แชร์

บทที่10 ท่านมิได้ไร้ใจ

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-07 05:19:44

ก็มิต่างกับว่าเขากำลังจะสูญเสีย จึงต้องรีบไขว่คว้าเอาไว้กับตัว ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานั้น นางให้ความสนใจกับทุกคน ยกเว้นเขาที่นางไม่เคยสนใจเลย ซึ่งมันมิต่างจากการเติมเชื้อไฟในใจของสามี

            ทว่านางไม่เคยคิดเลยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เขาจะตัดสินใจร่วมทำเรื่องระหว่าสามีภรรยา อาจด้วยเพราะฤทธิ์สุรา ที่เขาและนางดื่มไปด้วย

สำหรับนางแล้ว เรื่องเช่นสักวันมันจะต้องเกิด หากเล่นตัวมากจนเกินไป ก็จะดูไม่งามเอาได้ ยั่วยวนมากไปเหมือนเจ้าของร่าง ก็จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าค้นหา นางแค่ใช้หลักจิตวิทยาจากชีวิตเก่า มาลองปรับใช้กับสามีหัวแข็งก็เท่านั้นเอง

            ‘ท่านมิได้ไร้ใจ ทว่าท่านไร้รักต่างหากสามีข้า’ นางสืบเรื่องของเขาอยู่นาน กว่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว จ้านซือถงใช่ว่าจะไม่มีหัวใจ เขามีความรักอันมั่นคงต่อสตรีนางหนึ่ง

ทว่าฝ่ายหญิงกลับเลือกสามีที่ทำให้ตนเองสูงส่ง มากกว่าจะเลือกเพียงบุตรชายคนรอง ที่เวลานั้นเป็นเพียงทหารตำแหน่งเล็ก ๆ ในกองทัพ ความเจ็บปวดหล่อหลอมเขา ให้กลายเป็นคนที่ไม่เคยรักใครเลย ในสายตาของผู้คน

หญิงสาวคนนั้น นางรู้ดีว่าเป็นผู้ใด และมันควรถึงเวลาปลดปล่อยสามีของนาง จากความเจ็บปวดเสียที ‘มีข้าเป็นภรรยา รับรองว่าชาตินี้สามีมิต้องทุกข์ระทม หึ ๆ’

ฉีอิงเอนกายลงนอน เพื่อรอเวลาคนที่บอกว่าคืนนี้จะมา แต่สิ่งที่นางคิดคำนวณเอาไว้ น่าจะมาเที่ยงนี้อย่างแน่นอน

จวนเสนาบดีจ้านหลี่

ใบหน้างามที่แต่งแต้มด้วยสีสันอันร้อนแรง นั่งกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง เมื่อมีข่าวเรื่องของแม่ทัพซือถง ขายสาวใช้ของภรรยา ด้วยสาวใช้คนนั้น เข้าไปในห้องนอนในเวลาที่ทั้งคู่อยู่ร่วมกัน

นางมิใช่หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน ที่จะไม่รู้ว่าการอยู่ร่วมห้องคือสิ่งใด หลิวหลิงรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น นางคือผู้ที่กำชัยเหนือหัวใจของแม่ทัพหนุ่ม

“เตรียมรถม้า ข้าจะไปเยี่ยมฮูหยินในท่านแม่ทัพจ้านซือถง”

ไม่เคยมีผู้ใด ระแวงหรือสงสัยในการไปเยือนจวนแม่ทัพของนางสักครั้ง ด้วยเหตุผลของสตรี ที่แต่งงานร่วมสกุลเดียวกัน ย่อมต้องพบปะเยี่ยมเยียนกันเป็นเรื่องธรรมดา นางคือสะใภ้ใหญ่สกุลจ้าน ส่วนหลี่ฉีอิงคือสะใภ้รอง

หลี่ฉีอิงนั้นบอบบาง อ่อนแอ ทุกคนจึงยินดีที่นางยื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องสะใภ้คนนี้อยู่เสมอ หลิวหลิงลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะหยิบขวดหยกใบงามขึ้นมา เพียงดึงจุกที่ปิดอยู่ออก กลิ่นหอมรัญจวนก็กระจายฟุ้งไปทั่ว หญิงสาวยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเทสิ่งที่อยู่ภายในลงบนฝ่ามือ หญิงสาวลูบไล้น้ำสีอำพันนั้นไปตามซอกคอ และจุดชีพจรของตนเอง

ก่อนจะเก็บเข้าไว้ยังที่เดิม ‘คนเช่นข้า ไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ฉีอิง’ หญิงสาวเลื่อนเปิดลิ้นชักเล็ก ๆ ก่อนจะหยิบขวดหยก ที่อยู่ในกล่องออกมาใส่ไว้ในแขนเสื้อ ก่อนเดินออกจากห้องไป เพื่อประกาศถึงความเหนือกว่า ในใจของแม่ทัพหนุ่ม ชายที่เคยรักนางและจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งก้านธูป รถม้าจากจวนเสนาบดีก็ได้หยุดลงยังหน้าจวนแม่ทัพ ช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะยิ่งนัก เพราะตอนนี้คือเวลาเที่ยง นางเดาว่าน้องชายสามีคงอยู่ที่ค่ายฝึกกับทหาร ดังนั้นเป้าหมายของนางก็ต้องอยู่เพียงลำพัง

ร่างระหงก้าวเข้าไปภายในจวน ก่อนจะตรงไปยังทิศทางของเรือนนายหญิงของบ้าน

“จ้านฮูหยิน”

เท้าบางพลันชะงักลง เมื่อพ่อบ้านของจวน ได้ก้าวออกมาขวางทางเอาไว้เสียก่อน หญิงสาวยิ้มกว้างส่งให้เช่นทุกครั้ง แม้นางจะรู้ดีว่าคนตรงหน้า หาได้ชื่นชอบในตัวนางเท่าใดนัก ทว่าแล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อนางคือสะใภ้ใหญ่สกุลจ้าน และเป็นหนึ่งในนายของพ่อบ้านชรา

“ข้ามาพบน้องฉีอิง” หลิวหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงละมุนเช่นเคย

“ข้าเกรงว่าเวลานี้คงไม่สะดวกเท่าใดนักนะขอรับ แต่หากจ้านฮูหยินรอได้ ข้าน้อยขอเชิญท่านที่ห้องรับแขกขอรับ”

พ่อบ้านชรา ผายมือไปยังด้านเรือนรับรอง หน้าที่ของเขาคือดูแลทุกสิ่งอย่างภายในจวน ไม่เว้นแม้แต่ คนที่คิดจะสร้างความไม่สบายใจให้แก่ผู้เป็นนาย เขาก็จำต้องจัดวางในที่ ๆ เหมาะสมให้แก่คนเหล่านั้น

“ไยข้าจะไปพบน้องสะใภ้ ที่เรือนของนางมิได้เล่า หรือเดี๋ยวนี้หากจะพบนาง ข้าต้องแจ้งล่วงหน้าเช่นนั้นรึ ชักจะเอาใหญ่แล้ว”

หลิวหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียง ตำหนินายหญิงของบ้าน ซึ่งนางเองก็รู้ว่าตัวนางไร้อำนาจ ที่จะจัดการเรื่องภายในจวนแห่งนี้

“มิได้ขอรับ เวลานี้ท่านแม่ทัพ กำลังรับการปรนนิบัติจากฮูหยินอยู่ ข้าเกรงว่ามันจะเป็นการ...”

“หลีกไป!”

พ่อบ้านชรายังไม่ทันที่จะเอ่ยจบ ร่างในชุดสีหวาน ก็ได้เดินผ่านเขาไป ซึ่งแน่นอนว่าด้วยฐานะของนางแล้ว เขาที่เป็นเพียงบ่าว จำต้องหลีกให้อย่างเสียมิได้

หน้าเรือนฉีอิง เสี่ยวเจี้ยนกำลังถือตะกร้า เดินออกจากประตูทางเข้าเรือน หญิงสาวจำต้องหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้า เมื่อเห็นว่าผู้ใดกำลังมา โดยมีพ่อบ้านชราก้าวตามมาติด ๆ

“เสี่ยวเจี้ยน คารวะจ้านฮูหยินเจ้าค่ะ”

เสี่ยวเจี้ยนมิได้หลีกทางให้ผู้มาเยือน หญิงสาวย่อกายทำความเคารพอีกฝ่าย โดยยังคงยืนอยู่ยังจุดเดิม

“แล้วเจ้าจะยืนขวางข้าอยู่ทำไม วันนี้ข้ามาเยี่ยมเยียนน้องฉีอิง ไยทำตัวไร้มารยาทเช่นนี้”

ด้วยความร้อนรุ่มในใจ ทำให้หลิวหลิง ลืมเลือนตัวตนอันอ่อนหวานของนางไปเสียสิ้น

“เอ่อ...คือว่า...” เสี่ยวเจี้ยน ได้แต่ทำเสียงอึกอัก หมับ!

สาวใช้ของหลิวหลิง ได้ก้าวเข้ามาคว้าแขนของเสี่ยวเจี้ยน เพื่อเปิดทางให้แก่นายของตนเอง โดยไม่สนใจกับอาการแข็งขืนของเสี่ยวเจี้ยน

หลิวหลิงไม่สนใจที่จะฟังคำทัดทานของบ่าวในบ้าน หญิงสาวก้าวตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องนอนของฉีอิงในทันที เมื่อถึงหน้าห้องมือบางวางทาบลงบนประตู เพื่อที่จะเปิดมันออก นางร้อนใจเมื่อได้ยินว่าแม่ทัพหนุ่มอยู่ในนี่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยุทธการรักของเหล่าภรรยา   ตอนที่163 ข้ารับผิดชอบเรื่องนี้เอง

    “เจ้าเมาแล้วนอนเถอะ” “สามี...ข้าร้อนยิ่งนัก” “เจ้ากำลังบีบบังคับข้า” “ข้ามิได้พูดเล่นร้อนเหลือเกิน อาบน้ำให้ข้าที” น้ำเสียงอ้อแอยังดังชิดลำคอของชายหนุ่ม ท่อนแขนกลมกลึงตรึงร่างนั้นให้แนบอยู่กับความอวบอิ่ม ที่เขาหวงแหนยามมีคนลอบมอง ใช่ว่านางไร้ศักดิ์ศรีจนคิดใช้ร่างกายมัดใจสามีแต่ตรงกันข้ามนางรักในศักดิ์ศรียิ่งนัก จึงจำเป็นที่จะต้องตรีตราและประกาศความเป็นภรรยา ให้สตรีอื่นรู้จุดยืนของตนเอง นางจะไม่ยอมเป็นเมียที่ถูกมองข้ามราวอากาศธาตุอีกต่อไป “อื้อ...” หญิงสาวครางเบาๆ เพื่อเพิ่มความปรารถนาให้แก่สามี เมื่อสะโพกงามแสร้งยกเบียดกับแก่นกายของเขา สวี่ฟงข่มกลั้นความต้องการอย่างสุดความสามารถ ก่อนจะพ่ายแพ้เมื่อความเจ็บร้าว ที่เขาเคยควบมันมาได้เป็นอย่างดีตลอดหลายปี กลับไม่สามารถต้านทานคนใต้ร่างได้ ไม่มีคำพูดใดจากชายหนุ่ม แต่เป็นการกระทำที่หญิงสาวต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น การปรนเปรอของสามีทำให้จ้าวหลันถิง แทบจะลืมเลือน ว่านี้อาจเป็นเพียงฝันชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งเขาอาจตื่นขึ้นยังอีกโลกในสักวันก็เป็นได้ เสียงคร

  • ยุทธการรักของเหล่าภรรยา   ตอนที่162 เมามาย

    จ้าวหลันถิงพยายามเป็นที่สุด กับการมองทุกคนให้ไม่บิดเบี้ยว นางมั่นใจว่าตอนใช้ชีวิตในอีกโลก นางไม่เคยล้มให้กับสุรารสแรงตัวใดเลย อ๋องหนุ่มที่ยากจะมีรอยยิ้มให้ใครเห็น ตอนนี้มุมปากกลับเหยียดกระตุก เมื่อเห็นอาการของภรรยา ความรั้นของนางกำลังออกฤทธิ์แล้วสินะ! “จะกลับเรือนหรือยัง” “ข้ากลับตอนไหนก็ได้ ไม่ลำบากท่านหรอก” หญิงสาวเริ่มหันหาญาติผู้พี่ ที่ตอนนี้สภาพแทบไม่ต่างกัน สองพี่น้องสบตาแล้วหัวเราะเสียงดัง ด้วยพวกเขาไม่เคยพบเจอสุราที่นุ่มลึก ทว่าเมามายง่ายอะไรขนาดนี้มาก่อน “ข้าลืมบอกเจ้าไป ว่าอย่าได้หลงในรสสุราของสกุลสวี่” องค์ชายเก้าเอ่ยกับองค์รัชทายาทชีอัน ที่ตอนนี้มีใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำหวานราวอิสตรี รอยยิ้มกว้างและเสียงหัวเราะนั้น เป็นการยืนยันว่าองค์รัชทายาทชีอันเมามายอย่างหนัก “ข้ารึ! จะพ่ายแค่สุราต่างแคว้น เจ้าทำเหมือนข้าไม่เคยเดิ่มสุราจากแคว้นของเจ้า” คำพูดราวลิ้นพันกันขององค์รัชทายาทชีอัน เรียกรอยยิ้มจากแขกในงาน ที่ตอนนี้ก็มีสภาพไม่ค่อยต่างกันเท่าใดนัก คุณหนูหลายสกุลที่ไม่เคยลิ้มลองสุราสกุลส

  • ยุทธการรักของเหล่าภรรยา   ตอนที่161 อย่าดื่มมาก

    “เป็นช่างที่ข้าเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน ข้าสั่งผ่านผู้อื่นเช่นกัน” จ้าวหลันถิงคลี่ยิ้มละมุน นางคิดไว้อยู่แล้วว่าเสื้อคลุมในแบบประยุคของนาง จะทำให้ร้านของนางได้รับเงินเพิ่มอีกมากทีเดียว ชุดที่นางตัดเย็บนั้น ล้วนเหมาะต่อผู้สวมใส่ ไม่ใช่ว่าจะหาได้เหมือนร้านทั่วไป ความสนใจที่มุ่งตรงไปเพียงภรรยาเจ้าของจวน ทำให้หลี่เหนียงแทบอยากจะเดินไปกระชากร่างนั้น มาตบสักหลายฉาด ไม่เคยมีใครทำให้นางอับอายได้ท่านี้มาก่อนเลยสักครั้ง “ไม่คิดว่าเพื่อชุดที่งดงาม พระชายาถึงกับขายของพระราชทานซื้อหามา...” หลี่เหนียงเอ่ยขึ้น ก่อนจะมีเสียงอื้ออึงของคนในงานติดตามมา ทุกสายตามองไปยังพระชายาสวี่ ไท้เฟยเลือกที่จะลุกออกจากงานไป ด้วยสภาพเยี่ยงคนกำลังจะสิ้นสติ ต่างจากหลี่เหนียงที่มั่นใจยิ่งนัก ว่าเรื่องนี้ทำให้นางเป็นผู้กำชัดอย่างแท้จริง “วันนี้พระชายาร่วมแสดงต้อนรับองค์รัชทายาทกับองค์ชายเก้า ย่อมต้องใช้เครื่องประดับที่เหมาะสม ส่วนปิ่นอันนี้นางฝากข้าไว้ก่อนหน้าแล้ว” กล่องไม้ลวดลายงดงาม ถูกเปิดออกและวางลงบนโต๊ะ ทำให้คนที่เคยมาร่วมงานแต่งของสวี่อ๋อง พูดเป็น

  • ยุทธการรักของเหล่าภรรยา   ตอนที่160 องค์ชายโปรดเมตตา

    “ท่านอ๋อง นางรำเพียงคนเดียวท่านจะหวงแหนไปไย” องครักษ์ของสวี่อ๋องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อขุนนางผู้นั้นหารู้ที่ต่ำที่สูง ต่อให้คนตรงหน้ามิใช่พระชายา ก็ไม่เคยมีใครทำเรื่องเช่นนี้ในจวนสวี่เลยสักครั้ง “ที่นี่จวนของข้า มิใช่หอนางโลมที่ท่านจะทำเรื่องหยามเกียรติผู้ใดก็ได้ เห็นแก่ท่านเป็นขุนนางที่เพิ่งย้ายมา ข้าจะให้โอกาสท่านได้สำนึกผิด เก็บของนั้นไปเสีย” สวี่อ๋องเอ่ยเสียงกร้าว ซึ่งแขกในงานต่างรู้จักนิสัยของสวี่อ๋องดี นางรำที่จะเข้ามาถวายการแสดงต่อหน้าแขกชั้นสูง ล้วนมาจากสำนักระบำหยก ที่ขายเพียงการแสดงหาใช่ร่างกาย เช่นนางรำในหอนางโลม ขุนนางผู้นั้นเดินออกมาหยุดตรงหน้านางรำ ที่ปิดบังใบหน้าด้วยผ้าคาด แววตานั้นของนางทั้งหยิ่งทะนงและเย้ายวน หมับ! ตึก! ก่อนที่มือสกปรกนั้นจะทันได้แตะต้องกายของหญิงสาว มือหยาบคว้ากำข้อมือนั้นอย่างแรง พร้อมวาดเท้าเตะเข้าที่ข้อพับจนอีกฝ่ายทรุดลงเขากระแทกพื้น “อ๊าก!! ท่านอ๋อง เพื่อนางรำชั้นต่ำพวกนี้ ท่านไยกล้าลงมือต่อข้าด้วย” ขุนนางคนอื่นๆ ต่างใบหน้าซีดเผือด มีใครบ้างไม่รู้กฎของที่นี่ รวมถึงสำนักระ

  • ยุทธการรักของเหล่าภรรยา   บทที่159 นางรำ

    ห้องโถงรับแขก งานเลี้ยงรับรององค์รัชทายาทชีอัน และองค์ชายเก้า ซึ่งได้มีขุนนางในเมืองอีกจำนวนหนึ่งมาร่วมด้วย แน่นอนวาค่ำคืนนี้ บรรดาบุตรสาวขุนนางที่ยังไม่ออกเรือนต่างตั้งใจประโคมกาย เพื่อมาประชันความงามกันต่อหน้าบุรุษสูงศักดิ์ ซึ่งเป็นแขกคนสำคัญของเมืองชายแดนแห่งนี้ เผื่อว่าพวกนางคนใดคนหนึ่ง อาจโชคดีมีวาสนาก้าวสู่ตำหนักของหนึ่งในสองบุรุษแน่นอนว่าคุณหนูหลี่เหนียง นั่งเฉิดฉายอยู่เคียงข้างไท้เฟย ใบหน้างามประดับรอยยิ้มน้อยๆ อย่างมีจริต นางไม่สนหรอกว่าสตรีต่างแคว้นจะงามเพียงใด เพราะนางคือสตรีที่ไท้เฟยเลือกแล้ว “ไยน้องสาวข้ายังไม่มาอีกเล่า” องค์รัชทายาทเอ่ยถามถึงจ้าวหลันถิง นั่นทำให้หลี่เหนียงที่กำลังมั่นใจในความสูงส่งของตน เผลอตวัดสายตามองไปที่ชายหนุ่มสูงศักดิ์อย่างลืมตัว ทว่าหญิงสาวถึงกับใบหน้าซีดเผือด เมื่อสบเข้ากับแววตากระด้างขององค์รัชทายาทต่างแดน“ใบหน้าข้าคงน่าชังมากสินะ! แม่นาง!”คำถามของแขกคนสำคัญ เรียกสายตาของทุกคนให้หันมองไปที่หลี่เหนียงเป็นจุดเดียว หญิงสาวรีบหันไปหาไท้เฟยเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่ากลับต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เมื่อสตรีที่นา

  • ยุทธการรักของเหล่าภรรยา   บทที่158 ยืมมือ

    “แค่เล็กน้อยเจ้าค่ะ”คำพูดที่สนิทชิดเชื้อ บอกได้ว่าญาติผู้น้องคนนี้ ต้องสำคัญต่อชายสูงศักดิ์มากทีเดียว แล้วใครกันที่บอกว่าคุณหนูสกุลแม่ทัพ ไม่ใช่ที่รักของคนรอบข้าง จึงต้องถูกส่งมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์“ข้าลู่เชียน องค์รัชทายาทชีอัน ขออภัยไท้เฟยที่ข้าตั้งคำถามต่อท่าน โดยไม่ได้หมอบกราบอย่างที่คนอื่นกระทำ เช่นนั้นข้าคงต้องคุกเข่าสินะ!”“อย่าเพคะ!”ไท้เฟยร้องห้ามเสียงหลง เมื่อองค์รัชทายาทกำลังจะคุกเข่าลงต่อหน้า ร่างท่วมของไท้เฟยสั่นราวกับอากาศหนาวเหน็บ ทั้งที่เวลานี้ติดจะร้อนเสียมากกว่า“เช่นนั้นตอบคำถามข้าได้หรือยัง”“เอ่อ...คือว่า...”จ้าวหลันถิงไม่คิดว่าจะต้องยืมมือใครจัดการเรื่องพวกนี้ แต่นางไม่ได้มีเวลามาต่อกรไร้สาระกับแม่สามีมากนัก จึงอยากจัดการทุกอย่างให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อให้กิจการของนาง ที่กำลังเติบโตไม่ต้องสะดุดที่สำคัญอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จะมามัวเป็นนางเอก ทำดีเพื่อชนะใจแม่ผัว มันเป็นไปไม่ได้ เพราะคนจะเกลียด ดีแค่ไหนก็เกลียดอยู่วันยังค่ำ เลยต้องใช้มือคนอื่นมายุติมันลง ไม่ต้องมารักนางแค่ไม่วุ่นวายกันก็พอแล้ว“นางถูกเลี้ยงดูด้วยเสด็จย่ามาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยมีเรื่องเสื่อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status