะ?” เสียงของเธอแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความโล่งใจ“ข้า...ข้าขอโทษที่เข้ามารบกวน ข้าจะรีบไปแจ้งท่านอาร์วินให้ทราบในทันที”ชื่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status