สี่ทุ่มคือ เวลาในมิติอาบน้ำแต่งตัวออกมานอนในเรือนของตัวเอง ใส่ชุดนอนสีเลือดหมูตัดกับผิวขาวดังหยกของตัวเอง สาธิมาในร่างของสาวน้อยเซี่ยเสี่ยวหลานเดินไปที่ห้องเก็บสมบัติลองเอาหีบของของที่อดีตสามีส่งมาให้เข้าไปเก็บและมันก็เข้าไปได้จริงๆ
"!!!!โอ้ะ!!!พระเจ้าช่วยกล้วยทอดมีแต่เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับตัวเราสติๆตั้งสตินังสาธิมาตอนนี้แกคือสาวน้อยผู้ไร้เดียงสาไม่ใช่เจ้าแม่ห้องเสื้อใหญ่ต้องทำตัวตามวัยของสาวน้อยแรกแย้มเข้าไว้" เซี่ยเสี่ยวหลานเดินกลับมาที่เตียงนอน ดึงที่นอนนุ่มหกฟุตออกมาและเอาผ้าห่มออกมาด้วย เพราะที่นี้รอบดึกอากาศจะเย็นสบายถึงไม่มีแอร์ก็เหมือนเปิดแอร์เลยทีเดียวผ้าห่มผืนโปรดก็เอาออกมาห่มแล้วก็นอนหลับสบายใจ ดึกสงัดร่างของชายชุดดำพลิ้วกายเข้าเรือนนอนของอดีตฮูหยินสาวที่นอนหลับสนิทแต่ที่เขาเห็นและถึงกับตะลึงก็ คือท่านอนของเซื่ยเสี่ยวหลานใส่ชุดอะไรนอนก็ไม่รู้ ซ้ำยังไม่ห่มผ้าชุดนอนที่ใส่มองเห็นทุกอย่างของร่างสาวน้อยโฉมงาม หน้าอกที่ไม่ใส่บังทรงกระโปงที่เลิกขึ้นจากท่านอนจนสั้นแล้วมองเห็นผิวขาวดังหยกตัดกับชุดนอนเข้ม แม่ทัพกลืนน้ำลายดังอึกหลังจากยืนมองเมียเก่าของตัวเองแต่จะว่าไปที่จริงเขาก็เขียนหนังสือหย่าประชดเมียเท่านั้นไม่คิดว่าเธอจะรับด้วยซ้ำ จะรอให้เธอร้องให้อ้อนวอนไม่ให้เขาหย่าให้ยังไม่พอยังรีบลงชื่อกลัวเสียอะไรดีกลัวเขาไม่หย่าให้รึไง แถมฮูหยินยังรีบออกจากจวนของเขาไม่กินข้าวมื้อเที่ยงที่จวนของเขาอีกเป็นตัวเขาที่ได้แต่โมโหภรรยา ที่ด่าหาว่าตัวเขาโง่หูเบาใจบอดฟังความข้างเดียวและไม่มีเหตุผล จะทำเช่นไรดีจึงจะพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับไปที่จวนได้อีกครั้งแม่ทัพโจวหลี่เฉิงยืนมองภรรยาตัวเองอย่างโง่งมเซี่ยเสี่ยวหลานพลิกตัวทำให้กระโปงล้นขึ้นไปจนเห็นกางเกงในสีหวาน โจวหลี่เฉิงสบถในใจ "ใส่บ้าอะไรของเจ้าท่านอนเหมือนคุณหนูในห้องหอเสียจริง แถมกอดหมอนยาวอีกขาก็พาดไว้บนหมอน" โจวหลี่เฉิงทนไม่ไหวนั่งลงข้างตัวเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังจะห่มผ้าให้ภรรยาได้ยินเสียงบ่นพึงพำ "เอามาให้เยอะๆเลยนะท่านแม่ทัพสมบัติ ข้าไม่ขัดหรอกเจ้าค่ะจะรับไว้อย่างดียิ่งเยอะยิ่งดี รวยแล้วเราเสียก็แต่ท่านโง่ไปหน่อยเนอะ เลยโดนสาวงามอย่างซือเหลียนเม่ยหรอกเอาแต่ก็นะข้าเข้าใจคนมันรักเลยยอมโง่หึๆ พี่เข้าใจน้องรักเดียวใจเดียวดีแต่จะบอกว่าเหลือไว้รักตัวเองบ้างละจะได้ไม่เสียใจเยอะนะ ช่างน่าสงสารคนด้อยประสบการณ์ในความรักเสียจริง คราวหน้ากินปลาเยอะๆนะน้อง จะได้ไม่โง่พี่สาวจะบอกให้ หึๆ หึๆโฮะๆๆ" เซี่ยเสียวหลานนอนละเมอและด่าแม่ทัพในฝัน "อย่างน้องไม่เหมาะกับพี่หรอก พี่จะอยู่กับคนที่พี่รักและผู้ชายคนนั้นต้องรักพี่คนเดียวเท่านั้น ถ้ามีเมียน้อยเตรียมตัวตายได้เลยพี่ไม่ยอมง่ายหรอก" แม่ทัพหนุ่มนั่งฟังภรรยาสาวละเมอทั้งโกรธทั้งทำใจเพราะมันก็เป็นความจริงอย่างที่เธอพูดจริงๆ ทุกอย่างที่เธอพูดมามันคือความจริงทุกอย่าง ท่านแม่ทัพนั้งเฝ้ามองอดีตภรรยานอนละเมอไปเรื่อยอยู่เกือบค่อนคืน จนเซี่ยเสี่ยวหลานที่นอนไปมาสักพักรู้สึกเหมือนมีคนนั้งจ้องมองอยู่จึงลืมตาขึ้นก็ต้องตกใจ "ท่ามแม่ทัพเข้ามาทำอะไรในห้องของข้าไม่ทราบ เจ้าคะ" เซี่ยเสี่ยวหลานถามออกไปทันทีที่เจอหน้าอดีตสามี แม่ทัพโจวหลี่เฉิงจึงตอบกลับไปเสียงเรียบ "ข้ามาลาเจ้าไปชายแดน ตอนยามเหมาที่จะถึงและอยากมาขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นข้าที่โง่เหมือนกับที่เจ้าพูดทุกอย่างวันนี้ข้าเอาสินสอดมาเพิ่มให้เจ้า แต่ไม่ได้เจอเจ้าเพราะมีเรื่องด่วนให้ไปจัดการ คืนนี้ข้าจึงจะมาลาเจ้าก่อนจะไปที่ชายแดนและไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับมาหาเจ้าอีก เสี่ยวหลานเจ้าพอจะยกโทษให้กับผู้ชายโง่ๆคนนี้ได้ไหม ข้าขอโทษเจ้าจากใจจริงข้าก็ยอมรับผิดและบอกกับท่านพ่อตาว่าจะมาแต่งเจ้าเข้าจวนใหม่ หลังจากกลับจากชายแดน เจ้าพอจะให้อภัยคนโง่คนนี้ได้ไหมหลานเอ๋อร์" เซี่ยเสี่ยวหลานมองหน้าอดีตสามีและพูดว่า "ข้าเข้าใจเจ้าค่ะว่าแม่ทัพคงจะเสียใจมากที่โดนหลอกจากคนรัก แต่พวกเราก็โตๆกันแล้วก็น่าจะมีเหตุผลเสีสบ้างไม่ใช่ใจบอดตาบอด ไม่รับฟังเหตุใครเลยไม่คิดจะสืบหาสาเหตุว่ามันเกิดขึ้นได้เช่นไร ข้าก็เข้าใจว่าท่านรักคนรักของท่านมากแต่ท่านก็ควรจะแยกแยะและเป็นกลางมากกว่านี้ แบบนี้คนในเรือนเกิดเรื่องท่านไม่สั่งโบยบ่าวในจวนตายจนหมดหรือ ถ้าท่านแม่ทัพเลือกจะฟังแค่คนรักของท่านเจ้าคะ ข้าไม่รู้ว่าท่านได้ตำแหน่งแม่ทัพมาได้เช่นไรจะฝือมือล้วนๆหรือว่าเอาไก่แลกเอามาเจ้าคะ "เซี่ยเสี่ยวหลานพูดอย่างไม่กลัวอดีตสามีดีสิมาให้ด่าถึงที่เลย แถมมองเราตาไม่กระพริบอีกอะไรของเขาวะเนี้ยเซี่ยเสี่ยวหลานก้มมอง ตัวเองตายห่าแล้วกูใส่ชุดนอนบางจ๋อยเลยเซี่ยเสี่ยวหลานรีบเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของตัวเองแล้ว ก่อนกระแอ่มในลำคอแก้เขินเล็กน้อย "ท่านแม่ทัพลงจากเตียงข้าได้แล้วเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะเสียหายเรียกร้องจากท่านได้นะเจ้าคะจะหาว่าข้าอ่อยท่านอีก" "เจ้าอยากได้อะไรละ ข้าจะหามาให้หลานเอ๋อร์เจ้าขาดเหลือสิ่งใด ให้ไปบอกพ่อบ้านจี้ที่จวนนะข้าบอกพ่อบ้านไว้ให้แล้ว ถ้าเจ้าต้องการอะไรให้จัดหามาให้เจ้าทุกอย่าง" เซี่ยเสี่ยวหลานตาลุกวาว "จริงหรือเจ้าคะคือข้าขอร้านค้าสักที่ได้ไหมเจ้าคะ ข้าอยากจะได้มาทำเป็นร้านขายผ้าเจ้าค่ะ" เอาวะไหนๆก็อยากให้ก็ขอมันซะเลย "ได้พรุ่งนี้เจ้าไปหาพ่อบ้านจี้ไปเลือกเอาได้เลยอยากได้ร้านใหญ่แค่ไหนและข้าจะบอกอะไรให้อีกอย่างนะใบหย่าของเจ้าน่ะมันหายไปเสียแล้วเพราะฉะนั้นตอนนี้เจ้าก็ยังคงตำแหน่งฮูหยินของแม่ทัพโจวหลี่เฉิงเหมือนเดิน" จะบอกได้อย่างไรว่าใบหย่านั้นเขาสั่งให้ลูกน้องมาหาและเขาได้ทำลายเผาทิ้งไปเสียแล้ว "ไม่จริงมันจะหายได้เช่นไร!"เซี่ยเสี่ยวหลานโวยวายบ้าจริงเธอมีมันแค่ใบเดียวด้วยหายก็ซวยสิวะ "ไม่รู้สิเอาละข้าแค่มาบอกลาเจ้าข้าจะไปชายแดนและไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร ถ้าข้ากลับมาจะแต่งงานกับเจ้าใหม่ ข้าขอโทษที่ไม่ฟังเจ้าอธิบายเรื่องมันจึงเป็นเช่นนี้ข้าขอโอกาสอีกครั้งได้หรือไม่หลันเอ๋อร์" โจวหลี่เฉิงบอกฮูหยิน "ไม่ข้าไม่รับปาก ขึ้นอยู่ว่าท่านจะทำอย่างที่ข้าต้องการท่านได้หรือเปล่า" เซี่ยเสี่ยวหลานตอบกับท่านแม่ทัพวันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
สามหนุ่มที่กลับมาจากนาเกลือรอบค่ำและเข้าตรวจความคืบหน้าภายในจวนก็ได้รับรายงานเรื่องที่ฮูหยินของท่านแม่โจวหลี่เฉิงพาทุกคนในจวนทำงานก็ยิ้มด้วยความดีใจที่นางช่างใส่ใจคนในจวนและชาวบ้านยิ่งนัก"ชาตินี้ข้าจะเจอคนเช่นน้องสะใภ้บ้างไหมนะข้าอิจฉาแม่ทัพโจวสหายข้ายิ่งนัก" องค์ชายสองหันมาพูดคุยกับสหายทั้งสองของตัวเอง"ข้าก็อยากมีฮูหยินเหมือนแม่ทัพโจวเช่นเดียวกัน แต่จะไปหาจากที่ไหนละพะยะค่ะองค์ชาย" กุนซือเจียงหันมาพูดกับองค์ชายสอง ส่วนแม่ทัพใหญ่โจวยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ได้ศรีภรรยาที่ดี จนทุกคนอยากมีเช่นเดียวกับภรรยาของตัวของท่านแม่ทัพหาให้ตายก็ไม่มีวันพบเจอหรอกกระมังเพราะบุพเพสันนิวาส นางจึงข้ามภพข้ามชาติมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับข้าผู้เป็นแม่ทัพใหญ่คนนี้หึๆ พวกท่านทั่งสองก็จงแสวงหากันต่อไปก็แล้วกันนะ แม่ทัพโจวคิดในใจเพราะมันคือความลับส่วนตัวของฮุหยินคนงามจากนั้นทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อจะมากินมื้อค่ำร่วมกัน แม่ทัพหนุ่มรีบกลับไปหาเมียกับลูกน้อยทันที"หลานเอ๋อร์พี่กลับมาแล้วลูกหมูทั้งสองของพ่อ พ่อกลับมาแล้ว" ทั้งสองแฝดได้ยินเสียงบิดาก็หันหน้ามามองร้องเรียกด้วยควมดีใจยกไม้ยกมือเรียกร
หลังจากแยกย้ายกันกลับมาพักเรือนที่รับรองเรียบร้อย สองผัวเมียก็มารับเอาตัวบุตรทั้งสองคนมาดูแลต่อจากพี่สาวหลิวฟางและพี่สาวหลิวมู่ตาลให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนหลังจากที่ดูแลคุณๆทั้งสองมาทั้งวัน"ว่าไงละจ้ะทำไมยังไม่นอนละเจ้าหมูน้อยของแม่" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับบุตรที่ตอนนี้เริ่มหัดเดินในคอกและร้องเรียกแมะๆจ้อเลย ถ้าเห็นหน้ามารดากับบิดายิ่งคึกคักแข่งกันเรียกชื่อพ่อกับแม่และยังพูดไม่ชัดจึงสร้างเสียงหัวเราะให้นางที่เห็นลูกน้อยพยายามที่จะเรียกชื่อแม่กับพ่อตลอดหลังจากที่พี่สาวทั้งสองกลับไปพักที่เรือนนอนกันแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็อุ้มบุตรชายขึ้นมาหยอกล้อเรียกชื่อและพูดคุยกันอ้อแอ้สองคนพ่อลูก ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็อุ้มเอาบุตรสาวลูกหมูน้อยจ้ำหม่ำของนางขึ้นมาอุ้มและพาทุกคนเข้าในมิติเลยพอมาในห้องนอนใหญ่นางก็พาลูกน้อยขึ้นเตียงนอนเพื่อจะให้นมลูกน้อยทั้งสองคนก่อนนอนทุกคืน เจ้าสองแฝดรีบโผเข้าหามารดาด้วยความดีใจที่จะได้ดื่มนมนางทำความสะอาดเต้านมเรียบร้อยแล้ว จึงเอาบุตรสาวให้ดื่มอีกข้างส่วนบุตรชายตอนนี้ก็ต้องดื่มอีกข้างหนึ่งด้วยเช่นกัน ส่วนมือป้อมน้อยก็จับแก้มมารดาคนละข้างลูบเล่นมองตามารดาปากก็ดื่มนมสื่อความหมายด