รถยนต์คันหรูขับเข้ามาทางปากซอยที่มีร้านสะดวกซื้อจากถนนใหญ่ รถยนต์คันหรูมาจอดอยู่ตรงหน้าตึกแถวชั้นเดียว ที่ปากทางเข้าเป็นซอยเพียงเล็กๆ เป็นตึกแถวหลังไม่เก่ามากเท่าไหร่ เรียงรายกันอยู่หลายตึก ที่ปกคลุมไปด้วยความเงียบ
“น้องพักอยู่ที่นี่เหรอ...” ร่างสูงถามขึ้น เมื่อมาถึงยังจุดหมายที่หญิงสาวบอก
“ค่ะ...ขอบคุณพี่อีกครั้งนะค่ะ ขับรถกลับดีๆนะคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นร่างสูงก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป
“เดี๋ยวสิ เอ่อ...พี่หิวน้ำน่ะ” ร่างสูงรีบเปิดประตูรถลงมาเรียกหญิงสาวไว้เสียก่อน แล้วหาเหตุผลมาอ้าง
“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับใดๆ ได้แต่เดินเข้าไปในห้องของเธอ
ร่างสูงเมื่อไม่เห็นว่าหญิงสาวจะห้ามหรือปฏิเสธอะไร จึงรีบเดินตามหญิงสาวไปทันที อย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร ร่างสูงก้มถอดรองเท้า แล้วสาวเท้ายาวเดินเข้ามาภายในห้องของหญิงสาวตามเธอทันที
แต่เมื่อเข้ามาภายในห้องของเธอ สายตาคมมองสำรวจกวาดไปรอบๆห้อง แทบจะไม่มีอะไรนอก นอกเสียจากที่นอนฟูกเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับหน้าต่าง และโต๊ะเครื่องเขียน เพราะมีสมุดและหนังสือมากมายกองอยู่ ไม่มีห้องนอนแยกหรืออะไรเลย แถมประตูห้องน้ำกลอนก็ใช้งานไม่ได้อีก
“น้ำค่ะ...ห้องหนูไม่มีน้ำเย็นนะค่ะ มีแต่แบบนี้พี่ดื่มได้ไหม” หญิงสาวยื่นขวดน้ำดื่มไปให้แก่ร่างสูงที่ยืนอยู่กลางห้อง
“...” พงสกรรับน้ำจากมือของหญิงสาวมาโดยไม่ได้พูดอะไร แต่กลับส่งยิ้มจางๆไปให้เธอแทน
“เออ...พี่นั่งบนที่นอนได้เลยค่ะ ห้องหนูไม่มีโซฟานุ่มๆให้พี่นั่งหรอก” หญิงสาวเอ่ยบอก พร้อมกับเดินเอากระเป๋าและถุงยาไปวางไว้
“เอิงเอย” ร่างสูงเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวขึ้นมา ถึงห้องที่อยู่ตอนนี้จะเล็กคับแคบ แต่ไม่ได้มีปัญหาทางอื่นเลย เพราะทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นที่เป็นทาง เป็นระเบียบเรียบร้อย มองดูแล้วสะอาดตามาก แถมผ้าปูที่นอนผ้าห่มผืนเล็กที่พับเก็บไว้บนที่นอนนี้ยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆออกมาอีกด้วย ทำให้เขาไม่อึดอัดลำบากใจเลยแม้แต่น้อยที่เข้ามานั่งอยู่ที่นี่
“ค่ะ” หญิงสาวหันไปตาเสียงเรียกของร่างสูงที่นั่งอยู่ปลายขอบที่นอนเธอ
“น้องเป็นผู้หญิงอยู่แบบนี้คนเดียว ไม่กลัวหรือยังไง” ร่างสูงถามขึ้นมาทันที
“หนูก็อยู่มาตั้งสองปีแล้วนี้ค่ะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ค่าเช่าก็ถูกกว่าที่อื่นด้วย” หญิงสาวตอบร่างสูงออกมาตามความจริง
“พูดกับพี่แทนตัวเองใหม่ด้วย น้องแทนตัวเองว่าหนูพี่รู้สึกยังไงไม่รู้” เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างจริงจังทันที
“งั้น แทนว่าน้องเหมือนที่พี่เรียกก็แล้วกันนะคะ” หญิงสาวจึงแทนตัวเองตามที่ร่างสูงเรียกเธอนั้นก็คือ ‘น้อง’
“...” ร่างสูงเอาแต่พยักหน้ารับ และยกขวดน้ำขึ้นดื่มเพียงนิดเดียว เพราะที่จริงแล้วไม่ได้หิวตามที่บอกหญิงสาว แต่เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงนั่งอยู่ที่ห้องของเธอนานมากพอสมควรแล้ว หญิงสาวที่ตอนนี้อยากจะทำธุระส่วนตัว ก็ไม่กล้าที่จะเข้าห้องน้ำ เพราะมีร่างสูงอยู่ที่ห้องด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยบอกเช่นไร เพื่อไม่เป็นเสียมารยาทว่าไล่เขาทางอ้อม
“เอ่อ”
“อะไร” ร่างสูงเลิกคิ้วมอง
“พี่ไม่มีธุระ ที่อื่นหรือเปล่าค่ะ” หญิงสาวถามขึ้นมา
“ไม่มี” ร่างสูงตอบออกมาแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
“แล้วพี่...” หญิงสาวได้แต่อึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
“วันนี้พี่ว่างตลอด” ร่างสูงตอบออกมาทันควัน แบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความเลย
“ในเมื่อพี่ก็ดื่มน้ำ เอ่อ...” หญิงสาวพูดพร้อมกับชี้มาที่ขวดน้ำดื่มในมือของชายหนุ่ม เพื่อเป็นการสื่อให้ร่างสูงรับรู้
“อยากไล่พี่กลับก็บอกมาตามตรงเลยครับ” ร่างสูงที่รู้ทัน ก็ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับหญิงสาวทันที
“ไม่ใช่ค่ะ น้องแค่...” ปรียาภัทรรีบปฏิเสธทันควัน
“ครับพี่เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับ พี่ขอเบอร์น้องหรือช่องทางการติดต่อทางโซเชียลอื่นๆไว้ด้วยน่ะ เพราะดูๆแล้วน้องน่าจะเก่งทางด้านโซเชียลดี เผื่อมีอะไรพี่จะได้ติดต่อน้องได้ ขอโทรศัพท์หน่อยครับ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือออกไปขอทันที อย่างหน้าตาเฉยเลย
ปรียาภัทร เมื่อไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากไล่ร่างสูงอย่างไร จึงได้แต่ยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกไปให้ร่างสูงตรงหน้า
มือหนารับโทรศัพท์เครื่องเก่าที่หน้าจอราว จากมือของหญิงสาวมา แล้วหันหน้าชูไปตรงหน้าของหญิงสาวทันที เพื่อเป็นการปลดล็อคเครื่อง แล้วกดเบอร์โทรเข้าเครื่องของตัวเอง พร้อมกับสื่อและโซเชียลต่างๆของหญิงสาวส่งเข้าเครื่องตัวเองทันที
“วันไหนว่าง เดี๋ยวพี่เอาเครื่องที่พี่ไม่ได้ใช้มาให้น่ะ” ร่างสูงเอ่ยขึ้น พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าคืนให้แก่เจ้าของ
“ไม่เป็นไรค่ะ เครื่องนี้น้องยังพอใช้ได้อยู่” หญิงสาวรีบปฏิเสธออกมา พร้อมกับชูเครื่องเก่าที่เธอถืออยู่ให้ดู
“จอราวขนาดนี้ เดี๋ยวก็บาดมือหรอก” เสียงเข้มพูดออกมา
“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบโต้ใดๆ แต่กลับก้มหน้าสลดลงเพียงเล็กน้อย
“พี่ไปน่ะ อ้อ อย่าให้แผลโดนน้ำละ ถ้าพี่โทรมาก็รับสายด้วย” ร่างสูงกำลังจะย่างก้าวออกจากห้อง แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ หันมาสั่งร่างบางทันที
“ทำไมน้องต้องรับด้วย” หญิงสาวถามตอบโต้ออกไป
“ถ้าไม่รับ พี่จะคิดค่าเสียหายครั้งละห้าหมื่นตามสายที่ไม่รับเลย” ร่างสูงเอ่ยขู่ขึ้นมาอย่างเอาจริงในคำพูดของตัวเอง
“พี่...” หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นมาทันที ที่เจอคำขู่เพราะทำอะไรไม่ได้
“พี่ไปแล้ว อยากเข้าห้องน้ำก็บอกกันดีๆก็ได้...” ร่างสูงยื่นหน้าไปกระซิบใกล้กับร่างบางเชิงเอ่ยแซวออกมา
“...” หญิงสาวเอาแต่หน้านิ่วขมวดคิ้วไม่พูดอะไรตอบโต้
“ประตูก็ล็อคดีๆด้วย ใครมาเคาะก็อย่าเปิดให้มั่ว เข้าใจไหม” พร้อมกับเสียงเข้มเอ่ยบอก ก่อนที่จะออกจากห้อง
“...” หญิงสาวยังคงเงียบ
“พี่ถามว่าเข้าใจไหม” ร่างสูงหันมาสั่ง พร้อมกับใช้สายตาขู่ออกไป
“ค่า”
ปัง
เมื่อได้รับคำยืนยันจากหญิงสาว ร่างสูงจึงยอมออกจากห้องของหญิงสาวไป และไม่ลืมที่จะล็อคกลอนไว้ให้แก่เธอด้วย ก่อนจะออกไปอย่างเงียบ ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
*แล้วกูจะยิ้มทำไมวะ*
บทส่งท้าย(จบ)ทั้งคู่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเดินลงมารอทุกคนกลับมา ในช่วงที่เวลาพลบค่ำแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นทุกคนกลับเข้ามาเลย“ยังคลื่นไส้อยู่ไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อนั่งลงที่ศาลาเล็ก ๆ หน้าบ้านของเธอ“ไม่แล้วคะ” หญิงสาวเอ่ยตอบออกมาตามความเป็นจริง เพราะอาการของเธอดีขึ้นมาบ้างแล้ว“สงสัยจะได้ยาดี” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจและรถที่ทุกคนออกไปข้างนอก ก็ขับกลับเข้าจอดที่บ้านของเธอในเวลาต่อมา“ซื้ออะไรมากันเยอะแยะครับ” พงศกรถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นทุกคนลงจากรถแล้วของเต็มมือกันไปหมด“เลี้ยงฉลองให้มึงยังไงละ ทีนี้ก็ละลึกถึงความดีของกูบ้างนะ” อัศนัยเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา เมื่อเอาของมาวางลงที่ศาลาใกล้กับปรียาภัทรนั่งอยู่“ได้ทีมึงก็ทวงบุญคุณกูเลยนะ ไอ้เพื่อนชั่ว” พงศกรต่อว่าออกมาอย่างหนอกล้อกันตามประสาเพื่อน“หริ่งหริ่ง” พจีพัฒน์ที่เดินตามหญิงสาวลงมาจากรถรีบเอ่ยเรียกเธอไว้ทันที เมื่อเห็นหญิงสาวหน้างอใส่เขา และรีบตามเธอไปโดยไม่สนใจฟอร์ยูเลย“อ้าว สองคนนี้เป็นอะไรกันอีกละ” พงศกรถามขึ้นมาทันที“อย่าไปสนใจเลย พ่อแง่แม่งอน ฟอร์ยูมาช่วยย่าดีกว่าเนอะ” นิ
รักคือการให้อภัย NCร่างสูงถอนจูบออกจากปากของ แล้วอุ้มหญิงสาวขึ้นมาในท่าเจ้าสาว เดินไปวางเธอลงบนที่นอนทันทีอย่างนุ่มนวล แล้วตามมาทาบทับร่างของเธอเอาไว้แต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักตัวลงไปทั้งหมด เพราะรู้ว่าเธอกำลังมีอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้อง ซึ่งก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขานั้นเอง“จะทำอะไร เอยท้องอยู่นะ” หญิงสาวถามขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่สื่อถึงความวิตกเป็นกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ทำได้ครับ ให้พี่เข้าไปทักทายลูกนะ เอยจะได้หายแพ้สักที” เสียงนุ่มเอ่ยบอกออกมา พร้อมกับส่งสายตามองเธออย่างเว้าวอนน่าสงสาร“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบอะไรกลับมา แต่กลับเบือนหน้าหนีออกไปทางอื่น เพื่อหลบสายตาเขาที่มองเธอจนแทบจะกลืนกิน และเพราะเก้อเขินที่ร่างสูงพูดจาหื่นห่ามออกมาอีกด้วย“เดี๋ยวพ่อเข้าไปหานะครับ ตัวเล็กอย่าแกล้งแม่เยอะสิ ดูสิแม่เอยผอมไปหมดแล้วน่ะ” มือหนาลูบไปที่หน้าท้องของเธอเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อ พร้อมกับก้มลงไปเอ่ยเสียงนุ่มพูดกับคนในท้อง แล้วจุ๊บท้องของเธอลงไปทันที“พี่เพชรอื้อ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อของเขาขึ้นมา แต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรต่อออกมา ปากหยักก็ก้มลงมาปิดปากของเธอเข้าเสียแล้วลิ้นร้อนกวาดต้อนชิมคว
ง้อหนัก ๆบ้านเรืองพาณิชยากุล“ทำไมบ้านเงียบจัง ทุกคนไปไหนกันคะป้าพิมพ์” พจีกานต์ถามขึ้น เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน แต่ต้องพบกับความเงียบ เพราะไม่มีใครอยู่เลย“ไปต่างจังหวัดกันคะ แม่แฟนคุณเพชรเสีย” พิมพาเอ่ยบอกแก่หญิงสาวออกไป“แม่แฟนพี่เพชรเสีย พี่เพชรมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมแพทไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย” หญิงสาวถามออกไป เพราะเธอไม่ทราบเรื่องจริง ๆ“ก็คุณแพทไม่เคยอยู่บ้านนี้คะ พวกคุณท่านเลยไม่ได้บอก” พิมพาเอ่ยบอก แล้วเดินเข้าไปที่ครัวต่อ“เที่ยวจนลืมว่าตัวเองมีครอบครัวรอที่บ้าน ทำตัวเหมือนว่าตัวเองตัวคนเดียวอย่างนั้นแหละ” เสียงทุ้มของคนที่เดินเข้ามาตามหลัง เอ่ยแซวขึ้นมาทันทีสิบทิศ หรือ ทิศ ชายหนุ่มในวัย 35 ปี ช่างซ่อมบำรุงข้างบ้านของเธอนั้นเอง เข้าออกมาบ้านนี้บ่อย เพราะพัฒน์พงษ์จ้างมาเป็นช่างประจำบ้าน และจะค่อนข้างสนิทกับคนงาน คนสวน เหล่าแม่บ้านของบ้านเธอ เพราะพิมพาชอบเอาอาหาร หรือของกินต่าง ๆ แบ่งไปให้ตลอด “นี้นาย...” พจีกานต์ตะคอกเสียงใส่ทันที เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร“พูดเพราะ ๆ หน่อยครับคุณผู้หญิง ผมแก่กว่าคุณตั้งหลายปีน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกออกมา พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห
ความจริงทั้งหมดรถขับเข้ามาถึงเพียงหน้าหมู่บ้านในเวลาตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว หญิงสาวที่มองเห็นแค่ป้ายชื่อหน้าหน้าหมู่บ้าน น้ำตาก็ไหลออกมาอีกทันทีร่างสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นั้น ละทิ้งทุกอย่างที่ทำไว้ทันที เอื้อมมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน และลูบศีรษะเพื่อปลอบประโลมเธอ“เอยยังมีพี่ มีครอบครัวของพี่อยู่นะ พี่จะอยู่กับเอยกับลูกนะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับกุมมือของเธอเอาไว้ เพื่อเป็นคำมั่นสัญญา“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับใด ๆ แต่กลับร้องไห้ออกมาอย่างหนักกว่าเดิม“ไปหาแม่อรกันนะ เข้มแข็งนะครับคนดีของดีของพี่ แม่อรท่านไปสบายแล้ว” มือหนาเช็ดน้ำตาให้เธอ แล้วจึงพากันลงจากรถ เมื่อรถมาจอดที่บ้านของเธอแล้ว และตอนนี้ก็มีผู้คนมากมายช่วยกันจัดเตรียมทุกอย่างให้เป็นอย่างดี“เอื้อย...พี่เพชร” (พี่...พี่เพชร) ออมสินเห็นทั้งสองคนลงมาจากรถ ก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดพี่สาวทันที“เบา ๆ หน่อยออมสินพี่เอยท้องอยู่ มากอดพี่แทนก็ได้” พงศกรเอ่ยบอก เพราะน้องชายที่ยังไม่รู้อะไร พุ่งเข้ามาสวมกอดพี่สาวอย่างแรง จนเธอเกือบจะเซล้ม ดีที่มีร่างสูงของพงศกรคอยประคองกอดเอวเธอเอาไว้“ไม่เอาหรอก”“ไปไหว้แม่อรกันนะ” เส
สูญเสีย“หนูเอย...” นิษฐาที่เข้ามาถึงภายในบ้าน เรียกหญิงสาวขึ้นมาทันที และรีบเข้าไปดูหญิงสาวที่หลับสนิทอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก“แม่...ไอ้นัย” พงศกรหันไปมองตามเสียงคนที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน“น้องเป็นอะไร...โทรตามหมอหรือยัง” นิษฐาถามลูกชายออกไปทันที เพราะรู้สึกเป็นกังวลที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“...” พงศกรเอาแต่ส่ายหน้ารับ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรต่อ และก็ไม่รู้ด้วยว่าอาการของหญิงสาวเป็นคืออะไร เอาแต่นั่งลงกุมมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้แน่นไม่ยอมห่าง“ตาเพชรไปเอาผ้าชุบน้ำมา ตานัยโทรตามหมอณัฐให้อาด่วนเลย และโทรบอกคนในบ้านให้รีบกลับกันเข้ามาด้วย” นิษฐาหันไปสั่งทางลูกชาย และเพื่อนของลูกชายด้วย“มาแล้วครับคุณแม่” พงศกรเดินถือกะละมังใส่น้ำพร้อมกับผ้าผืนเล็กกลับมาที่เดิม“เช็ดหน้าให้น้อง เอายาดมให้น้องดมด้วย แม่จะโทรบอกคุณพ่อกับน้อง ๆ ก่อน” นิษฐาเอ่ยบอกลูกชายอย่างใจเย็น และเดินออกไปโทรศัพท์หาสามีและลูกของเธอให้รีบกลับบ้านกันโดยด่วนพงศกรทำตามที่แม่บอกเอาไว้ทุกอย่าง อย่างตั้งใจบรรจงเช็ดหน้าให้เธออย่างเบามือที่สุด เพราะไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน“แม่...” เสียงเอ่ยเรียกแม่ออกมาอย่างแผ่วเบาจากหญิง
เรื่องที่ไม่คาดคิดบ้านเรืองพาณิชยากุล“กลับมากันแล้วหรือคะ...” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือใคร“อะ เอย!” พงศกรอ้าปากค้างทันที ที่หันมาพบว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใครร่างสูงเมื่อตั้งสติได้ รีบรวบรวมความกล้า ขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวทันที หมายจะเข้าไปสวมกอดเธออย่างแสนคิดถึง“ออกไป” หญิงสาวเอ่ยปากไล่เสียงดังขึ้นมาทันที“เอย คุยกันก่อนครับที่รัก” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น และพยายามจะเข้าไปใกล้ ๆ เธออีกครั้ง“อย่ามาเรียกฉันแบบนี้” หญิงสาวสั่งห้าม พร้อมกับพยายามที่จะถอยหนี เมื่อร่างสูงจะเข้ามาใกล้เธอ“เอย” ร่างสูงรวบรวมความกล้า ย่างก้าวเข้าหาอีกครั้งอย่างช้าๆ“บอกให้ออกไปยังไงละ ไม่ได้ยินเหรอไง” เสียงตวาดดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง“จะให้พี่ออกไปไหนละ ก็นี้มันบ้านพี่นะ” พงศกรเอ่ยขึ้นบอกทันทีเพราะเขาเข้าใจเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ของแม่และเพื่อนเขาทันที ที่พยายามจะสื่ออะไร ที่แท้ก็อยากให้เขามาปรับความเข้าใจกันนี้เอง ไอ้เพื่อนนัยปิดบังกันสะนานเลยนะ“...” ปรียาภัทรนิ่งเงียบทันที“ที่นี่คือบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่เอง พ่อพงษ์แม่นิษ” พงศกรเอ่ยบอกความจร