Share

10.ใครเจ็บปวดมากกว่ากัน

Author: BoxJellyfish
last update Last Updated: 2025-12-15 03:54:47

#ย้อนอดีต#

*บริเวณลานจอดรถยนต์ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง*

บรรยากาศช่วงเวลานี้รถยนต์จอดน้อยคันกว่าที่ควรจะเป็น ผู้คนจึงไม่ได้เดินพลุกพล่าน แยมยังคงยืนอึ้งอยู่ไม่ห่างจากเสาปูนต้นใหญ่ ร่างกายเธอแข็งทื่อดุจถูกตรึงด้วยโซ่ตรวน ดวงตาเธอสั่นระริกและหัวใจเต้นเป็นจังหวะเชื่องช้า เมื่อได้เห็นภาพที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน เรไรเพื่อนสาวคนสนิทที่เธอเคยไว้ใจมากที่สุด กำลังเอื้อมแขนไปโอบกอดยูโรแฟนเธอจนแน่น ราวกับพยายามปลอบโยนหรือเรียกหาบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในอดีต

"นายยังจำได้ไหม ตอนนั้นเราสองคนเคยสัญญากันไว้ว่ายังไง" น้ำเสียงนุ่มนวลของเรไรลอดออกมาเบาๆ แต่กลับชัดเจนมากพอจะบาดลึกถึงหัวใจดวงน้อยของแยมได้

"เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ!" ยูโรตวาดเสียงดังลั่นลานจอดรถ แม้เขาจะพยายามปัดป้องแขนเรไรออก แต่แยมยังคงมองทั้งคู่อย่างเหม่อลอย

"หากเราเลิกกันแล้ว นายต้องคอยดูแลฉันระหว่างที่ฉันไม่มีใคร!" เรไรกระแทกเสียงกลับ ราวกับเธอกำลังโกรธที่ยูโรไม่รักษาคำพูด

"หึ! เธอเป็นคนบอกเลิกฉันก่อนเองนะ มาตอนนี้จะทวงคำสัญญาอะไร" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขายืนกำหมัดแน่นถนัดราวกับฝืนเก็บอารมณ์อยู่

"พอนายใช้งานฉันเสร็จ! คิดจะทิ้งกันเป็นขยะเหรอ! อย่าลืมว่าเราเคยมีอะไรด้วยกันมาก่อนนะ คงต้องไปบอกเรื่องนี้ให้แยมรู้แล้วแหละ" เรไรสวนกลับอย่างไม่ยอม เธอน้ำตาคลอแม้คำพูดจะร้ายกาจอยู่ไม่น้อย

ประโยคเหล่านั้น เสียดแทงเหมือนมีดนับพันเล่มจ้วงลึกลงบนกลางอก แยมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนเคว้งคว้าง เธอได้ยินทุกถ้อยคำเกี่ยวกับความลับของพวกเขา ซึ่งถูกปิดบังมาโดยตลอด... ความจริงที่เธอไม่เคยรับรู้ไม่เคยถูกเล่าให้ฟัง และมันกลับถูกเปิดเผยด้วยภาพตรงหน้า คนที่เธอรักหมดใจกับเพื่อนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด

หัวใจเธอปวดหน่วงจนแทบจะหายใจไม่ออก ความเชื่อใจพังทลายกลายเป็นเศษซาก จนไม่รู้จะประกอบได้จากตรงไหนก่อนดี ดวงตาร้อนผ่าวด้วยหยาดน้ำตาที่ไม่อาจกลั้นไว้ได้อีกต่อไป กัดริมฝีปากจนแน่นเพราะกลัวเสียงสะอื้นดังจนพวกเขารู้ตัว

"พวกเขา... ปิดบังฉันมาตลอดอย่างงั้นเหรอ" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทนฟังต่อไม่ไหว ความเจ็บปวดสาหัสนี้ได้แล่นไปทั่วทั้งเรือนร่างฉับพลัน

แยมกำหมัดตนเองแน่นจนเล็บจิกบนฝ่ามือ ริมฝีปากบางสั่นระริก เธอแทบอยากจะพุ่งตัวออกไปปรากฏตรงหน้า บอกให้ทั้งคู่รู้ว่าเธอเห็นและได้ยินทุกอย่างแล้ว หัวใจเธอมันกำลังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินไปเลย บรรเจิดดึงแยมกลับมาซ่อนตรงข้างหลังเสาดังเดิม เขารีบคว้ามือเธอไว้พอให้ร่างเล็กต้องหยุดชะงัก

"อย่าพึ่งออกไปเลย... ใจเย็นก่อนนะแยม! อย่าเพิ่งทำอะไรตอนนี้เลย เราว่าคงมีเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่นะ" เสียงของบรรเจิดต่ำและสั่น ราวกับรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าแทบแตกสลายอยู่แล้ว

แยมสะบัดหน้าหันไปมองเขานิ่งค้าง น้ำตาเธอเอ่อคลอ ดวงตาเต็มไปด้วยความปวดร้าวและสับสน เธออยากจะตะโกน อยากจะถามว่าทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ แต่เสียงกลับติดค้างอยู่ในลำคอ มีเพียงหัวใจที่ร้องไห้อย่างหนักหน่วงเกินทน เสียงห้ามของบรรเจิดเหมือนแค่เพียงลมผ่านหู แยมสะบัดมือเขาออกอย่างแรง ก่อนจะวิ่งพุ่งออกไปตรงด้านหน้าทั้งสองคน

เพี้ยะ!

ฝ่ามือของเธอตบเข้าที่ใบหน้าของยูโรอย่างไม่ลังเล เสียงดังลั่นจนบรรยากาศรอบข้างนิ่งงัน ยูโรหันขวับมองด้วยความตกตะลึง ในขณะที่เรไรชะงัก ดวงตาเบิกกว้างกับภาพที่ไม่คาดคิดเช่นกัน

"พวกนายคิดว่าฉันโง่มากเหรอ!" เสียงของแยมสั่นเครือด้วยความโกรธปนเจ็บปวด

"ปิดบังฉันมาตลอด! ยังแอบมีอะไรกันอยู่ใช่ไหมเรไร! คนที่ฉันไว้ใจที่สุดกลับแทงข้างหลังฉันแบบนี้เหรอ! ทำไมใจร้ายกันได้ขนาดนี้วะ" แยมตะคอกเสียงดังพร้อมทั้งน้ำตาไหลไม่ยอมหยุด

"แยมเธอใจเย็นฟังฉันก่อนนะ!" เรไรพยายามกล่าวอธิบาย พร้อมจะเอื้อมแขนไปจับแยมแต่ถูกสะบัดออกอย่างแรง

"เรไร! ตั้งแต่วินาทีนี้ไป! เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป!" แยมตวัดตามองเฉียบขาดด้วยความเจ็บปวดใจ เธอหอบหายใจแรงยกมือทุบบริเวณหน้าอกตนเอง น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ก่อนหันกลับไปสบตายูโรเข้า ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยไฟแค้นและความน้อยใจที่สะสมมานาน

"ฮึก! ยูโร... นายรู้เอาไว้เลยนะ ฮึก! ตลอดเวลาที่ผ่านมา... คนที่ฉันรักไม่เคยเป็นนาย แต่เป็นคนอื่นเสมอมา ใครจะไปรักคนตัวใหญ่อย่างนายได้จริง! เพราะบ้านนายรวยต่างหากล่ะ!" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ยูโรชะงักงันเหมือนถูกฟ้าผ่า เพราะไม่คิดว่าเธอจะพูดจารุนแรงได้ขนาดนี้

แยมเอื้อมคว้ามือบรรเจิดที่ยืนอึ้งอยู่ข้างๆ แล้วดึงร่างสูงเข้ามาหาตัวเองก่อนจะเขย่งปลายเท้ายืนต่อหน้าเขา เธอโน้มริมฝีปากประกบจูบลงไปต่อหน้าต่อตายูโรและเรไร น้ำตาไหลรินลงอาบแก้มพร้อมแรงกดจูบที่สั่นสะท้าน บรรเจิดเบิกตาโตเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ผลักไสเธอออก เขาเพียงปล่อยให้แยมแสดงทุกสิ่งที่หัวใจของเธอ มันกำลังร้องไห้อยู่ในวินาทีนั้น...

"แยม!" ยูโรเอ่ยออกมาอย่างตกตะลึง เขากระชากบรรเจิดออกมารัวหมัดหนักใส่ไม่ยั้ง แยมหลับตาปี๋รีบกางแขนยืนขวางเอาไว้ จนเกือบเผลอโดนกำปั้นเขาแล้ว

"ทำไมเธอต้องประชดแบบนี้ด้วยวะ!" ยูโรกัดฟันกรอดถามด้วยดวงตาแข็งกร้าว น้ำตาของเขามันเอ่อล้นจนใกล้จะไหลแล้วเช่นกัน

"พูดเรื่องจริง! ฉันไม่ได้ประชดขอตัวก่อน!" แยมกล่าวอย่างรวดเร็ว พยุงร่างบรรเจิดที่มุมปากมีเลือดซึมให้ลุกขึ้นยืนพร้อมเดินออกมา

ภาพฉากนั้นคือการแก้แค้นและเป็นการประกาศชัดเจน แยมเลือกเดินหนีออกจากความสัมพันธ์ที่เคยผูกพันมาทั้งหมด เธอลบช่องทางการติดต่อพวกเขาทิ้งทั้งหมดอย่างไม่เสียดาย บรรเจิดเป็นคนพาเธอมาส่งที่บ้านแทน ตั้งแต่กลับมาเธอขังตัวเองอยู่ภายในห้องนอน โชคดีคุณพ่อกับคุณแม่ไปเยี่ยมคุณลุงและคุณป้าอีกอำเภอ จึงยังปิดบังเรื่องความรักของแยมกับยูโรเอาไว้ได้อย่างมิดชิด

สำคัญสุดคือไม่ต้องไปโรงเรียนอีกแล้ว เหลือแค่เตรียมตัวรอรับใบวุฒิบัตรจบการศึกษามัธยมปลายเท่านั้น จึงมีเวลาเยียวยาหัวใจของตัวเองมากขึ้น แม้ว่าเขาจะมาตะโกนเรียกอยู่บริเวณตรงรั้วหน้าบ้านเป็นประจำ ก็ไม่ได้ทำให้แยมต้องจำเป็นปรากฏตัวอะไร พอผ่านไปได้สองวันเขาเหมือนเลิกพยายาม ด้วยสาเหตุรถยนต์ของคุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่ เขาคงคิดว่าเธอต้องไม่อยู่บ้านด้วยเช่นกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   18.โลกที่ไม่คุ้นชิน

    แสงไฟระยิบระยับจากโคมระย้าคริสตัล ทอดเงาวูบไหวตามบนเพดานสูงของห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆ แทรกอยู่ระหว่างเสียงหัวเราะและคำอวยพร จากแขกผู้มีเกียรติยามค่ำคืนนี้งานวันเกิดของบรรเจิด ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติยศ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเป็นบุตรชายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากแต่ยังเพราะเขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ด้วย ซึ่งคือ..รองผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างเป็นทางการแยมยืนอยู่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง เธอสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน แม้จะดูน่ารักเข้ากับรูปร่างเพรียวบางแต่ก็เรียบหรู สองมือประคองกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมผูกโบสีทองแน่นความรู้สึกประหม่าแล่นวาบภายในกลางอก เมื่อสายตาเธอกวาดมองบรรยากาศล้อมรอบตัว แขกภายในงานล้วนเป็น.. นักการเมืองกับข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชื่อดัง ทุกคนดูสง่างามและคุ้นเคยกับโลกใบนี้ ต่างจากเธอที่ยังรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเสมอแต่แล้วสายตาแยมก็หยุดลงที่ร่างสูงโปร่ง เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการ บรรเจิดยืนอยู่กลางกลุ่มผู้ใหญ่ สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มสุภาพ ดวงตาอบอุ่นเป็นประกายแม้จะต้องรับมือกับคำยินดีและคำอวยพรไม่ขาดสาย เขายังคงดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ราวกับไม่ใช่งานให

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   17.ช่วยกันโกหกดีไหมนะ

    *ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*แสงไฟบนหน้าจอกระทบแว่นตาเกือบหนึ่งชั่วโมง แยมนั่งตรวจสอบบัญชีอย่างมีสมาธิ จู่ๆ สมองของเธอกลับมีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพนด้าเสียอย่างนั้นเธอกดบันทึกไฟล์เอกสารและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะใช้สองมือเล็กดันโต๊ะสำนักงาน จนเก้าอี้ล้อเลื่อนถอยหลังอย่างเชื่องช้า แอบชำเลืองสายตามองสาวน้อย อยู่ตรงบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์"เจ๊มีอะไรหรือเปล่าคะ หนูทำบัญชีไม่เรียบร้อยใช่ไหมคะ" แพนด้าวิ่งพรวดพราดมาใกล้บริเวณโต๊ะที่แยมนั่ง ด้วยท่าทางตื่นตระหนกเพราะกลัวโดนดุแยมเอื้อมแขนยาวไปตรงแผ่นหลังสาวน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือลูบแผ่วเบา ราวกับปลอบโยนไม่ให้แพนด้าตื่นเต้นเกินเหตุ"เจ๊..แค่มีคำถามที่สงสัยต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แพนด้ากลับยืนขนลุกซู่ราวกับถูกกดดัน"เจ๊รีบถามมาเลยเถอะ ท่าทางแบบนี้ของเจ๊ มันทำให้หนูอึดอัดเกินไปนะคะ" แพนด้าตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เปลี่ยนทิศทางสายตาเบนลงต่ำแทน"เจ๊ยังจำได้อยู่นะ คราวก่อน..แพนด้ามาคุยเล่นกับเจ๊น่ะ เหมือนจะมีเพื่อนหนุ่มจอมเกเรตามจีบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดันมาคบหากับยอดได้ล่ะ แค่ยังสงสัยว่าหนูไม่ได้คบซ้อนใช

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   16.มาเป็นแฟนกันเถอะ

    *อาคารสองชั้นสุดหรู*เสียงเครื่องยนต์จอดนิ่งและดับสนิทลงท่ามกลางความมืดมิด แยมเปิดประตูฝั่งคนขับออกมายืนเท้าสะเอวมองอย่างชั่งใจ หัวคิ้วคนสวยขมวดมุ่นเธอเบะปากราวกับโมโหยูโรอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าสองขาเรียวเล็กกลับเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เธอแบกร่างกายอันหนาเตอะของชายขี้เมาออกมาทันที"เอามา!" แยมตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมแสดงสีหน้าโกรธเคือง เธอยื่นฝ่ามือเล็กแบออกอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับโดนอีกฝ่ายเอาคางมาเกยแทน"จะเอาหัวใจของผมเหรอครับคนสวย~" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคางเขายิ้มหวานอย่างกวนอารมณ์"นายอยากตายมากนักเหรอ ฉันเป็นใครกันแน่ นายช่วยลืมตาดูหน่อยเถอะนะ" แยมสวนกลับทันควัน เพราะคิดว่าเขายังเอาแต่คิดถึงสาวร้านคาราโอเกะอีก"คุณเป็น..ภรรยาของผมน่ะสิ!" ยูโรยิ้มแป้นตาแทบปิด เตรียมจะยกฝ่ามือหนาลูบละไล้ดวงหน้าเห่อร้อนของเธอ แต่แยมเลือกที่จะผลักเขานอนลงกับพื้นปูนซีเมนต์แทน"ส่งกุญแจมาสักที! ยุงกัดจะตายอยู่แล้วเนี่ย!" แยมตวาดใส่แก้เขินอาย เธอยืนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกอดอกตนเอง หวังเพียงให้ดวงใจเต้นอย่างสงบลงเขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เธออย่างว่าง่าย เมื่อประตูบานเล็กถูกเปิดออกแยมจึงลากยูโรเข้

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   15.ภาพสะท้อน

    *ร้านคาราโอเกะ*แสงไฟนีออนดวงสีชมพูม่วงกะพริบระยิบระยับ เสียงดนตรีจากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะ ยูโรนั่งอยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์บาร์แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่เคยว่าง เขาคอยรินซ้ำจนของเหลวสีทองขลุกขลิกเกือบล้นขอบแก้วภายในหัวใจของเขา.. ยังคงวนเวียนกับภาพแยมกำลังยืนหัวเราะเคียงข้างบรรเจิด หรือว่าเธอไม่เห็นความหมายของการรอคอยที่เราทำมาตลอดเลย เขาเอาแต่นั่งตัดพ้อตัวเองอยู่ซ้ำๆหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอสวมชุดกระโปรงสีทองแบบกระชับลำตัว เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงด้านข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแสนหวานช่างเย้ายวนราวกับกลิ่นไวน์เก่าแก่"ยูโร! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายคนนั่งสับสน เธอกำลังเท้าคางมองแววตาเป็นประกาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจำได้ "เรไร" อดีตเพื่อนสนิทของแยมสมัยเรียนมัธยม พวกเธอทั้งสองเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และยังเคยเป็นแฟนเก่าของเขาด้วยเช่นกัน"อืม!" ยูโรตอบเสียงแหบแสนจะแผ่วเบาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์"นายมานั่งดื่มคนเดียว แต่ทำไมหน้าตาบึ้งตึงเชียว" เรไรหัวเราะน้อยๆ มือเรียวแตะไหล่เขาเป็นเชิงหยอกล้อ ยูโรไม่ได้ผลักไสเพราะเคยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว เพียงปล่อยให้เ

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   14.ความลับของยอด

    *ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*เสียงกระดิ่งเหนือประตูไม้เริ่มดังเมื่อมีลูกค้าเปิดเข้ามาอีกครั้ง กลิ่นหอมกรุ่นจากขนมปังสดกับใบตองที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งร้าน ผสมกับเสียงเครื่องคิดเลขดังไม่หยุด ทำให้บรรยากาศดูคึกคักกว่ายามปกติแยมจัดเรียงขนมปังกรอบลงตะกร้าใหญ่ พลางเหลือบมองนาฬิกาแขวนบนฝาผนังเป็นระยะ เข็มสั้นชี้ที่เลขห้าเข็มยาวเกือบแตะเลขสิบสอง ใจเธอเต้นแผ่วแรงด้วยความคาดหวังอีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ยูโรก็คงมารออยู่ตรงหน้าร้านเหมือนทุกวัน ตั้งแต่เขาออกจากโรงพยาบาลมา ทั้งสองมักจะเดินเล่นรับลมยามเย็นด้วยกัน จนเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันเลยเหล่าลูกน้องต่างกระวีกระวาดทำงาน เพราะใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้วเช่นกัน คงไม่อยากทำงานล่วงเวลาเหมือนอย่างเคย ทุกสิ่งเป็นได้แค่เพียงความคิดเท่านั้น เมื่อได้ยินเสียงสวรรค์จากลูกค้ารายสุดท้ายมาเยือน"สวัสดีครับแยม~" เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นบริเวณตรงหน้าประตูหญิงสาวเงยใบหน้าขึ้นมอง เห็นร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนพับสีขาวกับกางเกงผ้าเรียบ "บรรเจิด" เพื่อนสมัยมัธยมและเป็นคนที่เคยทำให้หัวใจเธอแกว่งไกวอยู่พักหนึ่ง เขากำลังยืนยิ้มอย่างจริงใจ"อ้าว! บรรเจิด! มาซื้อของเหรอ หายหน้าห

  • ยูโรเบื่อคิดดอกเบี้ยแต่อยากคิดถึงแยมแทน   13.มื้ออาหารพ่อแม่(แฟนไม่เคยเก่า)

    *ภัตตาคารสุดหรู*เสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวมองแล้วย่อมอบอุ่นสายตา ภายในภัตตาคารหรูหราริมแม่น้ำถูกตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง ประกายวิบวับจากแชนเดอเลียร์เหนือศีรษะห้อยระย้าจากบนเพดาน ส่องแสงกระทบแก้วไวน์จนระยิบระยับ แยมเอาแต่ยืนเกร็งตัวอยู่ด้านหน้า ใจเธอเต้นแรงราวกับเด็กที่ถูกครูใหญ่เรียกพบ"ไม่ต้องกังวลนะหนูแยม พ่อแค่พามาทานอาหารอร่อยกัน ปล่อยตัวตามสบายเถอะนะ" เสียงสุภาพของเปโซเอ่ยขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ผมขาวแซมขมับแต่งตัวด้วยสูทเข้ารูป ดูภูมิฐานจนใครๆ ต้องเหลียวมองข้างกายคือดีนาร์ เธอเป็นภรรยาของเขา หญิงวัยกลางคนที่ยังคงงดงามในชุดกระโปรงผ้าไหมสีงาช้าง ใบหน้าสงบและอ่อนโยน เธอยื่นมือมาสัมผัสแขนแยมเบาๆ แทนกำลังใจ"แม่เองก็ตั้งใจอยากจะเจอหนูมานานแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยนะ" ดีนาร์กล่าวพร้อมยิ้มหวานแยมกะพริบตาปริบๆ มือเรียวกำสายกระเป๋าสะพายไหล่จนแน่น เธอสวมชุดกระโปรงเรียบง่ายที่พยายามเลือกอย่างคัดสรรให้ดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่คู่ควรกับสถานที่และบรรยากาศเลย เพราะออกจากโรงพยาบาลมาได้ ก็ถูกคุณแม่ของยูโรแปลงโฉมภายในห้างสรรพสินค้าทันที"ขอบคุณมากเลยค่ะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status