ในห้องพักสำหรับผู้บริหารภวิชต้องพยายามควบคุมอารมณ์อย่างมากเพื่อจะเคลียเรื่องวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น เขากำลังประเมินชาวต่างชาติสองคนข้างหน้าว่าที่มาก่อกวนต้องการอะไรกันแน่
“ คุณว่าคนของผมไม่มีมารยาท และโรงแรมผมไม่มีความปลอดภัยในการดูแลทรัพย์สินใช่ไหม ” เขาพูดในขณะที่หันหลังให้ฝรั่งทั้งสองคนที่ยืนมองพฤติกรรมของเขา
“ ก็ใช่หน่ะสิเครื่องเพรชชุดใหญ่ของฉันหายไปถ้าไม่อยากตกเป็นข่าวก็จ่ายค่าเสียหายมาซะ ” หึๆภวิชหัวเราะในลำคอที่มันกล้าต่อรองกับเขาไม่ต้องกลัวความเสียหายแล้วมั้งในเมื่อไอ้ฝรั่งสองคนนี้สร้างไว้ให้เขาแล้วเมื่อครู่....แต่เขาจะไม่ให้เสียชื่อเขาแน่นอน
“ ถ้างั้นผมมีข้อเสนอ ขอผมตรวจสอบได้ไหมถ้าคุณยืนยันอย่างนั้น ” เขาพูดใจเย็นทั้งๆที่ใจร้อนระอุ ชาวต่างชาติหันมองหน้ากันเพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าคนเบื้องหน้ามาแบบไหนแต่ฟังจากน้ำเสียงคงไม่มีอะไร
“ ได้ ” คำตอบนี่ทำให้ภวิชยิ้มร้ายที่มุมปากน้ำเสียงที่ฟังดูใจเย็นนั่นเป็นอีกวิธีเพื่อดูท่าทางอีกฝ่ายก็เท่านั้น
“ อีกอย่างที่ผมจะบอก ” เขาหันหน้ามาประชัน ก่อนจะพูดต่อว่า
“ คนที่ทำความผิดที่นี่ย่อมมีโทษ ถ้าขโมย โทษคือตัดมือ! ” คำพูดตอนจบทำให้ชาวต่างชาติสองคนถึงกับกลืนน้ำลายฝืดๆลงคอคำแย้งต่างๆไม่มีผลแล้วเมื่อภวิช พยักเพยิดหน้าให้ทัชเป็นคนเปิดทีวีที่ติดกล้องวงจรปิดที่เห็นได้ทั่วโรงแรม สองคนที่สร้างกระแสเริ่มอยู่กับที่ไม่ติดในขณะที่ภวิชเริ่มก้าวเข้ามาเรื่อยๆการได้เห็นร่างยักษ์ทั้งสองที่หันซ้ายหันหวาในกล้องวงจรปิด พร้อมกระเป๋าสีดำใบนึงในมือที่พยายามจะยัดใต้ฝ้าเพดานภายในชั้นวางของใกล้ๆโรงครัว ชัดเจนแล้วว่าคนที่ขโมยไม่ใช่ใคร ก็พวกมันนั่นแหล่ะ ตอนนี้ก็แค่รอเวลา
“ ก๊อกๆ ”เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมบานประตูที่เปิดออก
“ เจอแล้วครับนายเป็นเพรชจริงๆ แถมมียาไอซ์ในนี้ด้วยครับ ” สายชลเข้ามารายงานพร้อมชูกระเป๋าดำที่เขาพบในแถวๆโรงครัวใต้ฝ้าตามที่ดูในกล้องวงจรปิดอีกห้องนึงและไปหาตามที่เจ้านายสั่ง ภวิชมองต่างชาติสองคนที่เริ่มเหงื่อตกไหนๆก็จะตายแล้วสู้ให้สุดเลยเว้ย คิดในใจพร้อมง้างหมัดหมายจะทำร้ายภวิช ไวเท่าความคิด
ภวัชดึงมีดพกจากกระเป๋าหลังแล้วใช้ลำแขนซ้ายดันอกชาวต่างชาติให้ติดกำแพงด้วยความเร็วมือด้านขวาที่ถือปลายมีดไม่ห่างจากคอทำให้จำต้องยืนนิ่งๆ
“ บอกมาว่าใครใช้แกมาทำแบบนี้ไอ้โทนี่สินะแกรู้ไหมว่าโทษการใส่ร้ายคนอื่นเป็นยังไง!!! ” เขาตวาดใส่อย่างหมดความอดทน สายชลวิ่งเข้ามาคว้าร่างชายผมทองที่จะทำร้ายเจ้านายเมื่อเจ้านายผละออกแล้วอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากกฤษและทัชที่เข้าไปลากชายอีกคนที่ผมยาวกว่าคนแรกมาซัดไปหลายหมัดจนหน้าระบมและบังคับให้มันคุกเข่ากับพื้นแต่ท่าทางขัดขืนเต็มที่ของคนผมทองที่จะทำร้ายนายทำให้สายชล กระชากผมแล้วกดหัวมันให้อยู่บนโต๊ทำงานของเจ้านายอย่างแรง...พูดไปอาจเว่อร์ที่ต่างชาติร่างยักษ์สู้แรงของผู้ชายสูงโปร่งและสมส่วนอย่างสายชลไม่ได้ สายชลมีหน้าตาที่หล่อคม สูงสง่าพอๆกับเขาบอดี้การ์ดเขาทั้งสามหน้าตาดีๆทั้งนั้นแต่ก็โหดมากเช่นกันเวลาโมโหโดยเฉพาะคนที่ใจเย็นอย่างสายชล ได้โมโหที ทัชและกฤษต้องยอม
“ ฉึก...อ๊า!!!! ” เสียงร้องโหยหวนของเพื่อนทำให้อีกคนที่โดนล็อคตัวไว้ไม่กล้าขยับมีดที่กรีดลึกจนเห็นกระดูกอ่อนตรงข้อนิ้วและก็ยิ่งกดลึกลงยิ่งกว่าเดิมซึ่งคนที่ทำก็คือภวิชนั่นเอง
“ อ๊ากกกกกก ไม่!!!!”
“ กึก ” นิ้วกลางที่ชูให้เขาเมื่อก้าวเข้ามาในห้องตอนนี้ภวิชเขี่ยมันลงพื้น พร้อมโยนมีดลงบนพรหมสีแดงที่ตอนนี้มีเลือดนอง
“ เอาไปจัดการ เออแล้วไอ้นิ้วเนี่ย ไปห่อของขวัญให้ฉันหน่อยนะจะส่งไปเซอร์ไพร์สไอ้โทนี่หน่อย ” อุตส่าห์ปลอมชื่อเพื่อเข้ามากวนเขาต่อให้เก่งแค่ไหนเขาก็สืบจนได้นั่นแหล่ะสายชลกระชากคอคนที่เพิ่งเสียนิ้วไปให้เงยหน้าขึ้น หน้าสีแดงด้วยความโกรธจัดพร้อมชาที่ฝ่ามือ แววตาและความเกลียดชังมองชายตรงหน้าอย่างไม่วางตา ภวิชเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วบีบคางที่มีเคราเขียวๆแล้วบีบแรงๆสายชลล็อคแขนแน่นเมื่อคนที่จับอยู่ดิ้นอย่างแรง
“ ไม่ต้องห่วงฉันจะสั่งเสียไอ้โทนี่ให้แกเอง ฟึ่บ” ใช่ไมเคิล..ลูกน้องของโทนี่อดีตสหายเก่าก่อนที่เขาจะเปลี่ยนกลายมาเป็นศัตรูกันครั้งที่เจอกันล่าสุดตอนไปงานประมูลเขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นชาวต่างชาติคนนี้ที่ไหนเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นคนติดตามโทนี่ครั้งล่าสุด ก่อนจะสะบัดมือปล่อยจากคาง
“ กะแก..” ไมเคิลมองอย่างแค้นที่คนตรงหน้าเรียกชื่อเขาทั้งๆที่เขาเปลี่ยนชื่อในพาสปอร์ตที่เขาปลอมขึ้นมาเพื่อพักที่นี่แล้วเชียว
“ แต่ก็ดีเหมือนกันเวลาตายจะได้ไม่มีใครรู้..หึๆ เอามันสองคนไปโยนให้ปลาฉลามเล่นหน่อยสิ ” เขาพูดเสียงร้องพร้อมรอยยิ้มสะใจ ถ้าคนทั่วไปเขาจะไม่ฆ่าแต่นี่ดันเป็นศัตรูที่เข้ามาถ้ำเขาเสียด้วย ปล่อยไปเขาคงโง่
ตกเย็น มินตราที่รู้สึกตัวแล้วจึงลุกไปล้างหน้าล้างตา....ได้พักแล้วค่อยดีขึ้นหน่อย ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งร่างบางชะเง้อไปมองแล้วก็ต้องยิ้มเมื่อเป็นคนที่คุ้นเคย...
“ คุณมินดีขึ้นไหมค่ะ ”คนเข้ามาทักเสียงหวานพร้อมเสื้อผ้าที่อยู่ในมือ
“ ดีขึ้นมากแล้วค่ะป้าแก้ว ”
“ งั้นลองไปสูดอากาศข้างนอกไหมค่ะอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้นะ ”
“ จริงหรอค่ะ ที่นี่ที่ไหนค่ะป้าแก้ว ” หล่อนถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าครั้งแรกก็ยังไม่ได้ถามเลยนี่นา
“ ภูเก็ตค่ะ ”
“ ห๊ะ ภูเก็ตหรอคะ”
“ ค่ะ ” คำตอบนี้ทำให้เจ้าตัววิ่งพรวดตรงไปที่ผ้าม่านแล้วเปิดออกอย่างรวดเร็วสิ่งที่เธอเห็นคือทะเลและหาดทรายต้นมะพร้าวและรอบๆเป็นธรรมชาติอยากเห็นภาพทั้งหมดรวมทั้งตัวบ้านจริงๆว่ามันจะสวยขนาดไหนแววตาสดใสและฉายแววกังวลอีกครั้ง
“ คือ ป้าแก้วค่ะ พอมีโทรศัพท์ให้หนูยืมไหมคะ พอดีกระเป๋าสะพายหนูหายไปไหนไม่ทราบหนูจะโทรหาพ่อกับน้อง ”
“ อะเอ่อคะคือ ป้าไม่มีหรอกค่ะที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของนายหัวเขา อีกอย่างคลื่นก็ไม่มีด้วยค่ะ ” ป้าแก้วจำต้องโกหกเพราะเจ้านายสั่งไว้
“ เกาะส่วนตัวหรอค่ะ ” มินตราถามอีกครั้ง
“ ค่ะ ”
“ นายหัวของ ป้าแก้วคงใจดีมากเลยนะคะถึงได้กล้าช่วยคนที่ไม่แม้แต่จะรู้จักอย่างหนู ” ในเมื่อโทรก็ไม่ได้จะออกจากเกาะก็ไม่ได้หล่อนต้องอยู่ตามสภาพไปก่อน
“ ค่ะ นายหัวเป็นคนใจดี เข้าใจลูกน้องทุกคน แต่ก็เป็นคนเด็ดขาดเช่นกันนะคะ ป้าว่าคุณมินไปอาบน้ำก่อนดีไหม จะได้สดชื่นขึ้น อะนี่ค่ะเสื้อผ้า คุณมินคงใส่ได้นะคะ ” ป้าแก้วเสนอแนะพร้อมยื่นชุดที่ถือมาในมือให้ว่าที่นายหญิงด้วยรอยยิ้ม.....มินตรายิ้มหวานพร้อมยื่นมือไปรับเสื้อผ้ามาไว้ในมือ
“ ขอบคุณมากๆนะค่ะป้าแก้ว ” ร่างบางพนมมือยกขึ้นไหว้อย่างงดงาม ป้าแก้วรับไหว้เช่นกัน ว่าทีนายหญิงนิสัยน่ารักขนาดนี้มีหวังนายหัวเขาคงรักหัวปักหัวปลำเป็นแน่
“ งั้นมินขอตัวอาบน้ำก่อนนะคะ ” การสนทนาสิ้นสุดเมื่อร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไปจากนั้นป้าแก้วก็เดินออกไปจากห้องนอน นึกสงสัยที่ทัชโทรมาบอกให้จัดห้องให้หญิงสาวด้วยแต่ไหงกลับเป็นว่าห้องนอนนั้นก็ยังไม่ได้ใช้เพราะหญิงสาวได้ใช้ห้องที่อภิสิทธิ์มากกว่านั้นเยอะ นั่นคือห้องนอนนายหัวที่ไม่มีใครจะกล้าเข้ามายุ่งเพราะเป็นห้องส่วนตัว จะมีก็ห้องทำงานที่เยื้องไปหน่อยเท่านั้นแต่ห้องทำงานก็ติดกับห้องนอนซะด้วยสิความข้องใจกระจ่างเมื่อนายหัวประกาศออกมาว่าเธอคือว่าที่นายหญิงของเกาะนี้
ความผ่อนคลายที่ได้นั่งแช่ในอ่างน้ำทำให้หล่อนรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากเลยทีเดียวจนลืมเวลาที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังมีคนกำลังจะกลับมาพลางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นถ้าวันนั้นไม่ลืมกินข้าวไปก็คงไม่เป็นลม ถ้าไม่ต้องหนีเจ้าหนี้เพื่อหาสมัครงานและความเครียดจากน้องที่เริ่มโตขึ้นทุกวันช่วงที่เที่ยวและมั่วสุมกับกลุ่มเพื่อนๆ น้องชายของเธออายุ 18 ปีนี้ทำให้เธอยิ่งห่วงนักร่างบางเอนหัวพิงขอบอ่างหลับตาช้าๆ ขอเวลาอย่างนี้อีกสักพักเดี๋ยวจะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง
“ แกร๊ก ” ลูกบิดประตูที่เปิดขึ้นพร้อมร่างเจ้าของห้องที่ขยับไทด์ออกเล็กน้อยพร้อมปิดประตูห้อง กระเป๋าเอกสารวางบนโต๊ะทำงานตามด้วยสูทวางพาดกับเก้าอี้ วันนี้เจอปัญหาเยอะจริงๆ คืนนี้สินะที่ต้องเล่นงานคนทรยศรวมถึงได้สองตัวที่มาป่วนเขาอีก ก็ดีเล่นกับคนอย่างเขาก็ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ ชายหนุ่มคิดพร้อมมองนาฬิกา ทุ่มนึงแล้วหรอเนี่ย ไวเสียจริง จริงด้วยสิ ป้าแก้วโทรบอกเขานี่ว่ามินตราตื่นแล้ว มุมปากยิ้มยกกว้าง ไหนขอดูหน่อยสิหน้าตายามตื่นวันนี้ทำงานมาทั้งวันแล้ว ภวิชพาร่างสูงโปร่งของตัวเองเปิดประตูห้องทำงานที่เชื่อมกับห้องนอนออก คิ้วขมวดอีกครั้งเมื่อไม่พบคนที่ตัวเองต้องการเจอ เขากวาดสายตาไปรอบห้อง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมนี่นา เขาขยับไทด์ตรงคอออกแล้วโยนใส่ตะกร้า ก่อนจะเงี่ยหูฟัง เสียงน้ำที่ไหลในห้องน้ำ ทำให้คิ้วที่เป็นปมค่อยๆคลายออก ที่แท้ก็อาบน้ำนี่เอง เขาเดินกลับมาตรงที่นอน ก็พบว่ามีชุดวางอยู่ขอบๆเตียง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พุดขึ้นอีกครั้ง พลางนึกถึงสิ่งที่เพิ่งสั่งให้ลูกน้องจัดการป่านนี้คงเสร็จแล้วมั้ง ก่อนที่เขาจะกระโจนขึ้นนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวันกลางเตียงกว้าง
“ แกร๊ก ” เสียงประตูห้องน้ำ พร้อมร่างบางที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูปิดหน้าอกที่อิ่มเท่านั้นกับผ้าผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดผม ลืมอะไรไม่ลืมดันลืมเสื้อผ้าไว้ข้างนอกซะนี่
“ อุ๊บ ”ร่างบางยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อพบกับชายร่างสูงสง่าที่หลับตาพริ้มนอนหงายแต่หากใบหน้ากลับมองออกไปทางกระจกใสที่มีม่านปิดไว้ผิวขาวตัดกับผมทรสูงที่เซ็ทตั้งสีดำ เสื้อเชิ้ตที่แบะออกเล็กน้อยเผยให้เห็นอกแกร่งจนหล่อนหน้าแดง กล้าๆกลัวๆ ค่อยๆยื่นมือสั่นๆไปหยิบชุดที่อยู่ข้างๆเขาอย่างเบามือ เพราะกลัวคนที่หลับอยู่จะตื่น ก่อนจะรีบหมุนเพื่อเดินกลับเข้าห้องน้ำ
“ อร้าย ฟึ่บ อุ๊บ ” เสียงกรีดร้องที่โดนมือหนาที่หล่อนนึกว่าหลับ กระตุกคว้าลงบนที่นอนแล้วตามด้วยการจูบที่ส่งให้หล่อนโดยไม่ทันตั้งตัว ใครบอกหล่ะว่าเขาหลับ เขาแค่พักสายตาเท่านั้นเอง เนินอกสาวที่มีเพียงผ้าขนหนูปิด สัมผัสอกแกร่งของเขา จนหัวใจเต้นแรง
“ อะอือ ” อาการตกใจตอนแรกเปลี่ยนเป็นดิ้นและทุบตี แต่ก็ไม่สามารถทำให้ร่างสูงสะเทือนสักนิดจูบที่รุนแรงในตอนแรกเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลและอ่อนหวาน จนหญิงสาวหายใจแทบไม่ออกการดิ้นรนตอนแรก ทำให้หล่อนเริ่มหมดแรง ภวิชต้องยอมถอนจูบอย่างเสียดายเพราะเห็นว่าหล่อนเริ่มจะขาดอากาศหายใจซะแล้ว เลือดในกายเขายิ่งร้อนรุ่มมากขึ้นเมื่อเห็นหน้าหล่อนที่มองเขาอย่างตกใจ ผมที่เพิ่งผ่านการสระมานั้นมันชวนให้น่ามองเพราะดูเซ็กซี่เหลือเกิน ไหนจะผ้าขนหนูผืนนิดนี่อีก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องการให้หล่อนพร้อมใจกับเขาละก็นะ เขาจะกระตุกผ้าผืนนี้ให้พ้นแล้วคงห้ามใจตัวเองไม่ได้เป็นแน่ ในไม่กี่วิจากนั้น ร่างบางก็ดันอกแกร่งออกแล้วเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกระชับผ้าขนหนูแน่นกว่าเดิม หล่อนลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าแล้วตรงเข้าห้องน้ำทันที ด้วยความที่ตกใจทำให้พูดอะไรไม่ออก ภวิชมองตามหลังหล่อนจนลับสายตา พลางทำเสียง จิจ้ะ ขัดใจที่ตัวเองดันเผลอทำอะไรลุ่มล่ามแบบไม่คิดแต่ก็ยิ้มอีกครั้งที่รู้ว่าหล่อนไร้เดียงสาซะเหลือเกิน ที่ไม่เป็นประสากับการจูบเลยสักนิด ไม่นานรอยยิ้มก็หุบลงเมื่อคนที่เขาเพิ่งขโมยจูบก้าวออกจากห้องน้ำมาด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ ผมยังคงชื้นอยู่ เสื้อยืดสีน้ำตาลหลวมๆ กางเกงเลย์สบายๆ ไม่ได้ทำให้ใบหน้างามนั้นน่าดูน้อยลงสักนิด ภวิชต้องกลั้นยิ้มกลับท่าทางของคนร่วมห้องที่ทำเหมือนเขาเป็นคนโรคจิต ต่างจากอีกคนที่ใจเต้นรัวจนแทบจะยืนไม่อยู่
“ เอ่อ คือว่า ผม....นึกว่า เป็นผู้หญิงที่ลูกน้องหามาให้คลายเคลียดหน่ะ ขอโทษที ” เมื่อเห็นว่าเขาพลาดครั้งใหญ่ที่ทำลายความไว้ใจของสาวตรงหน้าทำให้ต้องตีหน้าตายหาคำแก้ตัวทั้งๆที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมาที่เกาะนี่สักคนหรือแม้แต่จะย่างกายขึ้นมาห้องส่วนตัวของเขาก็ยากและเป็นไปไม่ได้
“ อะ อ๋อ คะ ค่ะ มะ ไม่เป็นไร ” ถึงจะพูดว่าไม่เป็นไรแต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้อยู่ดี ผู้หญิงคลายเคลียดงั้นเหรอ เหอะผู้ชาย หื่นเป็นบ้า ร่างบางคิดในใจโดยไม่รู้เลยว่าเขามองหล่อนทุกนาทีและไอ้หน้าตาที่ทำหน้าตำหนิเขาในใจมันทำให้เขากลั้นยิ้มแทบไม่อยู่แต่ก็ตีหน้าตายเหมือนเดิม
“ มินตรา ชื่อนี้ มินตรา ชื่อคุณใช่ไหม ” เขาพูดขึ้นพร้อมเอี้ยวตัวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนของตัวเองหยิบเอาเอกสารในลิ้นชักหัวเตียงมาให้เธอ ความกังวลเริ่มน้อยลงเมื่อไม่เห็นว่าเขามีทีท่าที่จะละลาบละล้วงเธออีกแต่ก็ยังอดหวั่นไม่ได้
“ อ่อ ค่ะ ”
“ รับไปสิ นี่คือเอกสารของคุณแล้วก็เลิกทำท่ากลัวผมสักที บอกแล้วไงว่าเข้าใจผิด ” เขาตีหน้าขรึม จนร่างบางพยักหน้าแต่ก็อดค้อนเขาไม่ได้ คนเพิ่งโดนขโมยจูบแรกนะ มาสั่งให้เลิกตกใจได้ไงเธอเถียงเขาในใจ
“ อ่อ ค่ะ ” หล่อนค่อยๆเอื้อมมือไปรับ พร้อมเปิดดูว่าเอกสารครบหรือเปล่าพร้อมมองสิ่งของที่ใช้สื่อสารว่าจะมีไหม เพราะถ้าเขาเก็บเอกสารไว้ ไม่เห็นกระเป๋าสะพาย เขาอาจเก็บรวมกันไว้ในซองก็ได้นี่นา แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อมันไม่มี
“ ทุกอย่างอยู่ครบน่า ไม่ต้องห่วง ผมไม่ใช่คนชอบขโมย ” เหมือนเขาจะรู้
“ ปะเปล่านะค่ะ ก็แค่อยากรู้ว่า โทรศัพท์ฉันมันจะอยู่ในนี้ด้วยรึเปล่าเท่านั้น ” ร่างบางบอก เขายังคงทำหน้านิ่งจนร่างบางใจหายกลัวเขาจะว่าหล่อนว่าไม่เชื่อเขา
“ จริงๆนะค่ะ นายหัว ” ร่างบางยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้คิดอย่างที่เขาพูด
“ นายหัวหรอ? ” เขาถามย้ำเมื่อหล่อนเรียกฉายาของเขาเหมือนคนที่เกาะนี้เรียก
“ ค่ะนายหัว ”
“ อ่อ ผมลืมไป ผมชื่อภวิช คุณจะเรียกผมว่าวิชเฉยๆก็ได้นะ ” เขาลุกขึ้นยืนข้างเตียง ทำเอาหญิงสาวถอยหลังอัตโนมัติ คิ้วเขายิ่งขมวดอีกครั้ง แหน่ะดูสิ เพิ่งบอกไปว่าให้เลิกทำท่ากลัวเขาสักที แต่ดูหล่อนจะไม่เชื่อง่ายๆแล้วนะ นี่สงสัยต้องดัดนิสัยยาว เขาคิดอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะทำเป็นไม่สนใจท่าทางของเธอ