Share

บทที่ 884

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
พวกเขาอยากจะตะโกนโห่ร้อง!

อยากจะกู่ก้องความน่าเกรงขามของแม่นางจิ่ว

แต่ตอนนี้ ล้วนทำได้แค่กลั้นเอาไว้ก่อน มีบางคนกลั้นไว้จนหน้าแดงก่ำแล้วด้วย!

ทหาที่แบกปืนให้จั๋วซือหรานก่อนหน้า ก็รู้สึกเจ็บเหมือนบ่าแทบฉีก!

แต่เพราะก่อนหน้านี้เขาจ้องเขม็งไปทางฝั่งศัตรู แล้วยังต้องรักษาตัวไม่ให้ขยับ ดังนั้นเขาจึงทำให้ตนเองมีสมาธิอยู่ตลอด

ดังนั้นคนอื่นอาจจะไม่เห็นขั้นตอนทั้งหมด

แต่ว่าเขาเห็นแล้ว ปากกระบอกปืนอยู่บนบ่าเขา หูของเขาได้ยินเสียงทึบเสียงนั้นดังกว่าที่คนอื่นได้ยินอยู่พอควร!

จากนั้นเขาก็เห็นกับตา ว่าหัวของคนเภื่อนนั่นระเบิกออกมาราวกับลูกแตงโม!

พริบตานั้น เขากระทั่งลืมความเจ็บปวดบนไหลตัวเองไป...เลือดทั้งตัวเหมือนถูกเผาไหม้จนเดือดพล่านขึ้นมาแล้ว!

นี่มัน...นี่มันถึงใจสุดๆ!

ที่พวกเขารู้สึกถึงใจ ก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะพวกเขายิ่งเข้าใกล้ประตูค่ายคุ้มกัน ก็ยิ่งมองเห็นฉากคานประตูหัวมนุษย์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ไม่มีใครที่เห็นฉากแบบนี้ แล้วใจจะยังสงบอยู่ได้ พวกเขาใช้พลังทั้งหมดอดกลั้นความโกรธและความชิงชังเอาไว้

ดังนั้น ภายใต้อารมณ์เช่นนี้ พอเห็นแตงโตที่ระเบิดเละนั่น จะไม่รู้สึกสะใจได้อย่างไร!

ถึ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1415

    จั๋วซือหรานเอะอะขนาดนี้ในจวน ตามหลักการเนี่ยคุนไม่มีทางไม่มีปฏิกิริยาแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เช่นนั้นก็มีแค่ความเป็นไปได้เดียว..."เนี่ยคุนไม่อยู่ในจวนแล้ว" จั๋วซือหรานคาดเดาออกมา "ไปย้ายกองหนุนแล้วกระมัง"จั๋วซือหรานขี้เกียจจะไปสนใจว่าเขาไปเคลื่อนย้ายกองหนุน ไปโยกย้ายกองหนุนอะไรหรือเปล่านางรู้สึกว่าคงไม่ได้เก่งกว่ากองหนุนของนางหรอกถึงยังไง ผู้ที่ใช้ชื่อว่า '...อันดับหนึ่งในใต้หล้า' ปกติจะต้องแข็งแกร่งเอามากๆส่วนเฟิ่งหลานก็พาพ่อของนางเข้ามาหาอย่างไว รถเข็นคันหนึ่งถูกลากมาถึงหน้าจวนเจ้าเมืองถ้าหากยังเป็นพวกคนใช้จวนเจ้าเมืองก่อนหน้าล่ะก็ เฟิ่งหลานคงได้ถูกสร้างความลำบากแน่แต่คนใพวกนั้นถูกจั๋วซือหรานตะเพิดไปแล้วที่เหลืออยู่คือทาสอาชญากรที่ซื้อมาเมื่อวานนี้ ยิ่งไปกว่านั้นทาสอาชญากรเหล่านี้เฟิ่งหลานเองก็มาซื้อด้วยกันกับจั๋วซือหรานดังนั้นเฟิ่งหลานพอเห็นก็จำทาสอาชญากรเหล่านี้ได้?เฟิ่งหลานตกตะลึงในใจ ใต้เท้าคนนี้ให้ตายสิ...แค่คืนเดียวเท่านั้น! แค่คืนเดียวเท่านั้นนะ!นางก็ให้พวกเขามาดูแลจัดการแล้วรึ?และทาสอาชญากรเหล่านี้หลายคนก็จำได้ ถึงคนหาข่าวที่มาซื้อพวกเขาพร้อมกับใต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1414

    แต่ว่าในความวุ่นวายนี้ ก็ค่อยสงบลงมาแล้วแพ้ชนะชัดเจนแล้วทาสอาชญากรหลายคนลุกขึ้นโซซัดโซเซ พวกเขายกมือขึ้นเช็ดครบเลือดบนหน้ามองไปทางจั๋วซือหราน "ใต้เท้า"จั๋วซือหรานพยักหน้าพวกเขาเดิมทียังคงกระวนกระวายกันอยู่ ถ้าใต้เท้าคนนี้รู้สึกว่าพวกเราไม่ชนะจะทำอย่างไรกัน? เพราะคนพวกนี้คือคนใช้จวนเจ้าเมือง ยังไม่ตายกัน แค่นอนร้องครวญครางอยู่บนพื้นเท่านั้นพวกเขาไม่รู้ ว่าใต้เท้าคิดจะให้ชนะหรือว่าอะไรแบบไหนหรือว่าไม่ตายไม่เลิกราแบบนั้น?แต่เพียงไม่นาน พวกเขาก็ได้ยินเสียงหญิงสาวเย็นเยียบดังขึ้นว่า "เข้ามาเถอะ ต่อไปตำแหน่งของคนพวกนี้ ก็ให้พวกเจ้ามาทำแล้วกัน"ทาสอาชญากรพวกนี้ตกตะลึงไป "ใต้เท้า..."ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนใช้จวนเจ้าเมืองพวกนั้นก็ตกตะลึงด้วย "ใต้เท้า!"จั๋วซือหรานมองคนใช้เหล่านี้เรียบๆ "ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่ หรือว่ารู้แล้วแต่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเอง?""จวนนี้เป็นจวนของข้าไปแล้ว พวกเจ้าคงคิดว่า พวกเจ้าเป็นคนใช้ของจวนนี้ ก็แค่เปลี่ยนเจ้านายเท่านั้น สามารถอยู่ที่นี่ทำงานต่อไปได้สินะ"สีหน้าของเหล่าคนใช้มองออกไม่ยาก ว่าพวกเขาคิดเช่นนี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1413

    คนหนุ่มเหล่านี้เองก็ตระหนักได้ ว่าคำตอบนี้สำคัญมากใต้เท้าคนนี้ แตกต่างกับพวกขุนนางพุงพลุ้ยไม่เห็นหัวใครแบบที่พวกเขาเคยเจอมาหลังจากพวกเขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก็พยักหน้า"ได้ขอรับ""พวกเราทำได้ขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ในสีหน้ามีความสุขอยู่หน่อยๆสีหน้าแบบนี้แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ความผ่อนคลายในสีหน้าก็เห็นได้อย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้พวกเขารุ้สึก่วา ตนเองน่าจะตอบถูกแล้วครู่ต่อมา ก็เห็นใต้เท้าคนนี้ ส่งยาลูกกลอนหลายเม็ดมาตรงหน้าพวกเขา"เอ้า กินซะ จากนั้นอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าก็จะบรรเทาลง" จั๋วซือหรานเชิดคางไปทางพวกคนใช้จวนเจ้าเมืองเอ่ยต่อว่า "จากนั้นพวกเจ้าก็ไปซัดคนพวกนั้นซะ วางใจได้ มีข้าอยู่ตรงนี้ พวกเขาไม่กล้าแตะต้องพวกคนแก่คนอ่อนแอของพวกเจ้าทางนี้หรอก"คนพวกนี้งงเป็นไก่ตาแตกจริงๆ ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนทั้งหมดที่นี่ นอกจากพวกเฟิงเหยียนชิ่งหมิงที่เข้าใจนิสัยของจั๋วซือหรานแล้วคนอื่นทั้งหมดล้วนงงกันหมดยาลูกกลอน...ส่งให้พวกเขาแบบนี้เลยหรือ?ในมือพวกเขาล้วนสั่นระริกขึ้นมา หยิบยาลูกกลอนออกมาจากฝ่ามือของนางไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนาง และยังจ้องมองนางเขม็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1412

    "เกิดเรื่องแล้ว?" จั๋วซือหรานยังงัวเงียอยู่ พอได้ยินเสียงนี้ จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?"จั๋วซือหรานลุกขึ้นมา กดบ่าเฟิงเหยียนไว้ "ท่านรออยู่ในห้อง ข้าไปดูก็พอ ไม่อะไรหรอก"แต่เฟิงเหยียนไม่วางใจ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วตามออกไปพร้อมจั๋วซือหรานชิ่งหมิงบอกว่าคนของตลาดมืดทางนั้นมาแล้ว จากนั้นก็มีเรื่องกับคนของจวนเจ้าเมืองเข้าพูดแบบนี้ จั๋วซือหรานก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องอะไรมุมปากนางยกขึ้น "ไปดูกันเถอะ"พอมาถึงเรือนหน้าของจวนเจ้าเมือง ก็เห็นคนใช้ของจวนเจ้าเมืองเข้าแถวหน้ากระดาน ขวางไว้ด้านหน้าและด้านหน้าของพวกเขา ก็คือกลุ่มคนแก่เจ็บป่วยกลุ่มหนึ่ง...ก็ไม่เชิงขนาดนั้น ถึงยังไงก็เป็นเหล่าทาสอาชญากรที่จั๋วซือหรานซื้อไว้จากตลาดมืดเมื่อคืนนั่นล่ะพวกเขาถูกพวกค้าทาสในตลาดมืดส่งมาตั้งแต่เช้าตรู่พวกค้าทาสพวกนั้นเดิมทีคิดจะรอให้จั๋วซือหรานออกมาแล้วค่อยส่งให้นางเหมือนกันแต่พวกคนใช้จวนเจ้าเมืองแต่ละคนก็ดุกันอย่างกับผีร้ายพ่อค้าทาสเองก็ขี้เกียจจะเป็นคนชั่ว หลังจากปล่อยทาสอาชญากรพวกนี้แล้วก็ออกไปเลยตอนที่จั๋วซือหรานมาถึง ก็มองเห็นฉากเช่นนี้ครั้นจะบอกว่าสองฝ่ายคุมเชิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1411

    "ข้ารู้สึกว่า...น่าสนใจอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิ่งหลานอารมณ์ยังดูกระวนกระวาย เดิมทีนางคิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธบ้างจากปากใต้เท้าคนนี้แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำวิจารณ์อย่าง 'น่าสนใจ' จากปากของนางนี่ทำให้อารมณ์ของนางเดิมทีที่กระวนกระวายอยู่แล้ว ยิ่งกระวนกระวายหนักขึ้นไปอีกแล้ว...มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีการชี้นำอะไรเลยน่าสนใจนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่? ปฏิเสธหรือว่าตกลงกัน?เฟิ่งหลานชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าหัวในเต้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้วจากนั้นก็เห็นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ได้ เช่นนั้นก็ตามมาแล้วกัน"ดวงตาของเฟิ่งหลานถลึงเบิกกว้าง ประกายในดวงตาทั้งหมดล้วนเป็นความตกตะลึงยินดี"ขอบคุณ! ขอบคุณใต้เท้า! ขอบคุณใต้เท้า!" เฟิ่งหลานรีบร้อนเอ่ยขึ้น "ข้าจะซื่อสัตย์ต่อใต้เท้าอย่างแน่นอน!"จั๋วซือหรานมองนาง "พ่อของเจ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือ?"เฟิ่งหลานตกตะลึง จากนั้นก็หยักหน้างึมงำ "...เจ้าค่ะ"เฟิ่งหลานเดิมทีคิดว่าจั๋วซือหรานที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ คิดจะแสดงท่าทีว่าสนใจแค่นางนะ ไม่ได้สนใจพ่อของนางแต่พอคิดดูอีกที ก็เหมือนว่า...จะไม่ใช่อะไรแบบนั้นเพราะใต้เท้าก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งพวกคนแก่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1410

    ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status