หน้าหลัก / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

แชร์

ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

ผู้เขียน: Sitha
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-28 01:28:38

 

วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืน

บัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์

งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตร

บัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบ

เสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป็นทางการ บัวชมพูก้าวขึ้นเวทีไม้เล็กๆ พร้อมไมค์ในมือ และมองไปยังแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่เกษตรจากหน่วยงานราชการในท้องถิ่น เพื่อนและอาจารย์ที่เธอเชิญมาจากมหาวิทยาลัย เพื่อนบ้าน รวมถึงลูกค้าที่ติดตามฟาร์มจากเพจตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ

“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าวเสียงใส

“วันนี้เป็นวันที่บัวตื่นเต้นมากเลยนะคะ เพราะเรากำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปชุดแรกของฟาร์มบัวชมพู ทั้งแยมเม‍ล่อนสูตรไม่ใส่น้ำตาล และน้ำผลไม้ที่เราใช้เม‍ล่อนที่ปลูกด้วยวิธีการแบบออร์แกนิก 100% ซึ่งสินค้า[1]ออร์แกนิกของเราได้รับใบรับรองมาตรฐานเรียบร้อยแล้วค่ะ” 

เธอหยุดกวาดสายตามองไปรอบๆ เป็นหนึ่งในการส่ง “อาย

คอนแท็กต์" (Eye Contact) หมายถึง การสบตาหรือการจ้องมองกันระหว่างบุคคลสองคน. การสบตาไม่ใช่แค่การมองหน้ากัน แต่ยังเป็นการสื่อสารที่ซับซ้อนและมีความหมายมากยิ่งขึ้น

“หลายคนคงเคยได้ยินชื่อฟาร์มนี้ผ่านเพจบ้างแล้วนะคะ ฟาร์ม

บัวชมพูไม่ใช่แค่สถานที่ แต่มันเป็นชีวิตค่ะ ชีวิตของคนสองคนที่กลับมารักกันอีกครั้ง แล้วตัวบัวเองโตมากับเม‍ล่อน ดอกไม้ผลไม้ในฟาร์ม ต้นกล้วยกัทลีและทุ่งทานตะวันตรงหน้าทุกคน”

เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือดังขึ้นเบาๆ เมื่อเธอกล่าวถึงชื่อพืชที่พ่อแม่เธอใช้ตั้งชื่อตามเธอเองและแม่

“บัวอยากให้ฟาร์มนี้เป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่แค่ปลูกพืช แต่เป็นการปลูกความฝันค่ะ  บัวอยากเปิดเวิร์กช็อปสำหรับเด็กๆ อยากให้เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ในเรื่องดิน น้ำ และการให้โอกาส  อยากเห็นการพัฒนาพื้นที่ของจังหวัดเราให้เป็นพื้นที่การเกษตรที่มีคุณภาพ เพราะว่าการเกษตรคือหัวใจของคนไทย  เป็นอาชีพดั้งเดิมของเราที่จะส่งเสริมให้คนวัยทำงานรักในบ้านเกิดมากขึ้น” เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย

“เพราะบัวเชื่อว่าทุกสิ่งที่เติบโตมาจากความรัก... จะยังคงเติบโตได้อย่างมั่นคงเสมอ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ ท่านที่ทำให้บัวเติบโตมาอย่างดี จนมายืน ณ ตรงจุดนี้ ในวันนี้ได้ค่ะ”

ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังขึ้น หิรัญกับกัทลีนั่งอยู่แถวหน้าสุด จับมือกันแน่นโดยไม่ต้องพูดอะไร น้ำตาในดวงตาของแม่พราวระยิบ ส่วนพ่อก็แค่ยิ้มเงียบๆ แบบผู้ชายที่พูดไม่เก่งแต่รู้สึกทุกอย่างเต็มหัวใจ

หลังจากเปิดงานแล้ว บัวชมพูเดินไปที่โต๊ะสาธิตผลิตภัณฑ์ที่มี

เด็กๆ จากโรงเรียนประถมมาทัศนศึกษาอยู่พอดี เธอชวนเด็กๆ มาทดลองชิมแยม และเล่าให้ฟังถึงขั้นตอนตั้งแต่การปลูก การดูแล ไปจนถึงการคัดผลไม้แต่ละรุ่น

ช่วงบ่ายหลังงานเลิก บัวชมพูนั่งพักใต้ต้นกระท้อนที่เธอเคยเล่นเมื่อตอนเด็กๆ มีแมวจรสีขาวเดินมาคลอเคลียข้างขา หิรัญเดินมาพร้อมกาแฟเย็นในมือสองแก้ว ยื่นให้ลูกหนึ่งแก้ว อีกแก้วเก็บไว้ให้แม่

“เก่งมากลูก” เขาพูดเพียงเท่านั้น แต่แววตาอ่อนโยนคู่นั้นบอกทุกอย่าง

บัวชมพูยกมือทำท่าคำนับ “ขอบพระคุณค่ะ ท่านประธาน”

“ต่อไปนี้พ่อขอเป็นที่ปรึกษาแล้วนะ ให้แม่เป็นกรรมการ และหนูเป็นผู้บริหาร”

“ตกลงค่ะ” เธอยิ้มกว้าง “แต่คุณพ่อห้ามหวงลูก‍สาวตอนหนูทำงานนะคะ”

“สัญญา... พ่อจะหวงแค่เวลาที่หนูมีแฟนเท่านั้นแหละ”  พวกเขาหัวเราะพร้อมกัน ก่อนจะมองออกไปยังแปลงเม‍ล่อนที่กำลังจะได้ฤดูปลูกใหม่

แม้วันเวลาจะพาให้ต้นไม้เติบโตขึ้น แปลงผักเปลี่ยนไป และเจ้าของฟาร์มจะผลัดรุ่น แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือหัวใจของบ้านหลังนี้ หัวใจที่ยังเต้นเป็นจังหวะเดียวกันเสมอ

และ ฟาร์มบัวชมพู ก็จะไม่มีวันเป็นเพียงแค่ที่ดิน... แต่จะเป็นความรักที่ปลูกได้ เป็นบ้านที่เติบโตขึ้นพร้อมกับคนที่รักกันอย่างไม่มีเงื่อนไข... ด้วยหัวใจ

บัวชมพูเงยหน้ามองต้นกระท้อนที่แผ่กิ่งใบเหนือศีรษะ บางใบไหวสะเทือนตามแรงลมเย็นยามเย็น เธอจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเธอเคยซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดแม่ในวันที่ร้องไห้  เพราะโดนเพื่อนล้อเรื่องไม่มีพ่อ  เคยแอบเห็นพ่อแม่เย็นชาต่อกัน  เคยเห็นแม่เงียบและเก็บทุกอย่างไว้ในใจ  เธอเติบโตมากับรอยร้าวและการเรียนรู้จะประสานมันเข้าด้วยกันอีกครั้ง

วันนี้เธอเติบโตแล้ว และรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การมีพร้อมทุกอย่าง แต่คือการยอมรับว่าเราสามารถเริ่มใหม่ได้เสมอ... ตราบใดที่ยังมีคนรอให้เรากลับมา

เธอลูบหัวแมวจรเบาๆ แล้วพูดกับมันว่า “บ้านก็คือที่ที่มีคนรอเราอยู่ ไม่ว่าเราจะกลับมาเวลาไหนใช่ไหม”

เจ้าแมวส่งเสียงเหมียวคล้ายตอบกลับ หิรัญหัวเราะพลางลูบหัวลูก‍สาวอีกทีเบาๆ

“พรุ่งนี้ช่วยพ่อเช็กระบบน้ำในโรงเรือนใหม่นะลูก จะมีคนจากมหาวิทยาลัยมาดูงานรอบเช้า”

“ได้เลยค่ะ พ่อรบกวนส่งตารางให้ผู้บริหารด้วยนะคะ” เธอแกล้งพูดจริงจัง หิรัญหัวเราะพลางยกมือทำความเคารพอีกครั้ง

“รับทราบค่ะ คุณผู้บริหาร”

และเสียงหัวเราะก็ยังคงดังก้องไปทั่วฟาร์มบัวชมพู... ที่ที่ความรักงอกงามได้เสมอ

จบบริบูรณ์

[1]  สินค้าออร์แกนิก (Organic Product) คือสินค้า ทั้งของกินและของใช้ ที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีในกระบวนผลิตและแปรรูป ใช้วัตถุดิบสารสกัดจากธรรมชาติ

ออร์แกนิกปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คำว่าออร์แกนิกนั้นสามารถใช้ได้ทั้งกับของกินและของใช้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status