Share

บทที่ 46

Author: Karawek House
last update Huling Na-update: 2025-08-29 09:58:20

เพราะทนแบกรับความอัปยศอดสูที่ยังไม่อาจกระทำสิ่งใดได้ไม่ไหว บิดาอย่างเขาจึงได้แต่ใช้การงานและสุรา มอมเมาให้ตนเองสามารถใช้ชีวิตผ่านมาได้เนิ่นนานถึงเพียงนี้...นึกไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงชั่วอึดใจเดียว บุตรสาวคนสำคัญที่กลายเป็นว่าถูกบิดาอย่างตนทั้งละเลย ทั้งกักขังเอาไว้ในจวน ก็เติบใหญ่ขึ้นมาเป็นหญิงงามที่ส่องประกายเจิดจ้าถึงเพียงนี้แล้ว

หากเช้าวันนี้บุตรชายคนโตไม่ได้บุกเข้ามาปลุกถึงในเรือนนอน กล่าวว่าน้องสามของตนนั่งรถม้าออกจากจวนมากับอนุภรรยาที่ยามนี้ยิ่งใหญ่คับจวน กำลังจะเข้าประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธี บิดาอย่างเขาก็คงยังมัวมอมเมาตนเองด้วยการงานและสุรา คงมิได้เรียกให้บ่าวรับใช้ไปนำน้ำแกงสร่างเมามาให้ จากนั้นก็เร่งชำระล้างร่างกาย แต่งเนื้อแต่งตัว ตามบุตรสาวที่น่าสงสารเข้าสู่สำนักศึกษาที่ตนไม่แม้แต่จะส่งนางเข้ามาศึกษาเล่าเรียนแห่งนี้ ถูกแล้ว...ทั้งหมดก็เพราะบิดาที่ไร้ความสามารถอย่างเขา เป็นห่วงเกินกว่าจะปล่อยให้บุตรสาวคนสำคัญนั่งรถม้าออกมากับอนุภรรยาของตนและบุตรสาวอีกสองคนที่ล้วนเกิดจากเหล่าอนุ โดยไม่ติดตามมาดูนางด้วยสองตาของตนเองสักหน่อย อย่างน้อยบิดาไร้ความสามารถเช่นเขาก็อยากจะแน่ใจว่านางปลอดภัย...นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้เห็นในวันนี้ จะเป็นภาพบุตรสาวที่สง่างาม เฉลียวฉลาด ทั้งยังมีอัธยาศัยไมตรีเป็นเลิศ ดูราวกับภาพสะท้อนของภรรยารักที่ตายจากไปของตนเองไม่มีผิด

ครั้งนั้น เซียงเหลียนของเขาก็งดงามส่องประกายเช่นนี้...

เฉินกั๋วกงยิ่งมองบุตรสาวคนที่สามที่เกิดจากภรรยารักแล้ว ดวงตาก็ยิ่งพร่ามัวเพราะกลุ่มน้ำที่หลั่งออกมาคลอเคล้าอยู่เต็มสองตา ในอกทั้งเจ็บปวดทั้งสะท้อนสะเทือนใจ เสียใจและเสียดายวันเวลาเป็นอย่างยิ่ง

ที่ผ่านมา เพราะความอ่อนแอของตน ทำให้บิดาเช่นเขาพลาดที่จะได้เห็นบุตรสาวผู้นี้ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาอย่างบริสุทธิ์งดงาม...

บิดาที่โง่งมเช่นข้า...อ่อนแอเช่นข้า...ช่างน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก...

ก่อนที่น้ำตาของเฉินกั๋วกงจะหลั่งออกมา ชั่วอึดใจนั้นพลันมีมือหนึ่งทาบทับลงบนบ่าของเขา แม้ฝ่ามือนั้นจะไร้น้ำหนักกดทับ แต่ก็สงบนิ่ง มั่นคง

“ท่านพ่อ...หากตอนนี้ท่านหลั่งน้ำตา ผู้คนจะเล่าลือกันไปเช่นไรก็ยากจะคาดเดาได้”

น้ำเสียงองอาจห้าวหาญเช่นนี้... ผู้เป็นบิดาเช่นเขามิได้เลอะเลือนกระทั่งจดจำบุตรชายคนโตของตนเองไม่ได้

เมื่อเฉินกั๋วกงผินหน้าไปมอง ก็เห็นว่าผู้กล่าวประโยคนี้คือบุตรชายคนโตของตนเองจริงๆ ชั่วขณะนั้น บุตรชายที่เติบโตขึ้นอย่างสง่างามของเขา และบุตรชายคนสุดท้อง ล้วนนั่งลงเคียงข้างบิดาที่ไม่ได้ความเช่นเขา

เฉินจิ้งอี้ บุตรชายคนโตของเขายังกล่าวต่อไป “การแข่งขันรอบที่สามใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว หากท่านอยากรู้ว่าที่แล้วมาท่านพลาดที่จะได้เห็นสิ่งดีงามใดไปแล้วบ้าง ก็จงจ้องมองไปที่น้องสาวเพียงคนเดียวของบุตรชายคนโตอย่างข้าให้ดี”

ที่เฉินจิ้งอี้เห็นเป็นน้องสาวมีเพียงคุณหนูสามของจวนเฉินกั๋วกง เฉินเซียงหรงเท่านั้น...

ทั้งที่สมควรจะรู้สึกไม่ดี เฉินกั๋วกงกลับรู้สึกว่าทุกอย่างล้วนถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและสมควรจะเป็นเช่นนี้แล้ว...

บุตรชายของเขาผู้นี้ช่างหนักแน่น กล้าหาญ พึ่งพาได้ แตกต่างจากบิดาเช่นเขายิ่งนัก...

เมื่อระฆังบนหอเหยียบเมฆาที่อยู่ข้างในใจกลางสถานศึกษาส่งเสียงดังก้อง กรรมการผู้หนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มราชบัณฑิตอาวุโสของแผ่นดินเทียนจิน ก็ก้าวออกมาตวัดพู่กัน เขียนหัวข้อสำหรับการแข่งขันในรอบที่สามลงบนกระดาษ

ทันทีที่ราชบัณฑิตอาวุโสเขียนเสร็จดี เหล่านางกำนัลที่รออยู่ด้านข้าง ก็ยกผืนกระดาษขึ้นกาง ประกาศหัวข้อในการประชันขันแข่งรอบที่สามให้คนทั้งหมด ณ ที่นี้ได้รับรู้อย่างพร้อมเพรียงกัน

“การแข่งขันรอบที่สาม หัวข้อของการวาดภาพในปีนี้ก็คือ ‘ยอดบุปผา’

“ยอดบุปผา?”

รอบๆ ลานประชันขันแข่งพลันเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นทันที

“ให้วาดดอกไม้งั้นรึ?”

“หัวข้อเช่นนี้...นับว่าง่ายเกินไปหน่อยหรือไม่?”

ท่ามกลางเสียงจอแจ เซียงหรงกลับรู้สึกว่าหัวข้อนี้นับว่าไม่ง่าย

ยอดบุปผาสองคำนี้แม้จะสั้นแต่กลับตีความได้หลากหลายนัก ซ้ำยัง...

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status