Share

บทที่ 35

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-25 22:11:29

“ถูกแล้ว...”

จวิ้นหวังเฟยแย้มยิ้มก่อนค่อยๆ อธิบาย “เนื่องจากระยะนี้ไท่โฮ่วบรรทมไม่เป็นสุข มักทรงพระสุบินถึงก็แต่เรื่องร้ายๆ หวงโฮ่วซึ่งถูกเหล่าราชบัณฑิตกราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จเป็นองค์ประธานในงานเทศกาลชมบุปผาเป็นผู้มีความกตัญญูเป็นอย่างยิ่ง ทรงคิดเผื่อไท่โฮ่ว ปรารถนาจะนำเอาทั้งสิ่งของ บทกวี และบทเพลงทั้งหลายเหล่านี้ ทูลถวายแก่ไท่โฮ่ว ด้วยหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ไท่โฮ่วสามารถบรรทมได้เต็มตื่น ไม่เอาแต่ทรงพระสุบินเช่นนั้นอีก ดังนั้น หัวข้อในการคัดเลือกเหล่าดรุณีเข้าประชันขันแข่งในงานเทศกาลชมบุปผาปีนี้ จึงเป็น ‘สิ่งที่ทำให้ใจสงบ’ ป้าสะใภ้รู้ดีว่าหรงเอ๋อร์ไม่ชอบความวุ่นวาย จึงได้คิดอ่านวางแผนการวานให้หรงเอ๋อร์ทุ่มเทแรงกายแรงใจปักผ้าผืนนั้นขึ้นมา...” จวิ้นหวังเฟยก้าวเข้ามาบีบมือเซียงหรงเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง “นี่นับเป็นครั้งแรกกระมังที่หรงเอ๋อร์ของพวกเราต้องออกมานอกจวนเช่นนี้ หรงเอ๋อร์คนดีคงหวาดกลัวไม่น้อยเป็นแน่ ครั้งนี้ป้าสะใภ้คิดน้อยเกินไปแล้ว...”

“ท่านป้าสะใภ้อย่าได้กล่าวโทษตนเองเช่นนั้น ความหวังดีของท่านป้าสะใภ้ เหตุใดหรงเอ๋อร์จะไม่เข้าใจ” ทว่าน่าเสียดายที่สิ่งที่นางต้องการที่สุดคือความสงบสุขในชีวิต หาใช่ชื่อเสียงเกียรติยศอันใด...

เซียงหรงแย้มรอยยิ้มงดงามสดใสให้คนตรงหน้าสบายใจ ได้แต่ทอดถอนใจอยู่ในอก...

ท่านอาจารย์หญิงของนางเคยสอนสั่งเอาไว้... ต่อหน้าผู้อื่นแล้ว ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใด หากเหมาะสมที่จะยิ้ม ยิ้มแย้มเอาไว้ก่อนได้เป็นดี ด้วยจะอย่างไรปุถุชนคนธรรมดาก็ชอบมองรอยยิ้มมากกว่าสีหน้าปั้นปึงที่ชวนให้รู้สึกไม่ดี อีกทั้งเหล่าปุถุชนคนธรรมดาโดยเฉพาะเหล่าผู้มีหน้ามีตาให้ต้องรักษา จะอย่างไรก็คงไม่ถึงกับถือไม้ไล่ตีผู้แย้มยิ้มให้ตนเอง วิถีปฏิบัติดังที่ว่านี้หาใช่การเสแสร้งแกล้งทำ แต่เป็นการรักษามารยาทต่อผู้คน และเป็นการปกป้องตนเองอย่างผู้เจริญด้วยสติ ธรรมะ กิริยา และมารยาท

“หรงเอ๋อร์...รู้ใช่หรือไม่ ครั้งหนึ่งมารดาของเจ้าก็เคยชนะการประชันขันแข่ง สามารถคว้าเอาตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีมาครอบครอง” จู่ๆ จวิ้นหวังเฟยก็เอ่ยขึ้นมา “ปีนั้นนับว่าเป็นที่จดจำไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากป้ายคะแนนที่เหล่าผู้เข้าร่วมงานเทศกาลชมบุปผามอบให้ผู้ชนะเช่นมารดาของเจ้านั้น เทินทับกันสูงยิ่งกว่าปีไหนๆ ป้าสะใภ้จำได้ว่าครั้งนั้นป้ายไม้ไผ่อันเล็กๆ ถึงกับกองสุมกันสูงท่วมตัวคนกว่าสองเท่าตัว ในขณะที่เหล่าผู้ชิงชัยคนอื่นๆ ที่เหลือแทบไม่ได้รับป้ายไม้ไผ่เลยสักป้าย กล่าวได้ว่า ต่อให้ไม่ทำการนับคะแนน ผู้คนทั่วทั้งสวนชิงหลิงต่างก็รู้ว่าผู้ใดคือผู้ที่ได้ครอบครองตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีในปีนั้น...”

ท่านแม่... ยากนักที่เซียงหรงจะรักษาท่าทีสงบนิ่งเอาไว้ได้

นางรู้ดีว่าครั้งหนึ่งมารดาของนางเองก็เคยเข้าร่วมการประชันขันแข่ง ณ ที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน ซ้ำยังเก่งกาจปราดเปรื่อง เป็นที่ยอมรับนับถือจากผู้คน ทว่าเมื่อได้มาฟังเรื่องเดียวกันนี้ชัดๆ ซ้ำๆ ณ สถานที่เดียวกับที่มารดาเคยเปล่งประกายอวดความสามารถ หัวใจนางก็ทั้งสั่นสะท้านและอุ่นซ่านไปหมด

นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สูญเสียมารดา ที่นางรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างตนเองและมารดาชัดเจนถึงเพียงนี้

จวิ้นหวังเฟยกล่าวพลางทอดสายตามองไปยังใจกลางลานประชันขันแข่ง “ท่านแม่ของเจ้า...ผู้ที่เป็นทั้งสหายผู้รู้ใจของป้าสะใภ้ และเป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเพียงผู้เดียวที่จวิ้นหวังเถี่ยเม่าจื่อเพียงหนึ่งเดียวของเทียนจินเราให้ความสำคัญ เป็นยอดสตรีที่กล่าวได้ว่าสักสิบถึงยี่สิบปีจึงจะมีสักครั้ง ท่านแม่ของเจ้านั้น...นางยอดเยี่ยมมากจริงๆ”

“น่าเสียดายที่ยามนี้หรงเอ๋อร์กลับจดจำท่านแม่ไม่ได้แล้ว…”

พูดขึ้นมาแล้ว จู่ๆ เสียงฟ้าร้องในคืนนั้นกับภาพห้องคลอดที่เต็มไปด้วยเลือดก็วาบขึ้นมาในความทรงจำ

เซียงหรงหน้าซีดลงทันตา หวาดผวาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณจนสองมือน้อยๆ สั่นระริก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status