Share

บทที่ 7

Author: จูน
ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิกลับค่อย ๆ เบะริมฝีปากหัวเราะเยาะเซี่ยจื่ออัน แม้ว่าเจ้าจะฉลาด แต่ก็กลับอวดฉลาดด้วยเช่นกัน เจ้าคิดว่าที่เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นหมันนั้น แล้วฮองเฮาจะยอมแพ้และลงโทษมหาเสนาบดีหรอกหรือ ไม่เลยนั่นเป็นข้อห้ามของอ๋องเหลียง ดังนั้นหยุดเสียเถอะ ไม่เช่นนั้นเขาจะคิดว่าที่เจ้าบอกว่าตนเองเป็นหมันคือ การกำลังตีวัวกระทบคราด

อ๋องเหลียงจ้องมายังจื่ออันอย่างดุร้าย “หากหมอหลวงตรวจพบว่าเจ้าโกหก ข้าจะแทงเจ้าด้วยมีดพันเล่มทีเดียว”

ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิส่ายหัวเล็กน้อย มองไปยังใบหน้าที่ตกใจอย่างเฉียบพลัน ดูท่าชีวิตของหญิงสาวผู้นี้คงจบสิ้นแล้วกระมัง

อ๋องเหลียงเริ่มมีท่าทีแปลก ๆ เขาตัวสั่นเทา เริ่มจากปากไปถึงร่ายกายที่ค่อย ๆ สั่นขึ้น ๆ สีหน้าเริ่มเปลี่ยนจากซีดเป็นเขียว ริมฝีปากเริ่มม่วง

ทันใดนั้น เขาก็ล้มลงกับพื้น ร่างกายแข็งทื่อ เท้าพยายามถีบไปข้างหน้า ใบหน้าชักกระตุก ร่างกายกระตุกและเกร็ง

มู่หรงเจี๋ยพร้อมกับฮองเฮาล้วนตกใจกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ฮองเฮารีบวิ่งพรวดเข้าไป ตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด “หมอหลวง เร็วเข้า!”

จื่ออันเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ก็รู้ทันทีว่าอาการลมชักของเขากำเริบ เห็นปากของเขาเบี้ยว หากกัดลิ้นขึ้นมา เกรงว่าโทษฐานนี้คงจะอยู่บนหัวนางอย่างแน่นอน

หมอหลวงยังไม่ทันได้คิดสิ่งใด เธอก็รีบปรี่วิ่งเขาไปบีบขากรรไกร และนำมือไว้ในปากของเขา จากนั้นใช้มือแยกฟันและลิ้นออกจากกัน แล้วนั่งลงที่พื้นทันที หลังจากนั้นจึงใช้มืออีกข้างยกศีรษะเขาวางบนตังเบา ๆ อาการปวดเกิดขึ้นที่มือของเขาอย่างฉับพลัน เจ็บปวดจนรูขุมขนทั้งร่างกายเปิดออกทันที

เธอรู้ว่าการใช้มือยับยั้งลิ้นของเขาช่างไร้เหตุผลเสียจริง แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เลือดไหลออกจากปากอ๋องเหลียง จื่ออันจับศีรษะของเขาเอียงไปข้าง ๆ เล็กน้อย เพื่อให้เลือดและน้ำลายไหลออกมาให้หมด

มู่หรงเจี๋ยก็แสดงท่าทีเข้าไปดูเช่นกัน เขาไปช่วยด้านหน้าและเห็นนิ้วมือของนางถูกกัดจนเลือดไหลออกมา ช่วยไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยและมองนางด้วยความประหลาดใจ

ฮองเฮารีบคิดพยายามคลายตะคริวที่ขาทั้งสองข้างของท่านอ๋องเหลียงจื่ออันรีบพูดว่า “ฮองเฮา อย่าทำแบบนั้นเลยเพคะ หากใช้กำลัง ฝ่าบาทอาจได้รับบาดเจ็บ”

ฮองเฮาเงยหน้าขึ้นและมองไปยังจื่ออัน สายตาแสดงความรู้สึกซับซ้อน มือทั้งสองค่อย ๆ ปล่อย เพียงโอบกอดร่างท่านอ๋องเหลียงอย่างอ่อนโยน นัยต์ตามีน้ำตาไหลออกมาทันที

ตอนที่หมอหลวงมาถึง อาการลมชักของอ๋องเหลียงก็หยุดแล้ว มีเพียงอาการชักกระตุกเล็กน้อย

จื่ออันดึงมือออก นิ้วทั้งสามเลือดไหลออกมาเป็นหยด

อ๋องเหลียงหมดสติไป จากนั้นจึงถูกย้ายไปนอนที่เตียงในตำหนัก หมอหลวงช่วยรักษาและให้ข้าราชบริพารไปต้มสมุนไพรจีน

ฮองเฮานั่งอยู่ข้างกายของท่านอ๋องเหลียงไม่สามารถกล่าวโทษอันใดได้อีกแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและความหวาดกลัว

จื่ออันก้มศีรษะลง ภายในใจคิดใคร่ครวญต่อ

เธอเขาวังในวันนี้ ตอนแรกตัดสินใจเข้ามาเพื่อทำร้ายอ๋องเหลียง แต่เธอดันยื่นมือไปช่วยชีวิตเขาเสียได้ ด้วยคุณความดีนี้ที่เธอได้ช่วยชีวิตเขา แม้ว่าฮองเฮาต้องการจะประหารเธอ ความคิดนั้นก็อาจจะหยุดลงชั่วขณะ

กลับนึกไม่ถึงว่า อาการลมชักที่กำเริบของท่านอ๋องเหลียงและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่ กับการที่อ๋องเหลียงเป็นแบบนี้ สาเหตุก็เพราะได้ยินว่าเธอเป็นหมัน

ภายใต้การดูแลรักษาของหมอหลวง อาการของอ๋องเหลียงเริ่มฟื้นคืนเป็นปกติ

เขาจับศีรษะที่ปวดเมื่อย ใบหน้าทั้งใบอันซีดเซียว และร่างกายที่อ่อนแรง เขามองไปที่ฮองเฮา “เสด็จแม่ เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือ”

ฮองเฮาใช้มือจับเขา ปลอบโยนเขาเบา ๆ “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ”

จื่ออันเลิกคิ้วขึ้น เห็นมือของฮองเฮาสั่นเทา นางรักโอรสองค์นี้มาก และหวังไว้มากที่จะให้เขาสืบสกุล

หมอหลวงยืนขึ้นและกราบทูลฮองเฮา “ฮองเฮาจัดการได้ดีมากพ่ะย่ะค่ะ หากไม่ได้อุดปากของท่านอ๋องเหลียงเอาไว้ ฝ่าบาทจะต้องกัดลิ้นตัวเองจนขาดเป็นแน่ โชคดีจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”

หากกัดลิ้นจนขาด เขาก็จะกลายเป็นใบ้ อ๋องเหลียงร่างกายไม่สมบูรณ์ แถมยังเป็นใบ้ เขาจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร

ฮองเฮาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองหน้าจื่ออัน แล้วทำท่าบอกให้จื่ออันออกไปก่อน จากนั้นจึงหันไปถามหมอหลวง “เหตุใดอ๋องเหลียงถึงเป็นเช่นนี้”

จื่ออันได้ยินคำถามดังกล่าว ก็รู้แจ้งว่าอ๋องเหลียงไม่เคยมีอาการลมชักมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นมู่หรงเจี๋ยและฮองเฮาจึงวุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก

เธอเดินออกไป ยืนอยู่ที่ห้องโถงภายในตำหนัก มู่หรงเจี๋ยไม่ได้เดินไปด้วย เขานั่งลงบนตั่งไม้ และมองนางอย่างเฉยเมย

จื่ออันไม่กล้าเงยหน้า ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิคนนี้ แม้ว่าจะดูสบาย ๆ ทว่าพลังที่ออกมาจากตัวเขาดูรุนแรงและดุดัน บังคับให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตา

“เจ้ารู้วิชาการแพทย์หรือไม่” มู่หรงเจี๋ยถามออกมาทันที

จื่ออันตอบอย่างรอบคอบ “หากเกี่ยวกับท่านอ๋องเหลียง ข้าพอรู้เพียงเล็กน้อย”

มู่หรงเจี๋ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่นั่งพินิจพิเคราะห์นางอย่างละเอียด สายตาอันเชียบคมที่จ้องมา ทำให้จื่ออันรู้สึกอึดอัดมากทีเดียว

ครู่หนึ่งฮองเฮาและหมอหลวงก็ออกมา ฮองเฮาบุ้ยปากกับหมอหลวง หมอหลวงก็คำนับและเดินตรงมายังจื่ออัน

จื่ออันรู้ดีว่าเขามาเพื่อพิสูจน์อาการหมันของเธอ เธอจึงค่อย ๆ ยื่นมือออกมา หมอหลวงยังคงสงสัย จึงแตะไปที่ชีพจรโดยตรง

จากความคิดของหมอหลวง เห็นว่าฮองเฮายังคงคิดไม่เปลี่ยน

หลังจากตรวจชีพจร หมอหลวงก็ซักถามอาการต่าง ๆ นา ๆ อย่างละเอียด

จื่ออันทำตัวไม่ถูก ได้แต่ตอบคำถามไปทีละข้อ

หลังหมอหลวงตรวจเสร็จสิ้น ก็เดินไปหาฮองเฮา พร้อมคำนับเล็กน้อย

ฮองเฮาทำเสียงสงสัย และพูดว่า “เจ้าเข้าไปดูอาการอ๋องเหลียงก่อน ทางราชสำนักจะดูแลเจ้าเอง หากเกิดสิ่งใดขึ้น”

หมอหลวงตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอตัว”

หมอหลวงก้มลงเปิดมูลี่ และเข้าไปในห้องโถงข้าง ๆ จู่ ๆ จื่ออันก็บอกให้เขาหยุด “หมอหลวง ฝ่าบาททรงประชวรหนัก พระองค์จะง่วงซึม อาการอาจกำเริบอีกได้ ฉะนั้นหมอหลวงสามารถฝังเข็มที่หูของพระองค์ให้เลือดไหล ภายในครึ่งเดือนก็จะไม่มีอาการอีก”

หมอหลวงตกใจเล็กน้อย “ฝังเข็มให้เลือดออกรึ”

“ถูกต้อง ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด ควรทำทุกสามวัน มิเช่นนั้น จากอาการของท่านอ๋องเหลียง ณ เวลานี้ เป็นไปได้ที่จะกลับมาประชวรอีกภายในสิบวัน แต่ไม่ทราบว่า นี่คืออาการครั้งแรกของฝ่าบาทใช่หรือไม่?” จื่ออันยื่นมืออกมาปัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ เผยให้เห็นแววตาที่เก่งกาจของเธอ

ฮองเฮาถาม “เจ้ารู้วิธีฝังเข็มรึ?”

จื่ออันตอบอย่างเคารพและรอบคอบ “กราบทูลฮองเฮา หม่อมฉันพอรู้เล็กน้อยเพคะ”

จื่ออันรู้ดีว่าการฝังเข็มมีมาตั้งแต่สมัยจ้านกวั๋อ ในสมัยนั้นจักรพรรดิหวังตี้ได้บันทึกวิธีการฝังเข็มเอาไว้

ทว่าจื่ออันใช้ความรู้และศิลปวิทยาการจากเจ้าของเดิมที่ทิ้งไว้ให้ ทำให้เธอรู้ดีว่าวิทยาการฝังเข็มสมัยนี้ล้าหลังมาก คนที่รู้วิธีฝังเข็ม ส่วนมากครึ่งหนึ่งเป็นหมอหลวงและพวกหมอพื้นบ้านที่มีชื่อเสียง แต่มีน้อยคนนักที่จะเชี่ยวชาญ

จื่ออันเรียนรู้วิธีการฝังเข็มกับศาสตราจารย์หยางในสมัยปัจจุบัน ใช้เวลาเล่าเรียนห้าปีเศษ แม้ว่ายังไม่มีเวลาคนคว้าให้ลึกกว่านี้ แต่ด้วยทักษะการฝังเข็มตอนนี้ของเธอก็พอสามารถรักษาท่านอ๋องเหลียงได้

หมอหลวงพูดว่า “เจ้ารู้วิธีการฝังเข็มไม่มาก เหตุใดจึงกล้าดีบอกว่าการฝังเข็มที่หูให้เลือดไหลสามารถรักษาฝ่าบาทได้ หรือว่าเจ้ารู้มากกว่าหมอหลวงอย่างนั้นรึ”

จื่ออันตื่นตระหนกเล็กน้อย “มิได้ มิได้ ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น ข้าแค่เสนอความเห็น โดยปกติแล้วหมอหลวงควรจะมีวิธีอื่น ๆ ในการรักษาฝ่าบาท ข้า...ข้าแค่ไม่ต้องการเห็นฝ่าบาทอาการกำเริบหรือร่างกายบาดเจ็บอีกต่างหาก ข้ามิได้หมายความเป็นอื่นเลย...”

เธออธิบายอย่างติดขัด ทั้งยังเหลือบมองฮองเฮาด้วยความตื่นตระหนก น้ำตาเกือบไหลจากตาทั้งสองข้าง

มู่หรงเจี๋ยเงยหน้าขึ้น ทำมุมปากโค้ง หน้ามองจื่ออันอย่างครุ่นคิด

ฮองเฮาขมวดคิ้ว “หมอหลวง ที่นางว่ามาพอจะฟังขึ้นหรือไม่”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status