Share

ตอนที่ 2

last update Last Updated: 2025-10-13 17:36:40

รุ่งเช้า

แสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าม่านผืนบาง ทำให้ลินตื่นขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย เธอพลิกตัวไปมาบนเตียง แต่ใจกลับไม่อาจสงบลงได้และเช่นเคย…เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความว่างเปล่าที่หัวใจ

"ฮื่อ…สายแล้ว" เธอพึมพำ พลางลุกขึ้นจากเตียง ลมหายใจร้อนๆ ของเธอเหมือนสะท้อนความเหนื่อยล้าในหัวใจ เดินเข้าห้องน้ำโดยไม่พูดอะไร แม้ในใจจะอยากให้ทุกวันมีรอยยิ้มจากเขา…แต่ก็รู้ว่ามันคงไม่เกิดขึ้น

ผ่านไปสักพักหญิงสาวก็ออกมาจากห้องนอนเธอเดินไปที่ห้องครัวทันที เธอจะเตรียมกาแฟและมื้อเย็นไว้รอสามีทุกวันแต่รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่เคยจะสนใจอาหารที่เตรียมตั้งใจเตรียมไว้ให้เขาแต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ภรรยาอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อเตรียมอาหารเช้าเธอเดินไปที่ห้องนอนของเขา เธอเคาะก่อนจะเปิดเข้าไปเมืีอเข้ามาก็ไม่เห็นที่เตียงนอนแล้วแต่ได้ยินสายน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นแบบนั้นก็รีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มเธอจะค่อยเตรียมชุดทำงานไว้ให้เขาทุกเช้าแต่ก็ยังดีที่เขาใส่ชุดที่เธอเตรียมไว้ให้

หญิงสาวหยิบสูทสีเทาเข้มออกมาจากตู้ มือเล็กลูบเบาไปบนเนื้อผ้าเรียบหรู ราวกับกำลังสัมผัสเจ้าของชุดโดยที่เขาไม่เคยยินยอมให้สัมผัส เธอเลือกเนคไทสีดำเข้มเข้าคู่กัน เพราะรู้ว่าเวลาเขาสวม มันยิ่งขับความสง่างามที่เธอแอบภาคภูมิใจอยู่เงียบๆ แม้จะรู้ดีว่าความตั้งใจเล็กน้อยนี้ไม่เคยมีความหมายสำหรับเขาเลย

เมื่อสิ้นเสียงประตูปิดชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาก็เจอกับชุดที่ภรรยาในนามเตรียมไว้ให้ เขามองชุดด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนจะหยิบมันไปใส่ทันที

ครืน ครืน ครืน

ชายหนุ่มที่กำลังในนาฬิกาหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตนมีสายเข้า เขาหยิบขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนรักของเขาที่โทรมา

"ครับ" ชายหนุ่มรับสายพร้อมกับพูดกับคนในสายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

'พี่เหนือเที่ยงอยากทานอะไรคะ'

"อะไรก็ได้ครับ ถ้าเป็นฝีมือของปริม…พี่ทานได้ทั้งนั้น" น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนของเขาถูกส่งผ่านปลายสาย อบอุ่นเสียจนแม้แต่ใบหน้าที่เคร่งขรึมก็ยังมีรอยยิ้มผ่อนคลายติดขึ้นมา

'โอเคค่ะ..พี่ไปทำงานรึยังคะ'

"พี่กำลังแต่งตัวครับ"

'งั้นปริมไม่กวนแล้วค่ะเดี๋ยวไปทำงานสาย'

"ครับ" ชายหนุ่มกดวางสายก่อนจะส่ายหัวไปมากับความน่ารักของคนรักเขาอยากใช้ชีวิตคู่กับมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นดั่งหวังเมื่อเขาต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเมื่อนึกถึงแบบนั้นก็ยิ่งโมโห

"ค่ะ...คุณพ่อคือช่วงนี้พี่เหนือยุ่งๆ นะคะคงไม่ได้ไปทานข้าวที่บ้านหรอกค่ะ" ชายหนุ่มเปิดประตูออกเล็กน้อยมาเขาก็ได้ยินเสียงภรรยาในนามกำลังโทรศัพท์กับพ่อของเธออยู่

"ลินสบายดีค่ะ…พี่เหนือเขาดูแลลินดีมากเลยค่ะ" น้ำเสียงสดใสที่เอ่ยออกไปไม่สอดคล้องกับสายตาที่กำลังสั่นไหว หญิงสาวกำโทรศัพท์แน่น ราวกับจะใช้มันบังความจริงที่แหลกสลายภายในหัวใจ

"ค่ะ...ช่วงบ่ายลินเข้าไปหานะคะ" ชายหนุ่มที่เห็นว่าหญิงสาววางสายจากผู้เป็นพ่อเขาก็เปิดประตูออกมา หญิงสาวที่เห็นชายหนุ่มออกมาจากห้องนอนแล้วเธอวางโทรศัพท์ลงก่อนจะหยิบแก้วกาแฟเดินไปดักหน้าชายหนุ่มที่กำลังเดินไปที่ประตู

"พี่เหนือดื่มกาแฟก่อนมั้ยคะ...กำลังร้อนๆ เลย" หญิงสาวยื่นแก้วกาแฟให้เขาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานพร้อมกับรอยยิ้มสดใส

"ไม่ล่ะ..ฉันรีบ" ชายหนุ่มตอบกลับเสียงห้วนสั้นทำลายความหวังนั้นในพริบตา เขาเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองแก้วกาแฟในมือเธอ มือเล็กที่กำแก้วไว้สั่นระริก ความร้อนของกาแฟไม่อาจกลบความเย็นชาที่แผ่ซ่านอยู่ในหัวใจได้เลย เธอมองตามหลังชายหนุ่มจนประตูปิดลงด้วยสายเศร้าหมอง

"เมื่อไหร่พี่จะเห็นความตั้งใจของลินบ้าง" หญิงสาวก้มแก้วกาแฟก่อนจะพึมพำออกมาแผ่วเบา หญิงสาวเดินกลับมาที่โต๊ะก่อนจะนั่งทานมื้อเช้าคนเงียบๆ อย่างทุกวัน

แกร๊ก

หลังจากเธอทานข้าวเช้าเสร็จเธอก็เดินเข้าไปทำความสะอาดภายในห้องนอนของเขาอย่างทุกครั้งและสิ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดมองทุกครั้งคือรูปคู่ของเขาและรักที่ตั้งอยู่หัวเตียงนอนเธอได้แต่อิจฉาหญิงสาวรูปที่ได้ทั้งหัวใจและความอ่อนโยนจากเขา หญิงสาวสลัดความคิดที่ทำให้เธอเศร้าใจก่อนจะลงมือทำความสะอาดของห้องนอนให้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไม่เห็นที่ทำให้เธอปวดใจ

ปึก

"เอ๊ะ.." หญิงสาวหยิบกางเกงกองอยู่ข้าตะกร้าใส่ตะกร้าใหม่ให้เรียบร้อยแต่พอเธอใส่ลงในตะกร้าก็เกิดเสียงดังขึ้น เธอจึงหยิบมันขึ้นมาดูว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋ารึเปล่า เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงมือของเธอจับถูกกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กจึงหยิบออกมาดูว่ามันคืออะไร

"สวยจัง" หญิงสาวเปิดกล่องสีเหลี่ยมที่มีขนาดเล็กออกก็พบกับกำไลเพชรหรูหรา งดงามเปล่งประกาย เธอมองกำไลข้อมือด้วยความอิจฉาเมื่อนึกถึงว่าเขาคงจะซื้อให้คนรักของเขาเพราะตลอดที่เธอแต่งงานกับเขามาเธอไม่เคยได้รับของแบบนี้จากเขาเลยสักชิ้น

"เก็บดีกว่าคงไม่ใช่ของเราแน่เลย" หญิงสาวพูดออกมาแผ่วก่อนจะปิดฝากล่องวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง เธอหันหลังก้าวออกจากห้องแล้วแต่ก็ยังหันกลับไปมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยทั้งความอิจฉาและความเจ็บปวดที่ไม่เคยเอื้อมถึง

คฤหาสน์

เวลา 11:45 น.

หญิงสาวก้าวลงจากรถแท็กซี่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ราวกับอยากเก็บแรงใจกลับมาใช้ใหม่ ก่อนจะเดินเข้าไปยังบ้านของตนเอง ในมือเต็มไปด้วยผลไม้และของกินมากมายที่ตั้งใจซื้อมาฝากผู้เป็นพ่อ

“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ” ลินวางข้าวของลงก่อนจะยกมือไหว้ผู้เป็นพ่ออย่างนอบน้อม

“ซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะลูก” คุณอภิสิทธิ์เอ่ยถามพลางหันไปมองถุงมากมายที่แม่บ้านช่วยกันถือเข้าไปข้างใน ก่อนจะเดินเข้ามาหาลูกสาว

“ผลไม้ที่คุณพ่อชอบค่ะ…ลินคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มบาง ก้าวเข้าไปกอดคุณพ่อด้วยท่าทางออดอ้อนก่อนจะพากันเดินไปนั่งที่โซฟา

“โตจนแต่งงานแล้วนะ ยังทำตัวอ้อนพ่อเหมือนเด็กอยู่เลย” คุณอภิสิทธิ์ลูบศีรษะลูกสาวแผ่วเบา ความเอ็นดูยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เพียงเอนกายลงหนุนตักผู้เป็นพอเหมือนตอนยังเป็นเด็กน้อย ดวงตาหลุบต่ำคล้ายเก็บซ่อนน้ำตา เพราะที่นี่เธอยังรู้สึกว่าได้รับความรักเสมอ ต่างจากบ้านที่เพิ่งจากมา ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเย็นชา

"ลินลูกเป็นอะไรรึเปล่าบอกพ่อได้มั้ย" คุณอภิสิทธิ์เอ่ยถามลูกสาวที่ช่วงนี้เขาสังเกตได้ว่าลูกสาวของตนไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน

"...." หญิงสาวมองคุณพ่อก่อนจะส่ายหัวไปมาโดยพยายามหลบสายตาคุณพ่อเพื่อที่เขาจะได้ไม่จับสังเกตได้ว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ

"ตอนนี้ลูกไม่อย่าบอกพ่อก็ไม่เป็นไร...แต่ถ้าวันหนึ่งลูกพร้อมพ่อก็พร้อมจะรับฟังลูกได้เสมอ เรายังกันอยู่สองคนพ่อลูกแล้วนะ" หญิงสาวที่ได้ยินคุณพ่อพูดแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นนั่งก่อนจะกอดคุณพ่อ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมโอบนี้

"เอาแล้วไม่คุยเรื่องนี้แล้ว...กินส้มดีกว่าเดี๋ยวลินแกะให้นะคะ" หญิงสาวยิ้มหวานให้คุณพ่อก่อนจะหยิบส้มขึ้นแกะ ที่แม่บ้านเพิ่งยกมาให้

คุณอภิสิทธิ์แอบมองลูกสาวเงียบๆ ในใจเต็มไปด้วยความห่วง เขารู้แน่ว่าลูกมีเรื่องบางอย่างเก็บซ่อนอยู่ เพียงแต่ยังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง

คฤหาสน์

เวลา 16:19 น.

แสงสุดท้ายของยามเย็นคล้อยต่ำ สีส้มหม่นเจือปนความเงียบสงบทอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ หญิงสาวนั่งอยู่เคียงข้างคุณพ่อบนโซฟา ความเงียบระหว่างสองพ่อลูกไม่ได้อึดอัด หากเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เธอพยายามจะซึมซับให้มากที่สุด เธอยกผลไม้ใส่จานให้คุณพ่อ พลางคุยเรื่องเล็กน้อยทั่วๆ ไป รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าที่ซ่อนความเหนื่อยล้าไว้ลึกในหัวใจ และยิ่งค่ำลงเท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งรู้ว่าช่วงเวลาที่เธออยากยืดออกไป…ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว

“เย็นมากแล้วนะลูก กลับคอนโดเถอะ เดี๋ยวพี่เหนือเขาจะรอ” น้ำเสียงคุณอภิสิทธิ์อ่อนโยน แต่แฝงความกังวลอยู่ในที หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางที่ดูเหมือนจะสดใส หากแววตากลับหม่นเศร้า 'รอเหรอคงไม่มีวันนั้นหรอก' เธอคิดในใจ

“ขออยู่กับคุณพ่ออีกนิดได้มั้ยคะ…ลินยังไม่อยากกลับเลย” คุณอภิสิทธิ์หัวเราะเบาๆ พลางยื่นมือมาลูบเส้นผมลูกสาวอย่างแผ่วเบา

“พ่อก็อยากให้อยู่เหมือนกัน แต่ลูกก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองนะ” หัวใจเธอเจ็บหน่วงเหมือนถูกดึงรั้ง หญิงสาวซุกตัวกอดคุณพ่อแน่น ราวกับต้องการความอบอุ่นสุดท้ายเพื่อพกพากลับไปยังที่ซึ่งเธอเรียกว่า บ้าน แต่กลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

“ลินรักคุณพ่อนะคะ” เสียงเธอสั่นไหว น้ำตารื้นขึ้นมาจนต้องกะพริบกลืนมันกลับไป

“พ่อก็รักลินที่สุด อย่าลืมสิ ถ้ามีเรื่องอะไร พ่ออยู่ตรงนี้เสมอ” คุณอภิสิทธิ์กอดตอบลูกสาวสุดที่รักแน่นขึ้น

“งั้น…ลินกลับก่อนนะคะ คุณพ่อพักผ่อนเยอะๆ นะคะ” เธอพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกมา ฝืนยิ้มแม้ดวงตาแดงก่ำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาที่ไร้ตัวตน   ตอนที่ 6

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเวลาที่ล่วงเลยไปเหมือนไม่มีความหมายอะไรสำหรับมาลินี ทุกเช้าเธอยังคงตื่นขึ้นมาเจอเพียงความเชยชาของผู้เป็นสามี ทุกคืนยังคงจบลงด้วยน้ำตาที่ซึมเปื้อนผ้าห่ม ทุกวันเหมือนถูกบังคับให้ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนหอที่ไร้ความอบอุ่น แม้จะมีสถานะว่าเป็น 'ภรรยา' แต่ในความจริงแล้วเธอไม่ต่างอะไรกับแขกที่ไร้ตัวตนเจ็ดวันที่ผ่านมา เขาแทบไม่พูดกับเธอเลยสักคำ วันหยุดเขาแทบจะไม่อยู่บ้านเลยเพราะเขาจะพาคนรักของเขาเที่ยวไปดินเนอร์ ทิ้งให้เธออยู่กับความเงียบที่กัดกินใจทีละน้อย เธอคิดว่าตัวเองคงชินแล้ว แต่ความเจ็บปวดบางอย่างต่อให้ซ้ำซากแค่ไหนก็ไม่เคยเบาบางลง มีแต่ทับถมจนหนาแน่นขึ้นทุกทีและวันนี้เธอไม่สามารถหลบหนีได้เหมือนทุกวันเพราะครอบครัวของเขานัดให้เธอและเขาไปรับประทานอาหารร่วมกันที่บ้านเสียงล้อรถบดไปบนถนนราวกับเคลื่อนช้าเป็นพิเศษในความรู้สึกของเธอ หญิงสาวนั่งเบียดชิดประตูอีกฝั่ง ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวเข้าครอบคลุมทั่วทั้งรถ ร่างสูงที่นั่งข้างเธอขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาจับจ้องถนนตรงหน้าโดยไม่เหลือบมามองแม้แต่น้อยหญิงสาวบีบมือตัวเองแน่น พยายามควบคุมแรงสั่นของปลายนิ้ว วันนี้เธอต้องทำเหมือนท

  • ภรรยาที่ไร้ตัวตน   ตอนที่ 5

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเวลาที่ล่วงเลยไปเหมือนไม่มีความหมายอะไรสำหรับมาลินี ทุกเช้าเธอยังคงตื่นขึ้นมาเจอเพียงความเชยชาของผู้เป็นสามี ทุกคืนยังคงจบลงด้วยน้ำตาที่ซึมเปื้อนผ้าห่ม ทุกวันเหมือนถูกบังคับให้ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนหอที่ไร้ความอบอุ่น แม้จะมีสถานะว่าเป็น 'ภรรยา' แต่ในความจริงแล้วเธอไม่ต่างอะไรกับแขกที่ไร้ตัวตนเจ็ดวันที่ผ่านมา เขาแทบไม่พูดกับเธอเลยสักคำ วันหยุดเขาแทบจะไม่อยู่บ้านเลยเพราะเขาจะพาคนรักของเขาเที่ยวไปดินเนอร์ ทิ้งให้เธออยู่กับความเงียบที่กัดกินใจทีละน้อย เธอคิดว่าตัวเองคงชินแล้ว แต่ความเจ็บปวดบางอย่างต่อให้ซ้ำซากแค่ไหนก็ไม่เคยเบาบางลง มีแต่ทับถมจนหนาแน่นขึ้นทุกทีและวันนี้เธอไม่สามารถหลบหนีได้เหมือนทุกวันเพราะครอบครัวของเขานัดให้เธอและเขาไปรับประทานอาหารร่วมกันที่บ้านเสียงล้อรถบดไปบนถนนราวกับเคลื่อนช้าเป็นพิเศษในความรู้สึกของเธอ หญิงสาวนั่งเบียดชิดประตูอีกฝั่ง ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวเข้าครอบคลุมทั่วทั้งรถ ร่างสูงที่นั่งข้างเธอขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาจับจ้องถนนตรงหน้าโดยไม่เหลือบมามองแม้แต่น้อยหญิงสาวบีบมือตัวเองแน่น พยายามควบคุมแรงสั่นของปลายนิ้ว วันนี้เธอต้องทำเหมือนท

  • ภรรยาที่ไร้ตัวตน   ตอนที่ 4

    เรือนหอ รุ่งเช้าแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องนอน แสงอบอุ่นที่ควรปลุกให้วันใหม่สดใสกลับทำให้หญิงสาวบนเตียงนอนรู้สึกหนักอึ้งในอกมากกว่าเดิมเปลือกตาบางค่อย ๆ ลืมขึ้น ดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ทั้งคืนยังคงแดงเรื่อ เธอขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนล้า ราวกับร่างกายปฏิเสธที่จะเริ่มต้นวันใหม่"อื้อ…ปวดหัวจัง" เสียงบ่นเบาหวิวเล็ดลอดจากริมฝีปาก เธอฝืนยันกายลุกขึ้นนั่ง แต่แรงบีบที่ขมับทั้งสองข้างก็ทำให้ร่างเล็กต้องล้มตัวลงไปบนหมอนอีกครั้ง อาการไมเกรนกำเริบขึ้นทุกครั้งที่ความเครียดกดทับ และเมื่อคืน…เธอก็ร้องไห้จนไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหนเวลาผ่านไปหลายนาที เธอค่อย ๆ พยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นอีกครั้ง แม้ขาจะสั่นไหวเล็กน้อยก็ตาม มือเรียวเอื้อมไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงด้วยความหวังว่าจะเจอยาที่ช่วยบรรเทา แต่เมื่อค้นหาไปทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า“หมดเหรอเนี่ย…” เธอพึมพำเสียงแผ่ว สายตาไหวระริก น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงข้างเตียง มือกำขอบลิ้นชักแน่นเล็กน้อยเพื่อสะกดความเจ็บปวดทั้งกายทั้งใจที่รุมเร้าหญิงสาวพยายามฝืนกายลุกขึ้น แม้ศีรษะยั

  • ภรรยาที่ไร้ตัวตน   ตอนที่ 3

    บริษัท เวลา 18 : 00 น.ติ้ง~ เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นบนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารสูงท่วมหัว ชายหนุ่มเหลือบตามองหน้าจอเพียงแวบเดียว ก่อนจัถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายแล้วกลับไปสนใจเอกสารตรงหน้าเหมือนไม่เคยเห็นข้อความนั้นมาก่อน หน้าจอโทรศัพท์ยังคงสว่างโชว์ข้อความจากภรรยาในนามลิน : 'เย็นนี้พี่เหนือกลับมาทานข้าวไหมคะ'นิ้วเรียวยาวของเขาเลื่อนปิดหน้าจอโดยไม่แม้แต่จะพิมพ์ตอบสั้นๆ ความเย็นชาของเขาถูกกลืนหายไปในเสียงพลิกกระดาษและเสียงเคาะแป้นพิมพ์ ด้านลินคอนโดเรือนหอเวลา 18:05 น.หญิงสาวถือโทรศัพท์ไว้ในมือ มองหน้าจอที่ยังไร้การตอบกลับ แสงไฟในห้องครัวส่องกระทบโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย อาหารร้อนๆ หลายอย่างวางรอเจ้าของบ้านอีกคนที่อาจจะไม่กลับมา“คงประชุมอยู่ล่ะมั้ง…” หญิงสาวพยายามฝืนยิ้ม ทั้งที่ความเงียบกำลังกัดกินหัวใจ เธอปลอบตัวเองเบาๆ ก่อนจะยกตะหลิวตักแกงใส่ถ้วยเพิ่มเหมือนจะให้โต๊ะอาหารดูเต็มขึ้น เผื่อว่าเขากลับมาแล้วจะเห็นความตั้งใจของเธอสักครั้งเวลาผ่านไปหลายนาที…โทรศัพท์ยังคงเงียบงัน ไม่มีข้อความตอบกลับ ไม่มีสายเรียกเข้า มีเพียงเสียงนาฬิกาที่ดังเป็นจัง

  • ภรรยาที่ไร้ตัวตน   ตอนที่ 2

    รุ่งเช้าแสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าม่านผืนบาง ทำให้ลินตื่นขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย เธอพลิกตัวไปมาบนเตียง แต่ใจกลับไม่อาจสงบลงได้และเช่นเคย…เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความว่างเปล่าที่หัวใจ"ฮื่อ…สายแล้ว" เธอพึมพำ พลางลุกขึ้นจากเตียง ลมหายใจร้อนๆ ของเธอเหมือนสะท้อนความเหนื่อยล้าในหัวใจ เดินเข้าห้องน้ำโดยไม่พูดอะไร แม้ในใจจะอยากให้ทุกวันมีรอยยิ้มจากเขา…แต่ก็รู้ว่ามันคงไม่เกิดขึ้นผ่านไปสักพักหญิงสาวก็ออกมาจากห้องนอนเธอเดินไปที่ห้องครัวทันที เธอจะเตรียมกาแฟและมื้อเย็นไว้รอสามีทุกวันแต่รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่เคยจะสนใจอาหารที่เตรียมตั้งใจเตรียมไว้ให้เขาแต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ภรรยาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเตรียมอาหารเช้าเธอเดินไปที่ห้องนอนของเขา เธอเคาะก่อนจะเปิดเข้าไปเมืีอเข้ามาก็ไม่เห็นที่เตียงนอนแล้วแต่ได้ยินสายน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นแบบนั้นก็รีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มเธอจะค่อยเตรียมชุดทำงานไว้ให้เขาทุกเช้าแต่ก็ยังดีที่เขาใส่ชุดที่เธอเตรียมไว้ให้ หญิงสาวหยิบสูทสีเทาเข้มออกมาจากตู้ มือเล็กลูบเบาไปบนเนื้อผ้าเรียบหรู ราวกับกำลังสัมผัสเจ้าของชุดโดยที่เขาไม่เคยยินยอมให้สัมผัส เธอเลือกเนคไทสีดำเข้มเข

  • ภรรยาที่ไร้ตัวตน   ตอนที่ 1

    บริษัทเวลา 11 : 15 น.แสงแดดที่ส่องลงกระทบผิวหนังแทบไหม้แต่กลับไม่ได้ทำให้หญิงสาวร่างบางคนหนึ่งที่เดินลงมาจากรถแท็กซี่มีอาการหงุดหงิดแม้แต่น้อย เธอเดินตรงไปที่ตึกหนึ่งด้วรอยยิ้มสดใส ในมือของเธอถือปิ่นโตขนาดเล็กสีหวานและมีกล่องขนมที่เป็นของโปรดของสามี เธอคอยเอาใจใส่คนเป็นสามี ถึงแม้ว่าเขาจะเย็นชาและไม่เคยรักเธอเลยก็ตามแต่เธอก็ยังคอยทำให้เขาเสมอมาตลอดหนึ่งปีที่แต่งงานกัน เธอคือ ลิน มาลินี ส่วนสามีของเธอคือ ภีม ภีมวัตร เขาเป็นถึงประธานบริษัทตั้งแต่ยังเด็กจนตอนนี้เขาอายุ 30 ปี บริษัทของเขาเจริญเติบโตขึ้นทุกวันเพราะความเก่งของเขา "สวัสดีค่ะ ลินมาขอพบพี่เหนือค่ะ" มาลินีเดินเข้ามาภายในตึกเธอเดินตรงไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ก่อนจะบอกพนักงานสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ถึงเธอจะเป็นภรรยาของท่านประธาน เธอก็ไม่อาจขึ้นไปหาเขาโดยพละการ "สวัสดีค่ะ คุณลินรอสักครู่นะคะ" พนักงานสาวก้มหัวให้หญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร"เชิญคุณลินขึ้นไปได้เลยค่ะ ดิฉันได้แจ้งกับเลขาส่วนตัวของท่านประธานเรียบร้อยแล้วค่ะ" "ขอบคุณค่ะ" มาลินีเอ่ยขอบคุณพนักงานสาวก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟต์ด้วยความตื่นเต้นติ้ง~เส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status