ภายในห้องนอนขนาดกว้างขวางของชนาวินที่อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เขายืนที่มุมหนึ่งของห้องที่สามารถมองไปเห็นแสงไฟรำไรจากบ้านพักคนงานได้ เจ้าของร่างสูงสมส่วนกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตร อิงไหล่ที่ขอบประตูระเบียง หลุบตามองข้อมือตัวเองที่บัดนี้ถูกล้างเอาลอยปื้นเลือดออกไปจนหมดแล้ว เขามองมันอย่างครุ่นคิด
"เล่นแรงไปเปล่าวะ" ด้วยรู้ว่านั่นคือเลือดที่มาจากมือของอีกคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อยากยอมรับว่าเป็นเพราะตนเอง ก็เขาไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย ยัยนั่นทำตัวเองต่างหาก "ช่วยไม่ได้ ก็อยากยอมเอง" จะว่าไป ปารดาไม่จำเป็นต้องยอมให้เขาทำแบบนั้นก็ได้ ตัวเธอเองก็มีสิทธิ์ความเป็นภรรยาที่ถูกต้องไม่เห็นจะต้องทำตามที่เขาบอก คงไม่ได้ซื่อบื้อเชื่อฟังแต่คำสั่งของพ่อจนคิดอะไรเองไม่เป็นหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้น นี่เขาแต่งงานกับคนแบบไหนกันเนี่ย ชนาวินหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่หัวเตียงดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นบิดาก็กลอกตาไปมาก่อนกดรับ "ครับพ่อ" [เป็นยังไงบ้าง พ่อไม่อยู่ ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ] "เรียบร้อยครับ" [อื้ม ก็ดี แล้วหนูป่านเป็นยังไงบ้าง] "ก็ดีมั้งครับ" [อะไรคือก็ดีมั้งครับ นี่น้องนอนหรือยัง] "ผมจะไปรู้ได้ยังไงครับ ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน" ชนาวินเนิ่มหงุดหงิดจนเผลอบอกความจริงออกไป [ก็พ่อบอกให้น้องนอนห้องข้างแกไง แล้วน้องไปนอนที่ไหน] "เอ่อ...." อ้ำอึ้งเพราะคิดคำตอบไม่ทัน [ว่าไง ลูกสะใภ้ฉันอยู่ไหน หรือแกทำอะไรเขา ตอบ!] เสียงที่เข้มขึ้นนั่นทำให้ชนาวินประหม่า ไม่คิดว่าพ่อแจะเดาทางถูกขนาดนี้ คิดคำโกหกไม่ออกเลยทีเดียว "คือเขานอนห้องเขาแหละครับ ก็ผมทำงานผมไม่ได้เจอ จะไปรู้ได้ยังไงเขาเป็นยังไงบ้าง" ชนาวินเกี่ยวนิ้วเข้าด้วยกัน [แล้วแบบนี้เมื่อไหร่พ่อจะได้หลาน] ชนะพลน่ะอุตส่าห์จัดห้องข้างห้องนอนของลูกชายเพราะว่าห้องนั้นมีประตูที่เชื่อมกันได้ เพราะชนาวินค้านหัวชนฝาไม่ยอมให้ปารดาไปนอนร่วมห้องเลยต้องให้นอนห้องข้างๆแทน "เดี๋ยวก็มีเองน่าพ่อ มีอะไรอีกไหมครับผมจะนอนแล้ว" ชนาวินหาทางเลี่ยงไม่อยากตอบคำถามที่เกี่ยวกับอีกคน [วิน แกโตแล้วนะ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว แกควรมีครอบครัวที่มั่นคง และคนที่พ่อเลือกให้ พ่อคิดว่าพ่อมองคนไม่ผิด] "ดีขนาดนั้นทำไมไม่แต่งเองล่ะพ่อ ผมไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ผมจะนอน" ทำตัวอันธพาลหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่เอาดื้อๆ พ่อย้ำคำพวกนี้มาเป็นรอบที่ล้านแล้ว คนที่พ่อเลือกน่ะดีที่สุด ไหนล่ะ ปารมีที่พ่อเลือกน่ะหนีหายไปไหนแล้วไม่รู้ มีแต่ยัยเด็กปากกล้าปารดาเท่านั้นแหละ แล้วจะมาบอกว่าเลือกแล้วได้ยังไง ในเมื่อคนที่แต่งด้วยก็แค่ตัวสำรอง [วิน เดี๋ยว ไอ้วิน...] ชนาวินกดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ไปอีกทาง เขาขบฟันแน่นด้วยความหงุดหงิด คิดว่ามองคนไม่ผิดงั้นเหรอ เดี๋ยวก็รู้ว่าถูกหรือผิดน่ะ หลายวันผ่านไป หลังจากต้องทนทำงานหนักจนมือพังยับเยิน เช้ามาปารดาก็ไข้ขึ้นเพราะพิษบาดแผลที่มือ ร้อนต้องให้ป่าสนไปรับหมอมาดูอาการที่ห้องพักโดยมีกระถินคอยดูแล กว่าจะหายก็ผ่านไปหลายวัน ส่วนคนที่กลั่นแกล้งจนอีกคนนอนซมน่ะ ก็ไม่คิดจะมาเหลียวแลเลยสักนิด จนกระทั่งปารดาหายดี และสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ ปานนท์ก็เป็นคนพาอีกคนไปพบกับชนาวินที่ออฟฟิศที่อยู่บริเวณทางเข้าไร่ ก๊อกๆ "เข้ามา" ชนาวินยังคงก้มหน้าก้มตาขณะที่ปานนท์พาปารดาเข้ามาด้านใน เมื่อชนาวินเงยหน้าขึ้นมาปานนท์ก็ออกไปอย่างรู้งาน "ได้ข่าวว่าป่วยเหรอ" เจ้าของไร่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้วางมือบนหน้าท้องแกร่งของตัวเอง /ก็เพราะใครล่ะ/ ปารดาบ่นเบาๆ เสมองไปทางอื่นไม่ตอบคำถามและไม่อยากมองหน้าคนที่นั่งอยู่ "ฉันถามก็ตอบไม่ใช่มาทำปากขมุบขมิบใส่ นินทาฉันเหรอ" เขาตวาดใส่เมื่อเห็นอีกคนทำท่าเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาถาม "ค่ะ" คนตัวเล็กยืนนิ่งๆมือไพล่หลังเอาไว้ เบนสายตากลับมาจ้องตอบก็เลยได้เห็นว่าอีกคนกำลังตีหน้ายักษ์ใส่อยู่ ไม่เมื่อยบ้างหรือไงไม่รู้ เอาแต่เก็กหน้าอยู่ได้ "แค่ถางหญ้าส้มสิบต้นนี่ถึงกับจะตายเลยเหรอ กลับบ้านไหม ที่นี่ไม่ได้สุขสบายหรอกนะ ถ้าจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องทำงาน" "ทราบแล้วค่ะ ฉันพูดเหรอคะว่าจะไม่ทำ" ปารดาขึงตาใส่อีกคน เอะอะก็ไล่ ข่มขู่ตลอด ให้ถึงเวลานั้นก่อนเถอะ จะไม่อยู่ให้ไล่แน่นอน "ก็ดี ถ้าหายดีแล้วงั้นวันนี้ก็ไปเก็บส้ม" ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้น คล้ายจะบอกให้อีกคนรับรู้ถึงแผนการกลั่นแกล้งเธอได้เริ่มขึ้นอีกแล้ว "ค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะ" ปารดาทำท่าจะหมุนตัวกลับออกไปจากห้อง "ห้าสิบลัง" และนั่นทำให้ปารดาหันกลับมาจ้องหน้าชนาวินอีกครั้ง "อะไรนะคะ" ถามย้ำไปอีกครั้งเผื่อว่าจะหูอื้อจนฟังผิด "ห้าสิบลัง ตามนี้" ชนาวินโน้มตัวเข้าไปหาโต๊ะทำงานกดอินเตอร์โฟนต่อสายออกไปด้านนอกเรียกปานนท์เข้ามา ส่วนปารดาได้แต่ยืนกำหมัดแน่น "ครับพ่อเลี้ยง" "เก็บส้มห้าสิบลังนะ ฝากดูด้วย" ชนาวินออกคำสั่ง ก่อนก้มหน้าลงอ่านเอกสารตรงหน้า "แต่พ่อเลี้ยงครับ" "มีปัญหาอะไรเหรอครับน้านน ให้คนที่เก็บแปลงสิบ สิบเอ็ดแล้วก็สิบสองไปทำงานที่โรงแยก แล้วให้เด็กนี่ไปทำแทน สามแปลงน่าจะได้ห้าสิบกว่าลัง ดูให้ครบนะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องเลิกงาน" รอยยิ้มมุมปากกับแววตาเจ้าเล่ห์ของอีกคนทำให้ปารดาอบากจะถลาเข้าไปบีบคอเสียจริง แต่ก็ได้แค่ข่มใจกำมือเล็กเอาไว้แน่น "ไม่มีครับ ไปกันได้แล้วป่าน" ปานนท์หมดคำพูดโต้แย้งใดใด ในเมื่อเป็นคำสั่งเขาที่เป็นแค่คนงานก็ต้องทำตาม แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ชนาวินสรรหาจะให้ปารดาทำงานหนักๆ ไม่รู้ว่าสองคนมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า แต่ท่าทางเจ้านายเขาจะไม่ชอบเด็กสาวเอามากๆเลยทีเดียวทั้งคู่มาเล่นกับหลานอยู่คู่ใหญ่ และกลับไปทำงาน ปารดาพาลูกๆเข้าบ้าน ปล่อยเด็กๆให้คลานบนเสื่อที่ปูเตรียมไว้ และมีคอกล้อมขนาดกว้างขวาง มีของเล่นที่ไม่เป็นภัยอยู่ในนั้น ทั้งสองแบ่งกันเล่น ตีกันบ้างแต่ก็ไม่หนักหนาอะไร"พี่โรมอย่ากัดน้องลูก" ปารดาหน้าเหวอที่คนพี่เริ่มจับแขนคนน้องมางับ"น้องรันอย่าดึงผมโรมพี่ค่ะ" เสียงร้องห้ามของคนเป็นแม่ดังเป็นระยะ ชนาวินที่เดินเข้ามาพร้อมป่าสนต้องอมยิ้มกับความยุ่งเหยิงของสองเสือ"วิถีลูกผู้ชายไงครับที่รัก ตีกันบ้างไม่เป็นไรหรอก" เขาเข้ามาโอบไหล่เอาไว้"พี่โรมก็งับน้องจังเลยค่ะฟันก็ไม่มี ไม่รู้คิดอะไรนะคะ สงสัยคันเหงือก" ปารดาฟ้อง"น้องก็แสบนะนั่น ดึงผมพี่แบบนั้น" ชนาวินหัวเราะออกมา"แสบทั้งคู่แหละค่ะ" ปารดาขำออกมาบ้าง"คุณหนูครับ เล่นอันนี้ไหมเอาอันนี้ไหม" คนที่ดูจะเห่อไม่น้อยไปกว่าใครก็ป่าสนนี่แหละ ตั้งแต่ที่สนามบินก็เล่นกับคุณหนูของเขาไม่หยุด นี่ก็ถึงกับปีนเข้าไปนั่งเล่นกับสองหนุ่มทำตัวเหมือนพี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ปาน"มอบหน้าที่พี่เลี้ยงให้เลยแล้วกันนะป่าสน" เจ้านายพูดแบบนี้ป่าสนมีหรือจะไม่รับ"ได้เลยครับพ่อเลี้ยง คุณหนูครับ พี่เลี้ยงป่าสนมาแล้ว"ปารดากับชนา
ใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลไม่กี่วันปารดาก็ได้กลับบ้าน เธอกำลังให้นมแฝดคนพี่ในอ้อมแขน ขณะที่คนน้องนอนรออยู่ในเบาะ พอคนพี่อิ่ม เธอก็ส่งให้กับสามีและอุ้มคนน้องมาเข้าเต้า ชนาวินมีหน้าที่ทำให้ลูกเลอออกมา ก่อนจะมองเมียให้นมลูกด้วยความทึ่ง แล้วยังจะตอนที่ปารดาปั๊มนมไว้ให้ลูกจนเต็มตู้ไปหมด"สุดยอดคุณแม่จริงๆ" ชนาวินพูดขึ้น"แค่ให้นมลูกเองค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วย" เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ชนาวินเดินมาหอมที่หัว เขาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบาย เขาอยากขอบคุณผู้หญิงคนนี้ที่ยอมอุ้มท้องเจ้าแฝดมาตั้งเก้าเดือน มีเรื่องงอแงหงุดหงิดกันบ้างแต่ก็ยังอดทน ไม่ได้กินของที่ชอบ ไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ แล้วก็ยังต้องให้นมลูก นอนไม่เป็นเวลาจื่นกลางดึก ปารดานั้นเป็นสุดยอดคุณแม่จริงๆ"มาขอแม่อุ้มบ้าง มาหาย่านะคะพี่โรม" รังรองรับเอาคนพี่ไปอุ้มไว้"กินนมอิ่มแล้วก็หลับเลยเหรอเสือ" ชนะพลแซวหลานชาย"วัยกำลังโตครับพ่อ อย่าแซวสิ อิ่มแล้วก็นอนไง ปกติ" ชนาวินแก้ตัวแทนลูกชาย"จะเป็นลูกหมูก่อนสิ" อดที่จะแซวอีกไม่ได้"เฮียคะเรียบร้อยค่ะ" ปารดามองทุกคนแล้วยิ้มให้ ก่อนจะส่งคนน้องให้กับสามี แล้วจัดการปั๊มนมต่ออีกหลายถุง"ให้กินไปจนโตเลยนะ" รัง
เขาทบทวนมาหลายวันหลังจากทราบเรื่อง มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ก่อนหน้านั้นชนะพลส่งคนไปเฝ้าดู ด้วยกลัวว่าอีกคนจะเจ็บแค้นจนคิดจะทำร้ายปารดาขึ้นมาหรือเปล่า แต่เท่าที่ได้รับรายงาน พาขวัญเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเธอเสียใจร้องไห้งานการไม่ทำให้ลูกจ้างเป็นคนจัดการทุกอย่างภายในร้าน เมาหัวราน้ำทุกวันชนะพลเข้าใจได้ว่าคนอกหักมักจะเสียศูนย์ แต่ผ่านมาร่วมสี่เดือน พาขวัญกลับยิ่งแย่ลง ลูกค้าเริ่มลดลง แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ไฟไหม้ร้านขนมของเธอและเธอก็บาดเจ็บสาหัส“ผมพยายามแล้วพ่อ ผมพยายามทำให้เขาตัดใจแต่เขาดื้อมาก เขายึดมั่นว่ารักผมและไม่ยอมง่ายๆ ถึงแม้ว่าผมจะพูดไปตรงๆเขาก็ยังไม่ยอมแพ้” ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ในสวน สีหน้าเคร่งเครียดและรู้สึกผิด เขารู้ทุกอย่างเพราะพาขวัญทำตัวเอง แต่เขาก็เป็นต้นเหตุเช่นกัน“พ่อจะบอกแกให้นะ เราไปกำหนดชีวิตใครไม่ได้ แกอาจจะเป็นสาเหตุ แต่นั่นมันจบแล้ว และเรื่องหลังจากนั้นต่างหาก ที่พาขวัญไม่ยอมรับความจริง ทำตัวเองให้กลายเป็นขี้เมาแล้วทำให้ตัวเองบาดเจ็บ”“ขวัญรักษาตัวที่ไหนครับ”“รพ.จังหวัด”“ผมอยากไปดูเธอ”“วิน ที่พ่อบอกแก เพราะพ่อไม่อยากปิดบัง แต่พ่อว่าตอนนี้ไ
หลังจากรู้ว่าได้ลูกแฝด คุณพ่อขี้เห่อก็เอาใจใส่ดูแลภรรยาและลูกเป็นอย่างดี ดีจนปารดาจะเสียนิสัยและต้องคอยห้ามเอาไว้ตลอดเวลา ชนาวินทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ปารดาสบายที่สุดท้องลูกแฝดไม่เหมือนท้องปกติ ขนาดท้องที่ใหญ่โตกว่าทำให้คนตัวเล็กๆอย่างปารดามีความเสี่ยงมาก“ไหนหลานปู่ ดิ้นไหมวันนี้” ชนะพลเดินทางมาจากเชียงใหม่เดือนละครั้งเพื่อเยี่ยมลูกๆและหลานชาย ยิ่งตอนนี้เขาต้องอยู่ที่ไร่คนเดียวเพราะรังรองมาคอยดูแลคุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดที่กรุงเทพฯ มันทำให้เขาเหงาที่ต้องห่างจากลูกเมีย“ดิ้นเก่งมากค่ะ ไม่รู้คนพี่หรือคนน้อง” ปารดาท้องใหญ่เธอเอนตัวใช้มือหนึ่งลูบท้องอีกมือดันหลังไว้“พ่อเอาส้มมาฝากด้วยนะ” ชนะพลค่อยๆวางมือลงที่ท้องนูน เหมือนแฝดจะรับรู้ว่าปู่มา ยันเท้าทักทายเป็นการใหญ่“เจ้าแสบของปู่ ทักทายกันหน่อยทักทายกันหน่อย” รอยนูนเป็นรูปฝ่าเท้าเล็กๆยันขึ้นมา คนเป็นปู่ย่ายิ้มหน้าบาน“รู้จักเอาใจคนแก่แต่ในท้องเลยนะ” สุรเดชว่า เขามักจะมาเล่นกับเหลนเป็นประจำนั่นคือความสุขของเขาในวัยเกษียรแบบนี้“เจ็บท้องบ้างหรือยัง นี่จะครบกำหนดแล้วใช่ไหม” ชนะพลลูบเบาๆที่ท้องของปารดา“เริ่มมีบ้างแล้วค่ะ เหมือนเจ็บเตือน”“คล
หลังจากวันนั้นชนาวินก็เริ่มทำกายภาพบำบัด เขาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราวสองสัปดาห์ก่อนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ต้องมาทำกายภาพจนกว่าจะครบชั่วโมงที่หมอกำหนด"อีกนิดนะคะ" นักกายภาพกำลังช่วยหัดเดินให้กับชนาวิน คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าเขาจะเริ่มเดินได้คล่องแคล่วเช่นเดิมปารดายืนมองชนาวินทำกายภาพด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึกทุกครั้ง เหมือนเธอยืนตรงนั้นแทนที่เขาและพยายามจะก้าวเดินออกไป เธอไม่เคยเหนื่อยที่จะช่วยเขาเลย บีบนวดขาให้เขาในทุกๆวันเพื่อให้กลับมาเดินได้อย่างรวดเร็วชนาวินเริ่มกลับมาเดินได้แต่ต้องใช้ไม้ค้ำเพื่อทรงตัว แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากจากก่อนหน้า เขาขยันทำกายภาพและฝึกเดินตลอดจนวามารถกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน แต่ยังไม่วามารถวิ่งหรือทำกิจกรรมหนักๆได้มากเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาชนาวินต้องข้ามผ่านความเจ็บปวดและจิตใจของตัวเองโดยมีลูกกับเมียเป็นเป้าหมาย เขาคิดว่าคงไม่ดีแน่หากไม่สามารถพาลูกวิ่งเล่นในสนามได้"ร่างกายคุณฟื้นตัวเร็วมากครับ ผมยินดีกับคุณด้วยนะครับคุณหายเป็นปกติแล้ว" หมอยิ้มให้อย่างยินดี"คือผมหายดีแล้วเหรอครับ""ใช่ครับ จากที่ทดสอบวันนี้ผ
"เฮียจะสงสารเขาหนูเข้าใจ แต่ทำแบบนี้เขาก็ยิ่งแทรกกลางระหว่างเรา มันก็ไม่จบสักที" ปารดายังบ่นเรื่องของพาขวัญ และชนาวินก็หมดโอดาสแก้ตัวเพราะเรื่องมันเกิดจากเขาทั้งนั้น"เฮียบอกแล้วไงคะ ขวัญเขาไม่ใช่คนไม่ดีอะไรที่เขาทำแบบนั้นเพราะเขารักพี่มากก็แค่นั้น""นี่แก้ตัวแทนเหรอ ใช่สิคะ เฮียกับคุณขวัญรู้จักกันมาก่อน รักกันมาก่อน หนูมันคนอื่น" กอดอกแน่นทำปากคว่ำ บอกให้รู้ว่าไม่พอใจ"ที่รักครับ มันไม่ใช่แบบนั้น" คนบนเตียงกอดเธอเอาไว้หลวมๆ คนน้องนั่งหันหน้าออกไปที่ประตู ชนาวินไม่รู้จะต้องพูดยังไงเพื่อให้อีกคนหายโกรธ"มันเป็นแบบนั้นแหละค่ะ เฮียเข้าข้างเขาเพราะรู้จักกันมานานทั้งที่เฮียก็เห็นว่าเขาไม่ใช่คนที่เฮียเคยรู้จัก ผู้หญิงคนนั้นดูถูกหนู ข่มขู่หนู ทำให้หนูเสียใจ แต่เฮียก็ยังเข้าข้าง ปล่อยค่ะหนูจะกลับ" ดิ้นหนีจะลงจากเตียง แต่ชนาวินไม่ยอม"ไม่เอาสิคะถ้าหนูกลับไปทั้งที่เรายังทะเลาะกันแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ" เขาพยายามพูดเสียงอ่อน เพื่อให้อีกคนเย็นลง"ถ้าเฮียยังเข้าข้างคุณขวัญ มันก็ไม่มีวันจบหรอกค่ะ" เธอพูดเสียงแข็ง ปัญหาที่ตอนนี้ยังทะเลาะกันมันเพราะชนาวินยังพูดจาปกป้องพาขวัญทั้งที่ก็เห็นว่าอีกคนทำอะไรเอ