Share

บทที่ 606

Author: หว่านชิงอิ๋น
ในคุกใต้ดิน ในที่สุดลั่วชิงยวนก็ปล่อยมือจากนักฆ่าผู้นั้น จากนั้นนางก็ปล่อยให้เขาหลบหนีไป

นางไล่ตามเขาไปจนสุดทางออกจากคุกใต้ดิน กระทั่งผ่านสวน แต่เมื่อนางไปถึงสวนหลังตำหนัก ร่างนั้นก็หายไปแล้ว

เขากำลังหนีออกจากตำหนัก!

ขณะนี้มีกำลังคนไม่มากนักในตำหนักอ๋อง และไม่มีที่ไหนที่จะไล่ตามเขาไปได้

ทว่า ในขณะนี้ที่ลานหน้าตำหนัก ซูโหยวกำลังกลับมาพร้อมกับคนของเขา เมื่อเขารู้ว่ามีนักฆ่าบุกเข้าไปในคุกใต้ดิน เขาก็รีบไปที่นั่นพร้อมกับคนของเขาในทันที

เขารีบเร่งไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของคุกใต้ดิน ซึ่งมีนักฆ่าสำนักเทียนอิงอยู่ในห้องขังนั้น นักฆ่าได้อาเจียนออกมาเป็นเลือด จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้น

สีหน้าของซูโหยวเปลี่ยนไปอย่างมาก

ฟู่เฉินหวนกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนักอ๋อง เช่นนั้นจึงขอให้เขารีบกลับทันที ทว่า เขาก็ยังช้าเกินไปหนึ่งก้าว

“ผู้ใดมันกล้าบุกเข้ามายังตำหนักอ๋องเพื่อก่อเหตุฆาตกรรมเช่นนี้!” ซูโหยวขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาแฝงไปด้วยความโกรธแค้น

จากนั้นเขาก็ถามองครักษ์ประจำคุกใต้ดินทันทีว่า “วันนี้มีอะไรผิดปกติในตำหนักอ๋องหรือไม่?”

องครักษ์ประจำคุกใต้ดินส่ายหน้า ก่อนจะลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 607

    “นักฆ่าผู้นี้ถูกวางยาพิษจริง ๆ ยากที่จะรักษาเขาได้ ข้าทำได้เพียงให้เขามีชีวิตอยู่ได้สองหรือสามวันเท่านั้น หากเจ้าต้องการพยาน ควรรีบลงมือโดยเร็วที่สุด!”“ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะอธิบายเรื่องราวให้เจ้าได้ฟังอย่างละเอียด นักฆ่าที่มาในวันนี้สวมหน้าปิดบังใบหน้าไว้ เขามีทักษะการต่อสู้ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับสำนักเทียนอิงและสำนักวรยุทธเจียงฮู๋ เป็นไปได้ว่าตัวตนของคนผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย”“ข้าไล่ตามเขาไปที่สวนหลังตำหนัก แต่แล้วเขาก็หายตัวไป เขาน่าจะหนีออกจากตำหนักไปแล้ว เขาคงคิดว่านักฆ่าสำนักเทียนอิงตายแล้ว เราจะใช้โอกาสนี้จับพวกเขาโดยมิทันให้ได้ตั้งตัว”“ข้าจะเข้าวัง”หลังจากการอธิบายเรื่องทั้งหมด ลั่วชิงยวนก็ก้าวเดินมุ่งหน้าออกจากคุกใต้ดินซูโหยวหยิบบันทึกพยานหลักฐานจำนวนมากขึ้นมาดู ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากพระชายาอ๋อง นางสามารถถามหลักฐานมากมายจากปากของนักฆ่าสำนักเทียนอิงได้เช่นไร!เมื่อครู่นี้เขายังสงสัยนางด้วยซ้ำไป!เมื่อเขาฟื้นคืนสติได้ ร่างของลั่วชิงยวนก็เดินจากไปแล้วจู่ ๆ ซูโหยวก็กำฝ่ามือของเขาแน่น ราวกับในใจของเขารู้สึกผิดเป็นอย่างมากเขาไล่ตามนางไปทันทีแต่ลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 608

    หัวใจลั่วชิงยวนสั่นไหวอย่างรุนแรงไทเฮารู้ดีว่าบุคคลที่นางเชิญคือลั่วชิงยวน พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการเห็นได้ชัดว่าไทเฮาก็รู้เรื่องนี้แล้วเช่นกันลั่วชิงยวนไม่ปิดบังอีกต่อไป “ใช่เพคะ!”ไทเฮายิ้มออกมาอย่างไม่อาจคาดเดาได้ จากนั้นนางจึงเงยหน้าขึ้นมองลั่วชิงยวน “เจ้ารู้หรือไม่พระชายาสถานะของเจ้าตอนนี้คืออะไร?”“ฟู่เฉินหวนเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ และเมื่อเจ้าแต่งงานกับราชวงศ์ ทุกสิ่งที่เจ้าพูดไปจนถึงทุกการกระทำล้วนเป็นหน้าเป็นตาของราชวงศ์ ทว่า เจ้ากับไปที่หอนางโลมเพื่อเป็นนางรำ”“หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป เกียรติยศและศักดิ์ศรีของราชวงศ์เทียนเชวียจะต้องเสื่อมเสียเพราะเจ้าใช่หรือไม่?”เสียงของไทเฮาเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ เต็มไปด้วยน้ำเสียงอันน่าเกรงขามในห้องโถงอันเงียบสงบแห่งนี้ และทำให้ผู้คนที่ได้ยินสั่นสะท้านด้วยความกลัวลั่วชิงยวนคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับก้มศีรษะลงทันที คิ้วของนางขมวดมุ่น นางมิอาจเอื้อนเอ่ยคำพูดใดได้เลยไทเฮามองดูนางอย่างเย็นชา “เจ้าจะไม่พูดสิ่งใดเลยหรือ? เช่นนั้นแล้วเจ้าก็คงเข้าใจดีถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”“ข้าควรลงโทษเจ้าเช่นไรกับความผิดเยี่ยงน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 609

    เมื่อเห็นนางรับขวดยา ไทเฮาก็เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นั่งลง”“จิ่นชู วันนี้ฝ่ายห้องเครื่องทำขนมหรือไม่? มอบให้ชิงหยวนได้ลิ้มลองสักชามสิ”“เพคะไทเฮา”คำสั่งอย่างกะทันหันของไทเฮาทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในไม่ช้า จิ่นชูก็นำขนมมา ลั่วชิงยวนจึงรับขนมแล้วกินเข้าไปสองสามคำแล้วพูดว่า “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันต้องกลับไปหาทางจัดการกับเรื่องนี้ แล้วเหตุใดจึงมิให้หม่อมฉันออกไปเพคะ?”ไทเฮาพยักหน้าเล็กน้อยลั่วชิงยวนจึงยืนขึ้นและทำความเคารพ ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อจากไปทว่า ทันทีที่นางยืนขึ้น ขันทีก็รีบเข้ามาหาไทเฮาทันที ลั่วชิงยวนเหลือบมองไปด้านข้างจึงเห็นว่าขันทีพูดอะไรบางอย่างข้างหูของไทเฮาสีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปกะทันหันจู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกกังวลใจ นางจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นในทันทีทว่า ทันทีที่นางไปถึงประตู จู่ ๆ เสียงของไทเฮาก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง “ชิงยวน”เสียงอันสง่างามนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นสะท้าน“ตัวข้ามีอีกเรื่องจะบอกเจ้า มานี่สิ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงกำขวดยาซึ่งอยู่ในฝ่ามือใต้แขนเสื้อไว้แน่นจิ่นชูกำลังเดินเข้ามาทันใดนั้น บรรยากาศก็ตึงเครียดทันทีลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 610

    ในที่สุดฟู่เฉินหวนก็เดินออกจากราชสำนัก ก่อนจะเห็นว่าซูโหยวยังคงรออยู่ข้างนอก เขาออกคำสั่งทันทีว่า “ไปตรวจสอบตามเนื้อหาคำให้การเหล่านี้ จะต้องได้รับหลักฐานการกระทำผิดทั้งหมด!”ซูโหยวพยักหน้า “กระหม่อมขอให้เซียวชูจัดการเรื่องนี้ไว้ก่อนที่จะเข้าวังหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนซึ่งกำลังอารมณ์ดีจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าซักถามเบาะแสมากมายได้เช่นไรในเวลาอันสั้นเช่นนี้?”ในขณะที่ซูโหยวกำลังจะพูด ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็น มหาราชาจารย์เหยียนเดินผ่านมา เขาจึงยกมือขึ้นปิดปากของตนเอาไว้เมื่อเขาและฟู่เฉินหวนเดินเข้าไปยังมุมร้าง ซูโหยวก็พูดอย่างรีบเร่งว่า “ท่านอ๋อง คำให้การเหล่านี้ล้วนได้มาจากพระชายา!”“ก่อนที่กระหม่อมจะเข้าไปในพระราชวัง ไทเฮาได้เรียกพบพระชายา จากนั้นก็ให้จิ่นชูจากพระตำหนักโช่วสี่มารับนางไป!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปทันที “ว่ากระไรนะ! ไฉนเจ้ามิบอกข้าก่อนหน้านี้เล่า?!”ทันทีที่พูดจบ ฟู่เฉินหวนก็รีบมุ่งหน้าไปยังพระตำหนักโช่วสี่อย่างรวดเร็วเมื่อฟู่เฉินหวนมาถึงพระตำหนักโช่วสี่โดยเร็ว เขาก้าวเดินเข้าไปในห้องโถงอย่างแข็งกร้าว ทันใดนั้น เขาก็เห็นฉากกรอกยาพิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 611

    ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพร้อมกับเหลือบมองซูโหยวทันที เช่นนั้นซูโหยวจึงรีบขอให้หมอออกไปก่อน จากนั้นก็พูดว่า “กระหม่อมจะไปเชิญหมอเพิ่มอีกสองสามคน”ซูโหยวเชิญหมอมาอีกหลายคน แต่ผลลัพธ์ก็เกือบจะเหมือนเดิมมีพิษอยู่ในร่างกาย แต่ในขณะนี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทว่าอาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงมากและจำเป็นต้องได้รับยา นอกจากนี้ นางยังต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาครึ่งเดือนก่อนจึงจะเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งยังต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นนั้นแล้วนอกจากยาที่หมอสั่งให้ในวันนี้ เหล่านางรับใช้ก็ยังนำสมุนไพรต่าง ๆ มากมายเข้ามาพร้อมทั้งตักน้ำมาขัดผิวปรนนิบัติให้นางเดิมทีลั่วชิงยวนต้องการลุกขึ้น แต่เมื่อมองดูผู้คนที่ยุ่งวุ่นวายทั้งภายในและภายนอกห้อง นางก็ไม่อยากลุกขึ้นทันทีนี่ไม่ใช่วิธีที่พระชายาควรได้รับการปฏิบัติหรอกหรือ?หลังจากกินจนอิ่ม ลั่วชิงยวนก็นอนหลับสนิทเมื่อถึงช่วงดึก ฟู่เฉินหวนก็เข้ามาในเรือนนอนเขานำขวดยารักษาบาดแผลคุณภาพสูงยื่นให้กับจือเฉา “เปลี่ยนยาให้นาง”จือเฉาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเชื่องช้า “ท่านอ๋อง บ่าวมิรู้ว่ายาใช้เช่นไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วด้วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 612

    “เดี๋ยวก่อน!”ฟู่เฉินหวนผงะเล็กน้อย จากนั้นหลือบมองมือของนางที่จับมือของเขาไว้ลั่วชิงยวนรีบดึงมือของนางกลับแล้วเอ่ยว่า “อย่าสังหารนักฆ่าสำนักเทียนอิงผู้นั้นเลย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกสับสน "เหตุใดเล่า? เจ้าบอกว่าเขาจะมีชีวิตเพียงสองหรือสามวันเท่านั้นมิใช่หรือ?"“เพคะ รอจนกว่าเขาจะตายลงไปเอง อย่าได้ประหารชีวิตเขาเลยเพคะ”แม้ว่าฟู่เฉินหวนจะไม่รู้เหตุผล แต่เขาก็ไม่ได้ถามคำถามใดอีกต่อไปและทำเพียงตอบรับเท่านั้น “ได้สิ”หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็หันหลังกลับและออกจากห้องไปหลังจากนั้นไม่นานจือเฉาก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของนาง ลั่วชิงยวนมองนางอย่างแปลกประหลาด“เจ้ายิ้มร่าด้วยเหตุใด?”จือเฉาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับนอนลงข้างเตียง “บ่าวมีความสุขมากเจ้าค่ะ คราวนี้พระชายาได้รับบาดเจ็บ ท่านอ๋องก็มีทีท่าเป็นห่วงพระชายาอย่างแท้จริง!”“ไม่เพียงเท่านั้นท่านอ๋องยังมอบห้องนอนของพระองค์ให้กับพระชายาเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บด้วย!”“วันนี้ท่านอ๋องยอมทายาให้พระชายาด้วยซ้ำเจ้าค่ะ ท่านอ๋องจริงจังมากเพราะกลัวว่าจะทำให้พระชายาเจ็บอีกเจ้าค่ะ”แสงล้ำลึกทอประกายในดวงตาของลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 613

    “เจ้ายังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหรือเปล่า? เจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่? เจ้าถูกวางยาพิษได้เช่นไร? หมอมาตรวจดูหรือยัง? หมอให้ยาถอนพิษเจ้าหรือไม่?” ลั่วอวิ๋นสี่ร้อนใจเป็นอย่างมากลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ไม่เคยเห็นเจ้าใส่ใจข้ามากเพียงนี้มาก่อนเลยหนา”ลั่วอวิ๋นสี่ก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าเกรงว่าหากเจ้าตาย จะไม่มีใครช่วยข้าแก้แค้นต่างหากเล่า”“นี่! เจ้าบอกความจริงกับข้ามาเถอะ”ลั่วชิงยวนยิ้มและตอบว่า “หากข้ายังสามารถพูดคุยกับเจ้าได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าข้าจะมิตายในเร็ววันนี้”“วันนี้ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว นางก็ขยิบตาให้จือเฉา จากนั้นจือเฉาก็ออกจากห้องไป นางยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก“ไฉนเจ้าต้องระมัดระวังนัก?” ทันใดนั้นลั่วอวิ๋นสี่ก็เริ่มจริงจัง นางขยับเข้ามานั่งใกล้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว“ก่อนหน้านี้ ที่ข้าเคยบอกเจ้าว่า ข้าจะหาปรมาจารย์วรยุทธให้เจ้า บัดนี้ข้าพบเขาแล้ว เพียงแต่เขามิใช่มนุษย์ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะรับได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนพูดอย่างตรงไปตรงมาลั่วชิงยวนอุทานด้วยความตกใจ “เจ้าหมายถึงอะไร? มิใช่มนุษย์?”“หากมิใช่มนุษย์ แล้วเป็นสิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 614

    จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกฟู่เฉินหวนบุกเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงทั้งคู่จ้องมองกันและกันฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไปลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?หลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ซูโหยวก็รีบเชิญหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลั่วชิงยวนจึงขอให้เขาตรวจชีพจรของนางหลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูโหยวก็พาเขาไปโดยไม่พูดอะไรภายในห้องตำราหมอหลวงกล่าวด้วยความเคารพต่อฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง พระชายามิได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านตรวจชีพจรของนางชัดเจนแล้วหรือยัง?”หมอหลวงตอบว่า “อย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมเป็นหมอหลวงมาหลายปีแล้วและได้วินิจฉัยชีพจรของเหล่าสนมในวังนับไม่ถ้วน กระหม่อมไม่มีวันตรวจชีพจรพลาดอย่างแน่นอนเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า ความสงสัยของเขาหายไปแล้ว แต่กลับมีความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา“มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจของนางหรือไม่?”ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดและพูดว่า “มียาตัวใดบ้างที่ทำให้มิอาจสังเกตเห็นอาการของพิษได้ในตอนแรกที่กิน

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status