ในตอนนั้นทิโมธีจำได้ว่าจอมพลพ้ายแพ้ให้เขาในการต่อสู้ยังไง ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงพูดออกมาเบา ๆ ว่า “ก็ผมไม่รู้ว่าเฟนด์จะทรงพลังขนาดนั้น! ผมคิดว่าเขาเป็นเพียงหัวหน้าผู้บัญชาการที่ไม่คู่ควรกับความเคารพและคำชื่นชมจากตระกูลของเรา ผมเพิ่งรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่จอมพลจากตระกูลเทิร์นเนอร์พ้ายแพ้ให้เขาในการต่อสู้แล้ว และนั่นมันก็หลังจากที่ผมไล่เขาออกไปแล้ว!”“ฮ่าฮ่า! พ่อเคยบอกแกไปนานแล้วนะว่าเขาเก่งพอ ๆ กับราชาแห่งสงครามเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงราชาแห่งสงครามหนึ่งดาราก็ตาม! ที่สำคัญเขาสนิทกับเทพีแห่งสงคราม แกไม่รู้เหรอ? เทพีแห่งสงครามเต็มใจมาคุยกับพ่อเพราะความสัมพันธ์ของเรากับเฟนด์!” ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับมัน เจมส์ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วไง? พรุ่งนี้ผมจะไปหาเขาและขอให้เขากลับมาทำงานตามปกติ!” ทิโมธีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟังพ่อของเขาหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะคนในตระกูลเดรคหลายคนเล่นมองเขาซะขนาดนี้ และไม่มีใครลุกขึ้นมาปกป้องเขาเลย“ฮ่าฮ่า! คิดถึงนิสัยของเขาสิ! ลูกคิดว่าเขาขาดเงินเหรอถ้าเขาเป็นราชาแห่งสงครามจริง ๆ? ประเทศจะให้เงินบำนาญแก่เขาหลายหมื่นล้านเหรียญเป็นราง
ทิโมธีพยายามหาข้อแก้ตัวสำหรับการกระทำของเขาที่ได้ทำลงไป“ลูกไม่กลัวว่าจะไปทำให้เขาขุ่นเคืองเหรอ? พ่อจะบอกให้นะ ถ้าแกทำให้เขาขุ่นเคืองจริง ๆ พ่อ...พ่อก็ช่วยอะไรแกไม่ได้หรอกนะ!” เจมส์โกรธจัดจนพูดไม่ออก เขามีลูกชายคนเดียวและเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง“เป็นไปไม่ได้! ล้อเล่นใช่ไหม? เราเป็นถึงตระกูลชนชั้นหนึ่งเลยนะ เรามียอดฝีมือมากมาย! แม้ว่าผมจะยอมรับว่าเฟนด์มีฝีมือดี แต่ผมไม่เชื่อว่าเราจะแพ้ถ้าทุกคนต่อสู้กับเขาทั้งกลุ่ม” ทิโมธีตอบกลับอย่างไม่แยแส เขาไม่เชื่อว่าเฟนด์จะน่ากลัวขนาดนั้นเจมส์เหลือบมองทิโมธีและประกาศออกมาอย่างเย็นชาว่า “โอ้ นั่นก็จริง เรากำลังรอแกอยู่ที่นี่เพราะเราอยากบอกบางอย่างกับลูก พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยสนใจงานเลย ดังนั้นพ่อจึงไปตรวจดูที่เซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ปมาและพบว่ามันสูญเสียเงินไปมาก ด้วยเหตุนี้ต่อไปบริษัทเซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ปจะให้ทันย่าน้องสาวของลูกดูแลจัดการแทนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พ่อคิดว่าลูกน่าจะไปผ่อนคลายและพักผ่อนบ้าง”ทิโมธีสงสัยว่าเขาได้ยินพ่อพูดผิดไปหรือเปล่า และมองไปที่เจมส์อย่างงง ๆ “อะไรนะ? พ่อ ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? พ่อเพิ่งพูดว่าเซ้าท์ซิตี้ กรุ๊ป?”ในมุมม
“เขา...เขามันบ้ามาก! เขาหมายความว่าไง 'ลงมือ' ? พ่อ ฟังที่เขาพูดสิ การกระทำของเขาไม่เคารพต่อตระกูลเดรคเลย!” ทิโมธีสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่บอดี้การ์ดพูดสิ่งที่เฟนด์พูด บอกตรง ๆ เลยว่าเขากลัว เซเลน่าคงไม่ได้บอกเฟนด์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในออฟฟิศใช่ไหม?เขานึกขึ้นมาได้ว่าเขายังไม่ได้เอาเปรียบเซเลน่าเลย ไม่สำคัญหรอกว่าเซเลน่าจะเขินหรือว่าเธอมีความตั้งใจจะจัดการกับตระกูลเดรกจริง ๆ เธอคงไม่บอกเฟนด์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาแต่ทิโมธีไม่คิดว่าเฟนด์จะมาตามหาเขา และนั่นมันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่เพราะเหตุนั้น เขาจึงต้องกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับเฟนด์“เขาทำเกินไป นี่มันเป็นการข่มขูตระกูลเดรคของเรา!” หนึ่งในยอดฝีมือของตระกูลเดรคไม่พอใจ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าสเปคเตอร์เฟซมาก เขาไม่เกรงกลัวจอมพลและสามารถต่อสู้กับราชาแห่งสงครามได้ยอดฝีมือคนนี้เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาต่อต้านคำขู่ของเฟนด์“ใช่ สิ่งที่ผู้เฒ่ากอร์ดอนพูดมีเหตุผล หมอนั่นชอบทำตัวแบบนี้เสมอ เราควรจะทำให้เขารู้ว่าเขาอยู่ในฐานะไหน!” ทิโมธีรู้สึกโล่งใจที่มีคนอื่นมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ด้วย และ
เซเลน่าเกรงกลัวนิดหน่อยเมื่อเห็นว่ามีคนมากมายอยู่ตรงหน้าเธอ บอดี้การ์ดส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่นานก็มีคนอยู่ฝั่งตระกูลเดรคหนึ่งถึงสองร้อยคน เธอจึงเกลี้ยกล่อมเฟนด์ทันทีแต่เฟนด์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและไม่ขยับไปไหน เขาจ้องทิโมธีอย่างเย็นชาและพูดว่า “ทิโมธี มานี่สิ คุกเข่าแล้วขอโทษภรรยาของฉัน คำนับสามครั้งและฉันจะปล่อยทุกอย่างไป ถ้าไม่อย่างนั้น นายจะต้องเสียใจแน่ถ้าฉันลงมือเอง!”“ไอ้บ้า มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเริ่มโมโห ดังนั้นเขาจึงเดินออกมาข้างหน้าสองก้าว มองไปที่เฟนด์แล้วพูดว่า “นี่คือตระกูลเดรคนะ! นายรู้ไหมว่าทิโมธีเป็นใคร? เขาเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลเรา! มันก็ไม่อะไรหรอกถ้าจะเรียกชื่อเขาตรง ๆ แต่นายกล้าดียังไงถึงมาสั่งให้คนที่มีเกียรติอย่างเขาคุกเข่าและคำนับให้นาย! นายนี่ช่างอวดดีเสียจริง!”เฟนด์มองชายชราคนนี้อย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “ฉันกำลังพูดกับทิโมธี กรุณาอย่ามาขัดจังหวะในการพูดคุยของเรา!”“นาย...” ผู้เฒ่ากอร์ดอนโกรธจัดและกำมือแน่น “แน่นอน พวกเขาทั้งหมดบอกว่านายแข็งแกร่ง และในเมื่อนายกล้าแสดงท่าทางอวดดีต่อหน้าพวกเราที่คฤหาสน์ตระกูลเด
“ผู้เฒ่ากอร์ดอน หยุด! จะขัดคำสั่งฉันเหรอ?” เจมส์เห็นว่าผู้เฒ่ากอร์ดอนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟนด์อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม เขาได้ลงมือไปแล้ว หลังจากที่เขาล้มเหลว เขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นและจ้องไปที่เฟนด์เพราะยังไงซะ เขาอาจจะตายอย่างน่าสมเพชมาก ถ้าเขาพุ่งไปข้างหน้าและต่อสู้กับเฟนด์ต่อ แต่ถ้าเขาหยุดตอนนี้เขาคงจะเสียหน้าสีหน้าผู้เฒ่ากอร์ดอนเย็นชาหลังจากได้ยินสิ่งที่เจมส์พูด “หนุ่มน้อย วันนี้ฉันจะอดทนไว้ก่อน เพราะนายท่านสั่งไว้ ยังไงก็ตาม ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลเดรค ถ้านายกล้าทำอะไรรุนแรง ฉันจะไม่ทนอีกต่อไป!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนถอยหลังกลับมาหลังจากเขาพูดจบมุมปากของทิโมธีกระตุกไปหลายครั้ง สุดท้ายเขาก็สังเกตเห็นว่าถ้าผู้เฒ่ากอร์ดอนสู้แค่คนเดียว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟนด์อย่างแน่นอน อีกอย่าง ผู้เฒ่ากอร์ดอนเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาทิ้งคำพูดพวกนั้นไว้ เพื่อที่เขาจะได้ออกมาอย่างมีเกียรติ“เอาล่ะ เฟนด์ เป็นไงบ้าง? งั้นไม่เป็นไรถ้านายกับคุณเซเลน่าไม่อยากกลับมาทำงาน ครั้งนี้ ลูกชายของฉันเป็นคนเดียวที่หุนหันพลันแล่น ฉันจะให้เงินนายแปดร้อยล้านเหรียญ ดีไหม? แล้วปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ!”
ทิโมธีตกใจมาก เขาทำได้เพียงกัดฟันและไม่ยอมรับเรื่องนี้เมื่อเห็นคนจำนวนมากมองมาที่เขา“ไร้สาระ?” คราวนี้แม้แต่เซเลน่าก็ทนไม่ได้และมองมาที่ทิโมธีอย่างไม่พอใจ “ฮ่าฮ่า นายน้อยทิโมธี ฉันไม่ได้คิดว่าคุณจะเป็นพวกขี้ขลาดที่ไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่คุณทำ ถ้าคุณพูดอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองไปถามคนในบริษัทดูล่ะ เรามีพนักงานตั้งมากมาย คุณคิดว่าพวกเขาไม่ได้ยินอะไรเลยงั้นเหรอ?” สีหน้าของทิโมธีหมองลงทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด ใช่ มันยากที่จะอธิบาย ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ในตอนแรกเขาคงบอกคนในบริษัทว่าเซเลน่าเป็นคนล่อล่วงเขาได้ หลายคนคงเชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ตอนนี้เฟนด์พาเซเลน่ามาที่บ้านของเขาแล้ว คงไม่มีใครเชื่อถ้าเขาใช้ข้ออ้างแบบนั้น นั่นจะเป็นปัญหาอย่างมาก “ไอ้...ไอ้ลูกเวร!” ในที่สุดเจมส์ก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่ลูกชายของเขาทำนั้นมันน่ารังเกียจแค่ไหน เขาก้าวออกมาและตบทิโมธีอย่างแรง “ฉันผิดหวังในตัวแกจริง ๆ ฉันคิดว่าแกแค่ไล่พวกเขาสองคนออก ฉันไม่คิดว่าแกจะทำร้ายคุณเซเลน่าด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฟนด์จะโกรธมาก!” ผู้เฒ่ากอร์ดอนซึ่งเดิมทีรู้สึกว่าเฟนด์ทำตัวเกินเหตุ ในที่สุดเขาก็รู้ตัวเกือบถูกทิโ
กางเกงของทิโมธีเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด เป็นภาพที่สยดสยองมาก มุมปากของเจมส์กระตุก หน้าของเขาบิดเบี้ยว แต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรแม้แต่คำเดียวหลุดออกมาจากปากของเขา ทั้งบริเวณนั้นเงียบสนิท เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น! นั่นคือนายน้อยของตระกูลเดรค แต่เฟนด์ก็ยังกล้าทำร้ายเขา ตอนนี้เขานอนอยู่ตรงนั้นและไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตรอดอยู่หรือเปล่า “นายท่าน…” สเปคเตอร์เฟซก้าวออกมาพร้อมทั้งขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขารู้ว่าหัวใจของเจมส์เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่แสนสาหัส “ออกมาเลยถ้าพวกคุณอยากแก้แค้นให้เขา แต่ฉันเกรงว่าพวกคุณอาจจะรับผลที่ตามมาไม่ได้ ถ้าพวกคุณเริ่มลงมือครั้งแรก!” เฟนด์พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แม้ว่าข้างในของเจมส์จะรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่เขากลับฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไร เฟนด์ ตราบใดที่ทำให้นายหายโกรธได้! แค่บอกมาถ้านายยังต้องการการชดใช้อะไรอีก!” เฟนด์ส่งยิ้มนิด ๆ ให้ “ไม่จำเป็น!” เขาหมุนตัวและเดินจากไป โดยพาเซเลน่าไปด้วย “ไม่ต้องห่วง ลูกชายของคุณยังไม่ตาย แต่ผมไม่แน่ใจว่าในอนาคตเขาจะมีทายาทได้หรือไม่” เซเลน่าเหลือบไปมองด้านหลังของเธอ กลัวว่านักสู้และบอดี้การ์ดที่ทำงานให้ตระกูล
เซเลน่าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ความหวังมีประโยชน์อะไร? ทำไมฉันต้องหวังถ้าพวกเขาไม่มา!” “คุณอยากให้พวกเขามาจริง ๆ เหรอ? งั้นผมควรจะเชิญพวกเขามา!” เฟนด์ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องรักษาเกียรติของผมอย่างแน่นอน!” “โอ้ พระเจ้า คุณพูดอย่างกับว่าคุณมีเกียรติมากมายมาตั้งแต่แรก!” เซเลน่ากลอกตาใส่เขา จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่ามือของเขามาอยู่ที่ต้นขาของเธอ เธอจับมันขึ้นมา แก้มของเธอแดงระเรื่อ “ขับรถดี ๆ อย่าเอามือวางไม่เป็นที่ จริงจังหน่อย!” “เฮ้ ดูเหมือนคุณจะเขินนะ!” เฟนด์หัวเราะคิกคัก “ผมจะเอามือวางไว้ทุกที่ตอนถึงเวลานอน ดีไหม?” แก้มของเซเลน่าแดงมากขึ้น “ฉันไม่ยุ่งกับคุณแล้ว คนบ้ากาม! ตอนนี้เราทั้งคู่ตกงาน และคุณก็ทำให้ตระกูลเดรคโกรธเคือง ฉันภาวนาแค่ว่าเจมส์จะไม่มาหาเรื่องเราอย่างที่คุณพูด!” “อย่ากังวลไปเลย เขาคงทำอะไรสักอย่างไปแล้วถ้าเขาอยากแก้แค้น! เขาคงไม่ปล่อยเราออกมาแบบนี้หรอก จริงไหม?” พวกเขามาถึงคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาจอดรถเสร็จ เฟนด์ก็พูดว่า “โอ้ จริงด้วย ให้ผมบอกคุณไหมว่าผมถูกทิโมธีไล่ออกได้ยังไง!” “โอ้ จริงด้วย ฉันคงลืมไ