LOGINทางด้านกิ๊ก ที่เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ของเพื่อนสาว หวังว่าจะมีการติดต่อกลับมา แต่นี้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ที่เธอเดินกระสับกระส่ายไปมาในห้อง คอนโดของเพื่อนสาวหลังจากที่เธอต้องเป็นฝ่ายไปขยับรถของเพื่อนออกจากผับที่เกิดเรื่องเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กรูกันเข้ามา แต่จากที่เธอเฝ้ามองกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทางเจ้าหน้าคุมตัวไม่มีแม้แต่เงาเพื่อนสาว
“หญ้า!....แกไปอยู่ไหน?....แกต้องไม่เป็นอะไร...แล้วฉันจะเอาหน้าไปเจอ... ‘เขาคนนั้น’...ได้ยังไง?...ช่วยติดต่อกลับมาสักทีเถอะ”
‘รุ่งอรุณ...เช้าวันใหม่’
กอหญ้าที่ขยับตัวหลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มที่...คิ้วบางเริ่มขมวดเข้าหากันทีละน้อยเมื่อดวงตาบ่งบอกถึงเชื้อชาติเริ่มพบสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา ดวงตาเบิกกว้างขึ้น เมื่อสติเริ่มเข้าครอบครองสมอง เมื่อสมองเริ่มทำงาน มือบางเลิกผ้าห่มเล็กน้อย ดวงตาคมที่เบิกกว้างอยู่แล้วกว้างขึ้นอีก เมื่อกอหญ้าเริ่มรับรู้ว่าตัวเองเกือบเปลือยเปล่า เธอสวมเพียงบิกินี่ปกปิดสิ่งล้ำค่าของความเป็นหญิงของเธอเพียงชิ้นเดียว เนื่องจากกอหญ้าไม่ใช่คนขี้ตกใจอะไร แต่สำหรับเรื่องนี้มันเกินกว่าที่เธอจะไม่ตกใจไม่ได้....สายตาเร็วทันสมองเมื่อบนร่างกายเธอเหนือผ้าห่มมีวงแขนใหญ่โอบรัดเธออยู่
“….มันไม่ใช่เรื่องจริง!...หญ้าแกกำลังฝัน” กอหญ้าปิดเปลือกตาลงทันที พร้อมกับร้องบอกตัวเองในหัว ไม่เปล่งเสียงอะไรออกมาทั้งสิ้น
แต่เมื่อดวงตาคมเปิดขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากเม้มปิดสนิททันที ร่างบางเกร็งแข็งอย่างอัตโนมัติ กอหญ้าพยายามหายใจเข้าหายใจออก ย้ำเตือนตัวเองว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ‘สติ’.... ‘สติ’ แต่แล้วเมื่อดวงตาค่อยๆเลื่อนขึ้นไปมองหน้าเจ้าของวงแขนนั้น.... “...อุ๊บ!!!!....พระเจ้า!!!!....” กอหญ้าปิดปากกลบเสียงร้องในคอทันที ถึงแม้เขาจะหลับอยู่แต่เธอก็จำเขาได้!...คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์
“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับฉันเนี่ย!!!...พ่อจ๋า!...หญ้าต้องทำยังไง...” ในขณะที่กอหญ้ากำลังกระวนกระวายอยู่ในใจ.....
“ตื่นแล้วเหรอ?...” กอหญ้าดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งทันที เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่ใช่เสียงของตัวเอง
“อื้ม...ๆ...อื้ม...” กอหญ้าตอบกลับด้วยการพยักหน้าและเสียงในคอ และค่อยๆขยับร่างบางของตนถอยห่างจากข้างกาย คริสต์ ที่ยังนอนในท่าเดิม โดยที่วงแขนยังพาดไว้บนตัวเธอ ถึงแม้จะมีผ้าห่มขวางกั้นอยู่ก็ตาม
คริสต์มองหญิงสาวที่พยายามจะเอาตัวเองหายเข้าไปในใต้ผ้าห่ม “แม่คุณ...มันไม่สายไปหน่อยเหรอ?” คริสต์แอบคิดขำๆในใจ
“จำอะไรได้บ้าง?” คริสต์ถามกลับ พร้อมกับขยับเท้าแขนข้างที่ว่าง เพื่อหันมาคุยกับเธอ และตั้งใจไม่เอาแขนที่พาดบนตัวเธอออก เขาก็แค่จะแหย่! แกล้งเธอเล่น ขำๆ เพราะยิ่งเห็นท่าทางแบบนี้แล้ว ยิ่งอยากแกล้ง...
“โอ้ย!...แล้วทำไมต้องมาถามและอยากรู้เอาตอนนี้...หลังจากนี้ไม่ได้ เหรอ...แล้วทำไมไม่เอาแขนบ้า!นี้ออกไปสักที...มันหนักนะ!!!” กอหญ้าคิดในใจ และให้คำตอบกับคำถามของคริสต์เป็นการส่ายหน้าไปมา โดยที่ยังคงใช้ผ้าห่มปกป้องใบหน้านั้นอยู่ครึ่งอยู่ เพราะเธออยากจะให้มันจบๆ เร็วๆ สักที
คริสต์อมยิ้ม...ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าเธอกำลังเขินอาย และต้องการหลบหน้าหลบตาเขา...
“เฮ้ย!!!!....ฉันคงลีลาแย่มาก!...จนไม่เป็นที่จดจำเลย” คริสต์แกล้งเปรยออกไปด้วยเสียงที่เศร้าเสียใจ...
“ห๊า!!!!....อะ...อะไรนะ!!!....” เสียงแรกของกอหญ้าที่ฟังเป็นคำ ดังออกมา อย่างตกใจพร้อมกับลดผ้าห่มเปิดเผยใบหน้าของตัวเองมากขึ้น พร้อมเปิดเผยดวงตาที่โตจ้องมองใบหน้าคริสต์
“ฉันบอกว่า!...ลีลาของฉันคงไม่เป็นที่ประทับใจของเธอล่ะสิ...เธอถึงจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนนี้เราสองคน...” คริสต์หยุดพูดพร้อมส่งสายตาสื่อความประสานไปกับดวงตานั้น
“……….” กอหญ้าเกิดอาการหาเสียงของตัวเองไม่เจอ ดวงตาเบิกกว้าง นิ่ง ร่างกายเธอนิ่ง ช็อค!!!...ใช่เธอช็อค! กับสิ่งที่ได้ยิน...
“เฮ้!!!...” คริสต์ขยับตัวลุกนั่งทันทีอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็นิ่งไปเฉยๆ สองมือเข้าจับไหล่บางพร้อมกับเขย่าร่างบางเบาๆ “...คุณ...คุณ...เธอ...เป็นอะไรไป” ตอนนี้เป็นคริสต์ที่เริ่มใจไม่ดี ตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งเคยเจอผู้หญิงที่ร้องแหกปากกับเขาไม่เป็น...
“ยายเด็กบ้า!...เพี๊ยะ!!!”
“โอ้ย!...” กอหญ้าร้องออกมา เมื่อใบหน้าเธอกลายเป็นแหล่งเกิดเสียง เมื่อมือใหญ่ของคริสต์สัมผัสที่มากกว่าคำว่าอ่อนโยน จนทำให้แก้มเนียนแดงเล็กน้อย “...ฉันเจ็บนะ!...”
“ค่อยยังชั่ว...คิดว่าตายทั้งๆที่ยังหายใจอยู่” คริสต์พูดพร้อมกับยิ้มออกมา “บ้าเหรอเปล่าคุณนะ!...ตบเข้ามาได้...ฉันก็เจ็บเป็นนะ” “ใครจะไปรู้ล่ะ!...แหย่เล่นแค่นี้ถึงกับช็อคไปเลย...”“แหย่เล่น?...คนบ้านี้คุณหลอกฉันเหรอ?...” คริสต์รีบลงจากเตียง เมื่อหญิงสาวกำลังจะดึงหมอนมาฟาดเขา คริสต์ยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่ลุกขึ้นมานั่ง แต่ไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มกระชับกายมากขึ้น แต่ใครเล่าจะเข้าใจ ‘รอยยิ้ม’ แบบนั้นของคริสต์คงไม่มี นอกจากเจ้าตัว.... คริสต์เดินเข้าห้องน้ำไป... กอหญ้ามองตามจนคริสต์หายเข้าไปในห้องน้ำ สายตาก็เริ่มทำงานในภารกิจแรกทันที คือมองหาเสื้อผ้าของตนเอง ‘ว่างเปล่า’ “บ้าจริง!....ป่านนี้ยายกิ๊กคงเป็นห่วงแย่แล้ว” กอหญ้าพึมพำกับตัวเอง เมื่อเธอหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ เธอขยับตัวอย่างระมัดระวังและรวบผ้าห่มที่คลุมกายกระชับมากขึ้นและจัดให้ขาของเธอสามารถเดินได้ กอหญ้าเห็นเครื่องมือสื่อสารของคริสต์วางไว้ เธอรีบคว้าขึ้นมาและกดเพื่อเปิดหน้าจอ...ล็อค!...มันล็อค...แน่นอนมันต้องล็อค!...เอาว๊ะ!!! “คุณ!...ก็อกๆๆๆ....ได้ยินฉันม
ทางด้านกิ๊ก ที่เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ของเพื่อนสาว หวังว่าจะมีการติดต่อกลับมา แต่นี้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ที่เธอเดินกระสับกระส่ายไปมาในห้อง คอนโดของเพื่อนสาวหลังจากที่เธอต้องเป็นฝ่ายไปขยับรถของเพื่อนออกจากผับที่เกิดเรื่องเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กรูกันเข้ามา แต่จากที่เธอเฝ้ามองกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทางเจ้าหน้าคุมตัวไม่มีแม้แต่เงาเพื่อนสาว “หญ้า!....แกไปอยู่ไหน?....แกต้องไม่เป็นอะไร...แล้วฉันจะเอาหน้าไปเจอ... ‘เขาคนนั้น’...ได้ยังไง?...ช่วยติดต่อกลับมาสักทีเถอะ”‘รุ่งอรุณ...เช้าวันใหม่’ กอหญ้าที่ขยับตัวหลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มที่...คิ้วบางเริ่มขมวดเข้าหากันทีละน้อยเมื่อดวงตาบ่งบอกถึงเชื้อชาติเริ่มพบสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา ดวงตาเบิกกว้างขึ้น เมื่อสติเริ่มเข้าครอบครองสมอง เมื่อสมองเริ่มทำงาน มือบางเลิกผ้าห่มเล็กน้อย ดวงตาคมที่เบิกกว้างอยู่แล้วกว้างขึ้นอีก เมื่อกอหญ้าเริ่มรับรู้ว่าตัวเองเกือบเปลือยเปล่า เธอสวมเพียงบิกินี่ปกปิดสิ่งล้ำค่าของความเป็นหญิงของเธอเพียงชิ้นเดียว เนื่องจากกอหญ้าไม่ใช่คนขี้ตกใจอะไร แต่สำหรับเรื่องนี้มันเกินกว่าที่เธอจะไม่ตกใจไม่ได้....สา
“คริสต์!!!...” กัณฑ์ที่ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับการ์ด “...แกต้องออกจากที่นี่...เดี๋ยวเจ้าหน้าที่กำลังเข้ามา...อ้าว!...เฮ้ย!!!...ใครว๊ะ?” กัณฑ์ที่จะเข้ามาพาเพื่อนออกจากที่นี่ ก็เจอกับหญิงสาวที่สวมเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนต์สีเข้มเข้ารูป นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาตัวยาว “ไม่รู้ว๊ะ!...น่าจะโดนลูกหลงจากเหตุการณ์ข้างนอก” “แกต้องรีบออกจากที่นี่นะ!...แล้วเอาไงกับผู้หญิงคนนี้” คริสต์หันไปมองใบหน้าหวานที่สลบไม่ได้สติ เธอคงตกใจมากจนหมดสติ “คงต้องเอาไปด้วย...ฟื้นแล้วค่อยว่ากัน” คริสต์ที่ตัดสินใจแล้วก็ขยับช้อนตัวอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขน กัณฑ์พยักหน้าให้ลูกน้องเมื่อเพื่อนพร้อมแล้ว คริสต์อุ้มกอหญ้าที่ไม่ได้สติเดินไปยังทางออกหลังร้าน ที่รถของกัณฑ์จอดอยู่ กัณฑ์ขอกุญแจรถของคริสต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าและส่งกุญแจคอนโดของตัวเองให้กับคริสต์ “คืนนี้แกไปพักที่คอนโดฉันก่อน ส่วนรถของแกเดี๋ยวฉันให้เด็กขยับไปจอดที่อื่น...ขอโทษด้วยว๊ะ!...” คริสต์ที่เข้ามานั่งเบาะหลังโดยมีกอหญ้าอยู่ในอ้อมแขน บอกกัณฑ์ว่าไม่เป็นไร “...พาคุณคริสต์ไปส่งที่คอนโดฉัน...” ป
Grrrr Grrrr กอหญ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงเครื่องมือสื่อสารของนักศึกษาที่เธอช่วยไว้ดังขึ้นมา “…ขอเสียมารยาทนะคะ...” กอหญ้ากล่าวออกมาพร้อมกับหยิบเครื่องมือสื่อสารของเพื่อนนักศึกษาออกมา “คุณพ่อ...” กอหญ้ากรอกเสียงตามคำที่โชว์ตามหน้าจอ และเมื่อปลายสายขานรับ เธอแจ้งเรื่องราวให้ทราบโดยทันที... และผลสรุปออกมาก็คือ เพื่อนนักศึกษาคนนั้น มีอาการแพ้อาหารทะเล และจากการซักถามเธอคงไปทานบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามีหอยแมลงภู่เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย จึงทำให้อาการกำเริบอย่างที่เห็น และตั้งแต่วันนั้น กอหญ้า กับ กิ๊ก ก็เป็นเพื่อนที่สนิทและเป็นที่ปรึกษาของกันและกันมาโดยตลอด การสังสรรค์ เฮฮาของเหล่านักศึกษาที่ไม่ใช่มีเพียงกลุ่มของพวกเธอ เพราะคลับแห่งนี้ในคืนนี้เต็มไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นมากมาย กอหญ้า และ กิ๊ก ก็สนุกไปกับเพื่อนๆที่ทั้งร้องและเต้นกันตามประสา “กิ๊ก...หญ้าไปห้องน้ำก่อนนะ” กอหญ้าหันไปกระซิบกับเพื่อนสาว “ฉันไปเป็นเพื่อน” “ไม่เป็นไร...ห้องน้ำไกล้แค่นี้เอง...ฝากกระเป๋าด้วย” กอหญ้าเดินออกไปจากกลุ่ม เพื่อไปยังห้องน้ำ “...ว้า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า....ฉันอยากเห็นนักเขียนคนนี้จริงๆ...ตั้งแต่รู้จักแกมา ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ ‘กล้า หือ กล้า หา’ กับแกเลย” “ยายเด็กบ้านั้น...ปากจัดขนาดนั้น...ใครจะคิดว่าจะเป็นนักเขียน” “เด็กมากเลยเหรอว๊ะ...” กัณฑ์ถามกลับอย่างสงสัย “ไม่รู้ว๊ะ...ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ฉันยังหาเด็กนั้นไม่เจอเลย...คุณแม่กับพี่เขม ถามความคืบหน้าแทบทุกวัน...” “แล้วที่สำนักพิมพ์ละว๊ะ?” “นี่ก็แปลกมาก!...ไม่มีใครสามารถให้คำตอบฉันได้เลยว๊ะ...เขาบอกแต่ว่าเธอไม่เข้า มีอะไรให้ฝากข้อความไว้ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับเลย...ไม่รู้อะไรกันนักหนา” คริสต์พูดจบ พร้อมกับนำน้ำสีอำพันกรอกเข้าปากลงคออย่างคนที่กำลังเซ็งสุดๆ “เท่าที่ฟังแกมา...ฉันเห็นด้วยว๊ะ แปลกจริง ดูมันมีลับลมคมนัยมาก...แล้วแกจะทำยังไงต่อ?...ถ้าเรื่องนี้หลุดจากช่องของแกไป คุณป้ากับพี่เขมคง ส่งค้อนใส่แกวันละหลายๆอันแน่...” “…ทุกวันนี้ ฉันก็ได้รับจนแทบจะแบกไว้ไม่ไหวแล้ว...” คริสต์คำรามออกมา กัณฑ์ได้แต่ยิ้ม และนึกภาพออกทันที เพราะถ้าคุณหญิงศศิธร
“โอเค!...ผมผิดเองครับ!...เพราะผมเสียงดังใส่เธอและเรียกลุงชัดให้มาลากเธอออกไปจากที่นี่...” สิ้นเสียงคำตอบของคริสต์ ดวงตาของคุณหญิงศศิธรและเขมิกาเปิดกว้างอย่างคาดไม่ถึง “เขม!...น้าอยากจะเป็นลม!!!” เสียงของคุณหญิงศศิธรดังขึ้นมา “คุณแม่ พี่เขม มันจำเป็นมากเหรอครับที่ต้องเป็นเรื่องนี้ เราเปลี่ยนไปหาบทประพันธ์เรื่องอื่นมาสร้างเป็นละครก็ได้นะครับ...บอกตามตรงนะครับ ผมไม่อยากร่วมงานกับคนที่ไร้ความเป็นมืออาชีพแบบนั้น” “คริสต์!!!....แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์เป็นคนแบบนี้นะ...การเปลี่ยนเรื่องมันใช่! ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาแบบหนีปัญหา แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์ทำแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ!!! งานนี้คริสต์ต้องเป็นคนแก้ปัญหานี้ให้ได้เพราะเราเป็นคนก่อและสร้างมันขึ้นมา และอีกอย่างไม่ใช่เฉพาะช่องของเรานะที่ต้องการเรื่องนี้มาสร้างเป็นละคร แต่ที่เราได้และขยับได้มาไกลกว่าช่องอื่น เพราะแม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณประจักษ์เจ้าของสำนักพิมพ์ข้อเขียน แม่จะเสียผู้ใหญ่ไม่ได้ และคุณประจักษ์บอกเพียงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เจ้าของผลงานทั้งนั้น...”







