Share

บทที่ 652

Author: หูเทียนเสี่ยว
“ข้ายังค่อนข้างชองให้ท่านเรียกข้าว่าจั๋วเสี่ยวจิ่วมากกว่านะ...ท่านอ๋อง” จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “หรือจะบอกว่า ควรเรียกท่านว่า...นายท่านซือเจิ้ง?”

พอสิ้นเสียงนาง หน้ากากลายเปลวเพลิงสีแดงก็ถูกนางปลดลงมา

ใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเฟิงเหยียน ขาวซีด บนคางมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เต็ม ปรากฎขึ้นมาต่อนห้าจั๋วซือหราน

นางกัดฟันแน่น

ปวดใจขึ้นมาเลยทีเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้พริบตาที่เห็นเขาใส่หน้ากากก็เดาเอาไว้แล้ว

แต่ตอนที่ได้เห็นกับตา ก็ยังรู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกัน

ในสมองก็แทบจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นพลิกขึ้นมาทันที

ตอนนั้น การทรมานเหล่านั้น ความเจ็บปวดนั่น...

นางคำนวณเอาไว้หลายเรื่อง พวกเขาล้วนพูดกันว่านางเดินหนึ่งก้าวจะคำนวณไว้ถึงห้าก้าว ทุกก้าววางไว้อย่างรอบคอบ

แต่นางก็คำนวณไม่ถึงสิ่งนี้ กระทั่งคิดไม่ถึงมาก่อนด้วยซ้ำ

นางไม่เคยคิด ว่าชายสวมหน้ากากที่เห็นนางถูกทรมานกับตาในตอนนั้น จะเป็นท่านอ๋องเฟิงเหยียน...

นางคิดไม่ถึงมาก่อน และไม่รู้สึกถึงความเป็นไปได้นี้

ตอนนี้นางจ้องมองหน้าเฟิงเหยียนนิ่ง

เฟิงเหยียนเองก็ก้มหน้ามองนาง “จั๋วเสียวจิ่ว” เขาหอบหายใจเบาๆ เรียกนางแบบนี้

คิ้วของจั๋วซือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 653

    “พวกเขาต่อให้จะหยิบยืมสิ่งนี้มาเล่นงานข้าให้ตาย เช่นนั้นก็ต้องสนองให้บรรลุหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น...ก็ถือโอกาสมากระตุ้นให้เจ้าโกรธได้พอดี แล้วยังยืมมือเจ้า ไปรับมือกับผู้อาวุโสพวกนั้นให้อีก ยิ่งนัดเดียวได้นกสองตัวเลย”เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น เขานอนอยู่ตรงนั้น ลมหายใจค่อนข้างหนักหน่วงจั๋วซือหรานล้วงหยิบเข็มทองาวๆ แถวหนึ่งออกมาและไม่รอให้เฟิงเหยียนพูดอะไร นิ้วของนางก็วาดลงไป กระชากชุดบนตัวเขาจนขาดเผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาม่านตาเฟิงเหยียนหดลง ดวงตากระพริบปริบๆ สองครั้ง“จั๋วเสียวจิ่ว...”“หุบปาก” สายตาของจั๋วซือหรานระมัดระวังอย่างมาก ในมือถือเข็มทองอยู่ “อย่าเพิ่งพูดกับข้า รอให้ข้าจัดการกับชีวิตท่านก่อน แล้วค่อยไปรับมือกับตาเฒ่าพวกนั้น”เฟิงเหยียนเม้มริมฝีปาก เขากลอกตาเล็กน้อย มองใบหน้าด้านข้างที่กำลังตั้งใจของจั๋วซือหรานครู่ต่อมา เขาจึงเอ่ยขึ้นมาเสียงต่ำ “ข้ายังไม่ตายหรอก”“...” จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร เพียงแหงนตาถลึงมองเขาผาดหนึ่งเฟิงเหยียนพูดต่อ “ดังนั้น เจ้าสามารถทำให้ข้าต้องทรมานได้อยู่ ถ้าหากเจ้าระบายอารมณ์ได้ล่ะก็นะ”จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว นางฟังคำพูดของเขาไม่ออกเสี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 654

    คนเรามีเส้นทางชะตาของตนเอง มีผลกรรมของตนเอง ถ้าหากทำลายเส้นทางชะตาของคนอื่น ก็เป็นไปได้ว่าผลกรรมของคนคนนี้ ก็จะตกมาอยู่บนหัวของนางดังนั้นเก้าเข็มเสวียนเหยียนจึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวังมาโดยตลอดกระทั่งว่า...จั๋วซือหรานคิดถึงการตายอย่างน่าอนาถของตนเองเมื่อชาติที่แล้ว จนถึงตอนนี้นางเองก็ยังไม่กล้าพูด ว่าสาเหตุที่ตนเองตาย เป็นเพราะใช้เก้าเข็มเสวียนเหยียนนั้นช่วยเหลือชีวิตคนอื่นหรือเปล่าเพียงแต่สิ่งเหล่านี้ ล้วนไม่มีความจำเป็นต้องให้เฟิงเหยียนล่วงรู้จั๋วซือหรานถอนหายใจในใจ ก้มหน้าต่ำมองเฟิงเหยียนนางอันที่จริงก็ไม่รู้ ว่าเพราะอะไรต้องทำเช่นนี้...แต่คิดว่าน่าจะเป็น เพราะมาทนเห็นความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีคนนี้มาเจอกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ให้คนงามต้องมาเจอความทุกข์ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรดูเอาเถิด ท่านอ๋องคนนี้แต่ก่อนไม่ยอมปฏิบัติกับนางให้ถูกต้อง ตอนนี้ก็รับผลกรรมไปสิ กรรมตามทันดังนั้นจั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่า อืมอืมน่าจะเหตุผลนี้นั่นล่ะจั๋วซือหรานนอนตะแคงลงข้างเขาบนตัวเฟิงเหยียนมีเข็มทองอยู่ ขยับไม่ได้ แค่รู้สึกว่าร่างอ่อนนุ่มของนางอยู่ข้างๆ“จั๋วซือหราน เจ้า...”“ชู่” จั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 655

    จั๋วซือหรานนอนไปพักหนึ่ง หลับสนิทมากเฟิงเหยียนอยู่ข้างนาง มองดูนางหลับลึก เดิมทียังรู้สึกว่า นางน่าจะยังไม่ตื่นขึ้นมาในช่วงสั้นๆ นี้เขากระทั่งกำลังคิด ว่าเข็มทองเก้าเล่มบนตัวนี้จะจัดการอย่างไรดีตนเองลงมือคิดหาวิธีเองได้ไหมใครจะรู้ ว่าผ่านไปแค่ครู่เดียว จั๋วเสียวจิ่วที่กำลังหลับสนิทกรนเบาๆ อยู่นั้นจู่ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้นมานางลุกขึ้นนั่ง ประกายในดวงตาเพียงไม่นานก็เปลี่ยนจากความงัวเงียเป็นแจ่มใส นางกลอกมามามองเฟิงเหยียน “ดึงเข็มออกแล้วนะ”จั๋วซือหรานพูดพลาง ยื่นมือไปยังเข็มทองบนตัวเขา แต่กลับยังไม่ดึงออกทันที แต่บีบที่ปลายเข็มทองแล้วเริ่มหมุนพอหมุนเข็ม วิชาเข็มที่ทำให้เจ็บปวดมหาศาลแต่เดิม ก็ยิ่งเจ็บร้าวเข้าไปถึงดวงใจเฟิงเหยียนเดิมทีคิดว่านางจะดึงเข็มออกตรงๆ คิดไม่ถึงว่าจะยังหมุนเดินเข็มต่ออีก มาอย่างกะทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัว จนเขาส่งเสียงครางขึ้นมา “อืม...”การเคลื่อนไหวของมือจั๋วซือหรานหยุดชะงัก เอียงหน้ามองเฟิงเหยียนสายตาตอนที่ดวงตาพญาหงส์คู่งามเอียงมองเข้ามาดูเย้ายวน มีเสน่ห์ดึงดูดราวต้องมนต์สะกดเอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า “นายท่านซือเจิ้งอย่าส่งเสียงที่ทำให้คนเข้าใจผิดออกมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 656

    ช่าง...เก็บกดเสียจริงจั๋วซือหรานรู้สึกว่าแหย่เขาแล้วก็สนุกดีนางยื่นนิ้วชี้ออกมา กดลงไปบนบ่าเฟิงเหยียน จากนั้นก็ผลักเบาๆ ให้เขาล้มลงไปบนแคร่จากนั้นจึงโน้มตัวขึ้นไปเฟิงเหยียนคิดจะลุกขึ้น แต่ก็เห็นนางโน้มตัวเข้ามา เขาหดม่านตาลง ท่าทางแข็งทื่อนิ้วของจั๋วซือหรานกดอยู่บนลูกกระเดือกที่นูนขึ้นของเขา ท่าทางนี้ ทำเอาเฟิงเหยียนอดกลืนน้ำลายเอื๊อกขึ้นมาไม่ได้ลูกกระเดือกที่ปูดโปน ไหลผ่านใต้นิ้วมือที่อ่อนนิ่มของนางไป“จั๋วเสียวจิ่ว...” เสียงของเขาแหบพร่าขึ้นมาหน่อยๆจั๋วซือหรานกดลูกกระเดือกของเขาไว้ “นายท่านซือเจิ้ง ท่านอย่าพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้กับข้า เมื่อครู่ที่ท่านกระอักเลือดก็คิดจะหลีกเลี่ยงข้า พอข้าเห็นท่านกระอักเลือด ข้าก็ไม่คิดจะคิดเล็กคิดน้อยกับท่านแล้ว”เฟิงเหยียนตะลึงงัน “...อะไรนะ?”“ข้ายังไม่ได้ถามท่านเลย ซื่อจือตระกูลเฟิง ทำไมถึงได้กลายเป็นซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษของแคว้นชางไปได้กัน?”จั๋วซือหรานขมวดคิ้วเล็กๆ นางก่อนหน้านี้ก็คิดจะถามคำถามนี้แล้ว แต่พอเห็นเฟิงเหยียนกระอักเลือดอย่างน่าเศร้าจึงอดรนทนไม่ไหว หันมารักษาเขาเสียก่อนไม่อย่างนั้นตอนที่นางเพิ่งได้รู้ตัวตนฐ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 657

    ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงถามไปด้วย พลางค่อยๆ ขบคิดในสมองเฟิงเหยียนในฐานะที่เป็นลูกหลานตระกูลขุนนางคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นซื่อจื่อที่มีคุณสมบัติดีที่สุดด้วย ตามหลักการแล้วน่าจะไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกับสภาผู้อาวุโสที่สูงส่งเท่าไรนักจึงจะถูกองค์กรเช่นนี้ จั๋วซือหรานไม่รู้สึกว่าเป็นพวกองค์กรการกุศลอะไรถ้าไม่มีผลประโยชน์คงไม่มีทางทำงานแน่ไม่แตกต่างอะไรกับคนอื่นๆ จะตระกูล สำนัก สามหอตลาดมืด ก็ทำนองเดียวกันทั้งนั้นไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางทำงานและเพราะจั๋วซือหรานสามารถยอมรับการกำหนดแบบที่ไม่มีผลประโยชน์ไม่มีทางทำงานได้ ดังนั้นจึงรู้สึกแปลกประหลาดสถานที่สูงส่งอย่างสภาผู้อาวุโส ยิ่งไม่มีทางทำเรื่องที่ไม่มีผลกำไรแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า พวกเขาคาดหวังผลประโยชน์อะไรจากตระกูลเฟิง...ไม่สิ ถ้าหากพวกเขาต้องการผลประโยชน์จากตระกุลเฟิง คงไม่มาเสียเวลากับแค่ตัวเฟิงเหยียนหรอกยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สนใจด้วยว่าตระกูลเฟิงจะรู้หรือไม่ว่าเฟิงเหยียนเป็นซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษหรือเปล่าเช่นนั้น พวกเขาก็คือคาดหวังผลประโยชน์จากตัวเฟิงเหยียนเฟิงเหยียน...สายตาของจั๋วซือหรานตกอยู่บนตัวเฟิงเหยียน พิจา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 658

    เฟิงเหยียนเอ่ยต่อ “อาจารย์ที่ยอดเยี่ยมของข้าคนนั้น เหมือนว่าจะรอบรู้ไปทุกเรื่อง ทำเป็นเสียทุกเรื่อง สอนอะไรพวกเรามามากมาย ทุกคนล้วนน้อบรับทั้งกายใจ เดิมทีพวกเราคิดว่า จะสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระเช่นนี้ไปได้ทั้งชีวิต แต่คิดไม่ถึงว่า...”จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง “จะถูกใช้ให้เป็นประโยชน์สินะ?”เฟิงเหยียนยิ้มขืน หญิงสาวคนนี้ฉลาดจริงๆจั๋วซือหรานร้องเชอะ “สอนท่านมาจนร้ายกาจขนาดนี้ แล้วให้ท่านกลับมาที่บ้าน พอคนในบ้านรู้ถึงคุณสมบัติตัวท่านแล้ว จะยอมปล่อยให้ท่านมีชีวิตอิสระเสรีต่อไปได้หรือ?”“แน่นอนว่าต้องให้ท่านสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ต่อแน่ๆ กลายมาเป็นภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ค่านี้ แล้วยังต้องมาถูกควบคุมโดยตระกูลเฟิงอีก แล้วพวกสภาผู้อาวุโสที่แต่งตั้งตำแหน่งซือเจิ้งหน่วยสืบสวนพิเศษให้ท่าน ดูแล้วเหมือนจะยกย่องท่านขึ้นสูงส่ง แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาคิดจะชุบเลี้ยงท่านให้อยู่อย่างว่าง่ายในแคว้นชาง...รอจนวันหนึ่งที่ต้องการท่าน ค่อยลากท่านออกมาสังหารทิ้งหรือเปล่าก็ไม่รู้”คำพูดของจั๋วซือหราน แม้ฟังแล้วจะไม่ค่อยเข้าหู แต่มันก็ดูเป็นความจริงมากมุมปากเฟิงเหยียนยกขึ้น “ดังนั้น การมามีความสัมพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 659

    จากนั้นบนโต๊ะหินเล็กด้านนอก ก็เจอเข้ากับ ‘หนูตัวใหญ่’ ตัวหนึ่ง ฉุนจวินกินจนปากมันเลื่อม พอเห็ฯจั๋วซือหรานเดินออกมาก็ตกใจสะดุ้งโหยง เขายื่นมือมาเช็ดปาก ดวงตาถลึงกลมโตคำพูดเองก็ติดๆ ขัดๆ“จิ่ว...แม่นางจิ่ว ท่านทำไมจึง...” ฉุนจวินลุกขึ้นยืน ท่าทางดูแล้วค่อนข้างไม่สบายใจ สองมือไพล่อยู่ด้านหลัง เหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรผิดมา “ท่านไม่ใช่ถูกนายท่าน...นายท่านไม่ใช่กำลังทำ...”ฉุนจวินพูดอยู่นานก็ยังไม่เข้าใจเขาพูดออกมาไม่ได้หรอก ว่าท่านเมื่อครู่กำลังทำนั่นโน่นนี่กับนายท่านอยู่...ทำไมถึงลุกขึ้นมาแล้วล่ะ? ไม่ใช่ต้องพักผ่อนเสียหน่อยหรือ?จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว “นั่นสิ นายท่านของเจ้าจำเป็นต้องบำรุงเสียหน่อย ข้าเองก็เตรียมจะบำรุงให้กับเขา แต่มาถูกหนูตัวใหญ่อย่างเจ้ากินไปแล้ว”ฉุนจวินหน้าแดงก่ำจั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะ เจ้าไปอธิบายกับเจ้านายเจ้าเองก็แล้วกัน”พูดจบประโยคนี้ จั๋วซือหรานก็ยกเท้าคิดจะเดิน ฉุนจวินถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น “ดึกขนาดนี้แล้ว แม่นาวจิ่วจะไปไหนหรือ?”“โอ้” จั๋วซือหรานขานรับ ฉุนจวินเห็นว่าหญิงสาวงดงามตรงหน้านี้ รอยยิ้มในสีหน้าจู่ๆ ก็หายไป เหลืออยู่แค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 660

    ขอรับ!“จั๋วซือหรานหลังจากออกมาจากหน่วยสืบสวนพิเศษ ระหว่างทางที่ตรงไปทางบ้านตระกูลเฟิง ถือว่าคุ้นหูคุ้นตาดีแล้ว พอมาถึงด้านนอกกำแพงเรือนตระกูลเฟิง ยังไม่ทันที่องครักษ์จะพบนาง นางก็พลิกตัวข้ามกำแพงไปอย่างคล่องแคล่วกลางดึก ราวกับมีแมวดำคล่องแคล่วตัวหนึ่ง กำลังกระโจนพุ่งไปตามหลังคาบ้านตระกูลเฟิงยังคงเหมือนแต่ก่อน คุ้มกันหนาแน่ ความถี่การลาดตระเวนของเหล่าองครักษ์ก็ค่อยข้างถี่แต่ว่า จั๋วซือหรานเองก็ไม่ใช่เพิ่งมาเป้นครั้งแรก มาครั้งแรกไม่ชินครั้งต่อไปก็ชำนาญเอง เป็นธรรมดาที่จะมีประสบการณ์อยู่บ้างนางรีบเข้าไปในเรือนเฟิงเหยียนอย่างรวดเร็ว เฟิงเหยียนตอนที่ยังอยู่ในจวนเฟิงก่อนหน้า พักอยู่ที่เรือนนี้เฟิงเหยียนถึงแม้จะออกจากจวนตระกูลเฟิงไปแล้ว แต่องครักษ์เงาของเขาก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ทิ้งไว้ที่นี่องครักษ์เงาที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ เพียงไม่นานก็พบตัวจั๋วซือหราน แน่นอนว่าเป็นเพราะจั๋วซือหรานไม่ได้คิดที่จะระแวดระวังพวกเขาใครบุกรุกเข้ามากัน!” องครักษ์เงาถามขึ้นเสียงขรึม เพียงไม่นานจั๋วซือหรานก็ถูกล้อมไว้จากนั้นจึงเห็นหญิงสาวชุดแดงถูกล้อมไว้ตรงกลางอย่างชัดเจน“ท่าน...ท่าน...แม่นางจิ่ว?”

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status