Home / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 2  การรอคอยนั้นคุ้มค่า... แค่กับคนที่สมหวังเท่านั้น

Share

ตอนที่ 2  การรอคอยนั้นคุ้มค่า... แค่กับคนที่สมหวังเท่านั้น

Author: Sitha
last update Last Updated: 2025-09-15 21:33:53

 

         

“ไปค่ะ  หนูจะเอาขนมอะไรแม่ให้เลือกได้สองอย่าง”  กัทลีจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อปากทางเข้าบ้านตามที่ลูก‍สาวร้องขอ

“ค่ะแม่  แม่อยากกินอะไรไหมคะ”  น้องบัวหันมาถาม

“เรามีกับข้าวที่คุณย่าทำมาให้เยอะแล้วนะลูก  ขนมก็มีไม่ใช่เหรอคะ”

เด็กน้อยพยักหน้าตาม  “จริงด้วยค่ะ  งั้นเอาขนมไปไว้เผื่อกินพรุ่งนี้นะคะแม่  พรุ่งนี้วันอาทิตย์เผื่อไม่ได้ออกมา” 

กัทลีนึกขำในความ “ยังไงก็จะเอา”  ให้ได้ของลูก‍สาว  กระนั้นเธอก็อนุญาตเพราะคิดว่าดีเหมือนกัน  พรุ่งนี้ลูก‍สาวจะได้ไม่รบเร้าให้พาออกมาซื้อของข้างนอกอีก

ใช้เวลาไม่นานสองแม่ลูกก็มาต่อแถวรอคิดเงิน  กัทลีมองเด็กวัยรุ่นในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายชายหญิงคิวก่อนหน้าตนเองสามคิว  ท่าทางบอกชัดว่าน่าจะเป็นคู่รักกันมากกว่าเพื่อน

“ตัวเองจะยื่นพอร์ตที่ไหน  เรายื่นที่เดียวกันนะ จะได้ไปเรียนที่เดียวกัน”  เด็กหนุ่มพูด

“เชียงใหม่ดีไหมเขาอยากไปเรียนเชียงใหม่  ไกลดี”  เด็กสาวหัวเราะคิกคัก  ก่อนจะพูดต่อ  “พูดเล่นน่ะ  เราว่าไปกรุงเทพฯ ดีกว่า  คณะ....น่าสนใจหรือตัวคิดยังไง” 

          “ก็ดีเหมือนกัน  คะแนนเขาน่าจะถึงเราเข้าวิศวะกันนะ  ถ้าได้เข้าที่เดียวกันจะได้อยู่หอด้วยกัน”   

          คู่รักวัยใสคุยกันกะหนุงกะหนิงไม่สนใจใคร  เมื่อถึงคิวชำระเงินเด็กหนุ่มหยิบถุงยางอนามัยที่วางตรงหน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์วางลงไปด้วยสามสี่กล่อง

หลังจากที่พวกเขาออกไปจากร้านสะดวกซื้อ  เสียงอื่นๆ ก็ดังขึ้นมาด้วยระดับความดังที่ได้ยินชัดเจนกันทั่ว

“เฮ้อ  เด็กสมัยนี้มันไวไฟดีจังเลยนะเธอ”  เจ้าของเสียงเป็นหญิงวัยกลางคนอายุน่าจะสักห้าสิบเศษ  พูดขึ้นมากับคนที่ต่อแถวเดียวกัน

"นั่นสิ แล้วเด็กอาไร้  ซื้อถุงยางหน้าตาเฉย  สงสารพ่อแม่จัง”

“อ้าวป้า  ซื้อถุงยางน่ะดีแล้ว  เด็กมันรับผิดชอบมันป้องกันตัวเองไม่ดีตรงไหน  จะได้ไม่ท้องตั้งแต่ยังเรียนแบบนั้นน่าอายกว่าอีก”  ชายคนหนึ่งฟังแล้วแย้งขึ้นมา  ทำให้สองป้าหันไปค้อนก่อนจะแยกย้ายเมื่อถึงคิวชำระเงินของตัวเอง

          กัทลีฟังทั้งหมดแล้วเรื่องในความทรงจำก็ผุดขึ้นมา  ในวันที่เธอและหิรัญเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก 

          “เราไปเรียนต่อด้วยกันนะกล้วย  ยื่นพอร์ตที่เดียวกันเลยหินว่ากล้วยผ่านอยู่แล้ว”

          “แต่ว่ามันไกลนะหิน  กรุงเทพฯ เลยเหรอ เรากลัวแม่ไม่ให้ไป”  กัทลีกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย  ไหนจะค่าหอ ค่าอยู่ ค่ากินต่อให้ยื่นกู้กยศ.ก็ต้องมีเงินสำรองจ่ายในเทอมแรก  ครอบครัวเธอไม่มีให้แน่

          “ไม่เป็นไร  เดี๋ยวหินขอให้พ่อแม่ช่วยออกให้ก่อน  ค่าหอก็ไม่ต้องห่วงเราไปอยู่หอนอกด้วยกันได้  ค่ากินก็กินด้วยกันมันจะสักเท่าไหร่  ถ้ากล้วยกลัวทุนได้ไม่พอเราก็ทำงานพิเศษเอาก็ได้”  หิรัญพูดด้วยท่าทางหนักแน่นจนเธอในวันนั้นเห็นดีด้วย

แต่ทุกอย่างก็พังลงเพราะเธอพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ก่อนวันเตรียมตัวเดินทางไปรายงานตัวพร้อมหิรัญไม่กี่วัน  กัทลีคิดจะเอาเด็กออกแต่มารดาและพี่ชายของเธอไม่ยอม  พวกเขาลากบุตรสาวที่กำลังท้องไปที่บ้านของหิรัญ  ไปโวยวายหน้าบ้านว่าจะแจ้งความจับหิรัญในข้อหาพรากผู้เยาว์ 

นายเหมและนางจันทร์‍หอมต้องออกมารับหน้าท่ามกลางเสียงโจษจันของชาวบ้านที่ได้ยิน  หิรัญไม่พอใจครอบครัวของเธออย่างหนักแต่ ณ วันนั้นเขาเองก็ไม่ได้อยากให้เธอทำแท้งเช่นกัน

มารดาของกัทลีเรียกร้องเงินค่าเสียหายไปได้ตามที่ต้องการ  จากนั้นพวกเขาก็ทิ้งลูก‍สาวไว้กับครอบครัวของหิรัญทันที

“แกก็อยู่ที่นี่ไปล่ะนังกล้วย  อย่าเอาหน้าแกกลับบ้านไปให้ฉันกับพี่น้องแกอับอายคนอีกเลย   แล้วถ้าวันหน้าผัวแกมันทิ้งแกขึ้นมาก็รู้ไว้แล้วกันว่าเป็นความผิดของแกเอง  หาทางดูแลตัวเองอย่ามาทำให้พวกฉันลำบากไปด้วย”   

นางกินรีหอบเงินสดจำนวนห้าแสนใส่กระเป๋าสะพาย  ขณะที่พี่ชายของกัทลีโยนกระเป๋าเสื้อผ้าของน้องสาวมาตรงหน้า

“เอ้า  กูเก็บมาให้แล้ว  มึงไม่ต้องกลับไปที่บ้านละนะนังกล้วย กูอายคนมีน้องสาวใจง่ายท้องตั้งแต่อายุแค่นี้” 

ครอบครัวของหิรัญจึงเป็นที่พึ่งเดียวที่เธอมีในตอนนั้น  หิรัญเป็นคนบอกให้กัทลีอยู่ที่บ้านของตัวเองเพื่อรอคลอด  และค่อยกลับไปเรียนในปีถัดไป  กัทลีไม่เห็นด้วยเขาจะทิ้งให้เธออยู่ที่นี่กับพ่อแม่เขาได้อย่างไร 

“เราจดทะเบียนกันก่อนไปก็ได้ถ้ากล้วยไม่เชื่อใจ”  หิรัญเสนอ

“หิน  พ่อว่าคิดดีๆ ก่อนไหมลูก  เรากับกล้วยอายุยังน้อยทั้งคู่นะ เรื่องจดทะเบียนยังมีเวลาเยอะแยะที่จะทำ”  นายเหมเตือนทั้งบุตรชายและแฟนสาวของลูก  

“พ่อบอกว่าลูกผู้ชายทำอะไรต้องรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ  หินทำให้กล้วยไม่ได้เรียนต่อ  ก็ควรจดทะเบียนกันก่อนให้กล้วยสบายใจไม่ดีเหรอพ่อ”  หิรัญยืนยัน

“ก็ดีเหมือนกันนะคุณ  หนูกล้วยจะได้สบายใจส่งผลดีกับหลานในท้องด้วย”  นางจันทร์‍หอมเห็นด้วยกับลูกชายเพราะความสงสารกัทลีในฐานะผู้หญิงด้วยกัน

หิรัญและกัทลีจึงได้จดทะเบียนสมรสกันโดยความยินยอมของบิดามารดาทั้งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย  โดยที่จดทะเบียนได้เพียงสองวันเขาก็ต้องเดินทางมารายงานตัวที่มหาวิทยาลัย

“กล้วยไม่ต้องกังวลนะ  ทำใจสบายๆ พ่อแม่หินเขาก็เอ็นดูกล้วยดี  รอคลอดแล้วปีหน้ากล้วยตามไปเรียนต่อด้วยกันที่โน่นก็ได้  เดี๋ยวหินช่วยติวให้เอง”

“สัญญานะหิน” 

“หินสัญญา  กล้วยรอวันนั้นได้เลย” 

แต่คำสัญญาหนักแน่นก็กลายเป็นเพียงแค่สายลม  หิรัญเรียนหนักจนลืมเธอ  ไม่มีเวลาให้แม้แต่วันที่กัทลีคลอดลูกเขาเองก็ไม่ได้มาเยี่ยม  โทรไปทีไรเขาไม่เคยว่างคุยด้วยโดยที่บอกว่าเรียนหนัก งานเยอะกิจกรรมก็เยอะ  ช่องว่างของทั้งสองห่างกันเรื่อยๆ จนกัทลีได้รู้ว่า

การรอคอยนั้นจะคุ้มค่า... เฉพาะแค่กับคนที่สมหวังเท่านั้น

“สวัสดีค่ะคุณลูกค้า  รับอะไรเพิ่มเติมไหมคะ”  เสียงพนักงานที่ถามดึงหญิงสาวออกจากภวังค์  กัทลีสะดุ้งเล็กน้อยปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะตอบ

“ไม่มีแล้วค่ะ”  

“ทั้งหมดสี่ร้อยห้าสิบบาทค่ะ  ลูกค้ามีรหัสสมาชิกไหมคะ”  พนักงานสาวถามตามขั้นตอนปกติ  ซึ่งน้องบัวชมพูก็รีบตอบแทน

“มีค่ะ  เดี๋ยวหนูกดเอง” 

เด็กหญิงขยับมาตรงหน้าเครื่องอ่านรหัส  และกดเบอร์โทรศัพท์ของมารดาที่เธอจำได้ขึ้นใจลงไปบนเครื่องนั้นอย่างคล่องแคล่ว  กัทลีชำระค่าสินค้าเป็นธนบัตรสีม่วง  เธอรอรับเงินทอนและใบเสร็จแล้วจึงพาลูกออกจากร้านไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status