ฟู่หยวนเพ่ยครุ่นคิดอยู่ตลอดทั้งวัน รู้ตัวอีกทีก็เป็นยามซวี[1]ซึ่งเป็นเวลาหลังจากหวงตี้สวดมนต์เป็นจริยาวัตรเสร็จ เวลาต่อจากนั้นเป็นเวลาเข้านอนเด็กสาวถูกห่อตัวด้วยผ้านวมหนาเดินทางมายังตำหนักใหญ่ เนื่องจากเป็นการถวายงานอย่างเป็นทางการที่มีการลงไว้ในบันทึกแดง ฟู่หยวนเพ่ยถูกแบกมาในท่านอนหงาย จึงเห็นใบหน
“A secret make a woman...woman เพคะ” หยวนเพ่ยเอ่ย“หืม?”“เป็นสำนวนที่เคยได้ยินจากชาวต่างชาติตอนที่ตามท่านพ่อไปคุมงานซ่อมแซมว่านหลี่ฉางเจิ้น แถบเส้นทางสายไหมน่ะเพคะ” นางเอ่ย ไม่กล้าบอกว่าเป็นคำพูดที่มาจากการ์ตูนเด็กแว่นนักสืบที่เป็นการ์ตูนเรื่องโปรด “แปลว่า ความลับทำให้สตรีเป็นสตรี ผู้หญิงเราที่เถร
หลังกลับจากตำหนักใหญ่ในช่วงบ่าย นอกจากเครื่องประดับและแพรพรรณเป็น ‘ค่าจ้าง’ ในการถวายงานเป็นที่พอพระทัยแล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าฟู่หยวนเพ่ยไม่มีนางกำนัลรับใช้เป็นของตนเอง มีแต่นางกำนัลของลี่เฟยที่นางแบ่งมาให้เรียกใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะให้เป็นแบบนี้ก็ไม่สมฐานะสตรีชั้นสูงที่ถวายงานฝ่าบาทอย่างเป็นทางการ
ระหว่างที่หยวนเพ่ยและนางกำนัลคนใหม่กำลังอยู่ในอุทยาน ฟู่หยวนฉุนที่อยู่ตำหนักปีกขวากำลังปักตุ๊กตารูปเสือ ของเล่นซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เด็กผู้ชาย ตุ๊กตาสีแดงสด ริมฝีปากยกแยกเห็นเขี้ยวและหนวดน่าเอ็นดู นางคิดถึงเรื่องเมื่อวานพลางลูบครรภ์ของตนอย่างทะนุถนอมรักใคร่เมื่อวานนี้ฟู่ฟูเหรินผู้เป็นมารดามาเยี่ยมน
เพื่อไม่ให้เหล่านางกำนัลและขันทีครหาหยุนรุ่ยกับเมิ่งหลาน หลังจากเล่นทาเล็บประดับเล็บจนพอใจ ก็เดินกลับมายังตำหนักของตน จังหวะเดียวกับที่ทางฝ่ายห้องเครื่องส่งอาหารพระราชทานมายังตำหนักพอดีอาหารพระราชทานที่หวงตี้ให้นางนั้นมีสิบอย่าง ซึ่งมาจากรายการเครื่องเสวยหนึ่งในสามที่ฝ่าบาทเสวยในมื้อนั้น ทั้งหมดมีส
เมื่อถึงยามอุ้ย ฟู่หยวนเพ่ยยกถาดมาใบหนึ่งเดินตรงมายังห้องทรงพระอักษร ที่นั่นหวงตี้กำลังนั่งอยู่ พลางเอานิ้วนวดคลึงหัวคิ้ว สีหน้ากลัดกลุ้มอย่างยิ่ง"ฟู่หยวนเพ่ยถวายบังคมฝ่าบาท""เพ่ยเอ๋อร์หรือ? มานี่สิ ข้ากำลังปวดหัวทีเดียว" เขากวักมือเรียกนาง นางจึงรีบเดินมาหาเขา"เสวยมื้อกลางวันหรือยังเพคะ?"เขาส่า
เซียวซูเฟยเป็นสตรีรูปร่างอวบอิ่ม เป็นธิดาของผู้นำอาณาจักรซีซย่าคนก่อนที่ถูกส่งมาเจริญสัมพันธไมตรี นิสัยสดใสร่าเริงเปิดเผยสมกับเป็นสตรีที่เกิดในทุ่งหญ้า นางสวมชุดแดงปักลายดิ้นทองแพรวพราว ประดับด้วยเครื่องประดับของชาวซีซย่าซึ่งทั้งดูงดงามและแปลกตาในทีส่วนหลิวเต๋อเฟยนั้นเป็นธิดาของแม่ทัพหลิว ที่รบเคีย
เฉากุ้ยเฟยและบรรดาสนมจัดแต่งเครื่องแต่งกายของตนให้เรียบร้อย จากนั้นจึงคุกเข่าเบื้องหน้าโอรสสวรรค์"ถวายบังคมฝ่าบาท""ลุกขึ้น" สุรเสียงอีกฝ่ายอารมณ์ดีอย่างยิ่ง "ไม่นึกว่าฝ่าบาทจะเสด็จมา หม่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง""งานของกุ้ยเฟย เราจะไม่มาได้อย่างไร" เขาประคองนางลุกขึ้น ก่อนเอ่ยต่อ "อีกอย่าง
หลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมด คืนความเป็นส่วนตัวให้แก่ไท่โฮ่วและหยวนเพ่ย ขณะเดียวกันน้ำเมล็ดบ๊วยก็ยกมาพอดีพร้อมกับน้ำผึ้งหนึ่งถ้วยไว้เติมปรับรสชาติตามใจชอบ เด็กสาวกลั้นใจดื่มจนหมดถ้วยก็พบว่ารสชาติไม่ได้แย่เท่าที่คิด รสเปรี้ยวฝาดของเมล็ดบ๊วยคั่ว พอมีรสหวานของน้ำผึ้งเข้าไปก็กินง่ายขึ้น ผ่านไปครึ่งเค่อ อา
“ถวายบังคมหวงไท่โฮ่ว ถวายบังคมเฉากุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ / เพคะ”“ลุกขึ้นเถอะ”หวงไท่โฮ่วแย้มยิ้มเมื่อหยวนเพ่ยและฉู่หวางย่อกายคารวะนาง ก่อนที่ฉู่หวางจะค่อยๆ ประคองหยวนเพ่ยให้ลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นใบหน้าแดงเรื่อน้อยๆ ของชายาน้อยแห่งตำหนักฉู่หวาง ก็อดสบเนตรกับเชียนอิงที่กำลังอุ้มองค์ชายน้อย อมยิ้มเอ็นดูมิได้“
หนึ่งเดือนก่อนออกเดินทาง หยวนเพ่ยรู้สึกตัวเมื่อใกล้ยามเหม่า (05.00 น.- 6.59 น.) นับว่าสายกว่าเวลาที่นางตื่นปกติเกือบชั่วยาม นางลุกขึ้นนั่ง เรือนผมยาวสยายถึงเอว เรือนกายเปลือยเปล่า เนินอกอิ่มมีรอยจูบจางๆ ตีตราความเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังรู้สึกมวนมุนในท้องจนต้องเอามือแตะเบาๆนับว่าการเดินทางต
“สัญญานี้เริ่มตั้งแต่เมื่อใดเพคะ”หยวนเพ่ยเปิดคำถามทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่จวนหวาง ชายหนุ่มยังไม่ตอบคำถามนางทันที เพียงจูงมือนางไปยังห้องนอน เขาดึงสลักที่เป็นกลไกออกเล็กน้อย เมื่อช่องที่อยู่ตรงหัวนอนเปิดออก ชายหนุ่มจึงหยิบกล่องใบหนึ่งมา หยวนเพ่ยจำได้ว่าเป็นกล่องที่หวงตี้พระราชทานให้เขาในวันเสกสมรส เม
เสียนเฟยคล้ายว่าถูกท่อนไม้หนาหนักทุบหัว สมองอื้ออึงงุนงง ตบแต่งชายาคนเดียวบ้าบออันใด!? ฉู่หวางผู้นี้กล่าววาจาเหลวไหลอันใดออกมา! ไม่มีทาง การเลือกเฟ้นชายาให้แก่เชื้อพระวงศ์ชั้นหวางทำไปเพื่อความมั่นคงและฐานอำนาจในราชบัลลังก์ บุรุษที่เห็นผลประโยชน์บ้านเมืองเช่นฝ่าบาทไม่มีทางยอมสัญญาเช่นนั้นแน่ใช่...นี
งานคัดเลือกชายาให้ฉู่หวาง จื่อหาน จัดขึ้นในลานหน้าตำหนักชุนชิว ที่นั่นนอกจากเสียนเฟยและเหล่าสาวงามที่นางคัดเลือกมาแล้ว ยังมีเฉากุ้ยเฟย หลิวเต๋อเฟย และเซียวซูเฟยร่วมด้วย ทั้งสามอยู่ในชุดประจำฤดูใบไม้ผลิที่ทั้งสีสันสวยงาม เนื้อผ้าค่อนข้างเย็นสบาย ทั้งสามโบกพัดกลมพลางสนทนาอย่างออกรสเมื่อได้เวลาตามนัด
เมื่อเข้าสู่เดือนที่สามของการแต่งงานระหว่างฉู่หวางกับหยวนเพ่ย ก็มีเรื่องมงคลเกิดขึ้นในจวน ไป๋ฟูเหรินที่พำนักอยู่ด้วยได้ให้กำเนิดลูกแฝดชายหญิง นับว่าเป็นบุตรหงส์บุตรมังกรอย่างแท้จริง เด็กผู้ชายตั้งชื่อว่าซือเสียน เด็กผู้หญิงตั้งชื่อว่า ซือเซียน เด็กน้อยทั้งสองสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยการดูแลของหมอหลว
“แต่นางก็ไม่ จึงกลั่นแกล้งให้หยวนเพ่ยพลาดงานเลี้ยงของเฉากุ้ยเฟยสินะ” หวงไท่โฮ่วยิ้มแย้ม จากคำบอกเล่า ละครโรงนั้นก็ช่างยิ่งใหญ่อลังการ ชวนให้นึกถึงตอนที่พระนางยังขับเคี่ยวกับบรรดาสนมต่างๆ ในสมัยสาวๆ จริงๆ นั่นละ“นั่นเป็นการเตือนของลูก ลูกอยากให้เสียนเฟยหยุดเพียงแค่นั้น ทว่านางกลับไม่ แม้ลูกจะให้หยวน
ณ ตำหนักคุนหนิง ครานี้เงียบสงบ มีเพียงหวงไท่โฮ่วที่พินิจพิจารณาภาพวาดสาวงามหลายสิบภาพที่ทางเจ้ากรมพิธีการจัดหามาให้ จังหวะเดียวกับที่หวงตี้เสด็จมายังตำหนัก“ลูกถวายพระพรเสด็จแม่”“ลุกขึ้นเถอะ” หวงไท่โฮ่วยิ้มบาง “วันนี้ลมอันใดหอบฝ่าบาทมาหาแม่ได้เล่า”“ลูกคิดถึงเสด็จแม่จึงมาเยี่ยมพ่ะย่ะค่ะ” เขายิ้ม พล