Share

บทที่ 490

Auteur: หว่านชิงอิ๋น
ทันทีที่เอ่ยวาจาเหล่านี้ออกมา ทุกคนในลานต่างตกตะลึง

หลิวหม่านตกใจเสียจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการช่างสมกับการเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจริง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายถึงกับใช้สตรีของตน ช่างอำมหิตนัก!”

มือของฟู่เฉินหวนที่ไพล่หลังเอาไว้กำเป็นหมัดแน่น

ภายนอกยังคงสงบนิ่งไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ

ในวันนี้เอง เสียงแผดร้องที่ดังขึ้นมาจากจวนตระกูลหลิวสร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกคนบนท้องถนน

ข่าวที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการเปิดโปงเรื่องการยักยอกเงินบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวง

สิ่งที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกระทำในจวนตระกูลหลิวเพื่อนางรำผู้นั้นเองก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงเช่นกัน

ข่าวที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกล่าวว่านางรำผู้นั้นเป็นสตรีของตนจึงแพร่สะพัดไปด้วย

……

ลั่วชิงยวนนอนอยู่บนเตียงตลอดสามวัน ช่วงนี้นางฟื้นตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงงอยู่หลายครั้ง ทว่าสติกลับมิแจ่มชัดและมิได้ฟื้นสติเต็มที่นัก

สิ่งที่นางรู้ก็คือมีคนเฝ้านางอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งคืนและคอยป้อนโอสถให้นาง

เมื่อนางฟื้นตื่นขึ้นมาก็เห็นซ่งเชียนฉู่อย่างที่คาดคิดเอาไว้

“ท่านฟื้
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 491

    เมื่อฟู่เฉินหวนที่อยู่นอกประตูได้ยินวาจาเหล่านี้ก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาในห้อง ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้างจึงรีบลุกขึ้น “ท่านอ๋อง” ฟู่เฉินหวนเหลือบมองผู้ที่อยู่บนเตียงด้วยสายตาเฉยชาพลางกล่าวกับลั่วเยวี่ยอิงว่า “แม่นางฝูเสวี่ยได้รับบาดเจ็บ ให้นางพักผ่อนเถอะ” “เพคะ คราวนี้แม่นางฝูเสวี่ยได้รับบาดเจ็บสาหัส หม่อมฉันจักลงครัวไปตุ๋นน้ำแกงไก่มาให้นาง” ลั่วเยวี่ยอิงกล่าวด้วยสีหน้าเข้าอกเข้าใจ เมื่อมองจากภายนอกจึงทำให้แลดูใจดีมีเมตตายิ่งนัก ทว่ากลับมิอาจซุกซ่อนแววตาคับข้องใจได้ ชวนให้คนยิ่งรู้สึกเศร้าใจแทนนางมากขึ้น เมื่อลั่วเยวี่ยอิงออกจากห้องไป ฟู่เฉินหวนเฝ้ามองนางเดินจากไปแล้วกำหมัดแน่นโดยมิรู้ตัว ภาพเหตุการณ์ฉากนี้ปรากฏแก่สายตาของลั่วชิงยวนเข้าพอดี นางจึงยิ้มเยาะขึ้นมา “เลิกมองได้แล้วน่า ท่านมิเห็นหรือไรว่าคุณหนูรองของท่านต้องเจ็บปวดมากเพียงใด” “นางคงน้ำตาตกในอยู่เป็นแน่ ทว่านางก็ยังต้องแสร้งทำเป็นใจกว้างและเข้าอกเข้าใจถึงขั้นยอมตุ๋นน้ำแกงไก่ให้ศัตรูหัวใจอีกต่างหาก” “ท่านอ๋อง ไยท่านมิรีบหย่ากับหม่อมฉันแล้วคืนตำแหน่งพระชายาให้แก่นางเพื่อชดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 492

    “ทั้งตระกูลถูกจับกุมตัวไปหมดแล้ว คุณชายฟ่านเองก็ชี้บอกว่าเป็นคนของตระกูลหลิว ของมีค่าในจวนก็เลยถูกยึดไปด้วย” “จดหมายกับของแทนใจระหว่างคุณชายฟ่านกับฮูหยินหลิวเองก็ถูกเอาไปเช่นกัน ตอนนี้ตระกูลหลิวว่างเปล่าหามีสิ่งใดเหลือไม่!”เมื่อท่านอาฉินได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ตบโต๊ะด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการผู้นี้ช่างไร้ปรานีจริง ๆ! แม้แต่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนั้นก็ยังเอาไปอีก!” น้ำเสียงของท่านอาฉินกลับฟังดูหนักหน่วง “ในที่สุดข้าก็จัดแจงให้คุณชายฟ่านเข้าหาฮูหยินหลิว เพื่อที่ข้าจักได้ตักตวงผลประโยชน์จากฮูหยินหลิวและเอาชนะใต้เท้าหลิวได้แล้วแท้ ๆ” “แต่ข้ากลับมิคาดคิดเลยว่าจะถูกฟู่เฉินหวนทำลายแผนเอาเสียได้!” “ทุกอย่างที่ก่อนหน้านี้สู้อุตส่าห์วางแผนและคิดคำนวณมาล้วนสูญเปล่า!” ท่านอาฉินโกรธจัด เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ตกตะลึง มิน่าแปลกใจเลยที่ซิ่งอวี่เคยเล่าให้นางฟังว่า ฮูหยินหลิวเป็นคนเข้มงวดมาก และใต้เท้าหลิวก็มักจะสั่งให้หอนางโลมส่งตัวแม่นางทั้งหลายมาที่จวนอยู่เสมอ วันนั้นหลังจากถูกฟาดจนหมดสติแล้ว นางจึงได้เห็นฮูหยินหลิวคุกเข่าขอร้องใต้เท้าหลิวให้ปล่อยเขาไปด้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 493

    โลกใบนี้มักจะเปิดกว้างให้แก่บุรุษเสมอมา อย่างมากบุรุษที่แสวงหาความสำราญนอกบ้านก็ลงเอยด้วยชื่อเสียงฉาวโฉ่ ทว่าหากฮูหยินที่บ้านโดนผู้ใดสักคนล่อลวงและคบชู้กับคนนอก กลับเป็นความผิดอันมิอาจอภัยได้และจำต้องถูกฝังทั้งเป็นโดยมิสนวิธีการ กิจการหอนางโลมหามีอันใดมากไปกว่าการให้แม่นางทั้งหลายพยายามหว่านเสน่ห์ แต่หากพวกเขาส่งบุรุษมาล่อลวงฮูหยินของผู้ใดสักคนและเจตนาใช้เป็นข้ออ้างในการคบชู้ ก็เท่ากับว่าพวกเขากำลังตั้งใจสังหารคน! ท่ามกลางบุรุษที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ จะมีผู้ใดทนรับความอัปยศอดสูจากการถูกภรรยานอกใจได้เล่า? ทันทีทีลั่วชิงยวนเอ่ยวาจาออกมา ทั่วทั้งหอนางโลมต่างระเบิดอารมณ์ออกมาทันที “ว่ากระไรนะ? มีวิธีน่ารังเกียจเช่นนั้นด้วยรึ?!” “ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี! ดำเนินกิจการเช่นนี้ช่างไร้ศีลธรรมอย่างถึงที่สุดจริง ๆ!” บุรุษทุกคนที่มีครอบครัวต่างโกรธจัด ท่านอาฉินที่ยืนอยู่บนชั้นสอง สีหน้าซีดเผือดพลางร้องตะโกนเสียงเคร่งว่า “อย่าได้ฟังนางพูดเหลวไหล! รีบจับตัวนางไว้สิ!” วันนี้คงมิอาจปล่อยนังแพศยาผู้นี้ไปง่าย ๆ เสียแล้ว! เหล่าผู้คุ้มกันต่างพุ่งเข้ามาหาอีกครั้ง ลั่วชิงยวนถูกล้อมจากทั่วทุก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 494

    ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจแล้วถามว่า “เขาตายได้อย่างไรกัน?” “เขาถูกน้ำตาเทียนลวกทั้งเป็นน่ะสิ!” ซ่งเชียนฉู่โน้มตัวมากระซิบข้างหู เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ตกตะลึง “ว่ากระไรนะ?” ซ่งเชียนฉู่กล่าวว่า “ข้ามิเอาเรื่องเช่นนี้มาโกหกท่านหรอก ท่านคงได้ยินเรื่องนั้นตามท้องถนนได้มิยากเลย เรื่องมันยาวทีเดียว” “คนแซ่สวี่เองก็ตายเหมือนกัน มิหนำซ้ำมือทั้งสองข้างก็โดนตัด ช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก!” ลั่วชิงยวนตกตะลึงขึ้นมาทันที แซ่สวี่หรือ? หรือว่าจะเป็นนายกองสวี่? “ประเด็นสำคัญก็คือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการบอกต่อหน้าคนแซ่สวี่ว่า กล้าแตะต้องสตรีของข้า นี่ก็คือผลที่ตามมา ต่างหากเล่า” “ยามนี้ข่าวแพร่สะพัดไปเกือบทั้งเมืองหลวงแล้วว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการหลงรักนางรำแห่งหอนางโลมนางหนึ่ง!” “ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ” ซ่งเชียนฉู่ทอดถอนใจกับตนเอง จิตใจของลั่วชิงยวนบังเกิดความปั่นป่วน ทว่าก็คงอยู่เพียงชั่วขณะก่อนที่นางจะสงบนิ่งอีกครั้ง สิ่งสุดท้ายที่นางควรจะเชื่อให้น้อยที่สุดก็คือ วาจาของฟู่เฉินหวน บางทีอาจเป็นเพราะหน้าฉากที่เขาแสดงต่อหน้าผู้อื่น หรืออาจจะมีเหตุผลหรือแรงจูงใจอื่นใด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 495

    “ส่วนเรื่องที่เจ้าคิดกระทำอันใดก็สุดแท้แต่เจ้า ข้ามิใช่คนจำพวกที่จะก้าวก่ายเรื่องของผู้อื่น” “ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ข้ามอบให้แล้วไม่มีทางเอากลับคืนเป็นอันขาด!” เมื่อฟู่จิ่งหลีทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนตระกูลหลิว เขาเองก็รู้สึกเสียใจแทนแม่นางฝูเสวี่ย แต่เขาก็เข้าใจว่าเสด็จพี่สามเป็นห่วงเรื่องแคว้นบ้านเมือง อย่างไรเสียเขาก็ได้ยินมาว่าหลิวหม่านลอบโยกย้ายเงินบรรเทาทุกข์บางส่วน หากเสด็จพี่สามลงมือช้ากว่านี้อีกสักวันก็คงจะสายเกินไป นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เขาคิดจะอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ แทนเสด็จพี่สาม “ขอบพระทัยที่เข้าใจเพคะ องค์ชายเจ็ด” ลั่วชิงยวนผงกศีรษะเล็กน้อย “แม่นางฝูเสวี่ย ไฉนเจ้าต้องเกรงใจข้าถึงเพียงนั้นด้วย?” ฟู่จิ่งหลียิ้มให้ “จริงด้วยสิ วันนี้ข้าได้ยินมาว่าเจ้าก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในหอเจาเซียง ข้าต้องชื่นชมในความใจกล้าบ้าบิ่นของแม่นางฝูเสวี่ยจริง ๆ! หอเจาเซียงแห่งนั้นใช่ว่าผู้ใดจะเข้าไปข้องแวะได้หรอกนะ!” “แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าควรจะระวังตัวให้ดี” ฟู่จิ่งหลีเอ่ยเตือนสติ แววตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางเคยตกหลุมพรางของท่านอาฉินผู้นั้นมาหนหนึ่งแล้ว นางย่อมไม่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 496

    ลั่วชิงยวนถูกนำตัวไปขังคุกยังคุกหลวง ในฐานะผู้กระทำความผิดร้ายแรง บรรยากาศภายในคุกทั้งมืดและชื้น ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ประตูห้องขังถูกล็อกและเสียงฝีเท้าก็ค่อย ๆ หายไป ความเงียบงันเข้าปกคลุมหัวใจของลั่วชิงยวนทันทีนางสงบสติอารมณ์นั่งลงบนกองฟางเครื่องประดับทองคำเหล่านั้นถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีและมิได้ถูกปรับเปลี่ยนไปแต่อย่างใด สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เป็นของกำนัลที่องค์ชายเจ็ดมอบให้ ตราบใดที่องค์ชายเจ็ดได้ของทุกชิ้นมาอย่างถูกต้อง นางก็จะไม่เป็นอะไรแต่นางยังต้องการให้องค์ชายเจ็ดเป็นพยานให้นางด้วยขณะที่นางครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันจากนั้นร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูห้องขังทันทีที่หมวกคลุมสีดำถูกยกขึ้น ใบหน้าของท่านอาฉินก็ปรากฏให้เห็นลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ท่านอาฉินผู้นี้มิธรรมดาเลย นางสามารถเข้านอกออกในคุกใต้ดินได้อย่างอิสระ“แม่นางฝูเสวี่ยดูใจเย็นมาก เจ้าคงกำลังรอองค์ชายเจ็ดอยู่กระมัง?” ท่านอาฉินยกยิ้ม“น่าเสียดายที่ในขณะนี้ องค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการ พวกเขาทั้งคู่ยังคงอยู่ในวัง องค์ชายเจ็ดเองก็ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 497

    “ช่วย… ช่วยด้วย...” ท่านอาฉินพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง นางยกขาขึ้นแล้วเตะประตูห้องขังเพื่อดิ้นรน แต่มือของลั่วชิงยวนกลับบีบคอนางไว้แน่น มือนั้นซีดขาวจากการออกแรง ทำให้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเสียอีกท้ายที่สุด ผู้คุมขังก็รีบเข้ามาช่วยท่านอาฉินจากลั่วชิงยวนได้ทันท่านอาฉินที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วล้มลงกับพื้น นางหอบหายใจแรง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองคนที่ประตูห้องขัง จิตใจของนางก็เต็มไปด้วยชื่อลี่เซียงและร่างของลิ่นฝูเสวี่ยนางพยายามตั้งสติเพื่อสงบอารมณ์ ปกปิดความกลัว และจ้องมองไปยังลั่วชิงยวน“ดูเหมือนเจ้าจะเป็นพวกมิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตากระมัง?! โม่เซียนอวี้ได้ร้องทุกข์กับองค์จักรพรรดิแล้วว่าเจ้าเข้าหาองค์ชายเจ็ดและได้รับทรัพย์สมบัติของราชวงศ์ไปมากกว่าสามแสนตำลึงอย่างมิชอบ เรื่องนั้นเล่าลือไปทั่วทั้งศาล!”“อ๋องผู้สำเร็จราชการกังวลใจอย่างยิ่งหวังเพียงจะปกป้ององค์ชายเจ็ดให้ได้ เจ้าคิดว่าเขาจะยังห่วงใยชีวิตและความตายของเจ้าอีกหรือ?”“จะไม่มีผู้ได้มาช่วยเจ้าได้แน่!”“หากเจ้าละทิ้งโอกาสที่ข้ามอบให้ เช่นนั้นก็นอนรอความตายอยู่ที่นี่เถอะ!”หลังจากที่ท่านอาฉินพูดจบ นางก็สวมเสื้อคลุมกับหมวกแล้วจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 498

    ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ใต้เท้า ท่านกล้าลงไม้ลงมือรุนแรงกับข้าอย่างนั้นหรือ?”“ใต้เท้าเหอ ท่านเองก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายเจ็ดกับท่างอ๋องผู้สำเร็จราชการที่มีต่อข้า เช่นนั้นท่านมิกลัวว่าพวกเขาจะซักถามเรื่องนี้กับข้าในภายหลังหรือ?!”ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ผู้นี้จะมีอำนาจบาตรใหญ่เพียงใด เขาก็มิกล้าละเมิดต่อองค์ชายแน่ มิต้องพูดถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการองค์ปัจจุบันเลยในขณะนั้น นางเห็นสีหน้าสับสนของใต้เท้าเหอ ก่อนที่เขาจะพูดอย่างอาจหาญว่า "ลงนามในหลักฐานคำให้การนี้เสีย แล้วค่อยมาว่ากัน! มิฉะนั้นหาอย่าได้มีการต่อรองใดทั้งนั้น!”ผู้คุมเข้ามาหานางอีกครั้งพร้อมกับแผ่นเหล็กร้อนสีแดงแต่ในขณะนั้น ลั่วชิงยวนมองเห็นไอสีเขียวปนดำจาง ๆ ปรากฏกลางหว่างคิ้วของใต้เท้าเหอ และพลังงานนั้นก็ค่อย ๆ หมุนวนออกมาลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ดวงตาของนางเย็นลงครู่หนึ่ง และนางก็เอ่ยขึ้นทันทีว่า “ใต้เท้า ไม่นานมานี้คงเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในจวนของท่าน นั่นคงเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลท่านเสียด้วย”ทันทีที่ลั่วชิงยวนพูด สีหน้าของใต้เท้าเหอก็เปลี่ยนไป‘นางรู้ได้อย่างไร?’ลั่วชิงยวนมองไปที่พลังงานสีเขียวปนดำที่จู

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status