공유

สูตรทำอาหาร

작가: zuey
last update 최신 업데이트: 2024-12-25 06:31:40

เฉียวลู่หันไปมองต้นไม่ต้นนั้นที่ล้มนอนอยู่ ในหัวของนางวางแผนบางอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คล้อยหลังเฉียวลู่อวี้หลงกับอวี้ชิงหันกลับมามองตากันแต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาเหมือนกับว่าเพียงพวกเขามองหน้ากันก็สามารถสื่อความนึกคิดถึงกันและกันได้แล้ว

 

เฉียวลู่ให้อวี้ชิงจุดไฟให้นางจากนั้นก็ทำอาหารง่ายๆ ที่เฉียวลู่พอจะทำได้กินกัน หลังจากนั้นนางก็อาบน้ำให้เด็กชายทั้งสองและตัวเองแล้วจึงพาเด็กชายนอนกลางวัน ในความคิดของเฉียวลู่คือเป็นเด็กก็ต้องนอนให้มากๆ จะได้โตเร็วๆ ตอนเย็นเฉียวลู่ยังคงทำอาหารแบบง่ายๆ อีกครั้งในหัวของนางตอนนี้คือจะต้องสั่งหนังสือทำอาหารสักเล่ม ไม่อย่างนั้นหากต้องกินอาหารที่นางทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เด็กๆ อาจจะเบื่อเอาได้

รุ่งเช้าสิ่งแรกที่เฉียวลู่นึกถึงคือหนังสือเล่มนั้น นางต้องสั่งของที่จำเป็นที่ต้องได้ใช้ในวันนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เฉียวลู่เขียนไฟแช็กลงไปในกระดาษ รอหลังจากหมึกซึมลงไปไฟแช็กเหล็กสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็โผล่มาแทนที่

จากนั้นสิ่งของอย่างที่สองที่เฉียวลู่นึกถึงคือเงิน บางทีนางอาจจะสั่งอะไรที่เป็นสิ่งของมีค่าที่สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินของที่นี่ได้ และไม่ว่าจะยุคสมัยไหนสิ่งของที่มีค่าสามารถตีราคาได้และผู้คนต่างต้องการคือ ทอง ทันความคิดของตนเฉียวลู่เขียนลงไปในกระดาษทันที หลังจากที่น้ำหมึกซึมหายไปในกระดาษข้อความที่เฉียวลู่ได้รับคือ

“ไม่อนุมัติ”

“ห๊ะ ทำไมล่ะนึกว่าสั่งได้ทุกอย่างซะอีกเจ้ากระดาษโง่นี่”

เฉียวลู่สบถออกมาอย่างหัวเสียนางนั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว จากนั้นเฉียวลู่ยังลองสั่งของที่คิดว่าน่าจะนำมาขายที่นี่ได้อีกหลายอย่างแต่คำตอบที่ได้รับคือไม่อนุมัติ เฉียวลู่ไม่รู้ว่ากฎการสั่งของของเจ้าหนังสือเล่มนี้คืออะไรมันไม่มีเขียนบอกเอาไว้โดยละเอียดแต่สิ่งหนึ่งที่เฉียวลู่รู้คือสั่งของมีค่าไม่ได้ สุดท้ายนางก็ล้มเลิกความตั้งใจไป

“ช่างเถอะในเมื่อไม่ให้ก็สั่งอย่างอื่นแทนละกัน สั่งอะไรดีนะ”

เฉียวลู่นั่งนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่ตนเองทำอาหารให้เด็กๆ ทานแล้วจึงเขียนคำสั่งลงไป ไม่นานสิ่งที่เฉียวลู่ต้องการก็ปรากฏต่อหน้านาง หนังสือสอนทำอาหารเล่มใหญ่วางอยู่ตรงหน้า เฉียวลู่ตาเป็นประกายนางนึกว่ามันจะเป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ที่สอนทำอาหารไม่กี่อย่างซะอีก หลังจากที่เปิดดูสารบัญปรากฏว่ามีสูตรการทำอาหารจีนหลายร้อยสูตรตามความหนาของหนังสือเล่มนั้น

“เยี่ยมไปเลยถ้าขายทองไม่ได้ก็เขียนสูตรอาหารขายก็แล้วกัน”

เฉียวลู่ยิ้มอย่างดีใจหนทางความสบายรออยู่ตรงหน้าพวกนางแม่ลูกแล้ว หลังจากเก็บสมุดบันทึกเล่มนั้นกลับไปที่กล่องไม้เก่าเฉียวลู่ก็ประเดิมโดยการจุดไฟโดยใช้ไฟแช็กนางยิ้มอย่างผู้มีชัย หินยุคโบราณหรือจะสู้ไฟแช็กของนาง

เฉียวลู่ไม่รู้สึกกดดันมากนักเพราะตอนนี้นางมีอาหารเพียงพอสำหรับหลายวัน ในมือของนางก็มีเงินที่ขายเนื้อหมูป่าให้ชาวบ้านอยู่สิบกว่าตำลึง เฉียวลู่ยังไม่เปิดหนังสือสอนทำอาหารตอนนี้เพราะนางคิดว่าเอาไว้ให้ว่างกว่านี้ก่อนค่อยนำมาศึกษา

หลังจากที่ทำโจ๊กสำหรับสามคนเสร็จแล้วอวี้หลงกับอวี้ชิงก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เด็กชายทั้งสองเดินงัวเงียมาหาเฉียวลู่ในครัว

“ตื่นแล้วหรือจ๊ะเด็กๆ ของแม่มาเถอะเดี๋ยวแม่จะล้างหน้าแต่งตัวให้”

เด็กชายทั้งสองทำตามเฉียวลู่อย่างว่าง่าย เมื่อทั้งสามแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการอาหารเช้าที่เฉียวลู่ทำเตรียมเอาไว้ วันนี้รสชาติดีกว่าเมื่อวานเพราะมีเครื่องปรุงบางอย่างที่เฉียวลู่แลกมาจากชาวบ้าน ระหว่างที่กำลังล้างชามอยู่เฉียวลู่หันไปพูดกับอวี้หลงกับอวี้ชิงที่ยืนรออยู่ด้านหลัง

“วันนี้อวี้หลงกับอวี้ชิงช่วยอะไรแม่บางอย่างได้หรือไม่”

เฉียวลู่พูดออกมาด้วยท่าทางมีเลศนัย

“วันก่อนลูกให้ไข่นกกับแม่มาสองฟองใช่มั๊ยจ๊ะ แม่ใส่มันลงไปในโจ๊กแล้ว ที่บ้านของเราไม่มีไข่แล้วลูกสองคนตอนนี้ไม่มีอะไรทำช่วยไปหาไข่นกมาให้แม่ได้หรือไม่”

ความจริงเฉียวลู่แค่คิดอยากให้เด็กชายทั้งสองออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ที่เป็นเด็กในวัยเดียวกันบ้างไม่ใช่เอาแต่ตามติดนางอยู่แบบนี้ ในความคิดของนางเป็นเด็กก็ควรเล่นให้เหมือนเด็กค่อยๆ เติบโตอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่ว่างท่าเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุสามขวบเช่นนี้

หลังจากอวี้หลงและอวี้ชิงได้ฟังคำขอของเฉียวลู่พวกเขาก็พยักหน้าขึ้นลงพร้อมกันด้วยท่าทางยินดี เหมือนกับว่าวันนี้เขาได้ทำประโยชน์ให้กับท่านแม่ของเขาแล้ว เมื่อเด็กทั้งสองคนออกจากกระท่อมไปเฉียวลู่ได้นำหนังสือสูตรทำอาหารมาอ่าน นางหั่นเนื้อหมูและหมักส่วนที่เหลือเพื่อเอามาทำเนื้อแดดเดียวตามสูตรที่เฉียวลู่อ่านเจอในหนังสือ จากนั้นนางยังเจียวมันหมูเอาน้ำมันไว้ใช้ทำอาหารในครั้งต่อไป

ตอนนี้เรื่องอาหารเฉียวลู่วางใจไปได้เปลาะหนึ่ง ที่นางกังวลอยู่ตอนนี้คือกระท่อมหลังนี้ที่คนทั้งสามใช้เป็นที่อาศัยบังลมบังฝน ดูท่าทางของมันไม่น่าจะอยู่ได้พ้นปีเพราะมันง่อนแง่นเต็มทีแล้ว เฉียวลู่ตัดสินใจขึ้นไปบนเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้นางไปคนเดียวเพราะเฉียวลู่ยังหวาดกลัวเรื่องหมูป่าเมื่อวานอยู่ ที่นางให้เด็กทั้งสองออกไปก่อนก็เพราะเรื่องนี้เหมือนกัน ต่อให้นางรู้สึกว่าตนเองมีกำลังเพิ่มขึ้นแต่นางไม่อาจพาเด็กๆ ของนางมาเสี่ยงในภูเขาลูกนี้อีกแล้ว

ตอนที่ยังอยู่ในโลกก่อนถึงเฉียวลู่จะเคยเรียนกังฟูจีนมาบ้างด้วยเพราะนางจะต้องเข้าบทบาทแสดงการต่อสู้ในซีรีส์บางเรื่องโดยเฉพาะแนวพีเรียดนั่นยิ่งต้องเข้าถึงบทบาทและทำให้สมจริง นับเป็นเรื่องดีสำหรับนางในตอนนี้เพราะถ้านำกังฟูที่เคยเรียนและกำลังที่มากขึ้นของนางมาประยุกต์เข้าด้วยกันเฉียวลู่คิดว่านางจะยังพอช่วยเหลือตนเองในยามคับขันได้

เฉียวลู่คว้าตะกร้าสะพายหลังและมีตัดฟืนประจำตัวของนางขึ้นมาแล้วมุ่งหน้าตรงขึ้นเขาที่อยู่ด้านหลังกระท่อมของนางไปทันที เมื่อขึ้นเขามาแล้วเฉียวลู่มองไปรอบๆ อย่างนึกวางแผนนางอยากจะตัดต้นไม้พวกนี้เอาไว้เพื่อสร้างบ้านของนางแต่จะตัดแล้วลากลงไปแบบนี้เลยคงจะไม่ได้ เดี๋ยวชาวบ้านได้หาว่านางเป็นปีศาจมาสิงร่างของเฉียวลู่จะแย่เอา

แค่เพียงขับไล่นางไปไม่เท่าไหร่แต่ถ้าจับเผาหรือถ่วงน้ำขึ้นมานางได้ไปเกิดใหม่อีกรอบแน่ แล้วบุตรชายทั้งสองของนางจะอยู่ยังไงดีไม่ดีโดนเผาไปด้วยกัน นางไม่อยากจะเสี่ยงในทุกเรื่องที่จะสามารถเป็นอันตรายต่อพวกเขา

ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องทำอย่างระมัดระวังและวางแผนให้ดี เฉียวลู่คิดวาดภาพบ้านเอาไว้ในใจแล้วตอนนี้ที่นางต้องการคืออุปกรณ์เท่านั้น เฉียวลู่ขึ้นเขาไปครึ่งวันตอนบ่ายนางก็กลับลงมา ทั้งยังลากท่อนซุงขนาดใหญ่กลับมาด้วยสามท่อนและซ่อนเอาไว้ก่อน เมื่อนางเดินกลับเข้ามาในกระท่อมน้อยจึงเห็นลูกชายทั้งสองของนางกำลังนอนหลับฝันหวานท่าทางน่าเอ็นดู

เฉียวลู่เดินย่องเข้าไปหาเด็กชายทั้งสอง นางกำลังจะก้มลงหอมแกมพวกเขาเสียงเดินเบาๆ ด้านนอกทำให้เฉียวลู่หยุดชะงัก นางผละออกจากเด็กทั้งสองที่กำลังหลับสนิทแล้วออกไปดูว่าใครกันที่มาที่นี่ พบว่าหน้ากระท่อมของนางมีเด็กชายร่างผอมแห้งคนหนึ่งกำลังเดินวนไปวนมาท่าทางเหมือนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียกนางดีหรือไม่

เฉียวลู่กระแอมไอเสียงเบาเพื่อให้เขารู้ตัวเด็กชายหันกลับมาท่าทางเอียงอายเมื่อถูกจับได้ว่าเขามาด้อมๆ มองๆ ที่เรือนของผู้อื่น

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ”

ฉินจื่อเฉินมองหน้าเฉียวลู่ครู่หนึ่งท่าทางของเขาดูอึดอัดจากนั้นจึงยกมือประสานคารวะส่งมาให้เฉียวลู่นางมองอย่างไม่เข้าใจ

“ข้ามาขอบคุณพี่สาวที่ท่านเมตตาข้าเมื่อวาน ขะ...ข้านำมันเทศเผามาให้ท่านด้วย”

เฉียวลู่มองมันเทศเผาที่อยู่ในถังไม้ที่ถูกล้างจนสะอาดแล้ว นางเลิกคิ้วเป็นคำถาม

“ท่านจะไม่รับเอาไว้ก็ได้ข้ารู้ว่ามันเทศของข้าไม่สามารถเทียบกับเนื้อหมูป่าที่ท่านให้มาเมื่อวานได้แต่ว่า.....”

เฉียวลู่ดึงถังไม้ในมือของฉินจื่อเฉินมาไว้ในมือของตน

“ขอบใจนะ”

เพียงคำพูดสั้นๆ ของนางทำเอาฉินจื่อเฉินใจชื้นขึ้นมา เขาทำท่าคารวะนางอีกครั้งจากนั้นจึงวิ่งหายไปทางหมู่บ้าน

เฉียวลู่มองตามหลังเด็กชายจนสุดสายตาจากนั้นจึงส่ายหัวให้กับความขี้เกรงใจของเขา

“เจ้าเด็กน้อยพึ่งอายุเท่าไหร่หัดรู้จักเกรงใจผู้อื่นแล้ว”

เฉียวลู่หัวเราะกำลังจะเดินหันหลังกลับเขากระท่อมน้อยของตนก็ต้องปะทะเข้ากับสายตาของบุตรชายทั้งสองของนาง ในมือของพวกเขามีไข่นกสี่ฟองเฉียวลู่ลูบหัวอวี้หลงกับอวี้ชิงอย่างรักใคร่

“เด็กดีตื่นแล้วหรือ มาเถอะแม่จะทำอะไรให้กิน”

เด็กชายทั้งสองเดินตามเฉียวลู่กลับเข้าไปในกระท่อมอย่างว่าง่าย หลังจากที่ล้างหน้าให้อวี้หลงกับอวี้ชิงแล้วเฉียวลู่ก็ทำเจียนปิ่งไส้เนื้อง่ายๆ ให้พวกเขาทานและใส่ไข่นกทั้งสี่ฟองลงไปด้วย ดูเหมือนเฉียวลู่จะมีพรสวรรค์ในทุกด้านไม่ว่าจะหยิบจับอะไรนางก็สามารถทำออกมาได้ดี แม้กระทั่งการทำอาหารที่ถึงแม้จะทำเป็นครั้งแรกนางก็สามารถทำมันออกมาได้น่ากิน อวี้หลงกับอวี้ชิงที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ อายุเพียงแค่สามขวบแต่กลับกินเจียนปิ่งที่เฉียวลู่ทำถึงคนละสองอัน ทำเอาเฉียวลู่ปลื้มปริ่มกับความสามารถในการทำอาหารของตน

วันนี้เฉียวลู่ทำงานทั้งวันแต่นางกลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยสักนิดกลับกันนับวันร่างกายของเฉียวลู่ยิ่งเหมือนมีพละกำลังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำเอานางรู้สึกแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของตน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   บทส่งท้าย กลับไปเริ่มต้นใหม่

    ฉีหมิงเยี่ยนกลับมาพร้อมชัยชนะหลังจากนั้นหนึ่งเดือน คนตระกูลเสิ่นและผู้ที่เข้าร่วมก่อการกบฏต่างก็ถูกตัดหัวแขวนประจานเอาไว้ทุกหัวเมืองที่ถูกยึดคืนกลับมาได้ แต่ชัยชนะครั้งนี้กลับไม่ได้มีการเฉลิมฉลองเพราะฉีอ๋องต้องสูญเสียพระชายาอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน เขาขังตัวเองเอาไว้ในห้องที่มีโลงใส่ศพของนาง อาจารย์ของเฉียวลู่เองก็ไม่คิดว่าตนเองจะต้องสูญเสียลูกศิษย์ของตนไปถึงสองคนพร้อมกัน เขาได้ใช้น้ำแข็งพันปีมรดกตกทอดของเจ้าสำนักเซียนแพทย์แช่ร่างของเฉียวลู่เอาไว้รอสามีของนางกลับมา“อาลู่เจ้าลืมตาขึ้นมาเถิด เจ้าอย่าได้ล้อข้าเล่นเช่นนี้เลย สามีของเจ้าตกใจรู้หรือไม่”ฉีหมิงเยี่ยนร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ ปากก็พร่ำเพ้อหานางไม่หยุด ร่างบางที่เหมือนนอนหลับอยู่ภายในโลกไม้ที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีตไม่ขยับไหวติงแม้เพียงนิดเขาทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกัน เขาอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงอนาคตทุกอย่างแล้ว คนตระกูลเสิ่นที่เป็นสาเหตุการตายของนางเขาก็สังหารจนสิ้น แต่แล้วเหตุใดนางถึงยังจากเขาไปอีกเล่า สวรรค์ท่านช่างใจร้ายกับข้านัก ท่านคิดที่จะทำลายหัวใจของข้าอีกกี่ครั้งกันท่านถึงจะพอใจเสียงร้องโหยหวนดั่งสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แก้แค้นแทนพี่สาว

    ไม่นานหลังจากนั้น ทหารจากค่ายวิหคทมิฬพบสองพี่น้องที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งโดยบังเอิญ พวกเขาตามรอยของกั๋วจื่อชางเข้าไปในป่า แต่ต้องคลาดกันเพราะมีน้ำป่าไหลทะลักบนภูเขา จึงต้องย้อนกลับมาที่หมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากร่องรอยสุดท้ายที่หาเจอ เพราะเหตุนั้นจึงได้พบนายน้อยของตำหนักชินอ๋องทั้งสองคนเกือบครึ่งเดือนที่พวกเขาถูกจับตัวไป เพราะไม่ค่อยได้ทานอาหารสองพี่น้องจึงดูซูบผอมไปเล็กน้อย เฉียวลู่ที่ได้ข่าวจากคนของค่ายวิหคทมิฬนางเร่งเดินทางมาที่หมู่บ้านโดยเร็ว“ลูกแม่!!”นางกอดร่างเล็กทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขน พลางลูบหลังพวกเขาอย่างปลอบโยน อวี้หลงและอวี้ชิงที่เคยฝึกอยู่ในค่ายวิหคทมิฬอย่างหนักไม่เคยแม่แต่จะหลั่งน้ำตาสักหยด แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของมารดา เสียงร้องไห้เล็กๆ สองเสียงก็ดังประสานขึ้นก้องกังวานทั่วหมู่บ้านเหล่าทหารจากค่ายวิหคทมิฬที่รู้จักเด็กชายทั้งสองมองพวกเขาด้วยความแปลกใจ นึกว่าบุตรชายของมัจจุราชฉีจะกลายเป็นเหล็กกล้าเหมือนดั่งบิดาเสียอีก ไม่นึกว่าจะยังมีมุมน่ารักดั่งเด็กน้อยเมื่อยามที่อยู่กับมารดาเฉียวลู่ที่ถูกพรากบุตรชายจากอกไปหลายวัน นางเองก็ขวัญเสียไม่แพ้กัน สองแม่ลูกก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขอบคุณนะ

    “อยู่ให้ห่างจากน้องชายของข้านะ”อวี้หลงวิ่งเข้าไปคิดที่จะทำร้ายนาง แต่หญิงใบ้กลับหลบได้อย่างง่ายดาย เขาวิ่งมาขวางนางอีกครั้งแต่ถูกหญิงใบ้จับโยนจนร่างเล็กลอยละลิ่วไปไกล นางใช้มือคลำไปที่ใบหน้าและลำคอของอวี้ชิงเบาๆ จากนั้นจึงหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา นางบีบจมูกของอวี้ชิงเพื่อให้เขากลืนยาลูกกลอนลงไป อวี้หลงคิดว่านางวางพิษน้องชายตนเอง เขากรีดร้องออกมาทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก!!!ข้าจะสู้ตายกับเจ้า”เด็กชายที่สูงเพียงอกของนางพยายามต่อสู้กับหญิงใบ้สุดกำลัง ดวงตาเฉยเมยมองเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเข้าหานาง เขาแกว่งหมัดไปที่หลายทีแต่นางก็ไม่ได้สู้กลับ นางทำเพียงพลิกเท้าหลบไปมาเหมือนกำลังเย้าแหย่สัตว์ตัวเล็กๆเด็กตัวเล็กที่พยายามต่อสู้กับผู้ใหญ่ผ่านไปนานสุดท้ายก็ยังไร้ผล อวี้หลงหอบหายใจแรงเพราะเรี่ยวแรงของเขาหมดไปจากการที่เขาแบกน้องชายเดินเป็นเวลานาน“พะ...พี่ชาย”เสียงเล็กๆ ที่ดังขึ้นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจของเขา อวี้หลงเลิกสนใจหญิงใบ้รีบวิ่งไปดูน้องชายของตนทันที“ชิงเอ๋อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อวี้หลงแตะไปที่หน้าผากของเขา ตัวที่ร้อนดังไฟตอนนี้ได้เย็นลงเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   หนี

    อวี้หลงและอวี้ชิงฟื้นขึ้นมาหลังจากที่ถูกลักพาตัวโดยชายชุดดำหลายสิบคน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาถูกจับตัวมา ท่านแม่และท่านพ่อจะต้องเป็นห่วงพวกเขามากแน่ๆตลอดทางที่รถม้าวิ่งพวกเขาถูกจับกรอกยาบางอย่างทำให้ไร้เรี่ยวแรงและหลับไป ทหารที่ทำหน้าที่คุ้มกันรถม้ากลับขึ้นมาดูพวกเขาเป็นระยะ สองพี่น้องฝาแฝดแสร้งหลับเพื่อไม่ให้ถูกกรอกยาอีกอวี้หลงใช้เท้าสะกิดน้องชายเบาๆ อวี้ชิงหรี่ตามองพี่ชายเล็กน้อย ทั้งสองพยักหน้าให้กันเป็นการสื่อสารที่เหมือนจะมีแค่พวกเขาที่เข้าใจ“เป็นอย่างไรบ้างพวกเขาตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่”เสียงหวานที่คุ้นหูทำให้นึกถึงสตรีผู้หนึ่งที่ท่านแม่แนะนำว่านางคือสหาย นางกล้าหักหลังท่านแม่แล้วจับตัวพวกเขามาหรือ ช่างน่าตายนัก“หลายวันมานี้พวกเขาฟื้นขึ้นมาไม่กี่ครั้งขอรับ ตอนนี้ยังคงหลับอยู่เพราะข้ากรอกยาสลายพลังไปแล้ว”ซูหลีพยักหน้า จากนั้นจึงเดินกลับขึ้นรถม้าคันที่อยู่ด้านหน้าพร้อมกับกั๋วจื่อชาง ไม่มีใครเอะใจเรื่องนี้เลยว่าพวกเขาจะแสร้งหลับเพราะคิดว่าเป็นเพียงเด็กหกขวบที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมเท่านั้น หลังจากที่ดื่มยาสลายพลังไปสองสามครั้งดูเหมือนฤทธิ์ยาจะค่อยๆ ไร้ผลและไม่สามารถทำอันใด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ลักพาตัว

    หลังงานเลี้ยงที่วังหลวง เหล่าราชทูตที่มาร่วมงานต่างทยอยเดินทางกลับแคว้นของตน องค์หญิงเซียวหมิ่นเองก็เช่นเดียวกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปเล็กน้อยคือ นางกลับไปที่แคว้นเซียวในครั้งนี้มีเว่ย หลี่หมิงตามนางกลับไปด้วย ส่วนทางด้านเว่ยอ๋องก็ต้องกลับไปเตรียม ของหมั้นและสินสอดเพื่อแต่งสะใภ้เข้าจวน“ข้าขอให้พวกท่านเดินทางปลอดภัย หากมีโอกาสข้าจะไปร่วมงานแต่งของท่านทั้งสอง”“ข้าไปก่อนนะพี่อาลู่ท่านอย่าลืมแวะมาหาข้าเล่า”เฉียวลู่ออกมาส่งขบวนราชทูตจากแคว้นเซียวและแคว้นเว่ยที่นอกเมือง องค์หญิงเซียวหมิ่นยังมีท่าทางอาลัยอาวรณ์ต่อนาง และไม่อยากกลับแคว้นเซียว“รีบออกเดินทางเถอะสายมากแล้ว”ทหารอารักขาให้สัญญาณ ขบวนรถม้าจากแคว้นเซียวจึงเริ่มเคลื่อนตัว“ข้าขอขอบคุณเว่ยอ๋องที่ช่วยเหลือและดูแลข้ามาถึงหนึ่งปี ในอนาคตหากท่านมีเรื่องเดือดร้อนใด ทั้งข้าและสำนักเซียนแพทย์จะเข้าช่วยเหลือท่านอย่างเต็มกำลัง”นางหันมาขอบคุณเว่ยอ๋องที่กำลังออกเดินทางเช่นเดียวกัน“ไม่เป็นไรมิได้ ที่ข้าช่วยพระชายาก็ถือว่าเราทั้งสองแคว้นมีวาสนาต่อกัน ในอนาคตหากข้ามีเรื่องเดือดร้อนข้าจะมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าแน่นอน”เว่ยอ๋องเอ่ยลาจากนั

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กรรมตามสนอง

    นางกำนัลที่พาเฉียวลู่มาที่ห้องรับรองครั้งแรกย่องกลับมาดูสถานการณ์ เมื่อได้ยินเสียงน่าบัดสีดังขึ้นข้างในนางจึงรีบกลับไปที่งานเลี้ยงทันที ผ่านไปไม่นานนางกำนัลกลับมาพร้อมราชทูตและขุนนางมากมาย รวมทั้งชินอ๋องผู้ที่จะมาเป็นพยานสำคัญในเรื่องนี้เสียงครางกระเส่าของบุรุษยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่เสียงของสตรีนั้นร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกขัดกันยิ่งนัก“นี่มันเรื่องอันใดกัน ในงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฝ่าบาท ใครช่างใจกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”ผู้ที่เอ่ยขึ้นคือราชครูเสิ่นบิดาของเสิ่นชิงหยุน ทุกคนที่ตามมาดูเรื่องสนุกต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“ผู้ที่อยู่ในห้องนั้นคือ....”นางกำนัลมองไปที่ฉีหมิงเยี่ยนก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความหวานกลัว“ผู้ใดกันเหตุใดถึงไม่ยอมพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด หากกระทำผิดย่อมต้องได้รับโทษเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนาง”ราชครูเสิ่นจ้องไปที่นางกำนัลอย่างไม่วางตา เพื่อกดดันให้นางเอ่ยชื่อผู้ที่กำลังแสดงฉากร่วมรักอยู่ภายในห้องออกมา“พระชายาชินอ๋องเจ้าค่ะ บ่าวทำหน้าที่นำทางพระชายาชินอ๋องให้มารอที่ห้องนี้ แต่ไม่คิดว่านางจะ...”ทุกคนต่างหันกลับมามองฉี

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status