Главная / โรแมนติก / มังกรหวนคืนบัลลังก์ / ตอนที่ 6. เจ้าช่างรู้ใจเราจริง ๆ

Share

ตอนที่ 6. เจ้าช่างรู้ใจเราจริง ๆ

Aвтор: Bunmeebooks
last update Последнее обновление: 2024-12-02 16:44:42

“เรื่องที่ฟ้าผ่าลงที่เซียนเหรินโจ่วโซ่วด้านหน้าพระตำหนัก จนรูปปั้นหงส์ศักดิ์สิทธิ์หักลงนั้น พระนางไม่ต้องเป็นกังวล กระหม่อมสั่งให้คนงานเร่งซ่อมแซมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ลี่จู่ทอดเสียงทุ้มกังวานเบา ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนพระกรรณ หน้าที่ของเขานั้นคือการปรนนิบัติให้พระนางได้สุขสบาย สำราญพระทัยอย่างถึงที่สุด

ลี่จ้งได้ยินน้องชายฝาแฝดเอ่ยเช่นนั้นก็ยิ้มอ่อน แล้วเอ่ยว่า

“พระนางกังวลว่า รูปปั้นหงส์ศักดิ์สิทธิ์หักลงเป็นลางร้ายต่างหาก”

แม้จะเป็นฝาแฝดที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่นิสัยของพวกเขากับต่างกันอย่างมาก เขาแข็งกร้าวดุดัน อีกฝ่ายอ่อนโยนเอาใจ

จักรพรรดินีพยักหน้าช้า ๆ อย่างยอมรับ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้นางอดหวาดหวั่นมิได้ จากนั้นพระนางก็ลืมพระเนตรขึ้น

“ลี่จ้ง... เจ้าช่างรู้ใจเราจริง ๆ”

เสียงแว่วหวานของพระนางนั้นมาพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ประพาย

ดวงตาหงส์มีประกายระยับขณะที่ออกพระโอษฐ์ว่า

“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่า... ตอนนี้เราต้องการอะไร”

ลี่จ้งยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ เพียงแค่เขาคลี่ยิ้มออกมา ห้องทั้งห้องก็พลันสว่างไสวขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“พระนางอยากให้พวกกระหม่อมถวายความสุขให้ เพื่อคลายความกังวลใจ”

จักรพรรดินีทรงพระสรวลออกมา สมแล้วที่นางเลือกเขาเป็นขันทีคนสนิทข้างกาย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งความฉลาดเฉลียว อีกทั้งยังรู้ใจนางยิ่งกว่าพยาธิในท้องเสียอีก

“งั้น.... กระหม่อมจะถวายงานให้พระนางทรงลืมความกลัดกลุ้มไปให้หมดสิ้นดีหรือไม่”

ลี่จู่ไม่ยอมน้อยหน้าพี่ชายฝาแฝด เขารีบเอ่ยเอาใจ ขณะที่โน้มตัวลงคลอเคลีย เลื่อนมือลงถอดชุดคลุมหงส์ออกอย่างเป็นธรรมชาติ

“พวกเจ้าเอ่ยวาจาแล้วต้องทำให้ได้อย่างที่เอ่ย.... หาไม่แล้ว.... เราจะลงทัณฑ์พวกเจ้าทั้งสอง”

เฟิ่งอี๋ยิ้มพรายอย่างเจ้าเล่ห์ แววตาหงส์วาวระริกซุกซน คล้ายกับดรุณีน้อยที่กำลังวิ่งอยู่ในทุ่งดอกไม้ด้วยความเบิกบานใจ

“แล้วหากพวกเราทำให้พระนาง.... สุขซ่านจนลืมสิ้นความกังวลเล่า”

ลี่จ้งนั่งลงเบื้องล่างข้างพระบาท สองมือประคองถอดรองเท้าให้พระนาง จากนั้นก็นวดคลึงอย่างเบามือ

เมื่อถูกสัมผัสอย่างนุ่มนวล นางก็รู้สึกสบายผ่อนคลายราวกับอยู่ในปุยเมฆจึงครางออกมาคำหนึ่ง

“อ่า... หากเป็นเช่นนั้น เราก็จะประทานรางวัลให้เจ้าสองพี่น้องอย่างถึงใจ”

เฟิ่งอี๋กรีดนิ้วไล้ไปตามใบหน้าหล่อคมของบุรุษทั้งสอง กลิ่นกายที่อาบชโลมด้วยน้ำหอมตำรับชาววัง ทำให้นางเคลิบเคลิ้มหลงใหลมากขึ้น

“อืม... พระนาง”

ลี่จู่คำรามเสียงต่ำในคอเมื่อถูกมือซุกซนของจักรพรรดินีลูบไล้แทรกเข้ามาในสาบเสื้อ มือนุ่มของพระนางลูบคลำตามแผงหน้าอก ถูไถที่หัวนมของเขาจนรัดตัวแข็งขึ้น

ในขณะที่ลี่จ้งอยู่เบื้องล่างนั้นก็ทอดสายรัดเอวของจักรพรรดินีออก เมื่ออาภรณ์ถูกปลดเปลื้อง เขาก็ประทับพรมจูบตั้งแต่ฝ่าเท้าเรื่อยขึ้นมาที่เรียวขาวผ่อง จนถึงต้นขาอ่อน

อ่า...”

เฟิ่งอี๋ครางกระเส่า เมื่อถูกปากร้อนระอุประทับจูบไปทั่วราวกับจะกลืนกินนางเอาไว้ทั้งตัว

เรือนร่างสวยงามอ่อนระทวยนอนราบลงไปกับพื้น ฝ่ามือรวกร้อนของลี่จ้งก็ตามติดลูบไล้นวดคลึงไปทั่วหน้าท้องแบนราบ จากนั้นก็ช้อนฝ่ามือเข้าใต้สะโพก ออกแรงบีบเคล้นหนักเบาสลับกันไป ทำเอาสติของนางเริ่มแตกซ่าน

เมื่อพี่ชายฝาแฝดกำลังถวายความสุขซ่านแก่จักรพรรดินีเบื้องล่าง ลี่จู่ไม่ยอมน้อยหน้า เขาก็ขยับขึ้นนั่งลงตำแหน่งด้านบนศีรษะของพระนาง แล้วค่อยเลื่อนมือลูบไล้ไปตามลาดไหล่นวลเนียน เลื่อนขึ้นมาที่หน้าอกอวบอิ่ม จากนั้นก็กางเรียวยาวออกเพื่อกอบกุมหนั่นเนื้อเบื้องหน้าทั้งสองเต็มกำมือ  แล้วออกแรงเฟ้นฟอนจนปลายปทุมถันครัดเคร่งตั้งขึ้นแข็งเป็นไตสู้มือ

“อื้อ.... พวกเจ้าทั้งคู่ช่างร้ายกาจนัก... อ่า....”

เฟิ่งอี๋กล่าววาจาปนเสียงครางพร่าสั่น สัมผัสจากฝ่ามือรวกร้อนทั้งสองบุรุษทำให้นางรู้สึกวาบหวิวซ่านสยิวจนขนอ่อนลุกเกรียวขึ้นทั่วทั้งกาย ราวกับมีลมปราณอ่อน ๆ แผ่กระจายไปทั่วทั้งกาย

ลี่จ้งไม่ตอบคำเขายังคงตั้งหน้าตั้งตาปรนนิบัติพระนางอย่างเต็มความสามารถ เมื่อพรมจูบเรียวขาทั้งสองขาจนทั่ว เขาก็จับมันแยกออก เพื่อให้เรือนหยกนางเปิดเผยขึ้นมา

“อืม”

เขาครางเสียงต่ำในอกทันทีที่เห็นเรือนหยกของจักรพรรดินี มันเป็นสีแดงระเรื่อ บานประตูทั้งสองฝั่งของมันยังปิดสนิท เม็ดทับทิมด้านบนเป็นติ่งสีเข้ม มีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมานิด ๆ

เขาขบกรามแน่นข่มอารมณ์ที่พวยพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงเอาไว้ จากนั้นก็ใช้นิ้วชำแรกไปตามซอกกลีบเนื้อแต่ละกลีบ ถูไถนวดคลึงให้น้ำหวานค่อย ๆ ไหลเยิ้ม  แล้วใช้นิ้วโป้งกดลงที่ตุ่มเม็ดทับทิมด้านบนย้ำ ๆ

“งื้อ.... ลี่จ้ง... ลี่จ้ง....”

เฟิ่งอี๋ครางเรียกชื่อขันทีหนุ่มกระเส่า เกร็งจิกปลายเท้าด้วยความเสียวซ่าน ยิ่งเขาบดนิ้วลงที่จุดอ่อนไหวซ้ำ ๆ ยิ่งก่อเกิดความเสียวซ่านแปลบปลาบแผ่กระจายไปทั่วทั้งเรือนร่าง

ในขณะที่ลี่จู่เคล้นคลึงเต้าอวบ ๆ ของนางด้านบน ลี่จ้งก็ใช้ลำนิ้วถูกไถชำแรกกลีบเนื้อนางแต่ละกลีบ แล้วแทรกนิ้วกลางใหญ่เข้าไปในช่องสวาท ขยับข้อมือชักนิ้วแกร่งเข้า ๆ ออก ๆ ถี่ ๆ  จนน้ำหวานพรั่งพรูออกมาฉ่ำแฉะไปทั้งมือเขา

“อื้อ...ลี่จ้ง... เจ้าทรมานข้า.... อะ ลี่จ้ง...อ่า......”

เฟิ่งอี๋ส่งครางกระเส่า บิดกายเร่าอย่างซ่านกระสัน พลางหยัดสะโพกขึ้นเพื่อให้บุรุษหนุ่มชำแรกนิ้วได้ถนัดถนี่

“ทรมานเช่นนี้ พระนางชอบหรือไม่”

ลี่จ้งถามเสียงพร่าสั่น ขณะที่ใช้นิ้วกลางแกร่งชำแรกเข้าออกสลับกับหมุนควงสัมผัสกับผนังอ่อนนุ่มภายใน กล้ามเนื้อส่วนนั้นบีบรัดเต้นตุบทำเอาเลือดลมบุรุษร้อนฉ่าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

 “ชะ... ชอบ.. อ่า”

นางครางตอบเสียงขาด ๆ หาย ๆ รู้สึกถึงลำนิ้วแข็งแรงแทรกเข้าออกภายในกายนางถี่ ๆ  นางบิดส่ายสะโพกอย่างซ่านสยิว

“ฮืม....”

ลี่จู่ครางในลำคอ ขบกรามแน่น เมื่อเห็นพี่ชายฝาแฝดปรนเปรอจักรพรรดินีจนครางกระเส่า เขาก็ไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป จึงโน้มตัวลงแล้วครอบปากร้อนระอุลงที่ปลายปทุมทอง แล้วออกแรงดูดดึงยอดของมันอย่างหื่นกระหาย

“อ๊าซ์... ลี่จู่... อะ... ลี่จู่... อ่า”

ครานี้พระนางถึงกับครางเรียกชื่อฝาแฝดอีกคน เมื่อถูกเขาขบเม้มทรวงอกอย่างหนักหน่วง อีกทั้งลิ้นร้อนของเขายังตวัดสะกิดปลายยอดถันถี่ ๆ ราวกับงูฉก ก่อเกิดความเสียวซ่านแปลบปลาบไปทั่วทั้งร่าง

แฝดผู้พี่ที่อยู่เบื้องล่างได้ยินพระนางครางระโหยเรียกชื่อผู้น้องเช่นนั้นก็มิอาจยอมได้ เขาจึงเพิ่มจำนวนนิ้วชำแรกเข้ากายนางเป็นสองนิ้ว แล้วใช้นิ้วหัวแม่มืออีกข้างบดลงเม็ดทับทิมด้านบนอย่างหนักหน่วง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่46. จบ

    “หม่อมฉันหนิงเฟยขออภัยที่เสียกิริยาแล้ว เนื่องจากหม่อมฉันอยากจะท่องบทกลอนถวายฝ่าบาทสักบทเพคะ”“เจ้า !.....”ใต้เท้าหมิงฉางกำลังจะอ้าปากตวาดนางอีกรอบ แต่เฉินเฉิง รีบยกมือขึ้นห้ามแล้วเอ่ยว่า“ว่ามาเถอะ”น้ำเสียงของเขาสั่นอย่างห้ามไม่ได้ เขากลั้นใจรอฟังกลอนบทนั้นโดยไม่รู้ตัว“เจ้าคือสตรีเพียงหนึ่งเดียวในใจข้า ด้วยปัญญาล้ำเลิศเป็นหนึ่งในใต้หล้าในใจข้าเจ้าคือยอดบุปผาสง่างาม ทุกโมงยามเคียงคู่ครองบัลลังก์”เมื่อนางเอ่ยบทกลอนนี้จบลง เฉินเฉิงไม่ลังเลอีกต่อไปประกาศก้องให้ได้ยินทั่วกันทั้งท้องพระโรงว่า“จากนี้ไปหนิงเฟยเป็นฮองเฮาของเราแต่เพียงผู้เดียว”ทุกคนในท้องพระโรงต่างตะลึงอ้าปากค้างไปตามกัน ๆ ฮ่องเต้ที่ไม่แตะต้องสตรีมากกว่าสิบปี บัดนี้กลับประกาศแต่งตั้งดรุณีน้อยเป็นฮองเฮาทันทีที่พบหน้า และยังไม่ทันที่เหล่าขุนนางจะหายตกตะลึง ฮ่องเต้ก็รับสั่งว่า“ทุกคนออกไปให้หมด ข้าจะอยู่กับฮองเฮาของเราเพียงลำพัง”เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ออกไปจากท้องพระโรงด้วยความงวยงง แต่ก็มิได้มีผู้ทัดทานเพราะการที่ฮ่องเต้ยอมแตะต้องสตรีย่อมเป็นเรื่องดีแน่เมื่ออยู่กันเพียงลำพัง เฉินเฉิงรีบสาวเท้าเข้ามาหาสตรีเบื้องล่าง

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่45.เพียงเท่านี้

    ราชครูต้าเว่ยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากร่างไหลทะลักเปรอะเปื้อนแท่งทองคำบนพื้นเหล่านั้น แล้วเขาก็ล้มลงสิ้นใจตายจากนั้นเมื่อเห็นว่าทหารฝ่ายตรงข้ามถูกจับกุมเอาไว้หมดแล้ว ลี่จู่จึงนำกำลังทหารไปยังตำหนักของหลวนถงในลำดับต่อไป จนในที่สุดเขาก็ควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายภายในวังหลังเอาไว้ได้หลังเหตุการณ์ก่อกบฏสิ้นสุดลง แม่ทัพฉีเฮาและใต้เท้าจ้านได้อัญเชิญเฉินเฉิงฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์ตามราชโองการของจักรพรรดินีเมื่อเฉินเฉิงฮ่องเต้นั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยวัยเพียงสิบแปดพรรษา แล้วเขาก็ได้ทำตามคำขอของจักรพรรดินีทุกประการถึงแม้ว่าหน่วยพยัคฆ์ทมิฬจะถูกเชิดชูให้เป็นกองทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดิน ภายใต้การดูแลขององค์ฮ่องเต้โดยตรง แต่สองพี่น้องฝาแฝดลี่จ้ง และลี่จู่ก็ไม่คิดรับใช้ราชสำนักอีกต่อไปจึงขอพระราชทานราชานุญาตให้พวกตนออกจากตำแหน่งแม่ทัพ และรองแม่ทัพของหน่วยพยัคฆ์ทมิฬบุรุษทั้งสองในอาภรณ์สีเรียบนั่งบนอาชาพ่วงพีด้วยกิริยาองอาจ ม้าเหยาะย่างผ่านฝูงชนที่กำลังมุงดูป้ายประกาศของทางการ เรื่อง จักรพรรดินีฟางเหรินผู้ไร้คุณธรรมสังหารองค์หญิงฟางหรง ชาวบ้านต่างก่นด่าสาปแช่งจักรพรรดินีด้วย

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่44. รับปาก

    “เฟิ่งอี๋....ข้าจะพาเจ้ากลับวังหลวงไปรักษา... เจ้าอดทนสักหน่อยนะ.. เฟิ่งอี๋”เฉินเฉิงใช้แขนเสื้อซับเลือดให้นางอย่างกระวนกระวาย เลือดของนางออกมากเกินไปแล้ว เขาต้องพานางกลับวังไปรักษา จึงพยายามออกแรงเพื่ออุ้มนางให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล สุดท้ายก็ต้องจำยอมทรุดตัวลงนั่งกอดนางไว้แนบอกตามเดิมเพราะเสียงผะแผ่วของนางดังขึ้นว่า“ฝ่าบาท... ไม่มีประโยชน์เพคะ”เสียงขาดหายเป็นห้วง ๆ ของนางทำให้เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป เพราะเกรงว่าหากเขาขยับเพียงน้อยนิด ลมหายใจของนางก็จะถูกสายลมช่วงชิงไป“หม่อมฉันขอให้ฝ่าบาทรับปากสามประการ.... ประการแรก ฝ่าบาทโปรดอภัยโทษให้แก่หลวนถงทุกคน ประการที่สองขอฝ่าบาทโปรดดูแลหน่วยพยัคฆ์ทมิฬแทนหม่อมฉันด้วย”ลี่จ้งได้ยินดังนั้น ก็สะอื้นไห้หนักขึ้น แม้จวบจนวินาทีสุดท้ายพระนางยังทรงรักและห่วงใยชีวิตข้ารับใช้อย่างพวกเขาหลังจากนี้หากพระนางไม่ขออภัยโทษ หลวนถงที่มีฐานะเป็นชายาบำเรอของจักรพรรดินีต้องถูกประหารให้ตายตกตามกันไป ส่วนหน่วยพยัคฆ์ทมิฬนั้นได้ขึ้นชื่อว่าปฏิบัติการโหดเหี้ยมอำมหิตมีศัตรูมากมาย หากพระนางสิ้นลงเหล่าขุนนางที่มีใจเจ็บแค้นต้องถวายฎีกาให้ลงทัณฑ์พวกเขาปางตายเป็น

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่43.โปรดวางใจ

    ใต้เท้าจ้านรับม้วนราชโองการสีทองไว้ด้วยมือสั่นระริก หัวของเขาถึงกับสรรหาถ้อยคำที่จะเอ่ยออกมาไม่ถูก การสนทนาของแม่ทัพทั้งสองเมื่อครู่ทำให้เขาพอจะคาดเดาได้ว่า แม่ทัพฉีเฮาเป็นสายลับขององค์จักรพรรดินีที่แฝงตัวอยู่ข้างกายองค์หญิงฟางหรง มิน่าเล่า แม้นว่าจะอยู่ไกลถึงพันลี้ แต่พระนางยังทรงล่วงรู้แผนการขององค์หญิงมาตลอดราวกับว่าเห็นได้ด้วยตาตนเอง“พระนางทรงรับสั่งเอาไว้ว่า... เมื่อปราบกบฏเรียบร้อยแล้วให้ท่านเป็นผู้ประกาศราชโองการนี้”ลี่จ้งเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นใต้เท้าจ้านได้ยินดังนั้น พลันรู้สึกว่าม้วนราชโองการในมือหนักขึ้นมาเป็นร้อยเท่าพันทวี เหงื่อเม็ดใหญ่ถึงกับไหลย้อยลงที่ขมับ“ท่านโปรดวางใจเถิด ข้าจะทำตามนั้น”ใต้เท้าจ้านแบกรับหน้าที่สำคัญเอาไว้ด้วยใจ ในอกเขาคล้ายกับมีความตื้นตันลูกใหญ่ถาโถมขึ้นมาจนรู้สึกตีบตันที่ลำคอ เมื่อรู้ว่าจักรพรรดินีที่ใคร ๆ ต่างมองว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้คุณธรรม แต่ความจริงแล้วที่พระองค์ทรงทำทั้งหมดก็เพื่อปกป้องบัลลังก์มังกรเพื่อคืนให้แก่ฮ่องเต้“เหตุใดพระนางต้องกระทำการที่เลี่ยงแก่ชีวิตตนเองเช่นนี้ด้วย”แม่ทัพฉีเฮาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กลยุทธ์ในการศึกมีมากก

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่42.ท้าทาย

    คำถามที่เป็นเหมือนดังเช่นคำตัดพ้อของเฟิ่งอี๋ทำให้เฉินเฉิงชะงักไป ทุกถ้อยคำที่นางเอ่ยมาล้วนตรงกับสิ่งที่เขาคิดทั้งสิ้น หากตอนนั้นนางบอกเขาตรง ๆ ว่าน้องสาวสายเลือดเดียวกันคิดจะฆ่าเขาเพื่อชิงบัลลังก์ เขาก็คงไม่เชื่อ และจะระแวงสงสัยนางเสียอีกว่ายั่วยุให้เขาสังหารพี่น้อง ดังนั้น นางจึงใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อพิสูจน์ความจริงให้เขาเห็นกับตาตนเององค์หญิงฟางหรงยิ้มเยาะออกมาแล้วเอ่ยยั่วอารมณ์เฟิ่งอี๋ว่า“ฮองเฮา... ท่านทรงรักฝ่าบาทยิ่งนัก ทั้ง ๆ ที่ฝ่าบาทเคยพระราชแพรขาวปลิดชีพท่านจนตายมาแล้ว นอกจากท่านจะไม่แค้นแล้วยังปกป้องเขา ช่างโง่งมจริง ๆ”“ฟางหรง ! เจ้าหยุดกล่าววาจาเหลวไหลได้แล้ว”เฉินเฉิงตวาดออกมาด้วยความโมโหที่นางตั้งใจยั่วยุให้เขาและเฟิ่งอี๋ขัดแย้งกันอีก ทั้งยังกลัวว่านางจะไม่ให้อภัยเขา“หม่อมฉันก็ไม่ได้โง่พอให้องค์หญิงได้ครอบครองบัลลังก์มังกรได้อย่างสมใจนึกหรอกเพคะ”เฟิ่งอี๋เชิดหน้าตอบกลับอย่างท้าทาย“เจ้า !”ฟางหรงชี้นิ้วสั่นระริกไปใบหน้าหยิ่งผยองของสตรีอีกคน ขบฟันแน่นด้วยความโกรธเมื่อถูกยอกย้อนกลับในขณะที่สถานการณ์ตรงหน้ากำลังตึงเครียด สื่อหม่าก็ร้องโอดครวญขึ้นมาว่า “โอ๊ย... องค

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่41.ถูกพิษ

    เมื่อนางกินไก่ตุ๋นที่เฉินเฉิงนำมาให้จนหมดแล้วรู้สึกง่วง และอ่อนเพลียมากจึงเผลอหลับไป ครั้นเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมายังรู้สึกว่าเหมื่อยล้าไปหมด เหงื่อผุดซึมตามตัวคล้ายกับว่าภายในร่างกายกำลังต่อต้านกับพิษ“ลี่จู่... ลี่จ้ง...”เฟิ่งอี๋ส่งเสียงเรียกขันทีข้างกายเสียงเบา ไม่นานนักผู้ภักดีทั้งสองก็ปรากฏกายขึ้นข้างแท่นบรรทม“พระนางทรงเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ สีหน้าไม่สู้ดีนัก”ลี่จู่รีบเข้าไปประคองนางลุกขึ้น ส่วนลี่จ้งนั้นรีบหาผ้าชุบน้ำมาซับใบหน้านางเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น“เราคิดว่า... เรากำลังถูกพิษ”“กระหม่อมจะไปสังหารฮ่องเต้เดี๋ยวนี้ !”ลี่จ้งขว้างผ้าในมือทิ้ง ผุดลุกขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด คนที่อยู่กับพระนางตลอดช่วงเย็นนี้มีเพียงเฉินเฉิงผู้เดียวเท่านั้น ดังนั้น คนที่วางยาพิษพระนางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา“ช้าก่อน”เฟิ่งอี๋รีบเอ่ยห้าม เพราะรู้ว่าลี่จ้งวรยุทธ์สูงมากแค่ไหน เพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถปลิดชีพบุรุษอ่อนแอย่างเฉินเฉิงได้แล้ว“ฝ่าบาททรงทำร้ายพระนางครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุใดพระนางยังทรงอาลัยอาวรณ์ฝ่าบาทอยู่อีกเล่า”ลี่จู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขามิได้ใจแข็งดั่งเช่นพี่ชายฝาแฝด เมื่อรู้สึกปวดใจแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status