บทที่6.ปะทะ
สีหน้าหงิกงอไม่ต่างอะไรกับม้าหมากรุก มือเรียวยกกอดอกแน่น หน้าเชิดขึ้นสูง ทอดสายตามองออกไปด้านนอก พยายามไม่เหลือบแลไปยังพื้นที่ข้างตัว
อันนาดื่มด่ำกับไอครีมถ้วยโปรด เด็กชายยิ้มหน้าระรื่น กับ ‘ลุง’ ใจดี โดยที่มารดานั่งหน้าหงิกอยู่ข้างๆ
“ลุงๆ วันหลังพาอันอันมาอีกนะคร๊าฟ” รสหวานในอุ้งปาก กับความตื่นตารอบตัว อันนาเลยติดใจ เขาเหมือนไข่ในหิน ไม่ว่าจะคุณตา คุณยาย แม่ ไม่มีคนไหนพาเขามาเที่ยวนอกบ้านบ่อยนัก
“อันอัน!! กลับไปบ้าน หม่าม๊ากับลูกคงต้องคุยกันเรื่องนี้”
เมรีกล่าวเสียงแข็ง อันนาเยาว์วัย จนไม่รู้ว่าใครมาดี มาร้าย และที่สำคัญ อันนาควรอยู่ห่างจากอีธานทุกทาง
“ครับ แต่...” เด็กชายรับคำเสียงอ่อย แต่เพราะความฉลาดทันคน เขาเลยพยายามแย้ง “คุณตางานยุ่ง คุณยายก็เอาแต่ไปสมาคมแม่บ้าน หม่าม๊าก็ทำงาน ไม่มีใครพาอันอันมาเที่ยวแบบนี้เลยอะ”
ครอบครัวเล็กๆ ของเธ
ตอนพิเศษ2 เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่แบบที่เมรีเองยังคิดไม่ถึง เธอได้ครองคู่กับผู้ชายที่สมบูรณ์พร้อม มีครอบครัวอบอุ่นห้อมล้อมไปด้วยวงศาคณาญาติเพิ่มมากขึ้นมากกว่าเก่า สายตาคนรอบตัวก็เปลี่ยนไป นับจากวันที่เดินร่วมทางกับอีธาน เสียงซุบซิบที่เคยมีห่างหายไปจนเกือบลืม...หากไม่ได้ยินใครบางคนพูดถึง...เพลินตานั่นเอง...วันนี้เมรีแวะมาหาสามีที่ทำงาน เธอหอบปิ่นโตเถาใหญ่มาด้วย เพราะวันว่างในแต่ละวันมีมากเสียจนนึกเบื่อ เมรีจึงฝึกทำอาหาร และอีธานก็มีหน้าที่ชิม...ทุกครั้งเมรีจะทำมื้อเย็นไว้รอสามี แต่วันนี้เธอรู้สึกกระตือรือร้นเป็นพิเศษ...จึงลุกขึ้นมาเตรียมทำอาหารตั้งแต่เช้า เป็นที่มาให้ตนเองมายืนอยู่ตรงนี้ และได้ยินคำนินทานั่นพอดี“เชอะ!! หล่อนคงคิดว่าตัวเองโชคดีจับผู้ชายรวยได้ เลยเดินเชิดหน้าเป็นคุณนาย พิโถ่!! ก็แค่ผู้หญิงมีราคี ท้องไม่มีพ่อ...จับพลัดจับผลูคว้าผู้ชายใจอ่อนมาเป็นพ่อของลูกได้...ฉันล่ะอยากขำให้ฟันโยก...กับความโง่!! ของผู้ชาย
พิเศษ....ห้องหอรอรัก... 2เดือนกว่าๆ กับการรอคอย...การเตรียมงานวิวาห์ของเมรีจบลงด้วยความพอใจของทุกคน...วันสำคัญที่ตั้งตารอ...ก็เคลื่อนที่มาถึงจนได้...สื่อให้ความสนใจและมาตั้งกล้องรอเก็บภาพหวานๆ ของคู่บ่าว-สาวหลังจากมีข่าวรั่ว!! ออกมาพอกระตุ้นความอยากรู้ของคนทั่วไปงานวิวาห์แสนหวาน ทีมงานหวานละมุนละไม มีแต่กลิ่นหอมฟุ้งของละอองเกสรดอกไม้สดเบ่งบาน แย้มกลีบแผ่กลิ่นหอมฟุ้ง...สักขีพยานคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เมื่อแต่ละคนร่วมอยู่ในแวดวงเดียวกัน มีแต่คนดังระดับประเทศ ที่เดินทางมาเป็นเกียรติให้คู่บ่าว-สาวหนุ่มสาวหลายคู่ เดินผ่านซุ้มหน้าประตูทางเข้า ต่างก็พากันอมยิ้มเมื่อแทนที่บ่าวสาวจะเป็นคนมาคอยรับแขกเหรื่อณ.จุดนั้น มีเด็กชายอายุสี่ขวบเป็นคนคอยต้อนรับแทนอันนาใส่สูทสีขาว คาดเอวด้วยผ้าสีแดงเข้ม เขายิ้มแป้นส
“เห้อ!!” ชายสูงวัยกว่าถอนใจดังๆ เขามองหน้าว่าที่ลูกเขยตรงๆ “นับวัน พวกคุณทั้งครอบครัวยิ่งรุกคืบเข้ามาในชีวิตอันอันมากขึ้น... ถามหน่อยเถอะ ต้องการอะไรกันแน่?” ไม่ว่าจะมาดามจาง ตัวลูกชายของมาดาม เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตประจำวันของหลานชาย จนเก่งกาจเริ่มหวั่นใจ วันใดที่พวกเขาทั้งหมดถอนตัวไป...อันนาล่ะ จะเป็นอย่างไร“ผมต้องการ ‘ครอบครัว’ นั่นหมายถึงทั้งเมรีและอันอันครั
บทที่18.ทวงรัก ทวงหัวใจ สายตาฝ้าฟางตามกาลเวลามองตามเด็กชายอ้วนท้วนคนหนึ่งไป อรัญนั่งมองนิ่งๆ เขาไม่ได้ปริปากพูดสักคำ หลังจากที่อีธานฉุดรั้งมาด้วยจนได้ ชายหนุ่มกระซิบบอกมารดา ถึงเรื่องที่จะทำ นางสนับสนุน เมื่อรู้ดีว่า อันนา น่ารักเพียงไหน หากสามียอมเปิดใจ เขาจะยอมรับอันนาได้ในไม่ช้า“อันอัน...ผู้ชายคนนั้นเป็น ‘ลุง’ หรือปะป๋าของอันอันกันแน่?”ระหว่างเล่นของเล่นในลานกว้างของโรงเรียนอนุบาลที่อันนาเป็นนักเรียนของที่นี่อันนาเบ้ปาก เด็กชายรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเพื่อนยังไง เมื่อมารดายังตีหน้านิ่ง ไม่ยอมตอบคำถาม ที่ตนเองวนเวียนถาม“ปะป๋า บอกเป็นปะป๋า ไม่ใช่ ‘ลุง’ แต่หม่าม๊ายังไม่ยอมตอบเลย”“ถ้าใช่ก็ดีเนอะ ปะป๋าอันอันหล่อเว่อร์” เพื่อนกล่าวเสียงดัง เพราะอีธานน่ะหล่อเด้ง บรรดาคนรุ่นเดียวกันไม่มีใครเที
“คุณลินคงปวดหัวสินะครับ” อีธานกล่าวยิ้มๆ“ค่ะ...ป๊าเอาแต่ใจตัวเอง ไม่นึกถึงใจลินเลย” หญิงสาวถอนใจแรงๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ“ผู้ใหญ่มักจะคิดว่าตัวเองทำถูก...พวกเขาลืมไปว่า หัวใจไม่ใช่แค่ก้อนเนื้อ แต่มันคือกลไกที่บงการตัวตนของเรา มั
บทที่17.ครอบครัวสุขสันต์ “พ่อเข้าใจหนูนะเมรี แต่ว่า...” เก่งกาจเปรยในตอนเช้า หลังจากออกไปส่งอันนาที่โรวเรียนประจำ เขาเจอบุตรสาวที่โต๊ะกินข้าว เมรีกำลังจิบกาแฟ สลับกับการค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานในแล็ปท็อปขนาดเท่าฝ่ามือ“พ่อคะ...หนูรู้ว่าพ่อจะพูดอะไร...เขาประกาศโจ่งแจ้งขนาดนั้นจะให้หนูเสนอหน้าพาอันอันเข้าไปร่วมวงศ์วานของเขาได้ยังไง” เมรีพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองบิดา ดังนั้นเก่งกาจจึงไม่เห็นรอยเจ็บช้ำในดวงตาบุตรสาว“เห้อ!!” ชายสูงวัยถอนใจแรงๆ เขาทรุดนั่ง เอื้อมมือจับมือเมรีไว้ “พ่อรู้...แต่อันนาต้องการพ่อนะลูก พ่อเขาก็ไม่ได้รังเกียจ เขาแสดงเจตตนาที่ดีและเต็มใจต้อนรับ”“ในฐานะอะไรล่ะคะ ‘ลูกนอกสมรส’ งั้นเหรอ?”เมรีเงยหน้าขึ้น เธอพูดเสียงสั่น ริมฝีปากสีระเรื่อสั่นระริก กับแรงกดดันจากภายในใจเก่งกาจอึ้ง! ความจริงที่เขาเองก