Episode 07 ผู้ชนะ
หลังจากกลับจากตั้งแคมป์คาร์ลินก็เริ่มเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับเจโรมให้เม็ดฝุ่นกับเซเวียร์ฟัง ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ทั้งสองคนคัดค้านการตัดสินใจของเธอ โดยเฉพาะเซเวียร์ที่รู้ว่าเธอทำทั้งหมดไปเพื่อเขา
“ไปรับคำท้าได้ยังไงไม่รู้เหรอว่าพวกเซียนพนันไม่ได้วัดกันที่ดวงอย่างเดียวนะมันมีทริกที่ทำให้สามารถเอาชนะเดิมพันได้ง่ายๆ เลย”
“ก็รับปากไปแล้วจะให้ทำยังไง” คาร์ลินพึมพำเสียงเบาเมื่อถูกต่อว่า
“งั้นเราหนีกลับฝรั่งเศสกันไหม?” เม็ดฝุ่นเสนอไอเดีย ถ้าพวกเธอหนีกลับก่อนเจโรมก็คงตามตัวพวกเธอไม่เจอแล้ว
“แบบนั้นก็เสียศักดิ์ศรีฉันหมดน่ะสิ” คาร์ลินบอกด้วยท่าทางงอแง
“เวลานี้ยังมาห่วงศักดิ์ศรีอีกนะ” เซเวียร์เอ็ดด้วยความหน่ายใจ
“โทรมาแล้วต้องใช่แน่ๆ เลย!” คาร์ลินตาโตเมื่อมีเบอร์แปลกโทรเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเธอ
เธอยื่นมันให้เพื่อนๆ ของเธอดู ทั้งสามคนมีสีหน้าที่ไม่มั่นใจไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายเซเวียร์ก็เป็นคนบอกให้เธอกดรับสาย
“ฮัลโหล” เธอกรอกเสียงหวานลงไปทักทายอีกฝ่ายด้วยความประหม่าลึกๆ ในใจที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้
(ไง ไม่เจอกันวันหนึ่งคงไม่ลืมที่รับปากไว้ใช่ไหม)
น้ำเสียงทุ้มต่ำคุ้นหูทำให้ทั้งสามคนมั่นใจทันทีว่ายังไงปลายสายก็เป็นเจโรมที่พวกเธอกำลังพูดถึงอยู่ และดูเหมือนว่าเขาจะโทรมาเพื่อเตือนการเดิมพันกับเธอ
“รีบเหรอฉันไม่โกงนายหรอก”
(คืนนี้ฉันจะให้คนไปรับที่โรงแรมของเธอ)
“นายรู้เหรอว่าฉันพักอยู่ที่โรงแรมไหน”
(ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอที่ฉันไม่รู้ หมายถึงถ้าฉันอยากรู้น่ะ)
“ทำไมต้องคืนนี้ ขอเวลาหน่อยสิ”
(ฉันไม่อยากเสียเวลา คืนนี้ฉันจะให้คนไปรับเธอมา)
“แต่ว่า…”
(ไม่มีแต่เอาเพื่อนเธอมาด้วยก็ได้)
“นัดที่อื่นได้ไหม”
คาร์ลินเอ่ยถามเพราะพวกเธอคงไม่สามารถหนีกลับไปที่กาสิโนได้อีกง่ายๆ และหากคราวนี้เธอโดนจับได้หลังจากที่พ่อเธอยื่นคำขาดมาแล้วละก็คงได้เตรียมตัวบินกลับไทยแน่นอน
(ทำไมมาที่กาสิโนไม่ได้เหรอ?)
“ก็ประมาณนั้น”
(งั้นมาที่บ้านฉันแทนแล้วกันหนึ่งทุ่มตรงฉันจะให้คนไปรอรับเธอที่โรงแรม)
คาร์ลินเงยหน้ามองเพื่อนของเธอที่นั่งหน้าเครียดอยู่ใกล้ๆ จนเธอต้องรีบทำตัวร่าเริงให้เพื่อนๆ ของเธอสบายใจ
“เอาน่า อย่าลืมสิว่าฉันเคยเอาตัวรอดมาได้แล้วตั้งรอบหนึ่ง”
“นี่มันเรื่องใหญ่มากๆ เลยนะ”
“เอาน่ายังไงฉันก็ต้องชนะเชื่อฉันสิ”
เพราะร่วมหัวจมท้ายกันมาตลอดทั้งเม็ดฝุ่น และเซเวียร์จึงยอมมาเป็นเพื่อนคาร์ลินในครั้งนี้ โดยอ้างกับบอดี้การ์ดของเธอว่าไปเที่ยวบ้านเพื่อนเท่านั้น และเพราะเคยเจอกับเจโรมมาแล้วบอดี้การ์ดจึงยอมปล่อยให้เธอไปเพียงลำพังโดยไม่ลืมรายงานเรื่องนี้ให้อาคิราพ่อของเธอทราบ
บ้านหรูที่ใหญ่โตราวกับคฤหาสน์สมกับฐานะเจ้าของกาสิโนหรูทำเอาสองสาวกับหนึ่งหนุ่มดูตื่นตาตื่นใจไม่น้อยถึงแม้ว่าบ้านของพวกเธอเองก็ไม่ได้ดูด้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่ก็ตาม
“มาแล้วเหรอกินข้าวก่อนไหม” เจโรมในชุดไปรเวตเสื้อยืดสีดำกับกางเกงวอร์มสบายๆ เดินออกมาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ทั้งสามคนรู้สึกผ่อนคลายลงมากนัก เพราะรู้ดีว่าข้างหน้ามีอะไรรอพวกเขาอยู่
“ไม่กิน” คาร์ลินปฏิเสธเสียงแข็ง ทว่าอีกฝ่ายกลับมองเธอด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะผายมือเชิญทั้งสามคนเข้าไปด้านใน
“ผมขอเปลี่ยนเดิมพันได้ไหม?” เซเวียร์เอ่ยถาม
“จะเปลี่ยนเป็นอะไรล่ะ ถ้ามันมีค่ามากพอที่จะแลกกับเพื่อนของเธอได้ฉันจะลองพิจารณาดู” เจโรมเอ่ยถามด้วยท่าทีสบายๆ
“คุณอยากได้อะไรล่ะ เพื่อแลกกับเพื่อนผม”
“นายก็คงเห็นแล้วว่าชีวิตฉันตอนนี้มีเพียบพร้อมทุกอย่าง ถ้าถามฉันสิ่งที่ฉันอยากได้ตอนนี้ก็มีแต่เพื่อนนายเท่านั้น”
“โรคจิต!” คาร์ลินสบถออกมาเบาๆ แต่ก็ดังพอให้อีกฝ่ายคลี่ยิ้มออกมาด้วยความชอบใจ ราวกับโรคจิตอย่างที่คนตัวเล็กต่อว่า “ถ้าคุณแพ้อย่าลืมนะว่าของที่คุณเคยมีทั้งหมดมันจะไม่เหลืออะไรเลย เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”
“มุกเดิมๆ ยังไม่เลิกเล่นอีกเหรอ” เจโรมยื่นมือมาบีบปลายจมูกเชิดรั้นเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว ก่อนที่คนตัวเล็กจะปัดมือเขาออก
ด้านในถูกจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้เหมือนกับที่กาสิโนเป๊ะๆ สมกับที่เป็นเจ้าของกาสิโน ตำแหน่งที่นั่งเดิมที่เคยนั่งทำให้หัวใจดวงน้อยๆ เต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งไม่รู้ว่าผลการเดิมพันครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบไหน
“ฉันขอเล่นแค่ตาเดียววัดแพ้ชนะกันไปเลยได้ไหม?” คาร์ลินเอ่ยถามขณะที่คนของเขากำลังเตรียมเขย่าลูกเต๋า
“ได้สิ ฉันตามใจเธออยู่แล้ว”
“แล้วก็ให้เม็ดฝุ่นเป็นคนเขย่าลูกเต๋ากันคุณโกง”
“ไม่มีปัญหา” เจโรมรับคำขอของคนตัวเล็กอย่างว่าง่าย
เซเวียร์ยืนประจำตำแหน่งอยู่ด้านหลังคนตัวเล็กคอยให้คำแนะนำเธอว่าควรวางเดิมพันสูงหรือต่ำดี เสียงลูกเต๋าที่คุ้นเคยดังขึ้นเมื่อเม็ดฝุ่นเริ่มทำการเขย่าลูกเต๋าไปมา
“สูง” เซเวียร์ก้มลงมากระซิบบอกข้างๆ ใบหูคนตัวเล็ก
คาร์ลินเลือกวางเดิมพันตามคำแนะนำของเซเวียร์ โอกาสเพียงหนึ่งเดียวที่จะชี้ชะตาว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเดิมพันทำให้บรรยากาศตอนนี้ตกอยู่ภายใต้สภาวะความกดดันของทั้งสามคนมีเพียงเจโรมที่ยังคงยิ้มออกมาได้ และเลือกวางเดิมพันตรงข้ามกับเธอ
“สูง!!! กรี๊ด!!!” เมื่อผลการเดิมพันออกมาว่าฝ่ายคาร์ลินกับเพื่อนเป็นคนชนะทำให้ทั้งสามคนกรีดร้องกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจก่อนที่คนตัวเล็กจะหันไปยิ้มเยาะอีกฝ่าย
“เห็นไหม!! ฉันบอกคุณแล้วไงว่าถ้าหยุดตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเสียทุกอย่างให้ฉันแล้ว”
“น่าเสียดายจัง แต่ฉันเป็นลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น” เขาแสร้งตีหน้าเศร้าที่ใครมองมาก็รู้ว่ามันปลอมแค่ไหน
เขากวักมือให้ลูกน้องนำเอาเอกสารมาวางลงบนโต๊ะ เพื่อทำสัญญามอบกาสิโนให้ตามผลเดิมพันเมื่อเขาแพ้กาสิโนต้องเป็นของเธอ
“เซ็นสิกาสิโนจะได้เป็นของเธอ” เขายื่นปากกาไปให้คนตัวเล็ก อาศัยช่วงเวลาชุลมุนกดดันให้คนตัวเล็กจรดปลายปากกาลงมาบนเอกสารที่เขาเตรียมเอาไว้ให้
และด้วยความอยากเอาชนะ ถึงแม้เธอจะไม่ได้อยากได้กาสิโนจากเขาจริงๆ แต่ก็ตั้งใจรับมันไว้ก่อนแล้วค่อยคืนให้เขาทีหลังเพื่อความสะใจ
เธอรีบเซ็นชื่อตัวเองลงไปบนเอกสารโดยไม่ทันได้อ่านรายละเอียดเอกสารให้ดีก่อน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เซ็นชื่อลงไปแล้ว
“อ๊ะ!” คนตัวเล็กตาโตด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ เจโรมก็เดินอ้อมมาจรดริมฝีปากหนาลงมาบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอหลังจากที่เธอพึ่งจะเซ็นเอกสารเสร็จได้ไม่นาน
“ไม่ใช่แค่กาสิโนที่ฉันจะยกให้เธอ แต่หลังจากนี้ทุกอย่างของฉันเป็นของเธอทั้งหมด”
“คุณพูดอะไรของคุณน่ะ แล้วเป็นบ้าอะไรอยู่ดีๆ ก็มาจูบฉัน” คาร์ลินโวยวายหลังจากได้อิสระคืนมา มือเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆ ด้วยความตกใจ
“คาร์ลินนี่มันไม่ใช่เอกสารยกกาสิโนให้แล้ว แต่ที่เธอเซ็นลงไปมันเป็น…”
“เป็นอะไร?” น้ำเสียงที่เม็ดฝุ่นเอ่ยขึ้นหลังจากหยิบเอกสารไปอ่านทำให้คาร์ลินรู้สึกใจคอไม่ดีเท่าไหร่นัก
“ทะ…ทะเบียนสมรส”
“ฮะ! อะไรนะ!!”
“ฉันบอกจะยกกาสิโนให้ถ้าเธอชนะเดิมพัน แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าจะให้แบบไหน ตอนนี้อย่าว่าแต่ยกกาสิโนให้เลยบอกแล้วไงว่าอยากได้อะไรฉันยกให้หมดเลย…เมียจ๋า”
Episode 08 มีผัวโดยไม่รู้ตัวทั้งสามคนนิ่งอึ้งไปอยู่พักใหญ่ กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดท่าให้คนเจ้าเล่ห์อย่างเจโรมอย่างจังคาร์ลินก็กลายเป็นผู้หญิงที่มีสามีโดยถูกต้องตามกฎหมายไปเสียแล้ว“ทำแบบนี้ได้ไงวะ!” เซเวียร์ตะโกนออกไปหลังจากพยายามดึงสติตัวเองกลับมา การกระทำของเจโรมทำให้เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เพราะนี่ไม่ต่างจากการโกงซึ่งๆ หน้าเลยด้วยซ้ำไป“ฉันทำอะไร? ก็แค่ทำตามที่รับเดิมพันเอาไว้ฉันแพ้ฉันก็ยกกาสิโนให้เพื่อนนายแล้วไง” เจโรมไหวไหล่พลางแย่งทะเบียนสมรสจากมือของคาร์ลินมาส่งให้ลูกน้องเอาไปเก็บ“ทำแบบนี้รู้ไหมว่ากำลังรนหาที่ตายให้ตัวเองน่ะ คุณรู้ไหมว่าพ่อคาร์ลินเป็นใคร” เม็ดฝุ่นบอกด้วยน้ำเสียงเวทนา เพียงแค่คิดว่าอาคิรารู้เรื่องนี้ก็ไม่อยากนึกภาพตามแล้วว่าอนาคตเจโรมจะเป็นยังไง“ฉันไม่รู้หรอกว่าพ่อเมียฉันเป็นใคร แต่ถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ฉันก็พร้อมจะเข้าไปทักทายพ่อตาเสมอ” เจโรมตอบคำถามของเม็ดฝุ่นในประโยคแรกก่อนจะหันกลับมาพูดคุยกับหญิงสาวที่ยืนมองเขาด้วยสายตาเหม่อลอย
Episode 09 คำเตือนเมื่อตัดสินใจเก็บซ่อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ให้ครอบครัวรับรู้คาร์ลินจึงต้องคอยรับมือกับบอดี้การ์ดที่อาจจะสงสัย และนำเรื่องนี้ไปบอกครอบครัวของเธอ วันพรุ่งนี้เธอเองก็จะต้องบินกลับไปฝรั่งเศสแล้ว จึงได้ส่งข้อความนัดเจโรมออกมาเจอกันที่ร้านอาหาร โดยบอกกับบอดี้การ์ดว่าจะไปเดต แน่นอนว่าพวกเขาต้องรายงานเรื่องนี้กับพ่อของเธอ ซึ่งเธอก็ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เมื่อไม่สามารถปิดไปตลอดได้ก็จำเป็นต้องหลอกให้ตายใจไม่ให้พ่อของเธอเป็นฝ่ายสืบเรื่องราวด้วยตัวเอง“สวัสดี” คาร์ลินกล่าวทักทายเจโรมที่ขับรถซูเปอร์คาร์คันหรูมารับเธอที่หน้าโรงแรม โดยมีบอดี้การ์ดของเธอยืนส่งเธอขึ้นรถไปกับเขา“ชีวิตเธอเหมือนอยู่ในอันตรายตลอดเวลาเลยนะถึงต้องมีบอดี้การ์ดคอยจับตาดูตลอดเวลาแบบนี้” เจโรมบอกขณะเปิดประตูรถให้คนตัวเล็กพร้อมกับมองไปยังบอดี้การ์ดคู่หูของเธอที่มองมา“ขนาดมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้ฉันยังซวยวนมาได้ผัวแบบคุณได้เลย”“ผัวแบบฉันมันทำไมเหรอ?” เจโรมเอียงค
Episode 10 เริ่มเกมจุดมุ่งหมายคือร้านอาหารที่ตกลงกันเอาไว้ ทว่าเส้นทางกลับไม่ใช่ทางไปร้านอาหาร ดูเหมือนเจโรมที่เป็นคนขับจะเปลี่ยนใจไม่ได้มุ่งตรงไปยังร้านอาหารแล้ว“มาที่นี่ทำไม?” คาร์ลินหันไปเอ่ยถามเมื่อรถหรูเลี้ยวเข้ามาภายในบ้านของเขาที่เธอกับเพื่อนเคยมาเมื่อไม่กี่วันก่อน“ฉันอยากกินแบบส่วนตัวหน่อยน่ะ” ใบหน้าคมคายหันมาตอบกลับหญิงสาว ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป เธอมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งเธอราวกับกำลังแสดงบทสุภาพบุรุษเรียวขาเล็กก้าวลงจากรถพลางลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เดาว่าเธอคงต้องเตรียมตัวรับมือกับความเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มในไม่ช้า จะปล่อยให้พลาดท่าเขาเหมือนครั้งก่อนไม่ได้อีก“ไหนล่ะอาหาร?” คนตัวเล็กเอ่ยถามเมื่อเดินเข้าบ้านมา อย่าว่าแต่อาหารที่ควรถูกจัดเตรียมไว้เลย แม้กระทั่งแม่บ้าน หรือลูกน้องของเขาเธอก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา“ฉันไง…อาหารของเธอคืนนี้” คำตอบที่ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากทำให้คาร์ลินแค่นยิ้มเ
Episode 11 คนคุมเกมปลายจมูกโด่งคมเลื่อนผ่านใบหูขาวสะอาดมาที่เรือนแก้มใสที่เจือด้วยสีแดงระเรื่อมาหยุดอยู่บริเวณปลายจมูกเชิดรั้น สายตาสอดประสานมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาของกันและกันราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง“พรุ่งนี้ฉันบินเช้านะ” คนตัวเล็กเอ่ยบอกเสียงเบา เพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะเพลิดเพลินจนไม่รู้เวลา“เดี๋ยวฉันไปส่ง” เจโรมตอบอย่างไม่ใส่ใจนักเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลยสายเดี่ยวบนไหล่มนถูกรูดลงมาจนเดรสสีดำหล่นลงมากองอยู่บริเวณเอวคอดบาง หน้าอกอวบอิ่มที่ไร้ซึ่งการปกปิดเผยสู่สายตาหื่นกระหายของชายหนุ่ม เขาจ้องมองยอดปทุมถันทั้งสองข้างของคนตัวเล็กด้วยความพึงพอใจ รอยยิ้มมุมปากของเขายิ่งทำให้คาร์ลินรู้สึกหมั่นไส้เข้าไปใหญ่“เมียฉันซ่อนรูปกว่าที่คิดนะ”“หวังว่าฉันจะไม่ขาดทุนนะ” คาร์ลินยกยิ้มมุมปากพลางเลื่อนมือมาลูบไล้บริเวณเป้ากางเกงปูดนูนไปมา โดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากแววตาหื่นกระหายคู่นี้เลยแม้แต่น้อย“อย่าว่าแต่ขาดทุนเลย ฉันจะให้กำไรจนเธอรับไม่ไหวเล
Episode 12 เจ้าหญิงน้อยเจโรมมองใบหน้าทะเล้นของสาวน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ก่อนจะมอบจูบที่เร่าร้อนดุดันให้เธอเป็นรางวัล ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวเนียนวนมาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่มทั้งสองข้างสลับกันไปมา ใบหน้าหวานเชิดขึ้นด้วยความรู้สึกเสียวซ่านร่างกายดิ้นพล่านไปมาเมื่อถูกอีกฝ่ายปรนเปรอ โดยเฉพาะริมฝีปาก และปลายลิ้นอุ่นร้อนที่พรมจูบมาทั่วเรือนร่างของเธอร่างบางถูกจับพลิกให้กลับไปนอนอยู่ใต้ร่างหนาดังเดิม เจโรมตั้งใจดูดดุนผิวอ่อนจนเกิดเป็นรอยรักกลีบกุหลาบแดงช้ำไปทั่วร่างเพื่อตั้งใจทิ้งรอยรักเอาไว้ย้ำเตือนคนตัวเล็กว่าเธอได้เป็นเมียของเขาทั้งในทางนิตินัย และพฤตินัยอย่างสมบูรณ์แล้ว“อื้อ! เจโรม~” ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนลากผ่านไหล่มนลงมาดูดดุนปลายถันขาวอมชมพูทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมาจนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ มือเรียวขยุ้มเส้นผมสลวยสีบลอนด์ทองเพื่อระบายความเสียวซ่านที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง“ฉันชอบน้ำเสียงเวลาเธออ้อนฉันแบบเมื่อกี้จัง” ใบหน้าคมคายละความสนใจจากปลายถันตรงหน้าขึ้นมากระซิบบอกบริเวณ
Episode 13 คืนร้อนเจโรมฉวยโอกาสระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังให้ความสนใจกับบทสนทนาดันเอาหัวเห็ดปลายบานเข้ามาในช่องทางรักคับแคบ ปลายเท้าเรียวจิกเกร็งลงบนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่มือเรียวจิกเส้นผมของชายหนุ่มเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ได้รับจากการรุกล้ำของลำกายใหญ่“อื้อ!…จะ…เจโรมฉันเจ็บ” หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่าริมฝีปากหนาโน้มลงมาจูบบนหน้าผากมนเป็นการปลอบโยน“ทนอีกนิดนะเด็กดี” ชายหนุ่มกระซิบบอกข้างใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพราะเขาเองก็รู้สึกปวดจากการตอดรัดของช่องทางรักคับแคบไม่ต่างกันทั้งที่พึ่งนำเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนหัวเท่านั้น“อื้อ” คนตัวเล็กครางตอบรับในลำคอเบาๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความทรมานทั้งเร่าร้อนจนอยากจะปลดปล่อยออกมา แต่ก็ทรมานราวกับร่างกายจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆหลังจากพยายามปรับตัวให้เข้ากับร่างกายของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งเจโรมก็เริ่มดันแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบอีกครั้ง ยิ่งดันเข้าไปลึกเท่าไหร่กลิ่นคาวเลือดก็ค่อยๆ ลอยฟุ้งอ
Episode 14 พ่อมาตามหลังจากผ่านบทรักที่เร่าร้อนมาหลายบทติดต่อกันร่างกายบอบบางของหญิงสาวก็ไม่สามารถรับไหวได้อีกต่อไปทำให้เธอผล็อยหลับไปบนเตียงนอนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักตลอดทั้งคืน คืนนั้นเธอจึงไม่ได้กลับไปพักที่โรงแรมตามที่เจโรมตั้งใจเอาไว้แสงแดดยามเช้าที่เล็ดลอดผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาบางทำให้คาร์ลินที่กำลังนอนหลับตาพริ้มงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างไม่มีทางเลือก และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เธอต้องจำใจตื่นขึ้นมาก็คือเสียงเอะอะโวยวายที่ดังอยู่ด้านล่างเธอพยายามดันตัวลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ทันทีที่เคลื่อนไหวร่างกายความเจ็บปวดก็แล่นเข้าสู่ร่างกายทันที แต่ก็พยายามฝืนร่างกายเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมใส่ก่อนเดินออกจากห้องนอนลงบันไดมาด้วยความทุลักทุเล แต่แล้วขาทั้งสองข้างก็พลันหมดแรงขึ้นมาทันทีที่เดินลงมาเจอแขกผู้มาเยือนที่ยืนประจันหน้าอยู่กับเจโรมหน้าประตูบ้าน“ป๊ะป๋า!!!” คาร์ลินตะโกนออกมาด้วยความตกใจรีบเดินไปหลบอยู่หลังเจโรมด้วยท่าทางตื่นตระหนก โดยเฉพาะสายตาที่อาคิรามองมายังชุดที่เธอสวมใส่อยู่ หนำซ้ำร่องรอยร
Episode 15 โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญคาร์ลินส่งสายตามองไปยังเจโรมพยายามสื่อให้เขาหยุดพูดจาเพ้อเจ้อออกมา เนื่องจากเธอรู้ดีว่าพ่อเธอทำได้มากกว่าแค่ขู่แน่นอน“พูดจาเพ้อเจ้ออะไรน่ะ อยากตายจริงๆ รึไง” คาร์ลินบ่นเสียงแหลม เธอพยายามขืนตัวออกจากพันธนาการของลูกน้องพ่อเธอที่จับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้เข้าไปช่วยเจโรม“เพ้อเจ้อตรงไหนฉันพูดจริงต่างหาก เธอบอกว่าพ่อเธอเป็นมาเฟียไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นฉันถึงต้องคุยภาษามาเฟียกับพ่อเธอไง” เจโรมยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีสบายๆ ดูไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย“ภาษามาเฟียกับภาษาหน้าตัวเมียมันต่างกันนะ” อาคินตอบกลับเสียงเรียบแววตาของหนุ่มน้อยที่พึ่งจะเริ่มแตกเนื้อหนุ่มได้ไม่นานแข็งกร้าว และนิ่งสงบต่างกับวัยรุ่นในวัยเดียวกันอย่างสิ้นเชิง“งั้นบอกหน่อยสิว่าภาษามาเฟียที่นายใช้มันเป็นยังไง?” เจโรมเลิกคิ้วหนาขึ้นพลางยกยิ้มมุมปากราวกับเอ็นดูท่าทางขึงขังของอาคิน ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนด้วยขาเพียงข้างเดียวอีกครั้ง
Episode 34 รื้อฟื้นความหลังสายตาหวานเยิ้มมองการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มผ่านกระจกสะท้อนตรงหน้าด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน เมื่ออีกฝ่ายเลื่อนมือลงลูบไล้เนินสามเหลี่ยมอวบนูนไปมาจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานที่ถูกกระตุ้นออกมา“ไหนว่าไม่ให้จับ” อีกฝ่ายเอ่ยแซวย้อนคำพูดของหญิงสาวที่เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้“ก็ตอนนั้นยังไม่อยากนี่” คนตัวเล็กตอบตาใส ไม่ได้รู้สึกกระดากอายที่ถูกยอกย้อนเลยแม้แต่น้อย“หืม อยากอะไร” เจโรมแกล้งเอ่ยถามทั้งที่ตัวเขาเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว หนำซ้ำยังยิ่งกลั่นแกล้งเธอด้วยการดันเอาปลายนิ้วเรียวยาวเข้าไปทักทายปากช่องทางรักเปียกชื้นของคนตัวเล็กจนร่างบางบิดเกร็งไปมาใบหน้าหวานเหยเกไปตามสัญชาตญาณ ยิ่งเธอตอบช้ามากเท่าไหร่ปลายนิ้วร้ายก็ยิ่งดันเข้าไปลึกมากขึ้นเท่านั้น“ตกลงอยากอะไรไม่เห็นพูด” ยิ่งคนตัวเล็กพยายามกลั้นเสียงครางกระเส่าเอาไว้ อีกฝ่ายก็ยิ่งกระตุ้นแกล้งให้เธอเปล่งเสียงออกมา“อะ...อยากได้”“อยากได้อะไร”“อยากได้
Episode 33 ฮันนีมูนคาร์ลินมองปลายทางที่เครื่องลงจอดยังประเทศอิตาลีด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะพาเธอมาไกลถึงขนาดนี้ ที่สำคัญเธอยังไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยต่างหาก“กระเป๋าฉันล่ะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามหากระเป๋าสะพายคู่ใจที่มีของสำคัญของเธออยู่ในนั้นหลายอย่างทั้งเอกสาร โทรศัพท์ และบัตรเครดิตต่างๆ“เก็บเอาไว้ให้แล้ว เราจะไม่ใช้โทรศัพท์กันตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่”“แล้วทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่ ตกลงลักพาตัวฉันมาทำไม” คนตัวเล็กกระแนะกระแหนอย่างไม่เกรงกลัวสถานการณ์ในตอนนี้เลย“แค่จะพาเมียมาฮันนีมูนนี่เรียกลักพาตัวเลยเหรอ ไม่ดูรุนแรงเกินไปหน่อยรึไง” เจโรมแสร้งตีหน้าเศร้าราวกับตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำถูกกล่าวหาให้ความเท็จ“ฮันนีมูน?”“ใช่ เราจะมาฮันนีมูนกันที่นี่ ที่นี่จะมี
Episode 32 ลักพาตัวหน้าตาที่โดดเด่นบวกกับการแต่งตัวที่เน้นเรือนร่างที่สมส่วนตามมาตรฐานทำให้แม้จะนั่งดื่มอยู่เฉยๆ แต่ก็มีผู้ชายมากมายให้ความสนใจอยากเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ“สวัสดีครับมาคนเดียวเหรอ”คาร์ลินเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมากระซิบข้างหูเธอท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังแข่ง เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขาแต่ยกแก้วตัวเองขึ้นจิบแทนทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศธาตุสำหรับเธอ ยิ่งเห็นหน้าเขาเธอก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เพราะสีผมบลอนด์ทองของเขามันทำให้เธอนึกถึงใครบางคนที่เธอกำลังบ่นถึงเมื่อครู่“ผมชื่อ...”“ฉันไม่ได้อยากรู้จัก” คาร์ลินถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญ ก่อนจะพูดดักอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์“ดูเหมือนคุณจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ”“เพราะเห็นหน้าคุณไงเลยอารมณ์ไม่ค่อยดี” คำตอบที่ไร้ซึ่งมิตรภาพสำหรับคนแปลกหน้า ทำให้อีกฝ่ายเองก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก แต่โชคดีที่มีคนเข้ามาช่วยห้ามไม่ให้เรื่องบานปลายเอาไว้เสียก่อน“เขาไม่อยากคุยด้ว
Episode 31 เคลียร์ใจอาคิรากับโจริญได้ปลดล็อกความรู้สึก และเรื่องราวในอดีตของกันและกัน เขากลับกลายมาเป็นคนบริสุทธิ์อีกครั้ง ส่วนคนที่ทำผิดจริงๆ ก็ถูกเอาคืนอย่างเลือดเย็นไม่แพ้กัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่โซเฟียเคยทำเอาไว้ย้อนกลับไปหาตัวเธอ อาคินเป็นตัวแทนจัดการเรื่องราวทุกอย่าง โซเฟียถูกวางยาเหมือนที่เคยทำเอาไว้กับโจริญ ก่อนจะถูกจัดฉากว่านอนกับผู้ชายคนอื่นให้สามีกับลูกๆ ของเธอมาเห็นทำให้เธอถูกฟ้องหย่าจนไม่เหลืออะไรเลย จากชีวิตที่เคยขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดก็ถูกดึงลงมาต่ำสุดเพราะการกระทำของตัวเอง และแน่นอนว่าตลอดชีวิตของเธอจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ตามหลอกหลอนเธอไปทั้งชีวิตไม่ว่าเธอจะเริ่มต้นครอบครัวใหม่กี่ครั้งก็ตามโจริญเองถึงสภาพจิตใจจะค่อนข้างย่ำแย่กับความจริงที่ได้รับรู้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังรู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่ได้เพื่อนที่จริงใจกับเธอกลับคืนมา และการที่ได้เห็นเขามีชีวิตครอบครัวที่ดีเธอเองก็พลอยยินดีไปกับอาคิราด้วย และครอบครัวของเธอกับเขาดูเหมือนจะไม่สามารถตัดขาดกันได้ง่ายๆ เมื่อเจโรมน้องชายของเธอเดิน
Episode 30 ปิดฉากคาร์ลินพยายามคิดทบทวนการตัดสินใจของตัวเองอยู่พักใหญ่ เธอมองแววตาหวาดกลัวของโซเฟียผ่านช่องเล็กด้วยความรู้สึกที่ยังคงสับสน เพราะเธอกลับไม่ได้มองเห็นใบหน้าของโซเฟียที่เป็นเจ้าของใบหน้า แต่กลับสะท้อนเห็นใบหน้าของเจโรมที่สะท้อนกลับมา เธอได้แต่ถามตัวเองว่าถ้าการตัดสินใจของเธอมันทำให้เขาเจ็บปวดก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับตัวเธออยู่แล้ว แต่ก็ทำได้เพียงอวดเก่งไปอย่างงั้นก่อนจะยิ้มเยาะให้กับความโลเลของตัวเอง เธอถือมีดเดินกลับออกมาจากห้องสารภาพบาป ซึ่งหมายความว่าเธอได้ตัดสินใจเลือกแล้วว่าอยากให้เรื่องราวที่แสนยาวนานนี้จบลงอย่างไร“ป๊ะป๋า! มัมมี้! อาคิน! ทำไมทุกคนถึงมาอยู่ที่นี่” คนตัวเล็กดวงตาเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจที่เห็นสมาชิกครอบครัวตัวเองพร้อมใจกันนั่งเรียงหน้ากระดานอยู่ตรงเก้าอี้ด้านหน้า และที่สำคัญดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่ครอบครัวเธอเท่านั้น แต่ถ้าเหลือบมองไปอีกฝั่งยังมีเจโรม และผู้หญิงอีกคนนั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆ ด้วย ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าผู้หญิงคนนั้นคงจะเป็นโจริญพี่สาวของเจโรมนั่นเอง&ldquo
Episode 29 การสารภาพบาปร่างบางในรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีแดง กับชุดเดรสผ้าซาตินมันวาวสีแดงเลือดหมู ทรงผมตรงยาวดำขลับสยายปิดแผ่นหลังเนียนสวย ใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดัง เดินสะบัดขาเรียวเข้ามาภายในโบสถ์คาทอลิกแห่งหนึ่งที่ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของโซเฟียบุคคลที่เธออยากเจอมานาน แต่พึ่งจะมีโอกาสได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก และช่างเป็นการพบกันที่น่าประทับใจสำหรับเธอ เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือโซเฟียที่โดนมัดติดกับเก้าอี้นั่งอยู่ในห้องสารภาพบาป ส่วนเธอก็เข้ามาประจำที่ตำแหน่งของบาทหลวงจำเป็นมองใบหน้าเวทนาของอีกฝ่ายผ่านช่องเล็กๆ"สวัสดีดีใจที่ได้เจอนะ""แกเป็นใคร""แย่จัง ฉันคิดว่าเธอรู้จักฉันแล้วซะอีก แต่ไม่เป็นไรเราค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก็ได้เริ่มจากเธอก่อนเป็นไง" คนตัวเล็กยกยิ้มมุมปากเพียงลำพังในห้องเล็ก "แต่นับว่าเรามีวาสนาต่อกันนะ ไม่คิดว่าเธอจะได้สามีอยู่ที่ฝรั่งเศสพอดีเราเลยเจอกันได้ไม่ยากอย่างที่คิด""ต้องการอะไรจากฉัน""ต้องการความจริงเมื่อยี่สิบปีก่อนจา
Episode 28 ความเห็นต่างคาร์ลินจ้องมองเจโรมด้วยสายตาพินิจพิจารณาอยู่นานสองนาน ทั้งคำพูดสายตา และการกระทำของเขามันดูแปลกไปจากทุกครั้ง ที่สำคัญคือเธอไม่สามารถเดาได้เลยว่าอันไหนคือเรื่องจริง อันไหนที่เขากำลังแสดงละครอยู่ รวมถึงเรื่องโซเฟียคงมีรายละเอียดลึกมากกว่านี้ที่เขารู้มาแต่พูดออกมาไม่หมด แต่อย่างน้อยเธอก็เชื่อว่าที่เขาพูดมาคือความจริง“ฉันจะกลับแล้ว แล้วคุณไม่กลับไปดูกาสิโนของคุณรึไง”“กลับไปด้วยกันสิ”“ทำไมฉันต้องกลับไปกับคุณด้วย”“ผัวเมียก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ อีกอย่างฉันกลัวว่ากลับไปแล้วเธอจะของขาดอดใจไม่ไหวไปเอาไม่เลือกแทน”“คุณพูดเหมือนฉันเลือกคุณอย่างงั้นแหละ” คาร์ลินไหวไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน“ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ ไม่รู้ตัวเหรอว่าเป็นคนมาถ่างขาให้ฉันเองถึงที่” เขายกยิ้มมุมปากพร้อมกับโน้มลงไปจูบริมฝีปากอ่อนนุ่มของคนตัวเล็กที่นอนทำหน้าอวดเก่งอยู่บนตักของเขา“เสียตัวทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มหน่อยสิ เพราะดูแล
Episode 27 ของสำคัญหลังจากผ่านค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความสุข และความเจ็บปวดมาอย่างหนักหน่วง ผิวกายที่เคยเนียนละเอียดตอนนี้ก็เต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ทั้งสองคนร่วมกันสร้างเมื่อคืนที่ผ่านมา เรี่ยวแรงที่ใช้ไปจนหมดสิ้นทำให้ตอนนี้คนตัวเล็กทำได้เพียงนอนซมอยู่บนที่นอนร่างกายบอบช้ำถึงขั้นที่เพียงแค่จะเคลื่อนไหวร่างกายยังระบมไปทั่วร่าง แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับรู้สึกว่านี่ไม่ใช่การเจ็บป่วยที่เลวร้ายเสียทีเดียวเนื่องจากตลอดเวลายังมีเจโรมคอยดูแลอยู่ไม่ห่างกาย ทั้งที่เขาควรจะดีใจที่ได้เห็นเธอในสภาพนี้เสียด้วยซ้ำ“มาดูแลฉันทำไม” คนตัวเล็กเอ่ยถามหลังจากที่พึ่งกินยาลดไข้ กับยาแก้อักเสบที่เจโรมเอามาให้“ผัวดูแลเมียมันมีอะไรผิดปกติตรงไหน” ชายหนุ่มตอบแบบขอไปที พร้อมกับช่วยประคองร่างบางให้ลุกขึ้นพิงหัวเตียง“คุณเหมาะกับบทผัวชั่วมากกว่าผัวที่แสนดีนะ” คาร์ลินแค่นหัวเราะเบาๆ เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้อยากจะดูแลเธอจริงๆ อย่างที่ปากว่า“หัวเรา
Episode 26 ความจริงในอดีตจากปลายนิ้วก็เริ่มขยับมาเป็นลำกายใหญ่ที่จ่ออยู่บริเวณปากทางรักเปียกชื้นแทน เธอมองลำกายใหญ่ที่ไร้ซึ่งการป้องกันเหมือนครั้งก่อนด้วยหัวใจที่เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ทั้งตื่นเต้น และประหม่าในคราเดียวกัน เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะเกินกว่าที่ทั้งเธอและเขาจะรับไหว“ถุงยางอยู่ไหน” คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“จำเป็นด้วยเหรอ” ใบหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึกมีเพียงคิ้วหนาที่เลิกขึ้นสูงเป็นการถามกลับประโยคคำถามของหญิงสาว“คุณคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สิ้นคิดหรอกเชื่อฉันสิ”“ฉันไม่เชื่อใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง แต่ฉันรับปากได้ว่าฉันไม่เสกเด็กเข้าท้องเธอหรอกฉันเองก็ไม่อยากให้ลูกฉันโตมาเป็นเด็กมีปัญหา”“คุณว่าฉันเป็นเด็กมีปัญหาเหรอ” คนตัวเล็กรีบถามกลับเสียงแข็ง เมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนอีกฝ่ายเหน็บแนม“เปล่าสักหน่อย แค่ไม่อยากให้โตมาดื้อเหมือนแม่”“เหมือนแม่อะไรกันฉันไม่ได้บอก