Se connecter"ไม่รู้แหละฉันทำไปแล้ว..ไม่มีทางเลือกด้วย" "เรื่องบ้าอะไรว่ะ!!!" "ฉะนั้น..รีบบอกพวกเขาไปสิว่าเรามีอะไรกันแล้ว" "เหอะ!!!!"
Voir plusฉึ่บ!!!
สิ้นเสียงของกรรไกรผ่าตัดแยกเนื้อเยื่อจากกัน ด้วยฝีมือซิลค์นายแพทย์หนุ่มดีกรีผู้อำนวยการโรงพยาบาล ใบหน้าคมคายเงยขึ้นทันที เอียงส่งสัญญาณให้หมอผู้ช่วยรับผิดชอบอาการคนไข้ต่อ
"ขอบคุณอาจารย์นะคะ" ตามด้วยเสียงของพยาบาลประจำห้องผ่าตัด เอ่ยกล่าวต่อนายแพทย์หนุ่มผู้รับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีมครั้งนี้
ซิลค์พยักหน้าตอบรับเล็กน้อย ยืนลำตัวตรงนิ่งความสูงเกินร้อยแปดห้า ทำให้ผู้ช่วยต้องเขย่งปลายเท้าปลดปมผูกชุดผ่าตัดด้านหลัง เพื่อกันเชื้อโรคแปดเปื้อนไปยังพื้นที่นอกเขตควบคุม
ผับSK
"เฮียไม่คิดจะมีเมียบ้างเหรอ" ภาคินลองใจถามซิลค์ รุ่นพี่หนุ่มแสนเย็นชา ใบหน้าเรียบนิ่งไม่ได้เข้ากับบรรยากาศสักนิดเดียว ขณะร่วมโต๊ะดื่มสังสรรค์ ตรงโซนวีไอพีเฉพาะพวกเขา
แม้ว่าเสียงดนตรีจะดังครึกครื้นขนาดไหน มีสิ่งยัวยุมากมาย ก็ไม่เคยเห็นเอนไหวสักนิดเดียว
"ไม่" ซิลค์ตอบน้ำเสียงเข้ม ถลกแขนเสื้อเชิ้ตขาวขึ้นข้อศอก นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา จับแก้วเหล้าสีอำพันยกดื่ม หลังจบเคสผ่าตัดรักษาสมองเสร็จสิ้น
เขาไม่ได้รู้สึกฉาบฉวยมีช่วงเวลาสนุกดั่งมนุษย์คนอื่น ในขณะที่คนรอบตัวล้วนกอบโกยความสุขมากมาย มีครอบครัวสมบูรณ์กันหมดแล้ว
"แหม่..ถ้ามีเมียแล้วเหมือนติดคุกแบบมึง กูยอมตายดีกว่า" ฮาเกนรีบตะเบ่งเสียงบอก จับแก้วเหล้าสีอำพันสะท้อนน้ำแข็งชนกับรุ่นพี่ เพ่งสายตาเยาะเย้ยเพื่อนชายแทน
"ว่าแต่กูไอเกน! ไม่ว่าคนนู้นบ้างล่ะ แบบนั้นอะเรียกติดเมียชัดๆ" ภาคินเอียงใบหน้าบอกให้ทุกคนเหลียวดู ซึ่งไม่ใช่ใครนอกจากซายน์ กำลังยืนชะเง้อมองผ่านกระจกใส ภรรยาสาวออกลีลาเต้นกับเพื่อนด้านล่าง
"นี่ถ้าเฮียไม้ไม่ติดพาลูกเมียไปเที่ยว คงอยู่ครบหน้าแล้วเนอะเฮีย" ฮาเกนเอ่ยบอก วันเวลาเปลี่ยนทุกคนเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เลือกสนใจจริงจังเรื่องอนาคตมากกว่ามั่วสนุกไปวันๆ
"เฮียจะไปอเมริกานี่ ขอของฝากด้วยนะครับ" เอเดนที่นั่งเงียบอยู่นาน รีบพูดขึ้นจับขวดเครื่องดื่มเทรินเอาใจ
"อย่าลืมของผมล่ะเฮีย ขอแปลกๆนะ" ซายน์พอมองภรรยาเริ่มเข้าที่แล้ว เลยวางใจกลับมานั่งลงตำแหน่งเดิม พยักไหล่สะกิดพี่ชายหยอกแกล้ง ไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็ดูไร้ความรู้สึกจริงๆ
.........................................
ตุ๊บ! เสียงข้าวของบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำหล่นกระจาย เมื่อคนตัวสูงจับร่างอรชรนอนคว่ำหน้าแนบกระจกใส ช้อนเอาสะโพกมนแอ่นกระดกขึ้น แทรกส่วนล่างกำยำชายเข้าด้านหลัง แสงจากโคมไฟส่องสว่าง เห็นสัดส่วนโค้งเว้าได้อย่างดี"บะเบานะเฮีย...อื้อ..." ยังไม่ทันได้บอกความต้องการเสร็จ แก่นกายยังร้อนระอุฝ่าเข้าร่องชุ่มฉ่ำทันที แค่แรกสอดใส่ก็เสียวซ่าน ทำร่างบอบบางบิดเร้าเลื่อนมือจับขอบโต๊ะระบายอารมณ์ขนาดใหญ่โตของลำเอ็นเสียดสีผนังโพรงนุ่ม เคลือบมันวาวด้วยน้ำเมือกใส ความคับแคบแน่นไม่ต่างจากตอนร่วมสวาทครั้งแรก ทำสามีลุ่มหลงเผลอฟาดสะโพกมนราวหมั่นเขี้ยว"จุกดีนะ" อารมณ์ดิบพลุ้งพล่าน แค่เริ่มสอดใส่ปานสิ่งแปลกใหม่ สะโพกแกร่งสอบกระแทกแล้วกระแทกอีก ร่องนุ่มๆห่อรัดจนสุดลำโคน มันเสียวสยิวกิวทั่วร่างกำยำชายบั้นท้ายขาวนวลกระเพื่อมสู้กล้ามท้อง ดีดเด้งพอๆกับเต้าอวบทะลักล้นด้านข้าง ซิลค์โน้มตัวลงก้มพรมจูบแผ่นหลังบาง เอียงใบหน้านิดหน่อยซุกไซร้คอระหงตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!"จะจุกแล้ว..เฮียขาโม..สะเสียว...อ๊ะ..อ๊ะ..."เธอเองเริ่มติดเซ็กส์ชนิดรุนแรงตามสามีหนุ่ม จงใจเน้นบดขยี้ตรงพูสีชมพูงาม ปล่อยมันโอบรัดแก่นกายขนาดใหญ่ สร้างอารมณ์ซ่
1 ปีต่อมา_ ท่ามกลางบ้านหลังแสนอบอุ่น แม่ครัวตัวน้อยกำลังยุ่งกับการเตรียมมื้อค่ำเช่นทุกวัน เวลานี้เธอเลือกปรุงมื้ออาหารเต็มไปด้วยผักหลากสี จับใส่เนื้อสัตว์เพียงนิดเดียวตามที่สามีชอบทาน"เฮียมาแล้วแน่เลย" เสียงรถยนต์คันหรูเทียบจอดตรงลานกว้าง เธอรับรู้ได้ทันทีว่าซิลค์กลับมาบ้านแล้ว รีบวางทัพพีในมือลงกดปิดสวิตช์เตาไฟฟ้า ก่อนวิ่งออกนอกครัวหน้าตายิ้มแย้ม ต้อนรับผู้เป็นสามีด้วยอารมณ์ดี"ดีใจอะไรขนาดนั้น?" น้ำเสียงเข้มย้อนถาม ท่าทางของเมียรักวิ่งก้าวเร็วไม่กลัวว่าจะหกล้มบ้างเลย เธอโผล่กอดแม้ยังใส่ชุดกันเปื้อนจากในครัวอยู่ ทำให้เขาต้องก้มจูบหน้าผากมนด้วยความคิดถึงเช่นกัน"ก็อยู่บ้านคนเดียวมันเหงานี่หน่า วันนี้เฮียเหนื่อยไหมคะ หนูลองทำน้ำผลไม้ด้วยนะ" ระหว่างที่พูดโมอายังไม่ยอมปล่อยร่างกำยำ สวมกอดอยู่แต่ก็ก้าวเดินไปตรงโซฟารับแขกพร้อมๆกัน เธออาสาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเอาอกเอาใจ"มันหวานสู้เราได้ไหม""ต้องพิสูจน์นะคะ" ร่างอรชรหายเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นหยิบเยือกน้ำผลไม้คั้นสด กับขวดน้ำเปล่าและแก้วใสใส่ถาด รีบยกมาเสิร์ฟให้คนตรงโซฟาดื่มแก้กระหาย เรียกความสดชื่นหลังเหน็ดเหนื่อยตลอดวัน"อร่อยดีนะ"
หลายวันต่อมา_"พี่รีนพาหลานมาเล่นกับหนูอีกแล้วแน่เลย" เมียรักรีบชะโงกดูผ่านหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ยามมานั่งก่อกวนสามีในห้องทำงาน เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์แล่นจอดลานกว้าง สีคันเดิมไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ถึงรู้สึกรักเด็กขึ้นมา หรือเพราะหลานของซิลค์ชอบอ้อนเก่ง ช่วยเติมเต็มความเหงาของสองคนในบ้านได้ดี"อืม" น้ำเสียงเข้มตอบกลับราวไม่สนใจ เมื่อรับหน้าที่ตรวจเช็คสสารสำคัญอยู่ ผ่านหน้าจอคอมโดยมีเจ้าหน้าที่ในแลปคุยวีดีโอคอลด้วย เพราะเขาอยากใช้เวลาหลังงานวิวาห์ชดเชยให้ภรรยาสาวอย่างเต็มที่ก่อน"งั้นหนูไปล่ะนะ" ช่วงเวลาของเจ้าหน้าที่ห้องแลปคนนั้นก้มอ่านเอกสารอยู่ ร่างอรชรรีบพุ่งตัวหอมแก้มสากฟอดใหญ่ เธอรู้ดีว่าสามีหนุ่มจะกดปิดกล้องได้รวดเร็ว จึงไม่กลัวภาพลักษณ์นายแพทย์อัจฉริยะเสียหาย สองเท้าเรียวสวยรีบก้าวเดินออกจากห้องทำงาน ไปต้อนรับมารีนซึ่งมีศักดิ์เป็นสะใภ้คนรอง สั่งให้ลูกน้องช่วยกันเตรียมอาหารว่างสำหรับเด็ก และเครื่องดื่มน้ำหวานพอประปราย"สวัสดีค่ะพี่รีน" ถึงแม้เธอจะเป็นสะใภ้คนโตของครอบครัว แต่ด้วยอายุน้อยกว่าจึงยกมือพนมไหว้หญิงสาว ที่จับลูกสาวและลูกชายสองข้าง ไร้ใบหน้าซายน์ไม
หนึ่งเดือนต่อมา_@ งานวิวาห์ Silk&Moar ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ของครอบครัวเจ้าบ่าว บรรยากาศงานวิวาห์ชื่นมื่น ตกแต่งสไตล์เรียบง่าย ท่ามกลางบรรดาญาติใกล้ชิดและคนสนิท เพื่อให้เป็นตามความประสงค์ที่เจ้าของงานอยากสงวนช่วงเวลาสำคัญ ให้สิทธิ์ครอบครัวเจ้าสาวไร้ข้อกังวลใจ"แกสวยสมเป็นเจ้าหญิงจริงๆนะยัยโม" เป็นเสียงของเพื่อนสาวคนสนิทเอ่ยชม หลังจบพิธีการในช่วงเช้า เห็นโมอาในชุดเจ้าสาวสีขาวประดับเลื่อมเพชรวาววับ กำลังย่างกรายมาทักทาย ด้วยชุดโชว์ไหล่มนทั้งสองข้างขับผิวออร่าสว่างไสว จวบจนเวลายามบ่ายคล้อยอากาศตรงที่จัดงานไม่ได้รู้สึกร้อนเลย"แค่อดีตหน่ะเบลล์" เธอเอ่ยบอกเพื่อนสาว ขณะยืนรอเจ้าบ่าวแยกตัวไปคุยกับกลุ่มเพื่อน ปล่อยให้แขกคนอื่นเข้าหาเจ้าสาวแสดงความยินดี เพราะซิลค์เองไม่ใช่คนชอบพูดสักเท่าไหร่ แม้ในงานมงคลของตัวเอง ซึ่งเธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไรเลย นิสัยของเขาบางอย่างก็ควรยกเว้น เลือกแลกเปลี่ยนใช้ความเข้าใจจะดีกว่า ชีวิตคู่หลังจากนี้เพิ่งเริ่มต้น"แต่ยังไงฉันก็ดีใจกับแกด้วยจริงๆนะ เห็นเพื่อนเป็นฝั่งเป็นฝาอดซึ้งไม่ได้จริงๆ" เบลล์แกล้งหยิบผ้าเช็ดหน้าคล้ายซับน้ำตาหยอกล้อ แม้ว่าข้างในจะรู้สึกเช่นที่