เฟนด์มองไปที่ผู้หญิงที่ยโสโอหังตรงหน้าของเขา เขาถึงกับพูดไม่ออกเธอเป็นคนหาเรื่องก่อนโดยเรียกพวกเขาอย่างติดตลกว่าลุง เขาเลยเอาคืนด้วยการเรียกเธอว่า ‘ป้า’ทุกคนตกใจมาก ผู้หญิงคนนี้อ่อนไหวมาก เมื่อเธอได้ยินคำว่า ‘ป้า’ เธอก็เตะเข้ามาทันทีผู้หญิงคนนี้ใส่รองเท่าส้นสูง และส้นของมันคือส้นเข็ม ถ้าเฟนด์โดนรองเท้านั่นซัดเข้า เขาคง...ส้นสูงนั่นกำลังจะโดนเขา เฟนด์หงายหลังนิดหน่อย ก่อนจะจับเท้าของเธอด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะดึงมันเบา ๆ ให้เข้ามาชิดเขา"อ๊า!"สาวสวยทรงตัวไม่อยู่ เธอล้มตัวเข้าไปหาเฟนด์ เท้าอีกข้างของเธอพลิก และส้นสูงของเธอก็พัง“ปล่อยฉันนะ ไอ้เลว!”สาวสวยคนนั้นล้มลงในอ้อมกอดของเฟนด์อย่างนุ่มนวล แก้มของเธอกลายเป็นสีชมพู เธอสบถใส่เฟนด์พลางรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แก้มของเธอทันใดนั้นเอง เฟนด์ก็ปล่อยอีกฝ่ายลง ก่อนจะพูดว่า “คุณผู้หญิง จำไว้ว่านี่คือบทเรียนของคุณวันนี้! ส้นสูงนี่คมมาก อย่าไปเตะใครเข้าล่ะในอนาคต!”“เด็กนี่ รู้ไหมว่าฉันคือใคร? ฉันมาจากตระกูลแลนแคสเตอร์ แล้วพ่อของฉันก็จะมารับฉันพร้อมบอดี้การ์ดอีกเพียบ อีกไม่นานเกินรอ! นายกล้าดียังไงมาเอาเปรียบฉัน! วันนี้นายสมควรกินหม
เชอร์ลี่ย์กัดฟันแน่น เมื่อเธอเห็นว่าเศรษฐีหนุ่มนั่นกำลังเดินมาหาเธออย่างกระฟัดกระเฟียด เธอเปลี่ยนอารมณ์ทันที “ไม่มีทาง ฉัน เชอร์ลี่ย์ แลนแคสเตอร์ ทำอะไรไม่เคยมาเสียใจทีหลัง นายกล้าบอกชื่อฉันไหมล่ะ?” เชอร์ลี่ย์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแบบแกล้ง ๆ “เฟนด์ วู๊ด!”เฟนด์ยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะพูดอีกว่า “เฟนด์ วู๊ด คือชื่อของฉัน และฉันก็ภูมิใจในชื่อนี้ด้วย ทำไมจะไม่กล้าบอกล่ะ!”"ก็ดีแล้ว!"สาวสวยยิ้มแห้ง หลังจากสังเหตเห็นว่าเศรษฐีหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา เธอเลยทักทายเขา “สวัสดีนายน้อยนอร์ตัน ไม่เจอกันนานเลยนะ! มาทำอะไรที่นี่ล่ะ? มารอรับใครเหรอ?”เมื่อนายน้อยนอร์ตันเห็นท่าทีสนิทสนมของทั้งสอง เขาก็แสยะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนทันทีหน้าของเขาเศร้าและหม่นหมองมาก เขามองไปที่เชอร์ลี่ย์ก่อนจะพูดว่า “เชอร์ลี่ย์ แลนแคสเตอร์ ไอ้เวรนี่ใคร? เธอเป็นคู่หมั้นของฉันนะ เราหมั้นกันแล้ว! ฉันมารับใครงั้นเหรอ? เธอก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?”เฟนด์ได้ยินพวกเขาคุยกัน เขาถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างงี้ เขาไม่คิดเลยว่าไอ้หมอนี่จะเป็นคู่หมั้นของเชอร์ลี่ย์จริง ๆอย่างไรก็ตาม จากที่ดู ๆ แ
เฟนด์หน้าเหวอทันที เมื่อเขาได้ยินคำพูดของวิลตัน อะไรวะเนี่ย? เขาเพิ่งจะนั่งเครื่องมานานแสนนาน แล้วเพิ่งจะลงจอดที่เมืองวิญญาณ เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเล่นละครเรื่องนี้ด้วยตอนแรก เขาคิดว่าแค่ช่วยผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้เท่านั้น แค่แกล้ง ๆ ทำให้แฟนของเธอโมโหจนจากไปไม่คิดเลยว่านายน้อยคนนี้จะขอให้พวกเขาจูบกันตรงหน้าเขาจริง ๆ ไม่งั้นเขาไม่มีทางเชื่อแต่พอลองคิดดูแล้ว เชอร์ลี่ย์ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แล้วจู่ ๆ ก็มาพูดว่าตัวเองมีแฟน? สำหรับเฟนด์เองเขาก็ยังไม่เชื่อเลยเชอร์ลี่ย์หน้าแดงก่ำ เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความโมโห เธอกำลังตกที่นั่งลำบากในตอนนี้อย่างไรก็ตาม เฟนด์จับแขนของเธอ แถมยังใช้แขนที่แข็งแกร่งของเขาโอบเอวเธออีกต่างหาก ถ้าเธอบอกว่าเฟนด์ไม่ใช่แฟนของเธอในตอนนี้ ความพยายามที่แล้ว ๆ มาของเธอก็จะหมดความหมายทันที นอกจากนี้แล้ว เธอห่วงชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเธออย่างมาก และตอนนี้ เธอก็ไม่มีทางให้ถอยแล้วเมื่อมองหน้าที่ว่างเปล่า และหม่นหมองของเชอร์ลี่ย์ วิลตันก็หัวเราะ ก่อนจะพูดกระแนะกระแหนด้วยน้ำเสียงเสียดสีว่า “โอ้? อะไรกัน? ฉันพูดถูกสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า! เชอร์ลี่ย์ ฉันไม่ได้โง่นะ เธอมาหลอกฉ
“เธอผิดแล้ว ฉันไม่ใช่คนใจดีหรือคนใจกว้างเลย เธอเป็นคู่หมั้นของฉันแต่ไอ้เศษสวะนี่กลับมานอนกับเธอ! ถ้าวันนี้ฉันไม่อัดมันจนตาย ฉันก็ไม่ใช่วิลตัน นอร์ตันแล้ว!” วิลตันโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “เชอร์ลี่ย์ แลงคาสเตอร์ สงสัยฉันคงดีกับเธอมากเกินไป เธอทำให้ความเมตตาที่ผมมีให้เธอสูญเปล่า! กล้าดียังไงถึงมานอนกับผู้ชายคนอื่น กล้าดียังไงถึงทำตัวสำส่อนแบบนี้! ฉันไม่เกรงกลัวตระกูลแลงคาสเตอร์หรอกนะ! อย่าลืมว่าตระกูลแลงคาสเตอร์เป็นเพียงแค่ตระกูลชนชั้นสาม แต่ตระกูลนอร์ตันเป็นตระกูลชั้นสอง! ตระกูลชนชั้นสามไม่อาจทำอะไรกับตระกูลชนชั้นสองได้!” วิลตันตะโกนออกมาขณะที่จ้องเชอร์ลีย์อย่างดุเดือด “ฉัน...ฉันขอโทษ เฟนด์ ฉันไม่คิดว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้...” ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเชอร์ลี่ย์ขณะที่เธอได้ยินคำพูดของวิลตัน เธอเริ่มคิดว่า เธอควรจะบอกความจริงกับเขาดีหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม เฟนด์ก็พูดเบา ๆ และปลอบเธออย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไร เขามีบอดี้การ์ด ผมก็มีบอดี้การ์ดสองคนเหมือนกัน!” อีธานและลาน่าลุกขึ้นทันทีเมื่อถูกเรียกตัว “เฮ้ พวกแมลง แกอยากตายเหรอ? กล้าดียังไงมาทำให้นายน
“แก ครั้งนี้ฉันจะปล่อยให้แกชนะก็ได้!” วิลตันถอนหายใจออกมาทั้ง ๆ ที่ภายในใจยังโกรธอยู่ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย เขาไม่คิดว่า ในฐานะนายน้อยของตระกูลชนชั้นสอง เขาจะทำอะไรกับสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้เลย คู่หมั้นของเขาอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งและเขาก็ไม่สามารถสอนบทเรียนให้กับหมอนี่ได้ ที่แย่ไปกว่านั้น เขายังถูกหมอนี่ข่มขู่อีก! เขากัดฟันและกำหมัดแน่น เขาพาคนของเขาออกจากที่เกิดเหตุ เขารู้ว่าถ้าเขายังอยู่ที่นี่ต่อ มันมีแต่จะทำให้เขามีปัญหามากขึ้น “ฟู่!” หลังจากที่อีกฝ่ายออกไป ก้อนหินในใจของเชอร์ลี่ย์ก็ถูกยกออก เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วพูดว่า “ฉันพนันได้เลยว่าเขาคงไม่กล้ามารบกวนฉันอีก! ขอบคุณมากนะ!” เฟนด์คลายวงแขนรอบเอวของเชอร์ลี่ย์ออก เขายิ้มให้เธอและพูดว่า “คุณแลงคาสเตอร์ ครั้งนี้ผมพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่ดูจากสีหน้าของวิลตัน ผมพนันได้เลยว่าเขาคงจะโกรธเคืองผมมาก แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมไม่กลัวอยู่แล้ว!” เฟนด์หยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ผมช่วยคุณแล้ว แล้วคุณล่ะจะตอบแทนผมยังไงดี?” “ฉัน…” ตอนแรกเชอร์ลี่ย์คิดว่าเฟนด์เป็นคนจิตใจดี เธอไม่คิดว่าเฟนด์จะขอให้เธอตอบแทน เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธ
เฟนด์ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน เขาหัวเราะอย่างขมขื่นเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด “สาวน้อย คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าผมอยากได้ร่างกายของคุณเป็นการตอบแทน? ถึงแม้ว่าผมจะบอกว่าคุณหน้าตาดี แต่ผมไม่สนใจคุณหรอก ดังนั้นอย่าทำตัวโง่ ๆ !” “อะไรคือทำตัวโง่ ๆ ! ฝันไปเถอะ! เมื่อกี้ฉันก็รู้สึกอึดอัดมากตอนที่นายเอาแขนมาโอบรอบเอวของฉัน!” ความโกรธปั่นปวนอยู่ในใจของเชอร์ลี่ย์ขณะที่เธอพูด เธอถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในเมืองวิญญาณ มีผู้ชายมากมายชอบมาจีบเธอ! เธอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหมอนี่จะไม่สนใจเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังพูดต่อหน้าเธอถึงสองครั้ง! มันเหมือนเป็นการทำลายความมั่นใจในตัวเองของเธอ! หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่เฟนด์และนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ที่เฟนด์ไปทำให้นายน้อยนอร์ตันโกรธเคืองเพื่อช่วยเหลือเธอ เธอจึงปรับน้ำเสียงอ่อนลงและพูดว่า “อืมม ก็ได้ ฉันจะทำตามที่นายขอเพราะฉันรู้จักมันดี! เอางี้ไหม นายกับฉันไปที่ร้านนั้นแล้วนายก็ซื้อรองเท้าให้ฉันคู่หนึ่งเพื่อชดเชยรองเท้าของฉันที่ส้นหัก จากนั้นฉันจะพานายไปที่ร้านขายยาต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ฟังดูเป็นไง?” ดวงตาของเฟนด์เป็นประกายขึ้นทันทีตอนที่ได้ยินแผ
ไม่นานเฟนด์ก็มาถึงห้างสรรพสินค้าตรงข้ามสนามบินพร้อมเชอร์ลี่ย์ที่อยู่บนหลังสีหน้าของเชอร์ลี่ย์แดงมากขณะที่เธออยู่บนหลังของเฟนด์ กลิ่นอายแบบผู้ชายที่เฟนด์ปล่อยออกมาทำให้เธอรู้สึกประหม่ามาก เธอไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้ที่ทำให้เธอโกรธจะทำให้เธอรู้สึกแบบนี้“เฮ้ ฉันหนักไหม?” เชอร์ลี่ย์คิดเกี่ยวกับมันและตั้งใจที่จะให้ทำให้อารมณ์ของเฟนด์ดีขึ้น“ไม่เท่าไหร่!” เฟนด์ตอบออกมาอยู่ไม่กี่คำ เขาแบกเชอร์ลี่ย์เข้ามาในร้านรองเท้าที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้า “โอ้ จริงสิ แน่ใจนะว่าคุณอยากซื้อรองเท้าสองคู่?”“แน่นอน! นายทำรองเท้าของฉันพัง นายไม่คิดว่าจะต้องชดเชยเป็นสองเท่าเหรอ?” เชอร์ลี่ย์เปิดปากอันบอบบางของเธอและพูดออกมาอย่างเย่อหยิ่ง“ได้สิ สองเท่า! ก็สองเท่า!” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น“โอ้ พี่สาว! พวกพี่คบกันอยู่เหรอ?” เมื่อพวกเขาพูดจบ ก็มีเด็กสาวที่กำลังลองรองเท้าอยู่ในร้านวิ่งเข้ามาหาทันทีเมื่อเธอเห็นเชอร์ลี่ย์ เด็กสาวตาโต ดวงตาของเธอแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าเพราะเธอประหลาดใจมาก“ปล่อย...ปล่อยฉันลง!” สีหน้าของเชอร์ลี่ย์แดงก่ำและอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ เธอพูดไม่ออก ทั้งหมดที่เธอทำไปเพียงแค่อยากกลั่นแกล้งเฟนด์ เธอ
ตาของวิลโลว์เป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด เธอก้าวออกมาข้างหน้าและมองเฟนด์ด้วยดวงตาที่สดใสของเธอ “เฮ้ คุณหล่อขนาดนี้ยังโสดอยู่อีกเหรอ? ถ้าคุณไม่ได้เป็นแฟนกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน งั้นมาเป็นแฟนของฉันไหม? ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สวยเท่าพี่สาว แต่ฉันก็ดูไม่แย่เกินไปนะ อีกอย่าง ฉันยังเด็กอยู่และยังโตไม่เต็มที่ ฉันมั่นใจว่าอีกสองปีข้างหน้าฉันจะสวยมากกว่านี้ คุณคิดว่าไง?”มุมปากของเฟนด์กระตุกนิด ๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีเด็กสาวที่อายุประมาณ 18 ปี มาสารภาพความรู้สึกของเธอกับเขา ยิ่งไปกว่านั้น นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกัน เด็กสาวสมัยนี้กล้าแสดงออกขนาดนี้เลยเหรอ?“เด็กน้อย หยุดเล่นได้แล้ว ผมไม่ใช่คนของเมืองวิญญาณและผมมาที่นี่เพื่อทำธุระบางอย่างเท่านั้น ที่เป็นแบบนี้เพราะผมต้องการความช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องของคุณให้ช่วยบางอย่างก็เท่านั้น!” เฟนด์ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและพูดกับวิลโลว์วิลโลว์เม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจแล้วพูดออกมาว่า “โง่เง่ามาก ฉันสวยขนาดนี้แต่ฉันก็ยังถูกปฏิเสธ คุณนี่ช่างไร้ความรู้สึกจริง ๆ!”“รีบเลือกรองเท้ากันดีกว่า!” เชอร์ลี่ย์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเธอเห็นว่า