Share

ตอนที่ 25 โดนวางยา

last update Last Updated: 2025-12-16 13:58:18

“จิ๋ว ได้ยินเราไหม จิ๋ว”

อิทธิพลวิ่งพล่านแนบหน้าไปที่กระจก แต่ไม่สามารถมองเห็นอะไรในนั้นได้เพราะม่านหนาปิดอยู่ มือทุบลงที่กระจกซ้ำ ๆ พร้อมกับปากที่ตะโกนอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้คนด้านในได้ยิน เสียงแอร์ดังอื้ออึงจากเครื่องที่ระบายความร้อนออกมาด้านนอก ทำให้มั่นใจว่ามีคนอยู่ด้านใน ไม่รอช้าคว้าเก้าอี้ไม้ในร้านกระหน่ำฟาดลงที่กระจกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก็แตกกระจายเสียงดังไปรอบทิศทาง

อิทธิพลรูดม่านหนาออกสายตาปะทะกับร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง พร้อมกับเลือดในกายที่ปะทุขึ้นเหมือนภูเขาไฟและเดือดจนถึงขีดสุด

“จิ๋ว”

หน้าต่างแบบยาวที่สูงแค่ก้าวข้าม มอสยังยืนเบลอและงุนงงอยู่ทำอะไรไม่ถูก ถูกกระชากขึ้นมาด้วยมือของอิทธิพลและกระหน่ำกำปั้นลงใบหน้าอย่างไม่ยั้ง นักร้องหนุ่มหล่อไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะต่อสู้หรือป้องกันตัว เพียงไม่กี่นาทีใบหน้าหล่อก็ปูดบวมฟกช้ำ เลือดกบปากและนอนพะงาบ ๆ แผ่หลาอยู่ที่พื้น อิทธิพลปรี่เข้าหาเพื่อนสาวที่หลับสนิทอยู่

“จิ๋ว”

มือหนาประคองแก้มเธอไว้เขย่าเบา ๆ เพื่อเรียกสติ แต่ร่างกายของหญิงสาวไม่ตอบสนอง เธอยังคงหลับลึกไม่รับรู้สิ่งรอบตัวใด ๆ ที่เกิดขึ้น อิทธิพลสำรวจร่างกายหญิงสาวแค่ลวก ๆ กางเกงยีนยังอยู่ในสภาพเดิม บราตัวจิ๋วยังคงห่อหุ้มก้อนเนื้อนุ่มสองปทุมไว้ มีเพียงเสื้อยืดเท่านั้นที่ถูกตัดให้ขาดออกจากกัน แค่นี้ก็ทำให้เขาผ่อนลมหายใจออกได้อย่างโล่งอก แม้จะอยากฆ่าไอ้สัตว์นรกตัวนี้ที่บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวเธอ แต่ทำได้แค่กดข่มอารมณ์ไว้เท่านั้น

จิวากรและเอวาวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในร้าน จิวากรกระโดดข้ามหน้าต่างเข้าไปด้านในโดยมีเอวายืนชะเง้อมองเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง ไม่กล้าข้ามหน้าต่างเข้าไป เพราะเศษกระจกที่แตกเกลื่อนกลาดกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง

“เรียกตำรวจหรือยัง?” อิทธิพลถามจิวากร

“อื้อ”

“จิ๋วไม่เป็นไรใช่ไหม?” ถามถึงอาการของน้องอย่างร้อนรน

อิทธิพลส่ายหน้า เดินไปเปิดล็อกประตูให้เอวาเข้ามา

จิวากรเดินไปหยิบโทรศัพท์ของมอสและยื่นให้เจ้าของโทรศัพท์ ก่อนจะโยนลงพื้น พร้อมกับฝ่าท้าวที่เหยียบลงบนหน้าอกของมอส เขาก็พอจะมองออกว่านักร้องหนุ่มพึงพอใจน้องสาวของเขาแต่ไม่คิดว่ามันจะชั่วได้ขนาดนี้

“โทรหาพี่คิมเดี๋ยวนี้” ออกคำสั่งให้คนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า

เอวาเดินเข้าห้องมาพร้อมถ่ายรูปและวิดิโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน

“มึงกับเอวาพาไอ้จิ๋วกลับไปก่อนกูจะอยู่รอพี่คิมกับตำรวจที่นี่”

อิทธิพลช้อนอุ้มร่างไร้สติของเพื่อนสาวเดินออกจากห้องไป

“ฝากดูจิ๋วด้วยนะเอวา”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า

อิทธิพลวางร่างที่ยังคงหลับใหลไร้สติของจิวารีลงบนโซฟากึ่งเตียงในห้องของเอวา ใบหน้าของเธอซีดเผือดพอ ๆ กับริมฝีปาก เปลือกตาปิดสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอไม่รับรู้เรื่องราวใด ๆ เอวาเดินไปหยิบผ้าเย็นและนั่งลงข้างเตียงเช็ดเบา ๆ ที่ใบหน้าและลำคอของเพื่อนสาว

“หมอจะมาเมื่อไหร่เหรอดิน?” เอ่ยถามคนนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ

“แม่บอกออกมาแล้วนะเดี๋ยวก็คงถึง”

เพราะไม่รู้ว่าเธอดื่มอะไรไปบ้าง อันตรายแค่ไหนชายหนุ่มตัดสินใจโทรหาผู้เป็นแม่ให้หมอประจำตัวของเธอมาตรวจร่างกายจิวารีเพื่อความแน่ใจ โดยไม่อยากให้เธอต้องตกใจหลังจากฟื้นขึ้นมาหากพาไปโรงพยาบาล ซึ่งกว่าจะสรุปความได้ดวงยี่หวาก็ถามเสียยืดยาว

เอวาปลีกตัวออกไปคุยสายโทรศัพท์กับจิวากรสอบถามเรื่องราวทางฝั่งนั้น ปล่อยให้อิทธิพลนั่งเฝ้าคนหลับตามลำพัง ชายหนุ่มนั่งเงียบอยู่ข้างเตียง มือใหญ่กำแน่นอยู่บนตัก แสงไฟในห้องส่องกระทบใบหน้าซีดเผือดของคนที่นอนนิ่งอยู่ เหมือนมีลวดเหล็กบีบรัดหัวใจของชายหนุ่มให้หดเกร็ง รู้สึกหน่วง หวิว เหมือนจมดิ่งลงใต้น้ำจนรู้สึกกลัว พลันภาพที่เธอนอนนิ่งอยู่ในห้องนั้นก็วิ่งเข้ามาในหัว พร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นและเสียงหัวเราะกับท่าทีทโมนของเธอหลากหลายอิริยาบถสลับกันไปมา

ความรู้สึกเจ็บแปลบวิ่งกระจายไปทั่วร่างจนร้อนวูบวาบเพียงแค่คิดว่าหากเขาไปช้ากว่านี้...

เอื้อมมือไปสัมผัสกับมือบางของคนบนเตียงมากุมไว้

“ขอโทษนะที่ไปช้า” พูดกับร่างที่ไร้สติ เสียงลอดริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ดวงตาหม่นลง ไม่ละสายตาจากใบหน้าคนหลับเหมือนกลัวว่ามันจะหายวับไปเสียอย่างนั้น เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เขารู้ใจตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าเพื่อนสนิทคนนี้สำคัญกับเขามากแค่ไหน

เอวามองเข้าไปด้านในห้อง รู้สึกสงสารทั้งคนหลับละคนนั่งเฝ้า

“ไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่แจ็คไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ อีกเดี๋ยวหมอก็มาถึงแล้ว”

เอวาปลอบใจคนในสายที่ห่วงน้องไม่แพ้กัน แต่ก็ต้องอยู่จัดการตัวต้นเหตุสันดานหมาไม่ให้ลอยนวลไปได้

“เคลียร์ทางนั้นให้จบไปเลยค่ะไม่ต้องห่วงจิ๋วนะคะ วากับดินเฝ้าอยู่ค่ะ เดี๋ยวหมอตรวจเสร็จวาจะโทรไปบอกนะคะ” และวางสายไป

อิทธิพลและเอวานั่งเฝ้าคุณหมอที่กำลังตรวจร่างกายจิวารีแบบใจจดใจจ่อ

“เป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ?” ถามอย่างร้อนใจ

“ไม่เป็นอันตรายแล้วนะคะ” คุณหมอผู้ตรวจเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนให้คนรอฟังคลายความกังวลลง

“ยาบางตัวในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ พักผ่อนสักหน่อยก็จะดีขึ้นค่ะ” พูดพลางเก็บสัมภาระไปด้วย

“เดี๋ยวหมอให้ยาไว้ถ้าคนไข้ฟื้น ค่อยให้กินยานะคะ”

“หมอขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“ขอบคุณครับคุณหมอ”

“ขอบคุณค่ะ” สองหนุ่มสาวยกมือไหว้ขอบคุณ

“เดี๋ยววาลงไปส่งนะคะ”

จิวารีเปิดเปลือกตาที่หนักขึ้นอย่างอ่อนล้า ขนตากะพริบสั่น ภาพแรกที่เห็นคือความสว่างไสวของแสงนีออน และเพดานสีขาวที่เลือนราง กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่ความพร่ามัวในดวงตา ก่อนจะมองไปรอบห้อง ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านหรือห้องนอนของเธอ แต่ที่นี่คือคอนโดของเอวา ก่อนจะค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก พยุงตัวให้ลุกขึ้นมองหาเจ้าของห้อง แต่เหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับอยู่ที่หัวจนต้องนอนลงที่เดิมอีกครั้ง

“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงที่เธอคุ้นเคย อิทธิพลเดินมานั่งลงข้าง ๆ

“เป็นไงบ้าง?”

“ดิน”

“ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ แล้วเอวาไปไหน?” ยังงุนงงอยู่

“เอวาลงไปข้างล่างเดี๋ยวก็ขึ้นมา”

“ปวดหัวหรือเปล่า?”

หลังมืออังหน้าผากเธอ แตะตามแก้มและลำคอ สีหน้าเป็นกังวลยิ่งทำให้จิวารีสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

“ทำไม...ฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลย” พยายามนึกอีกครั้ง ขมวดคิ้วเข้าหากันยิ่งทำให้ปวดหัวหนักขึ้น

เสียงเปิดประตูห้องพร้อมกับร่างของเอวาที่เดินเข้ามาพร้อมกับจิวากร สองมือของชายหนุ่มหิ้วของกินพะรุงพะรัง จิวารีขมวดคิ้วสงสัย มองหน้าทุกคนสลับกันไปมาเพราะสีหน้าแต่ละคนไม่ค่อยสู้ดีนัก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ตื่นแล้วเหรอ?” เอวาถามคำถามเดียวกัน และนั่งลงที่โซฟาข้าง ๆ

“เกิดอะไรขึ้นกับฉันเหรอเอวา?” หันไปถามเพื่อน

ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะถ่ายทอดเรื่องราวให้เธอได้รับรู้

“แต่แกไม่ต้องห่วงหรอกนะพี่คิมหันต์จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในมือตำรวจแล้ว และมันก็โดนไล่ออกแล้วล่ะ”

“ส่วนค่าเสียหายที่ร้านนายบอกพี่คิมด้วยเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง” อิทธิพลหันไปพูดกับจิวากร

“ไม่ต้องหรอก กูต้องขอบคุณมึงมากกว่าที่ช่วยไอ้จิ๋วไว้”

“ฉันรับผิดชอบเองนายไม่ต้องยุ่ง” อิทธิพลยืนยันคำเดิม

“ค่าเสียหายร้านอะไรเหรอ?” จิวารีพูดแทรกขึ้น

“นี่ไง” เอวาเปิดภาพในโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายไว้ให้เพื่อนดู

“ไอ้ชั่วที่มันวางแผนไว้แน่เลย” ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งเอวาพยุงเพื่อนและจับหมอนมาวางหลังให้พิงนั่ง

“ขอบคุณนะดิน” หันไปมองอิทธิพลด้วยสายตาจริงจัง

“ถ้าไม่มีนาย...” พลันน้ำในตาก็เอ่อขึ้น จิวารรีคนเข้มแข็งหายไปทันที ก่อนจะกะพริบตาถี่ ๆ ไล่ความชื้นในดวงตาออกไป เอวาดึงมือเพื่อนสาวมากุมไว้บีบเบา ๆ แทนคำปลอบใจ

“เรื่องไม่ดีก็ผ่านแล้วอย่าคิดถึงมันอีกเลยนะ กินอะไรกันก่อนดีกว่า” เอวาพูดเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย และเดินไปจัดการอาหารบนโต๊ะ

“พี่ตัดสินใจแล้วแกเลิกร้องเพลงที่ร้านนะ” จิวากรพูดขณะนั่งล้อมวงบนโต๊ะอาหาร

“ทำไมล่ะ ก็ไอ้มอสมันโดนไล่ออกแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“แต่พี่ไม่อยากห่วงแกตลอดเวลา หางานอื่นทำก็แล้วกัน”

“แต่ว่า....”

“ไม่มีแต่ รีบกินข้าวกินยาแล้วไปพักผ่อน” สั่งน้องด้วยเสียงอ่อนโยนแบบไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก

จิวารีหลับไปแล้วหลังจากกินยา ส่วนสองหนุ่มขออนุญาตเจ้าของห้องนั่งดื่มต่อ บรรยากาศยังคงตึงเครียดแม้ทุกอย่างจะคลี่คลายแล้ว

จิวากรสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะผ่อนออกในใจเฝ้าคิดโทษตัวเองวกไปวนมา หากเขาไม่รีบออกมาก่อนในนัดประชุม เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

“เป็นเพราะกูไอ้จิ๋วถึงเจอเรื่องแบบนี้” จิวากรพูดกับอิทธิพล

“ถ้าเอวาไม่ได้ไปส่งไอ้จิ๋ว และมึงไปช่วยไม่ทัน กูจะมองหน้าพ่อได้ยังไง”

มือบีบแก้วเครื่องดื่มไว้แน่น ก่อนจะกระดกเข้าปากอย่างรู้สึกผิด

“เพราะไอ้ชั่วนั่นต่างหาก พี่แจ็คอย่าโทษตัวเองเลยนะคะ”

เอวาวางมือลงที่แขนของชายหนุ่ม ปลอบประโลมสายตาจริงจัง

“ตอนนี้จิ๋วก็ปลอดภัยแล้ว ต่อไปเราจะได้ระวังมากขึ้น อย่าคิดมากนะคะ”

“ขอบคุณมากนะเอวา” มองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาหม่น

“ขอบคุณมึงด้วยนะดิน”

อิทธิพลพยักหน้ามองเลยไปยังร่างที่หลับใหลอยู่ ไม่อยากคิดต่อเช่นกันว่าหากเหตุการณ์ออกไปในทางลบเขาจะเจ็บปวดขนาดไหน ก่อนจะสลัดความคิดนั้นออกไปให้พ้นหัว กระดกแล้วเหล้าเข้าปากเพื่อไล่ความตังเครียดให้คลายออกไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status