“คงเป็นของที่ฝ่าบาทพระราชทาน” หยวนฉุนยกจอกที่มีน้ำชาเย็นขึ้นดื่ม น้ำชาลอยดอกโม่ลี่ (มะลิ) ทั้งหอมทั้งเย็นชื่นใจ
รั่วเยียนได้ยินเช่นนั้นกลับหัวเราะเบาๆ
“คุณหนูรองคงกลัวพระสนมมาก”
หญิงสาวแค่นเสียงเฮอะ “กลัวข้าหรือ ก็คงมีส่วน”
“แล้วอีกอย่าง นางเป็นคนในตระกูลสาขา สมควรเรียกนางว่าคุณหนูรองหรือ นางมิสิทธิ์เป็นน้องสาวข้าหรือ”
รั่วเยียนรีบคุกเข่าลง “ขออภัยเพคะ หม่อมฉันหลงลืมไป”
นางลืมไปได้อย่างไรว่าตระกูลฟู่เป็นตระกูลเก่าแก่หลายชั่วอายุคน ถือธรรมเนียมรับลูกคนโตเป็นสมาชิกตระกูลหลัก ส่วนลูกคนถัดๆ กันลงมา พอเกิดมาก็ให้เป็นสมาชิกตระกูลสาขา อีกทั้งนับว่าฐานะต่างกันราวฟ้ากับดิน
ดูจากการที่หยวนฉุนและหยวนเพ่ยเข้าวัง หยวนฉุนที่เป็นธิดาที่เกิดในตระกูลหลัก บิดารับราชการในตำแหน่งสูง จึงได้รับราชโองการคัดเลือกสาวงามเป็นหลี่ผินรู่กง[3] หลังจากถวายตัวได้เลื่อนขึ้นเป็น เจาอี๋[4] ไม่นานก็เลื่อนขึ้นเป็นสนมชั้นเฟยเว่ยหลังจากที่ตั้งครรภ์รัชทายาทให้แก่หวงตี้ในปีที่สามที่นางเข้าวัง
ต่างจากหยวนเพ่ยที่บิดาเป็นแค่เจ้ากรมโยธา ฐานะไม่สูงส่ง เวลาเข้าวังจึงเป็นเพียงเหลียงเจีย รอวันที่ฝ่าบาทจะโปรดหรือไม่โปรด ไม่กลายเป็นนางกำนัลก้นครัวก็ถูกเพิกเฉยจากหวงตี้ชั่วชีวิต
รั่วเยียนช้อนตามอง จากนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง “อีกสามเดือนองค์ชายน้อยจะมีพระประสูติกาล ขออย่าได้ลืมที่ฟู่ฟูเหรินกำชับไว้เพคะ”
หยวนฉุนปรายตามองพลางลูบครรภ์ของตนเอง ปลอกทองคำลงยาประดับพลอยสาดประกายเย็นเยียบ “...ข้ารู้ดี ถ้าข้าประสูติองค์ชาย เมื่อนั้นเพ่ยเอ๋อร์ก็ไม่จำเป็น”
“แล้วพระสนมจะ...”
“...บางทีการเพิกเฉยก็เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง เพ่ยเอ๋อร์นิสัยแปลกประหลาด ไม่ช้าคงมีคนไม่พอใจนาง หาทางเล่นงานนางเอง”
เมื่อนั้นนางแค่เพียงอ้างว่าไม่สบาย มิอาจให้หยวนเพ่ยที่กำลังเดือดร้อนเข้าพบ เมื่อนั้นนางก็จะถูกเล่นงานจนออกจากวังไปเอง โดยไม่ต้องเปลืองแรงอันใดเลย...
เบี้ยที่หมดประโยชน์ แถมมีทีท่าจะแย่งชิงทุกสิ่งที่นางปูทางมาเพื่อลูกของนาง นางจะเก็บไว้ทำไม...นี่ถือว่าเป็นวิถีของผู้แข็งแกร่งที่ใครๆ ก็ทำกันมาช้านาน
หลังจากนั้นไม่นาน หยวนเพ่ยก็กลับไปยังตำหนักชุนชิว พร้อมทั้งถาดเครื่องประดับชุดเดิมที่หวงตี้โปรดพระราชทานให้เป็น ‘ค่าจ้าง’ ในการนวดคืนนี้
ตอนนางอยู่ที่โลกเดิม นางเป็นมือนวดที่คนเฒ่าคนแก่เรียกกันติดปากว่า ‘รสมือเด็ด’ ลูกค้าของนางก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจกระเป๋าหนักทั้งหญิงชายที่ต้องการผ่อนคลายยามเหน็ดเหนื่อยเคร่งเครียดจากการทำงาน
บางคนนอนไม่หลับก็เรียกเธอมานวดกดจุดเพื่อให้หลับลึกชั่วโมงถึงสองชั่วโมงก็ตัวเบาสมองปลอดโปร่งกลับไปทำงานต่อ บ้างก็มีอาการออฟฟิศซินโดรมตั้งแต่หัวไหล่ลามไปถึงแขนขา เธอก็ประเมินอาการและนัดวันนวดบำบัดอาการจนหายดีไม่มีการเลี้ยงไข้ ดังนั้นเมื่อมีฝีมือดี ซื่อสัตย์ ยึดหลักจรรยาบรรณด้วยถือว่าเป็นศิษย์มีครู ประกอบกับเป็นคนไม่พูดมากให้รำคาญใจ จึงมีลูกค้าหลายรายให้ค่าตอบแทนเพิ่มตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นแล้วแต่ความพอใจ
เอาเถอะ ถ้าคนคนนั้นให้นางเห็นว่าเป็นค่าจ้าง นางก็จะรับไว้ ส่วนจะมาประดับร่างหรือไม่ก็สุดแล้วแต่จะเรียกถามก็แล้วกัน...
เมื่อมองไปยังตำหนักฝั่งขวาที่พี่สาวอยู่ เมื่อครู่นางไปเข้าเฝ้า แต่นางมิให้เข้าพบด้วยอ้างเหตุว่ากำลังพักผ่อน หยวนเพ่ยได้ยินดังนั้นก็พอเดาได้ว่าลี่เฟยไม่พอใจนางแน่
ฟู่หยวนเพ่ยอยากจะร้องดังๆ ว่า เป็นเพราะคำสั่งของฟูเหรินตระกูลหลัก และความปรารถนาของลี่เฟยที่จะหาผู้อื่นมาเหนี่ยวรั้งฝ่าบาทไว้ที่ตำหนักชุนชิวมิใช่หรือ นางถึงมาลำบากมือเท้า สำแดงวิชาสำนักอู่ฝอซื่อเพื่อเลี่ยงการถวายตัวเช่นนี้ แต่มันดันฟลุกเป็นที่โปรดปราน จะให้นางคว้าคอเสื้อหวงตี้มาเขย่าๆ แล้วข่มขู่บอกให้เลิกทำ ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เสียเมื่อไร
นี่แหละหนา เขาว่าบางครั้งสตรีนั้นบางครั้งไร้เหตุผลเมื่อมีคนรัก ต่อให้ผู้หญิงแค่เดินผ่านก็หึงหวงไม่เข้าท่า
และไม่ช้าความขี้หึงและหวาดระแวงของลี่เฟยจะทำให้นางเดือดร้อน เมื่อนั้นจะหาทางหนีทีไล่อย่างไรในวังหลวงที่เหมือนดั่งกรงทองกรงใหญ่แห่งนี้
[1] 铜鉴缶 ตู้เย็นสมัยโบราณทำจากสำริด โดยการทุบน้ำแข็งใส่ไว้ข้างในแล้วใส่ขวดน้ำหรือขวดเหล้าไว้สำหรับแช่ให้เย็น
[2] ประมาณ 15 นาที
[3] นางในที่รับจากธิดาของครอบครัวที่มีชื่อเสียงวงศ์ตระกูลใหญ่ ธิดาขุนนางปัญญาชน ธิดาข้าราชสำนักทั้งฝ่ายพลเรือนและกลาโหม โดยมากจะมีฐานะเป็นพระสนมชั้นสูง (ตำแหน่งเจี๋ยยวี๋, เหม่ยเหริน, ไฉเหริน หรือสูงกว่านั้น) หลังจากถวายตัวได้เลื่อนขึ้นเป็น
[4] เจาอี๋ (昭儀) แปลว่า ผู้งามเลิศยิ่ง