Share

บทที่ 9 หวงเหม่ยอิง

last update Последнее обновление: 2025-07-29 06:02:26

หลังจากที่ได้เจอแขกเหวินเจิ้งที่บริษัทไปเมื่อวานนี้ วันนี้จงเซ่อก็แจ้งว่าจะมีแขกอีกคนหนึ่งมาหาเขาอีก และดูท่าว่าคนนี้คงจะสำคัญไม่น้อยเหวินเจิ้งถึงอนุญาตให้เข้ามาในคฤหาสน์ได้

“คุณหนูเหม่ยจะไปที่สวนเหรอครับ” จงเซ่อเอ่ยถามเมื่อเห็นเหม่ยอิงกำลังเดินอยู่ตรงโถงทางเดิน หญิงสาวส่ายหน้าก่อนตอบ

“เปล่าหรอก ก็แค่ตามหาอาหลันอยู่น่ะ เห็นเธอบ้างหรือเปล่า?”

“อ้อ คงกำลังเตรียมของว่างอยู่น่ะครับ”

“ของว่าง? แขกเหวินเจิ้งมาแล้วงั้นหรือ” ลูกน้องคนสนิทของสามีพยักหน้าตอบ

“ใช่ครับ ผมกำลังจะไปตามคุณเหวินอยู่พอดี”

“ดูแล้วเขาน่าจะสนิทกันมากเลยนะ คุณเหวินถึงอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ได้น่ะ”

“ใช่ครับ ความจริงคุณหนูเหม่ยก็เคยเจอเขานะครับ ดูคุยกันถูกคอไม่น้อยเพราะคุณหยุนโจวน่ะค่อนข้างโปรดปรานแอลกอฮอล์พอ ๆ กับคุณหนูเหม่ยก่อนหน้านี้เลยครับ” หญิงสาวชะงักครั้นได้ยินชื่อที่แสนคุ้นเคยนั้น ทว่าในตอนที่กำลังจะถามต่อ แขกของเหวินเจิ้งที่สมควรอยู่ในห้องรับแขกกลับโผล่มาขัดบทสนทนาเสียได้

“อ้าว คุณหนูเหม่ยอิงนี่นา ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ” ชายผู้นั้นคือหยุนโจว เขามีส่วนสูงไล่เลี่ยกับเหวินเจิ้ง ใบหน้าหล่อคมติดเล่น ผิวสีน้ำผึ้งสวย ดวงตาสีดำเช่นเดียวกับสีผมที่จัดอยู่ไม่เป็นทรง หยุนโจวแต่งกายสบาย ๆ ด้วยเชิ้ตขาวที่แทบไม่ติดกระดุม คู่กับกางเกงขายาวราคาแพง ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างในขณะที่ก้าวเท้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น

“จะไปไหนล่ะ มานั่งดื่มชาด้วยกันก่อนสิ” เหม่ยอิงยังตั้งตัวไม่ทัน พอ ๆ กับจงเซ่อที่รับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ถูก

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าเธอป่วยด้วยใช่ไหม?” คำถามมารัวจนเหม่ยอิงไม่รู้จะตอบอย่างไร ถึงกระนั้นก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่ได้ เธอจึงบอกให้จงเซ่อไปตามเหวินเจิ้งมาและเธอจะอยู่รับแขกแทนเขาไปก่อน

“อะ อืม เราไปนั่งคุยกันเถอะ” เรื่องของหยุนโจวไม่เคยถูกเล่าให้หญิงสาวฟังมาก่อนจนจงเซ่อเป็นกังวล

“แต่ว่าคุณหนูเหม่ย--”

“แต่เธอก็ดูแข็งแรงดีนี่นา นึกว่าจะผอมลงเสียอีก” ประโยคของลูกน้องคนเก่งถูกขัดเมื่อหยุนโจวยังคงพูดต่อ สุดท้ายจงเซ่อจึงยอมหันหลังขึ้นไปตามเจ้านายตัวเอง

“ไม่รู้หรือไงว่าการวิเคราะห์รูปร่างผู้หญิงมันเสียมารยาท” เหม่ยอิงตอบ เธอคิดว่าหากเป็นคนที่ค่อนข้างสนิทกับตัวเองเมื่อก่อนก็คงปฏิบัติประมาณนี้ หยุนโจวที่ฟังเช่นนั้นจึงหัวเราะ

“ขอโทษที ๆ ก็แค่เห็นว่ายังแข็งแรงก็เลยเผลอพูดออกไป” ทั้งคู่นั่งลงบนโซฟา ชายหนุ่มยังคงยิ้มแย้มเช่นเดิม

“แล้วนี่เป็นยังไง ก่อนหน้านี้ป่วยเพราะอะไรหรือ? ได้ข่าวว่าหนักมากจนต้องนอนโรงพยาบาลตั้งนานเลยนี่” น้ำชาถูกรินใส่แก้ว ในขณะที่หยุนโจวยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ถามไม่หยุดหย่อน

“ก็ป่วยทั่วไป ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหรอก ขอบคุณที่ถาม” ความเคยชินทำให้เหม่ยอิงตอบไปเช่นนั้น ทว่าคนฟังถึงกับชะงักมือที่กำลังยกแก้วชาขึ้นจิบ จะว่าไปคุณหนูเหม่ยอิงยามนี้ดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งคำพูดคำจาและการแต่งกายก็ไม่เหมือนทุกที

หยุนโจวใช้ดวงตากวาดมองคนตรงข้ามแบบพิจารณา จ้าวเหม่ยอิงอยู่ในชุดกระโปรงยาวคอจีนสีอ่อนคู่กับเสื้อคลุมขนเฟอร์ซึ่งพาดค้างไว้ที่ต้นแขน ผมยาวเกล้าขึ้นอวดลำคอระหง ใบหน้างามแสนพยศยังคงดูดื้อรั้นเช่นเคยเพียงแค่ตอนนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างออกไป

ดูน่ารัก น่าเอ็นดูขึ้นหรือเปล่านะ?

“อะไรกัน พอหายป่วยแล้วหายดุร้ายไปด้วยหรือไง” เขาเอ่ยแซว เหม่ยอิงขมวดคิ้วแน่น รู้สึกตะหงิดกับคำว่าดุร้ายซึ่งเหมือนเปรียบเธอเป็นหมาแมวอย่างไรอย่างนั้น

“ฉันแค่ป่วยนะไม่ได้--” ทว่ายังไม่ทันพูดจบประโยคดี

“เหม่ยอิง” ทั้งคู่จำเป็นต้องหยุดบทสนทนาแค่นั้นเพราะได้ยินเสียงทุ้มติดหงุดหงิดของเหวินเจิ้งเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน หยุนโจวรีบยกมือขึ้นโบกทักทายเจ้าของบ้าน แต่ก็ต้องเดาะลิ้นเพราะโดนเพื่อนตัวดีเมินกันได้หน้าตาเฉย

“มาทำอะไรตรงนี้” เขาถามเหม่ยอิง ทว่ายังไม่ฟังคำตอบก็หันไปหาหยุนโจวแล้วพูดต่อ

“แล้วทำไมถึงมาก่อนเวลาที่บอกไว้”

“ฉันเลื่อนเวลาบินกลับแต่ลืมบอกน่ะ” เหม่ยอิงซึ่งเห็นว่าเหวินเจิ้งมาแล้วก็ทำท่าจะลุกออกไป แต่เมื่อยืนขึ้นแล้วกลับโดนมือหนาของสามีรั้งไว้เสียก่อน

“...” เหวินเจิ้งนั่งลงแทนที่เธอก่อนจะคว้าเอวบางไว้แล้วดึงให้เธอนั่งลงข้างกันตามเขา คนตัวเล็กเผลอหลุดร้องอย่างตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว ฝั่งหยุนโจวที่เห็นภาพนั้นได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นขำ ดูก็รู้ว่าที่เมินเขาแล้วยังเรียกเหม่ยอิงด้วยเสียงหงุดหงิดเช่นนั้นเป็นเพราะอะไร

จำได้ว่าก่อนหน้านี้ที่เจอกันยังทะเลาะและไม่ลงรอยกันอยู่เลยนี่นา หรือระหว่างนี้มีอะไรที่หยุนโจวไม่รู้หรือเปล่านะ?

“คราวหลังก็หัดแจ้งก่อนซะบ้าง ถ้าฉันติดงานอยู่จะทำยังไง” เหวินเจิ้งกลับมาที่บทสนทนากับเพื่อนต่อ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังคงไม่ปล่อยให้เหม่ยอิงออกไปจากอาณัติตัวเอง

“รู้แล้ว ๆ เคร่งกันซะจริงนะ” เหม่ยอิงมองทั้งสองคนสลับไปมา เธออยากจะถามเหวินเจิ้งเหลือเกินว่าถ้าจะพูดธุระกันแล้วจะดึงให้เธออยู่ด้วยทำไม?

“คุณเหวิน” เสียงหวานกระซิบแผ่ว พยายามขยับออกจากอ้อมกอดสามีแต่ก็ยิ่งโดนกักไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้น

“อยู่ด้วยกันก่อน รอเฮียไปทานมื้อเช้าด้วยกัน” เสียงทุ้มเอ่ยสั่ง ระยะห่างแสนน้อยนิดทำให้เหม่ยอิงต้องนั่งตัวลีบอยู่ในวงแขนสามี กระทั่งเขาทั้งสองเริ่มพูดคุยเรื่องธุรกิจที่เธอไม่เข้าใจอีกครั้ง หยุนโจวที่เห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นก็นึกสนุก ยามปกติเห็นเอาแต่หาเรื่องจะตีกันอยู่เรื่อย ทว่าตอนนี้เหวินเจิ้งกลับพยายามแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าเขาอย่างชัดเจน

ชาในแก้วพร่องลงแล้วเติมใหม่อยู่หลายครั้ง หัวข้อบทสนทนาดูจริงจังจนเหม่ยอิงไม่กล้าขัด เธอทำเพียงเหลือบมองสามีในมาดนักธุรกิจ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันดูน่าเกรงขามไม่น้อย เขามีแผนขยับขยายโครงการของตัวเองอยู่มาก ยิ่งเวลาพูดถึงจำนวนเงินที่จะได้รับเหม่ยอิงก็ยิ่งรู้สึกตาลาย ราวกับตัวเลขเก้าหลักนั้นดูธรรมดาเสียเหลือเกินสำหรับพวกเขา

กระทั่งผ่านไปสักพักใหญ่ หยุนโจวเริ่มชวนคุยเรื่องที่มันผ่อนคลายลงมาบ้าง คราวนี้เขาตวัดสายตามองภรรยาคนงามของเพื่อนตัวเอง

“อ้อ เมื่อกี้เรื่องที่เราคุยกัน...” หยุนโจวกำลังจะถามถึงเรื่องอาการป่วยที่คุยค้างไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจบประโยค

“คุยอะไร” เหวินเจิ้งกลับแทรกแล้วขมวดคิ้วถามกันเสียก่อน เหม่ยอิงชะงัก ส่วนฝั่งหยุนโจวพยายามกลั้นขำต่อปฏิกิริยาเช่นนั้น ท่าทีราวหวงของยิ่งทำให้วันนี้เขารู้สึกไม่เสียแรงที่เดินทางมาไกลและมาก่อนเวลาเช่นนี้

“ก็แค่เรื่องทั่วไป ตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน” หยุนโจวเป็นคนตอบ ซึ่งคนฟังอย่างเหวินเจิ้งเอาแต่ขมวดคิ้วคล้ายไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ดวงตาคมกริบมองเพื่อนตัวเองอย่างเอาเรื่องเอาราว หากแต่คนที่สนิทกับเหวินเจิ้งมาตั้งแต่เด็กอย่างหยุนโจวกลับไม่นึกกลัว

“ยังดื่มเก่งเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า” เขาหันไปชวนเหม่ยอิงคุยอีกครั้ง

“หยุนโจว”

“อะไรกัน ไหนเมื่อก่อนชอบไล่เธอให้ไปไกลหน้าไกลตาอยู่เรื่อย ยิ่งตอนฉันพาเธอไปดื่มก็ไม่เห็นจะห้าม” ได้ทีก็รีบพูดจนเหวินเจิ้งถอนหายใจหนัก เขาหนีความจริงในข้อนั้นไม่ได้ว่าเมื่อก่อนตนเองแสนตั้งแง่กับภรรยาขนาดไหน

ทว่าเหม่ยอิงที่เพิ่งได้รู้ถึงกับหน้ามุ่ยแล้วขยับห่างคนสูงกว่า ช่วงนี้เธอคงได้ใจไปหน่อยที่เห็นเหวินเจิ้งโอนอ่อนต่อตัวเองนัก แต่ความจริงที่ว่าเขาไม่ชอบเธอขนาดไหนก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

“ดื่มได้สิ” คนแสนพยศเอ่ยตอบ หยุนโจวที่ฟังเช่นนั้นจึงร้องแซวในคอ ส่วนคนเป็นสามีอย่างเหวินเจิ้งตวัดตามองคนข้างกายพลางใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิดเต็มที

“ถ้าเช่นนั้น--”

“กลับไปได้แล้วหยุนโจว” เหวินเจิ้งเอ่ยแทรกเสียงขุ่น คนโดนไล่ถึงกับวางสีหน้าไม่ถูกไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าเหวินเจิ้งจะเอาจริงถึงขนาดออกปากไล่เขาทั้งที่ยังมีงานอีกหลายหัวข้อต้องคุยกัน

เอาจริงงั้นหรือ?

“ล้อเล่นหรือเปล่า เรายังต้องคุย--”

“ไม่คุย กลับไปได้แล้ว” พอมีครั้งที่สองจึงรู้ว่าไม่ควรซักไซ้คนผู้นี้อีก หยุนโจวยกมือยอมแพ้ก่อนจะบอกลาทั้งคู่แล้วเดินออกจากห้องแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก ปกติเขาก็มีนิสัยติดเล่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กับคุณหนูเหม่ยก็เคยทำเช่นนี้หลายครั้ง ทว่าดูเหมือนครั้งนี้เหวินเจิ้งจะจริงจังเสียเหลือเกิน

เมื่อเหลือกันสองคน บรรยากาศโดยรอบพลันชวนให้อึดอัด เหม่ยอิงคิดจะลุกหนีแต่ก็ทำไม่ได้เพราะข้อมือถูกกอบกุมด้วยคนตัวสูงกว่า

หงุดหงิดอะไรของเขาอีกล่ะ?

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว”

“เฮียอนุญาตให้เธอไปตอนไหน” คำถามแสนดุดันกับรังสีที่หงุดหงิดของเหวินเจิ้งยามนี้ทำให้หญิงสาวนึกกลัว เธอไม่เข้าใจว่าที่ตัวเองคุยกับหยุนโจวมันมีอะไรผิดตรงไหน?

“ชอบมากหรือ”

“อะไรคะ?”

“ดื่มเหล้ากับหยุนโจว” คำถามไม่คาดคิดทำให้เหม่ยอิงไม่รู้ว่าต้องตอบอะไร ดวงตาสีสวยฉายความงุนงงชัดเจน

“กับเฮียเธอก็ดื่มได้” คำเรียกแทนตัวเองเริ่มคุ้นปาก แต่ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้นก็ยังแฝงไปด้วยความดุดันและเข้มงวดอยู่เหมือนเดิม

“...” ไม่มีคำตอบรับจากภรรยาจนเหวินเจิ้งหงุดหงิดอีกครั้ง เขาคิดไปไกลกระทั่งว่านอกจากหยุนโจวเหม่ยอิงอาจไม่ชอบดื่มเหล้ากับใครเลย

เขาคุยไม่เก่งเท่าหยุนโจวงั้นหรือ?

ไม่รู้เพราะความรู้สึกพ่ายแพ้หรือความรู้สึกใดแอบแฝงทำให้เหวินเจิ้งใช้แขนรวบเอวคนข้างกายขึ้นมานั่งบนตัก ความแข็งแรงของเหวินเจิ้งไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะทำให้สามารถทำเช่นนั้นได้ เหม่ยอิงที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับร้องเสียงหลง มือขาวประคองไหล่สามีเป็นที่ยึดทั้งยังรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณท่อนเอวเมื่อถูกเหวินเจิ้งบีบเคล้นอย่างไม่ออมแรง

เหวินเจิ้งใช้เพียงแค่มือเดียวก็สามารถประคองเอวบางนั้นไว้ได้บ่งบอกถึงความแตกต่างของร่างกายทั้งคู่อย่างชัดเจน

“เฮียก็ทำให้เธอเมาได้”

“เดี๋ยว-- อุ๊บ!” ริมฝีปากถูกป้อนจูบอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเหม่ยอิงเบิกตากว้างอย่างตกใจ ทว่าเมื่อจะร้องห้ามก็ดันเป็นโอกาสให้อีกคนสอดลิ้นชื้นของตัวเองเข้ามาละเลียดชิมความหวานภายในได้โดยง่าย สัมผัสดุดันติดตรึงอยู่ที่ริมฝีปาก

เหม่ยอิงส่งเสียงครางอื้ออึง หากแต่คนที่ควรจะหยุดกลับไม่ทำเช่นนั้น เหวินเจิ้งประคองแก้มนวลของภรรยาด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่ริมฝีปากหยอกเย้าคล้ายนึกแกล้ง สัมผัสดุดันเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย พร้อมกันนั้นคือฝ่ามืออุ่นร้อนของเหวินเจิ้งที่ลูบเอวบางคล้ายอยากปลอบประโลม เสื้อคลุมซึ่งก่อนหน้านี้เหม่ยอิงพาดไว้ที่แขนหล่นลงพื้น ถึงแบบนั้นมันก็ไม่ได้รับความสนใจอีก

“อึก...” เขาถอนจุมพิตออกอย่างอ้อยอิ่ง ทว่าเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีก็ป้อนจูบให้กับภรรยาใหม่อีกครั้ง เหม่ยอิงที่ตอนนี้สับสนมึนเบลอ ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งตัวอ่อนอยู่บนตักแกร่งของสามี ริมฝีปากถูกดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริมฝีปากล่างโดนขบกัดจนบวมเจ่อ สติเริ่มล่องลอยคล้ายคนเมาเหล้าก็ไม่ปาน

“เหม่ยอิง” กระทั่งคนเป็นสามีผละจูบออก แต่ใบหน้าหล่อเหลายังคลอเคลียไม่ละไปไหน เหม่ยอิงหอบตัวโยน มือขาวกำเสื้อของเหวินเจิ้งไว้แน่น

“รู้หรือยังว่าอยู่กับเฮียเธอจะเมาอะไร?” คำถามชวนวูบวาบยิ่งทำให้เหม่ยอิงใบหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นรัวเร็วจนหูอื้อ ถึงกระนั้นก็ไม่มีแรงพอให้เอ่ยเถียงหรือลุกหนีไปได้

เหวินเจิ้งตอนนี้อันตรายต่อหัวใจมากเหลือเกิน...

หลายวันถัดจากนั้น จงเซ่อสังเกตว่าหมู่นี้นายหญิงดูจะหลบหน้าเจ้านายตัวเองบ่อยนัก ส่วนนายท่านตัวเองก็พยายามหาโอกาสเข้าใกล้ภรรยาอยู่เรื่อย หากไม่ได้ทานมื้อเช้าด้วยกันก็ต้องหยุดมองคุณหนูเหม่ยยามเธอไปที่สวนดอกไม้เป็นทุกที

ท่าทางแปลกประหลาดเหล่านั้นไม่ใช่แค่เขาที่สังเกตได้ แต่สาวใช้และลูกน้องในคฤหาสน์ก็คิดเหมือน ๆ กัน แต่ใครเล่าจะกล้ายุ่งไปมากกว่านี้ พวกเขาไม่อยากชีวิตสั้นด่วนจากไปด้วยอายุยังน้อย

“คุณหนูเหม่ยบอกว่าไม่ทานข้าวเช้าค่ะ” ดั่งเช่นวันนี้ เหวินเจิ้งที่ฟังคำรายงานของสาวใช้ซึ่งเพิ่งจะไปตามเหม่ยอิงมาถึงกับขมวดคิ้ว เธอเลี่ยงทานมื้อเช้ากับเขามาหลายวันแล้ว ความงุ่นง่านผลักให้ประมุขตระกูลไท่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของภรรยาแล้วเคาะประตูเรียกอยู่พักหนึ่ง

เหม่ยอิงเปิดประตูเพราะคิดว่าเป็นหลันสาวใช้คนสนิท แต่ก็ต้องตกใจเพราะไม่ใช่ เหวินเจิ้งทอดมองกันด้วยสายตามีคำถาม

“เธอจะหลบหน้ากันไปถึงเมื่อไหร่” คำถามตรงไปตรงมาทำให้เหม่ยอิงเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่ได้โกรธหรือเกลียดเขา เพียงแค่ไม่กล้าสู้หน้าเพราะใจมักเต้นรัวยามเห็นเหวินเจิ้งแล้วภาพวันนั้นซ้อนทับขึ้นมาทุกที สัมผัสวันนั้นยังติดตรึงอยู่ในหัว ทั้งดุดันและอ่อนโยนจนเธอสับสน

“ปะ เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้หลบหน้า” เสียงหวานเอ่ยเถียงแม้ดูข้าง ๆ คู ๆ เหวินเจิ้งถอนหายใจปลง ๆ ก่อนจะสาวเท้าเข้าใกล้ภรรยามากขึ้น

“ไม่ได้หลบหน้าแล้วทำไมไม่มองกันล่ะ”

“...”

“โกรธที่เฮียจูบเธอมากขนาดนั้นเลยหรือ?” สิ้นประโยคคำถามแล้วคนที่ก้มมองพื้นอยู่นานถึงกับรีบเงยหน้าทันควัน เหม่ยอิงตอบปฏิเสธแต่แน่นอนว่าเหวินเจิ้งยังคงไม่เชื่อเท่าไร เขากอดอกมองนิ่ง

“ฉัน ฉันก็แค่..” จะให้พูดว่าเธอใจเต้นเพราะเขาน่ะหรือ? ยังไงเหม่ยอิงก็ไม่ยอมพูดเด็ดขาด

“ถ้าไม่อยากเห็นหน้ากันขนาดนั้นเดี๋ยวเฮียไปทานข้าวที่บริษัทก็ได้ เธอลงไปทานข้าวเช้าเถอะ” ทว่าเมื่อยิ่งเลี่ยงไม่ตอบคำถามเหวินเจิ้งก็ยิ่งคิดไปไกล เขาหันหลังเตรียมกลับไปชั้นล่างก็ต้องชะงักเมื่อท่อนแขนโดนคนเป็นภรรยาคว้าเอาไว้

“ไม่”

“...”

“อย่าไป”

“...”

“อิง...อิงจะไปทานข้าวด้วยแล้ว” คำพูดแสนแผ่วเบาแต่เหวินเจิ้งกลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ แก้มขาวนวลขึ้นสีระเรื่อในขณะที่ช้อนตามองสามีแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ทว่าภาพนั้นทำให้คนที่ได้เห็นใจสั่นไหว ทั้งน่ารักน่าเอ็นดูจนเหวินเจิ้งลดใบหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้อยู่ระดับเดียวกับเธอ

“เมื่อกี้แทนตัวเองว่าอะไรนะ”

“...”

“พูดอีกครั้งได้หรือเปล่า” ดวงตาเป็นประกายในระยะใกล้ทำให้เหม่ยอิงไปไม่เป็น ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น ตอนนี้เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งประหม่าและขัดเขินคนตรงหน้าจนพูดไม่ออก

“พูดให้เฮียฟังอีกครั้ง”

“...”

“...”

“อิง...” คนที่เผลอไผลไปกับสายตาลึกล้ำเอ่ยได้หนึ่งคำ แต่เมื่อเห็นมุมปากเหวินเจิ้งยกยิ้มคล้ายพอใจถึงได้สติ เหม่ยอิงรีบถอยหลังพลางเปลี่ยนเรื่องอย่างร้อนรน ทั้งแก้มและใบหูขึ้นสีจนน่าเอ็นดู

“ฉัน...ฉันหิวแล้วค่ะ” ว่าจบก็เดินหนีคนเป็นสามีที่ยังมองกันไม่หยุด เหวินเจิ้งยอมไม่ซักไซ้ต่อ อารมณ์ขุ่นมัวก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้งราวกับไม่เคยเกิดขึ้น เขาเดินตามหลังคนตัวเล็กแล้วมาทานข้าวเช้าพร้อมกัน ลูกน้องที่เห็นดังนั้นต่างจินตนาการกันไปต่าง ๆ นานาว่าเจ้านายตนเองใช้วิธีไหนถึงทำให้คุณหนูเหม่ยยอมลงมาทานข้าวแต่โดยดีได้กันนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาของเขาคือนางร้ายความจำเสื่อม   ตอนพิเศษ 4 หนึ่งวันกับเจินจู

    ไท่เจินจู เด็กหญิงตัวน้อยผู้มีดวงตากลมโตสีน้ำตาลสวยเป็นเอกลักษณ์ เส้นผมหยักศกนิด ๆ เป็นสีน้ำตาลอ่อนเฉดเดียวกับดวงตา ใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย คิ้วเรียวโค้งได้รูปเสริมให้ใบหน้าน่ารักนั้นยิ่งละม้ายคล้ายผู้เป็นแม่เข้าไปใหญ่ และที่สำคัญที่ไม่ว่าใครได้พบเป็นต้องชม คือผิวเนียนขาวราวไข่มุกตามความหมายชื่อของเจ้าตัว ตอนนี้เธออายุได้หกขวบแล้ว เป็นช่วงที่อยู่ในวัยเจื้อยแจ้ว ช่างสังเกต และมีคำถามมากมายเต็มหัวสมกับวัยเจ้าหนูช่างจ้อ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็อยากรู้ไปเสียหมด ตั้งแต่เรื่องดินฟ้าอากาศ ไปจนถึงเรื่องที่ปะป๊ามักแอบจุ๊บหม่าม๊าในตอนที่คิดว่าไม่มีใครเห็น แม้จะซนเกินเด็กผู้หญิงไปบ้าง แต่เจินจูก็เป็นพลังงานที่ใสซื่อของเหวินเจิ้งและเหม่ยอิง รวมถึงคนอื่น ๆ เช่นหวังฝูและฉีถง หรือแม้กระทั่งสาวใช้ในบ้าน เพราะยามเสียงสดใสนั้นเอ่ยว่า ‘รักป๊าที่สุดในโลก’ ‘หม่าม๊าสวยเหมือนเจ้าหญิง’ ‘คุณยายขา อาจูอยากนอนด้วย’ ‘พี่การ์ด อาจูขอจ๊อกโกแลต’ อะไรแบบนั้นก็ทำให้ใครต่อใครพร้อมใจกันหลงรักหนูน้อยคนนี้หัวปักหัวปำ แม้กระทั่งชายฉกรรจ์แบบบอดี้การ์ดหน้าโหดของเหวินเจิ้งก็ไม่อาจสู้ได้ งานอดิเรกของคุณหน

  • ภรรยาของเขาคือนางร้ายความจำเสื่อม   ตอนพิเศษ 3 เหม่ยอิงกับผ้าปิดตา

    หลังจากที่รู้ว่าเหวินเจิ้งโกรธกัน เหม่ยอิงก็ต้องล้มเลิกการไปงานเลี้ยงในคืนนี้แล้วหาวิธีง้อสามีแทน “คุณเหวินล่ะ?” เธอเอ่ยถามหลันที่เพิ่งลงมาจากชั้นสอง “กำลังพาคุณหนูจูเข้านอนค่ะ ฉันได้ยินว่าคุณหนูเหม่ยต้องไปงานเลี้ยงอีกคืนใช่ไหมคะ? งั้นให้ฉันช่วยเตรียมชุดดีไหมคะ” เหม่ยอิงส่ายศีรษะก่อนตอบ “ไม่ไปแล้วล่ะ เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ” ถึงจะงง ๆ แต่หลันก็ยอมค้อมศีรษะรับคำสั่ง เมื่อคล้อยหลังสาวใช้คนสนิทไปแล้ว เหม่ยอิงก็พรูลมหายใจและครุ่นคิดกับตัวเอง เธอควรจะเอาใจเหวินเจิ้งอย่างไรดี? คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก หญิงสาวรู้ว่าหากสามีกำลังกล่อมลูกนอนก็คงจะใช้เวลาสักพักหนึ่ง ในระหว่างนี้เธอก็เลยกลับเข้าห้องนอนใหญ่ ในโซนสำหรับไว้แต่งตัวนั้นยังพบชุดที่ลี่ถิงเตรียมไว้ให้สำหรับงานคืนนี้ “ดูท่าแกคงต้องกลับไปนอนในตู้อีกครั้งแล้วล่ะ” เสียงหวานว่าแกมหัวเราะเจื่อน ๆ ทว่าในตอนที่กำลังเก็บชุดนั้น เหม่ยอิงก็ต้องผงะไปเมื่อเจอของที่อยู่ด้วยกัน มันคือชุดชั้นในลูกไม้เข้าเซ็ท พร้อมกับถุงน่องสีดำ… ร่างขาวเม้มปากแน่น ปลายนิ้วเรียวยังแตะอยู่ที่ดีเทลของลูกไม้ในผ้าผืนบางนั้น ในใจก็เริ่มครุ่นคิดไปเรื่อย ก่อนดวงตาก

  • ภรรยาของเขาคือนางร้ายความจำเสื่อม   ตอนพิเศษ 2 อย่าทำให้สามีหึง

    เทศกาลคริสต์มาสกำลังใกล้เข้ามา หมู่นี้นายหญิงเหม่ยอิงจึงมีงานล้นมือเป็นพิเศษ เธอต้องคิดทั้งคอลเลคชั่นใหม่ต้อนรับเทศกาล และออกแบบแพ็กเกจแบบใหม่ด้วยตัวเอง “ยังไงฉันก็อยากให้ลวดลายของกล่องมีสัญลักษณ์กวางเรนเดียร์” เสียงหวานยามนี้เคร่งขรึม เหม่ยอิงกำลังหารือกับเหล่าลูกน้องที่ทำงานร่วมกัน ทุกคนต่างช่วยเสนอไอเดียเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของเธอ “ค่ะ งั้นดิฉันคิดว่า…” “ครับ ทางผมก็มีเรื่องเสนอ…” ร่างบางกวาดสายตามองตามสไลด์ที่พนักงานกำลังอธิบาย บางไอเดียก็ดูน่าสนใจ ทว่าก็ยังมีหลายเรื่องให้ต้องปรับปรุง การคุยงานผ่านไปอีกเป็นชั่วโมง กระทั่งได้ข้อสรุปที่ทำให้สีหน้าของนายหญิงดีขึ้น เธอจึงเอ่ยปิดวาระการประชุม ดวงตากลมโตดูเหนื่อยล้านิด ๆ จนลี่ถิงต้องเอ่ยถามอย่างห่วงใย “พักสักหน่อยดีไหมคะคุณหนูเหม่ย” คนงามส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ไว้เดี๋ยวออกแบบเสร็จแล้วค่อยพักทีเดียว” เมื่อห้ามไม่ได้ก็มีแต่จะต้องช่วยให้นายหญิงไม่กดดันตัวเองเกินไปก็เท่านั้น ลี่ถิงจึงจัดการเตรียมน้ำชาและขนมมาไว้ให้ เผื่อเหม่ยอิงอยากพักก็จะได้ทานได้ทันที “ฉันจะทำงานรอที่ด้านนอกนะคะ มีอะไรเรียกได้ตลอดเวลาเลยค่ะ” “ขอบคุ

  • ภรรยาของเขาคือนางร้ายความจำเสื่อม   ตอนพิเศษ 1 อดีตของผู้ชิงชังภรรยา

    หลายปีก่อน ว่ากันว่าในทศวรรษนี้ หากพูดถึงคนกุมอำนาจและชายผู้มีอิทธิพลที่สุดในปักกิ่ง เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตระกูลไท่ ประมุขคนปัจจุบันนามว่าไท่เหวินเจิ้ง ชายผู้เพียบพร้อมทั้งเรื่องรูปลักษณ์ ชาติตระกูลและการศึกษาที่ทำให้สเปคผู้หญิงจีนเกินครึ่งสูงจนติดเพดาน ทว่าความสมบูรณ์แบบนั้นก็ย่อมแลกมาด้วยบางสิ่งบางอย่างเสมอ นั่นก็คือนิสัยอันเลื่องชื่อของเขาที่ทำให้ใครหลายคนต้องยกธงขอยอมแพ้ ความเย็นชาที่ไม่เปิดช่องให้ใครก้าวข้ามเข้ามาได้ง่าย ๆ แต่แล้วในช่วงเวลาที่หลายตระกูลชิงดีชิงเด่น พยายามขายลูกสาวกันสุดฤทธิ์ จู่ ๆ ก็เกิดการประกาศแต่งงานของไท่เหวินเจิ้งแบบสายฟ้าแลบ! ‘ว่าที่เจ้าสาวของไท่เหวินเจิ้งคือคุณหนูจากตระกูลจ้าว…จ้าวเหม่ยอิง’ ทันทีที่มีหัวข้อนั้นเผยแพร่ออกไป เสียงส่วนมากก็คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างจ้าวเหม่ยอิงน่ะหรือคือว่าที่ภรรยาของเหวินเจิ้ง? นิสัยฝั่งสามีเลื่องชื่อยังไง อีกฝั่งทางภรรยาก็ไม่แพ้กัน คุณหนูจ้าวเหม่ยอิงผู้เป็นนางร้ายแห่งยุค ไม่ว่าขยับตัวทำอะไรก็ดูจะเป็นข่าวได้เสียหมด…โดยเฉพาะข่าวไม่ดี แม้ใบหน้าของเธอคนนั้นจะงดงามจนผู้หญิงด้วยกันยังอิจฉา หรือรูปร่าง

  • ภรรยาของเขาคือนางร้ายความจำเสื่อม   ตอนจบ กันและกันตลอดไป

    ข่าวเรื่องทายาทตระกูลไท่ถูกพูดถึงอย่างมากในหลายสัปดาห์นี้ มีตระกูลน้อยใหญ่ส่งของขวัญมาให้มากมายจนเหล่าสาวใช้แทบจะช่วยกันรับไม่หวาดไม่ไหว เหม่ยอิงอยู่ในช่วงพักผ่อนหลังคลอด งานใด ๆ หรือธุรกิจใด ๆ ถูกเหวินเจิ้งสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งเป็นอันขาด ส่วนเขาก็เป็นคนคอยดูแลแทนทั้งหมด “ของขวัญชิ้นสุดท้ายของรอบเช้าค่ะคุณหนูเหม่ย” “ขอบคุณจ้ะ” เหม่ยอิงหันไปตอบอาหลันที่วางกล่องของขวัญชิ้นสุดท้ายเสร็จ ในอ้อมแขนคนงามกำลังประคองเจินจูพลางกล่อมนอน คุณหนูน้อยหลับตาพริ้ม ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมาก “เสร็จแล้วใช่ไหม นั่งเล่นในนี้ก่อนก็ได้นะ” เหม่ยอิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ที่นี่คือห้องของเจินจูที่เหวินเจิ้งสั่งทำใหม่เป็นพิเศษ เขาทุบสองห้องเข้าด้วยกัน พื้นที่กว้างขวางเต็มไปด้วยของใช้เด็กอ่อน ทั้งเตียงทั้งตู้ก็สั่งทำไว้เรียบร้อย เรียกได้ว่ามีใช้ยันอายุเจ็ดขวบเลยทีเดียว หลันนั่งลงข้างกัน เธอมองเจินจูที่ยังหลับอยู่แล้วยกยิ้ม ก่อนเอ่ยด้วยเสียงสดใส “คุณหนูน้อยน่ารักน่าชังมากเลยค่ะ โตมาจะต้องงามเหมือนคุณหนูเหม่ยแน่เลย” เหม่ยอิงหัวเราะนิดหน่อย “หน้าตาไม่เท่าไหร่หรอก อย่าเอานิสัยหม่าม๊าไปแล้วกันนะอาจู” เธอเอ่

  • ภรรยาของเขาคือนางร้ายความจำเสื่อม   บทที่ 29 ครอบครัวของเรา

    ครรภ์ของคุณหนูเหม่ยตอนนี้ล่วงเลยมาถึงห้าเดือนแล้ว จากเดิมที่แค่มีน้ำมีนวล แต่ตอนนี้เหม่ยอิงกลายเป็นคุณแม่ตุ้ยนุ้ยน่าฟัด ไม่ว่าใครอยู่ใกล้ก็อยากกัดแก้มกลมนั้นสักทีให้หายมันเขี้ยว อาการแพ้ท้องของเธอก็ดีขึ้นมาก เหม่ยอิงเริ่มกลับมาได้กลิ่นกุ้ยฮวาได้อีกครั้ง เธอไม่ได้รู้สึกคลื่นไส้บ่อยอีกต่อไป ยิ่งทำให้เจริญอาหารจนท้องกลมแก้มกลม นอกจากเรื่องครรภ์แล้ว หมู่นี้เหม่ยอิงก็เริ่มรู้สึกว่าความทรงจำของตัวเองค่อย ๆ กลับมาทีละนิด ภาพแฟลชแบ็คของเหตุการณ์ในอดีตค่อย ๆ ทำให้เธอคุ้นเคยทีละน้อย คุณหมอบอกว่ามันอาจใช้เวลานานสักหน่อย แต่ก็มีสิทธิ์ที่เหม่ยอิงจะได้ความทรงจำทั้งหมดกลับมา ในตอนที่หวังฝูและฉีถงรู้เรื่องนี้ก็ดีใจกันอย่างมาก พวกเขาเอ่ยว่าเด็กในท้องคือพรอันวิเศษและเป็นโชคของเหม่ยอิง “พร้อมหรือยัง?” เสียงของสามีดึงให้คนที่กำลังสวมต่างหูอยู่หันไปมอง เหม่ยอิงพยักหน้ารับ “อื้อ” เหวินเจิ้งมองภาพภรรยาที่สะท้อนในกระจก เหม่ยอิงที่อายุครรภ์เพิ่มขึ้นจนหน้าท้องนูนอาจดูแปลกตาไปบ้าง เพราะปกติแล้วคุณหนูเหม่ยของเขาจะมีทรวดทรงองค์เอวที่เป็นสัดส่วนชัดเจน ทว่าตอนนี้ร่างบางกลับดูเปลี่ยนไปด้วยความโค้งเว้าของร่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status