Episode 06 เด็กน้อย
ทั้งสามคนเดินตามเจโรมออกมาจากป่ามายังจุดตั้งแคมป์ของตัวเองอย่างปลอดภัย โดยระหว่างที่เดินกลับก็บังเอิญเจอกับบอดี้การ์ดของเธอที่นำคนออกตามหาพวกเธออยู่พอดี
และความบังเอิญที่ไม่สิ้นสุดของพวกเธอคือเต็นท์ข้างๆ ที่มาตั้งแคมป์พร้อมกับเธอเมื่อตอนกลางวันที่พวกเธอไม่ได้ให้ความสนใจนักคือเต็นท์ของเจโรมนั่นเอง ทำให้เขาตีเนียนมาร่วมวงบาร์บีคิวกับคาร์ลิน และเพื่อนราวกับมาด้วยกัน
“ขอเบอร์หน่อย” เจโรมเอ่ยขึ้นขณะที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คาร์ลิน ระหว่างที่หญิงสาวกำลังย่างมาร์ชแมลโลว์อยู่ เธอหันมามองเขาเพียงนิดก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจมาร์ชแมลโลว์สีขาวที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน
“ไม่ให้”
“ขอหน่อย”
“เอ๊ะ! บอกว่าไม่ให้” คนตัวเล็กจิ๊ปากเบาๆ ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะยัดมาร์ชแมลโลว์ร้อนๆ เข้าปากเจโรมจนเขาต้องรีบคายออกมาใส่มือเพื่อระบายความร้อน
“เป็นหมาบ้าเหรอเธอ!”
“คุณมันก็เป็นไอ้โรคจิตเหมือนกันนั่นแหละ! สารภาพมาว่าแอบตามฉันมาใช่ไหม” เธอหรี่ตามองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ พยายามคิดทบทวนถึงสถานการณ์ที่ผ่านมาตลอดเวลาว่าสามารถเป็นเรื่องบังเอิญได้จริงๆ อย่างงั้นเหรอ
“ถามกี่รอบคำตอบฉันก็เหมือนเดิม แต่เธอน่ะอย่าลืมนะว่ารับปากอะไรฉันไว้”
“ยังไม่ทันได้ไปช่วยด้วยซ้ำเซเวียร์มันขี้เสร็จกลับมาก่อนที่คุณจะไปตามหาอีก”
“ช่วยไม่ได้ไปโทษเพื่อนเธอสิ” เจโรมไหวไหล่เพราะนั่นไม่ใช่ความผิดของเขาเสียหน่อย
“ฉันมันพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้วไม่ต้องห่วงหรอก”
“ฉันจะรู้ได้ไงเอาเบอร์เธอมาสิ จะได้นัดวันกันได้ไง” เจโรมเลิกคิ้วหนาขึ้นด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์เหมือนที่ชอบทำเป็นประจำ ทำให้หญิงสาวอดคิดในใจไม่ได้ว่าครั้งแรกที่เธอเห็นเขาอะไรดลใจให้เธอรู้สึกหลงใหลผู้ชายร้ายกาจคนนี้ไปได้
“เอาโทรศัพท์มือถือมาสิ” เธอแบมือไปรอรับโทรศัพท์เครื่องหรูจากอีกฝ่ายมากดเบอร์โทรศัพท์มือถือของตัวเองลงไป
เจโรมมองเบอร์โทรรหัสประเทศสหรัฐอเมริกาโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเป็นเบอร์ที่เธอใช้ชั่วคราวตอนอยู่ที่นี่ เพราะจากโครงหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ และที่สำคัญเขาก็รู้ประวัติส่วนตัวคร่าวๆ ของเธอมาจากข้อมูลที่เธอลงทะเบียนก่อนเข้ากาสิโนไปวันนั้นบ้างแล้ว
นามสกุลของเธอเป็นนามสกุลของมหาเศรษฐีจากประเทศไทย แต่น่าแปลกที่ครอบครัวของเธอร่ำรวยถึงเพียงนั้นแต่วันนั้นเธอกลับไม่มีของมีค่าใดติดตัวมาเลยถึงได้จบลงด้วยการเอาตัวเองมาเป็นเดิมพันแบบนั้น
“ไว้ฉันจะโทรไปนัดเวลา และสถานที่แล้วกันนะ” เจโรมบอกขณะที่กำลังเมมเบอร์ของหญิงสาวเอาไว้ซึ่งชื่อที่เขาเลือกตั้งให้เธอ
‘เด็กน้อย’
“เด็กน้อย? คุณบันทึกเบอร์ฉันว่าเด็กน้อยเนี่ยนะ?” คนตัวเล็กรีบทักท้วงทันที ไม่ชอบใจกับชื่อที่เขาตั้งให้เท่าไหร่นัก
“ก็เธอเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจ ชอบเอาชนะ หยิ่งในศักดิ์ศรีไม่ใช่เหรอ”
“ฉันโตแล้ว แล้วคิดว่าฉันเองมีวุฒิภาวะมากกว่าคุณด้วยซ้ำ”
“เหรอเด็กน้อย”
“เอ๊ะ!” คนตัวเล็กจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาไม่ชอบใจ “งั้นคุณก็เป็นตาแก่ที่ชอบเอาชนะเด็กสินะ”
“ใช่ ฉันชอบแกล้งเด็กมันน่าเอ็นดูดี” เจโรมกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกับนำเอามาร์ชแมลโลว์ในมือที่เย็นแล้วยัดกลับเข้าปากคนตัวเล็ก เธอเคี้ยวมันด้วยความลืมตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเป็นชิ้นเดียวกับที่เขาคายออกมาจากปากก่อนหน้านี้
“เอ๊ะ! นี่คุณกินไปแล้วนี่”
“ก็ของเธอไม่ใช่เหรอฉันแค่คืนให้เองกินๆ ไปเถอะ”
“ไอ้คนนิสัยไม่ดี!” คนตัวเล็กโวยวายเสียงดัง และนั่นทำให้บอดี้การ์ดที่กำลังยืนย่างบาร์บีคิวให้จ้องมองมาทางเธอกับเขา เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูพ่อว่ามีผู้ชายแปลกๆ อย่างเขาเข้ามาวุ่นวายในช่วงนี้จึงยอมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่หลงป่าเธอเองก็ถูกพ่อโทรมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งแน่นอนว่าโดนดุไปตามระเบียบ
เธอคายมาร์ชแมลโลว์ที่เคี้ยวแล้วออกมาใส่มือก่อนจะยัดเข้าปากเจโรมคืนอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ แต่การที่เขาเคี้ยวกลืนลงคอไปโดยไม่มีทีท่ารังเกียจทำให้เธอชะงักไปพอสมควร
“ทำไมไม่คายออกมา”
“อร่อยดีออกทิ้งทำไมให้เสียของ?” เจโรมไหวไหล่
“คุณนี่มันโรคจิตจริงๆ” คนตัวเล็กส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความเอือมระอาก่อนจะลุกหยิบขวดน้ำไปล้างมือตรงต้นไม้ใกล้ๆ “ตามมาทำไม” เธอถามเมื่อเห็นเจโรมเดินตามมา
“เดี๋ยวก็หลงเข้าป่าอีกหรอก”
“เห็นฉันเป็นคนโง่ซ้ำซ้อนรึไง”
“ก็เห็นยังรับคำเดิมพันครั้งที่สองอยู่เลย”
“อันนั้นไม่เรียกโง่นะ เรียกว่าเสียโง่ให้คนเจ้าเล่ห์ดีกว่า” เธอตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปยื่นขวดน้ำให้เขา “ล้างด้วยไหม”
“ล้างหน่อยก็ดี” เขาบอกพร้อมยื่นมือมาให้เธอเทน้ำลงบนมือเขา
“อายุวัณโณสุขังพลัง”
“เธอพูดอะไรของเธอน่ะ” เจโรมเอ่ยถามเมื่อจู่ๆ คนตัวเล็กก็พูดอะไรแปลกๆ ออกมา
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” คาร์ลินฉีกยิ้มหวานจนตาเป็นสระอิก่อนจะเดินกลับไปร่วมวงกับเพื่อน โดยมีเขาเดินตามหลังไป
ระหว่างที่คาร์ลินกับเพื่อนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นเจโรมก็สังเกตได้ว่าบอดี้การ์ดของคาร์ลินจับจ้องมาที่เขาตลอดเวลา และที่สำคัญยังแอบถ่ายรูปเขาไปด้วย แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“คุณเจโรมเป็นเจ้าของกาสิโนที่นั่นจริงๆ เหรอ” เม็ดฝุ่นเอ่ยถาม
“อืม วันหลังก็แวะไปอีกได้นะฉันจะดูแลเป็นพิเศษเลย” เจโรมละความสนใจจากบอดี้การ์ดทั้งสองคนมายังคู่สนทนาแทน
“งั้นต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เม็ดฝุ่นตอบกลับติดตลก
“ตอนนี้ยังฝากตัวกับผมได้อยู่ แต่อีกไม่นานคงเป็นผมเองที่ต้องฝากตัวกับเพื่อนของคุณ”
“หมายความว่ายังไงคะ?”
“ก็เพื่อนคุณอาจจะชนะเดิมพันก็ได้ใครจะไปรู้”
“ตกลงทั้งสองคนเคยไปเดิมพันอะไรกันไว้?” คราวนี้เป็นเซเวียร์ที่ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ความลับ” คาร์ลินรีบแทรกขึ้นเพราะกลัวว่าคนของเธอจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อของเธอ หากเรื่องไปถึงหูพ่อเธอละก็ได้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่นอน
บทส่งท้ายสิ่งแรกที่คาร์ลินทำหลังจากกลับมาจากอิตาลีคือการตรงไปหาเฟลิกซ์ ซึ่งแน่นอนว่าเธอได้ขออนุญาตเจโรมก่อนมาแล้ว และเขาเองก็นั่งรอเธออยู่ที่ด้านนอก“ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์มาหากันนะ” เฟลิกซ์ทักทายร่างบางที่เดินเข้ามาหาเขาภายในห้องทำงานที่กาสิโนพร้อมแหวนเพชรเม็ดโตบนนิ้วนางข้างซ้าย“ฉันก็ต้องมาหาอยู่แล้วสิ”“ตอบตกลงไปแล้วฉันจะมีค่าอะไรอีก”“ขี้น้อยใจจัง เดี๋ยวหาสวยๆ ให้เอาไหม”“ถ้าแค่เป็นผู้หญิงสวยๆ ก็พอ ฉันหาใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอลินมานานขนาดนี้หรอก”“เพราะรู้ว่านายรอวันนี้ถึงได้ตั้งใจมาบอกไม่ให้รอไง คนดีๆ แบบนายสมควรได้เจอคนดีๆ นะ ฉันไม่เหมาะสมกับนายหรอก” คาร์ลินพยายามปลอบโยนเฟลิกซ์เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างเธอกับเขาเอาไว้"ทำไมถึงเป็นมัน ทำไมไม่เป็นฉัน ลินรับปากฉันแล้วนี่ว่าจะหย่ากับมัน”“เพราะไม่อยากผิดคำพูดที่รับปากไว้ฉันเลยหย่ากับเขาแล้ว” คาร์ลินบอกพร้อมกับหยิบเอกสารการหย่าออกมาจากกระเป๋าให้เฟลิกซ์ดู
Episode 36 สัญญาตายและดูเหมือนว่าทั้งสองคนเองก็รู้ตัวเหมือนกันว่าคาร์ลินกำลังรอคำตอบจากพวกเขาทั้งสองคน ถึงได้เอ่ยปากพูดขัดจังหวะขึ้นมา“มองหน้าป๊ะป๋าเหมือนจะมีคำถามนะ”“เราสองคนพ่อลูกแค่มองตาก็รู้ใจแล้วไม่ใช่เหรอคะ งั้นก็ตอบมาเลยสิคะไม่เห็นต้องรอให้ถามเลย” คาร์ลินบอกกับอาคิรา“แค่อยากมาอยู่ในทุกช่วงชีวิตของลูกน่ะ”“แล้วป๊ะป๋าไม่มีความคิดเห็นเรื่องเจโรมกับหนูหน่อยเหรอคะ”“โตแล้วตัดสินใจเองสิ ถึงจะหวงมากแต่ก็ทำได้แค่คอยปกป้องอยู่ห่างๆ เพราะตอนนี้ลูกสาวพ่อโตแล้ว”“ทำไมไม่บอกเจ๊ไปด้วยว่าพ่อให้พี่สาวเขา กับเขาเซ็นสัญญายินยอมตายหากทำให้เจ๊เสียใจ” อาคินพูดแทรกขึ้นพร้อมกับชูสัญญาที่พึ่งเซ็นมาหมาดๆ ในมือ“ว่าไงนะ!”“อย่างโหด/โหดฉิบหายเลย” ไม่ใช่แค่คาร์ลินที่ส่งเสียงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่ทั้งเม็ดฝุ่น และเซเวียร์ซึ่งไม่คุ้นชินกับวงการมืดของเหล่ามาเฟียต่างก็พากันตกใจไปตามๆ กันอาคินเองก็ช่วยใ
Episode 35 เซอร์ไพรส์เป็นอีกหนึ่งในหลายครั้งที่เธอมักจะมองลึกไปในดวงตาของเขาเพื่อรอคำตอบที่มันสะท้อนออกมาเพื่อยืนยันคำตอบของเขาว่าจริงเท็จมากแค่ไหน“พูดไปเธอก็คงจะไม่เชื่อ”“ก็พูดมาก่อนสิ เพราะฉันอยากฟังไม่ว่าคำตอบมันจะจริง หรือเป็นแค่เรื่องโกหกก็ตาม”“ฉัน...”“คุณลูกค้ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ” คาร์ลินกลอกตาขึ้นบนด้วยความหงุดหงิดที่ถูกพนักงานส่งเสียงขัดจังหวะเสียก่อนเธอรีบจัดการเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินนำเจโรมออกไป เธอยืนสบตากับพนักงานที่รบกวนช่วงเวลาสำคัญเธอครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงเดินถือชุดที่ลองไปวางลงบนเคาน์เตอร์คิดเงิน เจโรมเดินตามออกมาจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย พร้อมกับจัดแจงนำของไปส่งยังโรงแรมที่เขาจองเอาไว้“ไม่ฟังฉันตอบก่อนเหรอ”“ไม่มีอารมณ์จะฟังแล้ว”“งั้นอยากฟังเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน” เขาบอกพร้อมกับบีบแก้มนุ่มนิ่มด้วยความมันเขี้ยว &ldq
Episode 34 รื้อฟื้นความหลังสายตาหวานเยิ้มมองการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มผ่านกระจกสะท้อนตรงหน้าด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน เมื่ออีกฝ่ายเลื่อนมือลงลูบไล้เนินสามเหลี่ยมอวบนูนไปมาจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานที่ถูกกระตุ้นออกมา“ไหนว่าไม่ให้จับ” อีกฝ่ายเอ่ยแซวย้อนคำพูดของหญิงสาวที่เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้“ก็ตอนนั้นยังไม่อยากนี่” คนตัวเล็กตอบตาใส ไม่ได้รู้สึกกระดากอายที่ถูกยอกย้อนเลยแม้แต่น้อย“หืม อยากอะไร” เจโรมแกล้งเอ่ยถามทั้งที่ตัวเขาเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว หนำซ้ำยังยิ่งกลั่นแกล้งเธอด้วยการดันเอาปลายนิ้วเรียวยาวเข้าไปทักทายปากช่องทางรักเปียกชื้นของคนตัวเล็กจนร่างบางบิดเกร็งไปมาใบหน้าหวานเหยเกไปตามสัญชาตญาณ ยิ่งเธอตอบช้ามากเท่าไหร่ปลายนิ้วร้ายก็ยิ่งดันเข้าไปลึกมากขึ้นเท่านั้น“ตกลงอยากอะไรไม่เห็นพูด” ยิ่งคนตัวเล็กพยายามกลั้นเสียงครางกระเส่าเอาไว้ อีกฝ่ายก็ยิ่งกระตุ้นแกล้งให้เธอเปล่งเสียงออกมา“อะ...อยากได้”“อยากได้อะไร”“อยากได้
Episode 33 ฮันนีมูนคาร์ลินมองปลายทางที่เครื่องลงจอดยังประเทศอิตาลีด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะพาเธอมาไกลถึงขนาดนี้ ที่สำคัญเธอยังไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยต่างหาก“กระเป๋าฉันล่ะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามหากระเป๋าสะพายคู่ใจที่มีของสำคัญของเธออยู่ในนั้นหลายอย่างทั้งเอกสาร โทรศัพท์ และบัตรเครดิตต่างๆ“เก็บเอาไว้ให้แล้ว เราจะไม่ใช้โทรศัพท์กันตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่”“แล้วทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่ ตกลงลักพาตัวฉันมาทำไม” คนตัวเล็กกระแนะกระแหนอย่างไม่เกรงกลัวสถานการณ์ในตอนนี้เลย“แค่จะพาเมียมาฮันนีมูนนี่เรียกลักพาตัวเลยเหรอ ไม่ดูรุนแรงเกินไปหน่อยรึไง” เจโรมแสร้งตีหน้าเศร้าราวกับตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำถูกกล่าวหาให้ความเท็จ“ฮันนีมูน?”“ใช่ เราจะมาฮันนีมูนกันที่นี่ ที่นี่จะมี
Episode 32 ลักพาตัวหน้าตาที่โดดเด่นบวกกับการแต่งตัวที่เน้นเรือนร่างที่สมส่วนตามมาตรฐานทำให้แม้จะนั่งดื่มอยู่เฉยๆ แต่ก็มีผู้ชายมากมายให้ความสนใจอยากเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ“สวัสดีครับมาคนเดียวเหรอ”คาร์ลินเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมากระซิบข้างหูเธอท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังแข่ง เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขาแต่ยกแก้วตัวเองขึ้นจิบแทนทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศธาตุสำหรับเธอ ยิ่งเห็นหน้าเขาเธอก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เพราะสีผมบลอนด์ทองของเขามันทำให้เธอนึกถึงใครบางคนที่เธอกำลังบ่นถึงเมื่อครู่“ผมชื่อ...”“ฉันไม่ได้อยากรู้จัก” คาร์ลินถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญ ก่อนจะพูดดักอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์“ดูเหมือนคุณจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ”“เพราะเห็นหน้าคุณไงเลยอารมณ์ไม่ค่อยดี” คำตอบที่ไร้ซึ่งมิตรภาพสำหรับคนแปลกหน้า ทำให้อีกฝ่ายเองก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก แต่โชคดีที่มีคนเข้ามาช่วยห้ามไม่ให้เรื่องบานปลายเอาไว้เสียก่อน“เขาไม่อยากคุยด้ว