로그인“คริสต์!!!...” กัณฑ์ที่ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับการ์ด “...แกต้องออกจากที่นี่...เดี๋ยวเจ้าหน้าที่กำลังเข้ามา...อ้าว!...เฮ้ย!!!...ใครว๊ะ?” กัณฑ์ที่จะเข้ามาพาเพื่อนออกจากที่นี่ ก็เจอกับหญิงสาวที่สวมเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนต์สีเข้มเข้ารูป นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาตัวยาว
“ไม่รู้ว๊ะ!...น่าจะโดนลูกหลงจากเหตุการณ์ข้างนอก”
“แกต้องรีบออกจากที่นี่นะ!...แล้วเอาไงกับผู้หญิงคนนี้” คริสต์หันไปมองใบหน้าหวานที่สลบไม่ได้สติ เธอคงตกใจมากจนหมดสติ
“คงต้องเอาไปด้วย...ฟื้นแล้วค่อยว่ากัน” คริสต์ที่ตัดสินใจแล้วก็ขยับช้อนตัวอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขน กัณฑ์พยักหน้าให้ลูกน้องเมื่อเพื่อนพร้อมแล้ว
คริสต์อุ้มกอหญ้าที่ไม่ได้สติเดินไปยังทางออกหลังร้าน ที่รถของกัณฑ์จอดอยู่ กัณฑ์ขอกุญแจรถของคริสต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าและส่งกุญแจคอนโดของตัวเองให้กับคริสต์
“คืนนี้แกไปพักที่คอนโดฉันก่อน ส่วนรถของแกเดี๋ยวฉันให้เด็กขยับไปจอดที่อื่น...ขอโทษด้วยว๊ะ!...” คริสต์ที่เข้ามานั่งเบาะหลังโดยมีกอหญ้าอยู่ในอ้อมแขน บอกกัณฑ์ว่าไม่เป็นไร “...พาคุณคริสต์ไปส่งที่คอนโดฉัน...” ประโยคหลังกัณฑ์หันไปเอ่ยกับลูกน้องของตนที่ประจำหลังพวงมาลัย
“ขอบใจ...” คริสต์เอ่ยบอกลูกน้องของเพื่อนที่ขึ้นมาช่วยเปิดประตูห้องเจ้านายของตน คริสต์ที่ในอ้อมแขนมีร่างบางที่ยังไม่ได้สติเดินไปยังห้องนอนที่เป็นบานประตูเปิดแบบอัตโนมัติ ค่อยๆวางร่างบางบนเตียงนอนขนาดใหญ่ คอนโดย่านสุขุมวิทแห่งนี้เป็นหนึ่งในหลายๆห้องของกัณฑ์ที่เพื่อนเขาซื้อไว้ใช้ยามที่พักผ่อนแล้วแต่ว่าเวลานั้นกัณฑ์จะอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพมหานครก็จะเข้าพักห้องคอนโดที่ตัวเองสามารถเดินทางถึงที่ใช้เวลาสั้นๆ ในเมืองหลวงที่มีภาวะรถติดที่ติดอันดับต้นๆของโลกเลยว่าได้....
คริสต์จดจ้องใบหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้ถึงแม้เปลือกตาจะปิดสนิท แต่คิ้วหนาต้องขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อมีแสงสว่างและเวลาเพียงพอในการพิจารณาใบหน้าหวานที่จมูกโด่งเกินกว่าจะเป็นเอเชีย แต่แน่นอนจมูกนี้ได้มาอย่างธรรมชาติ ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีโทนที่เข้ากับผิวหน้า
“…ทำไมถึงรู้สึกคุ้นๆ...แต่ทำไมนึกไม่ออก!” ที่คริสต์ต้องบ่นพึมพำและสงสัยเพราะคนอย่างเขาไม่ใช่คนที่จะลืมอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะเพศตรงข้ามที่จัดว่าเป็นคนที่สวยคนหนึ่งทีเลย สำหรับหญิงสาวตรงหน้า สายตาคมเข้มไล่มองไปเรื่อยๆ ยังเนินผิวที่อยู่เหนือเกาะอกสีดำที่เธอสวมใส่ บ่งบอกถึงหญิงสาวมีสุขภาพดีเพราะผิวของเธอเนียนละเอียดเธอไม่จัดเป็นคนผิวขาวซะทีเดียว แต่ก็ไม่ถึงขั้นสีแทนหรือสีน้ำผึ้ง แต่ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้รูปร่างดีมาก เธอมีช่วงขาที่ยาวเอวคอด เธอไปอยู่ไหนมานะ! คริสต์คิดในใจ
คริสต์ส่ายหน้าก่อนตัดสินใจเข้าห้องน้ำ ผ่านไปยี่สิบนาทีคริสต์ออกมาด้วยชุดใหม่ที่เขาจัดการตัวเองเรียบร้อย เพราะคอนโดของเพื่อนเขาคนนี้คริสต์รู้ดี เพราะเขาเคยมาบ่อยๆ สังสรรค์กันตามประสาเพื่อน
คริสต์กลับมายืนที่เดิมข้างเตียง สายตามองหญิงสาวที่ยังไม่ได้สติอีกครั้ง เพราะอย่างที่บอกที่นี่เป็นห้องของกัณฑ์ที่มีแต่เสื้อผ้าผู้ชาย แล้วเขาจะทำยังไงกับเธอคนนี้ดี? เพราะจะให้เขานอนข้างๆเธอทั้งๆที่เธอยังสวมชุดที่มีกลิ่นของบุหรี่และแอลกอฮอล์ก็คงไม่ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นคริสต์ก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างบางทันที ไอ้เรื่องปลดเปลื้องอาภรณ์ให้กับเพศตรงข้าม ถนัดอยู่แล้วสำหรับคริสต์....
“…ควับ!...” คริสต์ที่พึ่งจะได้หลับไปได้ไม่นานต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมา เมื่อเวลาล่วงมาเป็นอีกวัน หลังจากที่เขาจัดการหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ และเธอก็ไม่มีอะไรติดตัวเลย จู่ๆร่างเกือบเปลือยของเธอเข้ามาเบียดเขาอย่างไม่รู้ตัว
คริสต์จ้องมองใบหน้าที่หลับสนิท ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย แววตาอ่อนแสงลงอย่างไม่รู้ตัว เพราะนี้คงเป็นครั้งแรกของเขาที่นอนเฉยๆกับเพศที่ได้ชื่อว่า ‘เพศหญิง’ และครั้งแรกอีกอย่างที่เขาปลดเปลื้องอาภรณ์อย่างเดียว...ให้กับผู้ที่เรียกว่า ‘เพศหญิง’
“สาวน้อยเธอโชคดีมากเลยรู้มั้ย?....นอนเฉยๆ...และนิ่งๆไว้...เพราะฉันเป็นมนุษย์ผู้ชายที่มีความรู้สึกและความพร้อมในเรื่องลีลารักอย่างเหลือล้น...” คริสต์เอ่ยกับร่างบางที่ยังคงมีลมหายใจสม่ำเสมอ ไม่รับรู้ถึงภัยร้ายที่เธอกำลังจะทำให้มันเกิดขึ้น!
คริสต์กระชับผ้าห่มที่คลุมกายร่างบางให้มิดชิดมากขึ้น เพราะคนอย่างเขาไม่ได้อดเรื่องอย่างว่าถึงต้องลักหลับใคร...แค่เขาชายตากระดิกนิ้ว เขาก็มีให้เลือกมากพออยู่แล้ว แต่วงแขนแข็งแรงก็ต้องขยับกว้างขึ้นเพื่อให้ร่างบางที่เบียดเข้ามานอนหลับอย่างสบายกับไออุ่นจากเขาที่สวมเสื้อผ้าสำหรับนอนครบ ก็ห้องนี้มันห้องของนายกัณฑ์ไม่มีเสื้อผ้าสำหรับเธอคนนี้ และทำไม? อะไร? คริสต์ถึงไม่หยิบเสื้อยืดสักตัวของกัณฑ์มาสวมให้ร่างบางนี้ ซึ่งเรื่องนี้คริสต์ก็หาคำตอบให้กับตัวเองได้....
“ค่อยยังชั่ว...คิดว่าตายทั้งๆที่ยังหายใจอยู่” คริสต์พูดพร้อมกับยิ้มออกมา “บ้าเหรอเปล่าคุณนะ!...ตบเข้ามาได้...ฉันก็เจ็บเป็นนะ” “ใครจะไปรู้ล่ะ!...แหย่เล่นแค่นี้ถึงกับช็อคไปเลย...”“แหย่เล่น?...คนบ้านี้คุณหลอกฉันเหรอ?...” คริสต์รีบลงจากเตียง เมื่อหญิงสาวกำลังจะดึงหมอนมาฟาดเขา คริสต์ยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่ลุกขึ้นมานั่ง แต่ไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มกระชับกายมากขึ้น แต่ใครเล่าจะเข้าใจ ‘รอยยิ้ม’ แบบนั้นของคริสต์คงไม่มี นอกจากเจ้าตัว.... คริสต์เดินเข้าห้องน้ำไป... กอหญ้ามองตามจนคริสต์หายเข้าไปในห้องน้ำ สายตาก็เริ่มทำงานในภารกิจแรกทันที คือมองหาเสื้อผ้าของตนเอง ‘ว่างเปล่า’ “บ้าจริง!....ป่านนี้ยายกิ๊กคงเป็นห่วงแย่แล้ว” กอหญ้าพึมพำกับตัวเอง เมื่อเธอหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ เธอขยับตัวอย่างระมัดระวังและรวบผ้าห่มที่คลุมกายกระชับมากขึ้นและจัดให้ขาของเธอสามารถเดินได้ กอหญ้าเห็นเครื่องมือสื่อสารของคริสต์วางไว้ เธอรีบคว้าขึ้นมาและกดเพื่อเปิดหน้าจอ...ล็อค!...มันล็อค...แน่นอนมันต้องล็อค!...เอาว๊ะ!!! “คุณ!...ก็อกๆๆๆ....ได้ยินฉันม
ทางด้านกิ๊ก ที่เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ของเพื่อนสาว หวังว่าจะมีการติดต่อกลับมา แต่นี้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ที่เธอเดินกระสับกระส่ายไปมาในห้อง คอนโดของเพื่อนสาวหลังจากที่เธอต้องเป็นฝ่ายไปขยับรถของเพื่อนออกจากผับที่เกิดเรื่องเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กรูกันเข้ามา แต่จากที่เธอเฝ้ามองกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทางเจ้าหน้าคุมตัวไม่มีแม้แต่เงาเพื่อนสาว “หญ้า!....แกไปอยู่ไหน?....แกต้องไม่เป็นอะไร...แล้วฉันจะเอาหน้าไปเจอ... ‘เขาคนนั้น’...ได้ยังไง?...ช่วยติดต่อกลับมาสักทีเถอะ”‘รุ่งอรุณ...เช้าวันใหม่’ กอหญ้าที่ขยับตัวหลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มที่...คิ้วบางเริ่มขมวดเข้าหากันทีละน้อยเมื่อดวงตาบ่งบอกถึงเชื้อชาติเริ่มพบสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา ดวงตาเบิกกว้างขึ้น เมื่อสติเริ่มเข้าครอบครองสมอง เมื่อสมองเริ่มทำงาน มือบางเลิกผ้าห่มเล็กน้อย ดวงตาคมที่เบิกกว้างอยู่แล้วกว้างขึ้นอีก เมื่อกอหญ้าเริ่มรับรู้ว่าตัวเองเกือบเปลือยเปล่า เธอสวมเพียงบิกินี่ปกปิดสิ่งล้ำค่าของความเป็นหญิงของเธอเพียงชิ้นเดียว เนื่องจากกอหญ้าไม่ใช่คนขี้ตกใจอะไร แต่สำหรับเรื่องนี้มันเกินกว่าที่เธอจะไม่ตกใจไม่ได้....สา
“คริสต์!!!...” กัณฑ์ที่ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับการ์ด “...แกต้องออกจากที่นี่...เดี๋ยวเจ้าหน้าที่กำลังเข้ามา...อ้าว!...เฮ้ย!!!...ใครว๊ะ?” กัณฑ์ที่จะเข้ามาพาเพื่อนออกจากที่นี่ ก็เจอกับหญิงสาวที่สวมเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนต์สีเข้มเข้ารูป นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาตัวยาว “ไม่รู้ว๊ะ!...น่าจะโดนลูกหลงจากเหตุการณ์ข้างนอก” “แกต้องรีบออกจากที่นี่นะ!...แล้วเอาไงกับผู้หญิงคนนี้” คริสต์หันไปมองใบหน้าหวานที่สลบไม่ได้สติ เธอคงตกใจมากจนหมดสติ “คงต้องเอาไปด้วย...ฟื้นแล้วค่อยว่ากัน” คริสต์ที่ตัดสินใจแล้วก็ขยับช้อนตัวอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขน กัณฑ์พยักหน้าให้ลูกน้องเมื่อเพื่อนพร้อมแล้ว คริสต์อุ้มกอหญ้าที่ไม่ได้สติเดินไปยังทางออกหลังร้าน ที่รถของกัณฑ์จอดอยู่ กัณฑ์ขอกุญแจรถของคริสต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าและส่งกุญแจคอนโดของตัวเองให้กับคริสต์ “คืนนี้แกไปพักที่คอนโดฉันก่อน ส่วนรถของแกเดี๋ยวฉันให้เด็กขยับไปจอดที่อื่น...ขอโทษด้วยว๊ะ!...” คริสต์ที่เข้ามานั่งเบาะหลังโดยมีกอหญ้าอยู่ในอ้อมแขน บอกกัณฑ์ว่าไม่เป็นไร “...พาคุณคริสต์ไปส่งที่คอนโดฉัน...” ป
Grrrr Grrrr กอหญ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงเครื่องมือสื่อสารของนักศึกษาที่เธอช่วยไว้ดังขึ้นมา “…ขอเสียมารยาทนะคะ...” กอหญ้ากล่าวออกมาพร้อมกับหยิบเครื่องมือสื่อสารของเพื่อนนักศึกษาออกมา “คุณพ่อ...” กอหญ้ากรอกเสียงตามคำที่โชว์ตามหน้าจอ และเมื่อปลายสายขานรับ เธอแจ้งเรื่องราวให้ทราบโดยทันที... และผลสรุปออกมาก็คือ เพื่อนนักศึกษาคนนั้น มีอาการแพ้อาหารทะเล และจากการซักถามเธอคงไปทานบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามีหอยแมลงภู่เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย จึงทำให้อาการกำเริบอย่างที่เห็น และตั้งแต่วันนั้น กอหญ้า กับ กิ๊ก ก็เป็นเพื่อนที่สนิทและเป็นที่ปรึกษาของกันและกันมาโดยตลอด การสังสรรค์ เฮฮาของเหล่านักศึกษาที่ไม่ใช่มีเพียงกลุ่มของพวกเธอ เพราะคลับแห่งนี้ในคืนนี้เต็มไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นมากมาย กอหญ้า และ กิ๊ก ก็สนุกไปกับเพื่อนๆที่ทั้งร้องและเต้นกันตามประสา “กิ๊ก...หญ้าไปห้องน้ำก่อนนะ” กอหญ้าหันไปกระซิบกับเพื่อนสาว “ฉันไปเป็นเพื่อน” “ไม่เป็นไร...ห้องน้ำไกล้แค่นี้เอง...ฝากกระเป๋าด้วย” กอหญ้าเดินออกไปจากกลุ่ม เพื่อไปยังห้องน้ำ “...ว้า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า....ฉันอยากเห็นนักเขียนคนนี้จริงๆ...ตั้งแต่รู้จักแกมา ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ ‘กล้า หือ กล้า หา’ กับแกเลย” “ยายเด็กบ้านั้น...ปากจัดขนาดนั้น...ใครจะคิดว่าจะเป็นนักเขียน” “เด็กมากเลยเหรอว๊ะ...” กัณฑ์ถามกลับอย่างสงสัย “ไม่รู้ว๊ะ...ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ฉันยังหาเด็กนั้นไม่เจอเลย...คุณแม่กับพี่เขม ถามความคืบหน้าแทบทุกวัน...” “แล้วที่สำนักพิมพ์ละว๊ะ?” “นี่ก็แปลกมาก!...ไม่มีใครสามารถให้คำตอบฉันได้เลยว๊ะ...เขาบอกแต่ว่าเธอไม่เข้า มีอะไรให้ฝากข้อความไว้ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับเลย...ไม่รู้อะไรกันนักหนา” คริสต์พูดจบ พร้อมกับนำน้ำสีอำพันกรอกเข้าปากลงคออย่างคนที่กำลังเซ็งสุดๆ “เท่าที่ฟังแกมา...ฉันเห็นด้วยว๊ะ แปลกจริง ดูมันมีลับลมคมนัยมาก...แล้วแกจะทำยังไงต่อ?...ถ้าเรื่องนี้หลุดจากช่องของแกไป คุณป้ากับพี่เขมคง ส่งค้อนใส่แกวันละหลายๆอันแน่...” “…ทุกวันนี้ ฉันก็ได้รับจนแทบจะแบกไว้ไม่ไหวแล้ว...” คริสต์คำรามออกมา กัณฑ์ได้แต่ยิ้ม และนึกภาพออกทันที เพราะถ้าคุณหญิงศศิธร
“โอเค!...ผมผิดเองครับ!...เพราะผมเสียงดังใส่เธอและเรียกลุงชัดให้มาลากเธอออกไปจากที่นี่...” สิ้นเสียงคำตอบของคริสต์ ดวงตาของคุณหญิงศศิธรและเขมิกาเปิดกว้างอย่างคาดไม่ถึง “เขม!...น้าอยากจะเป็นลม!!!” เสียงของคุณหญิงศศิธรดังขึ้นมา “คุณแม่ พี่เขม มันจำเป็นมากเหรอครับที่ต้องเป็นเรื่องนี้ เราเปลี่ยนไปหาบทประพันธ์เรื่องอื่นมาสร้างเป็นละครก็ได้นะครับ...บอกตามตรงนะครับ ผมไม่อยากร่วมงานกับคนที่ไร้ความเป็นมืออาชีพแบบนั้น” “คริสต์!!!....แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์เป็นคนแบบนี้นะ...การเปลี่ยนเรื่องมันใช่! ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาแบบหนีปัญหา แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์ทำแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ!!! งานนี้คริสต์ต้องเป็นคนแก้ปัญหานี้ให้ได้เพราะเราเป็นคนก่อและสร้างมันขึ้นมา และอีกอย่างไม่ใช่เฉพาะช่องของเรานะที่ต้องการเรื่องนี้มาสร้างเป็นละคร แต่ที่เราได้และขยับได้มาไกลกว่าช่องอื่น เพราะแม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณประจักษ์เจ้าของสำนักพิมพ์ข้อเขียน แม่จะเสียผู้ใหญ่ไม่ได้ และคุณประจักษ์บอกเพียงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เจ้าของผลงานทั้งนั้น...”







