หน้าหลัก / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

แชร์

ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

ผู้เขียน: Sitha
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-28 01:27:51

เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง  ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น  แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้

หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ

“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้

เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ   เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที

“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ  คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”

ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร

“รับทราบค่ะ  หัวหน้าบัว”  

เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล  เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี   ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป  ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

“คุณพ่อดูสิคะ  ลูกนี้แดงจัดเลยต้องเป็นแบบ ‘หวานจัดแบบบัวเลือกเอง’ แน่ๆ เลยค่ะ” เด็กหญิงพูดอย่างมั่นใจพลางเด็ดผลลงใส่กล่อง

“โอ้โฮ หัวหน้าบัวชำนาญการมากเลยครับ แบบนี้ต้องให้โบนัสพิเศษ”  หิรัญตอบพลางหยิบผลสตรอว์เบอรี่มาชูเหมือนรางวัล

เดินไปได้ไม่ไกล  เด็กหญิงก็หยุดลงแล้วเงียบไปเล็กน้อยเหมือนคิดอะไรบางอย่างก่อนเอ่ยเสียงเบาว่า

“คุณพ่อรู้ไหมคะ ตั้งแต่คุณพ่อกลับมา หนูไม่เคยฝันร้ายแบบนั้นอีกเลย”

หิรัญชะงัก  “ฝันร้ายแบบไหนเล่าได้ไหมคะลูก”

“หนูเคยฝันว่าแม่ร้องไห้   เคยฝันว่าหนูอยู่ในโรงเรียนคนเดียว ไม่มีใครมารับ  ตอนพ่อกลับมาแรกๆ หนูเคยกลัวว่าคุณพ่อจะไม่รักเราแล้วไปทำงานที่อื่นอีก  แต่ตอนนี้หนูไม่ฝันแบบนั้นแล้วค่ะ”

ชายหนุ่มค่อยๆ ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาของลูก มือข้างหนึ่งวางบนบ่าของบัวชมพูเบาๆ อีกข้างยกขึ้นลูบผมเธออย่างอ่อนโยน

“พ่อขอโทษที่เคยทำให้หนูฝันแบบนั้นนะลูก  พ่อสัญญาว่าต่อไปนี้พ่อจะอยู่ตรงนี้ทุกวัน  จะปลูกต้นไม้กับหนู  จะทำฟาร์มของเราไปเรื่อยๆ จะไม่หายไปไหนอีกแล้ว”

บัวชมพูพยักหน้าเบาๆ เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่รอยยิ้มบนริมฝีปากและแววตาอบอุ่นของเธอเป็นคำตอบที่ชัดเจนกว่าคำพูดใดใด

บ่ายวันนั้นทั้งสองคนช่วยกันเก็บผลสตรอว์เบอรี่จนเต็มกล่อง กล่องหนึ่งตั้งใจจะเก็บไว้ให้แม่ อีกกล่องบัวชมพูบอกว่า

“หนูจะเอาไปให้คุณครูค่ะ หนูจะเขียนการ์ดด้วยว่า  นี่คือสตรอว์เบอรี่จากฟาร์มของคุณพ่อหนู หนูช่วยคุณพ่อเก็บเองเลยนะคะ”

หิรัญได้แต่ยิ้ม เขามองลูก‍สาวที่เดินล่วงหน้าไปพร้อมกล่องผลไม้ในมือเล็กๆ แล้วรู้สึกว่าคำว่า "เป็นพ่อ" ไม่ใช่เพียงคำเรียกขาน แต่มันคือบทบาทที่ต้องใช้หัวใจในการเติมเต็มและวันนี้หัวใจของเขาก็เต็มเสียยิ่งกว่าเต็ม

หลายปีต่อมาปีนี้น้องบัวอายุสิบสี่ปีแล้ว  เป็นวัยที่เริ่มมีความลับเธอเป็นวัยรุ่นเต็มตัว  เริ่มมีเพื่อนสนิทที่พูดถึงบ่อย ๆ และบางครั้งก็ตอบไลน์แม่สั้นลงต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น  หิรัญเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของลูก‍สาวคนเดียวอย่างชัดเจน

วันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง พ่อกับลูก‍สาวนัดกันปลูกสตรอว์เบอรี่พันธุ์ใหม่หน้าบ้าน หิรัญตั้งใจปลูกไว้ให้ลูกดูแลเอง โดยให้เธอเลือกตำแหน่งเองทั้งหมด เด็กหญิงยิ้มกว้างและมีสมุดบันทึกวิธีดูแลในมือ

“พ่อคะ หนูว่าวางไว้ใกล้ ๆ ต้นสะระแหน่ได้ไหม หนูชอบกลิ่นมันมากเลย”

“ได้เลยลูก พ่อว่าสตรอว์เบอรี่กับสะระแหน่ก็เข้ากันดีนะ  ถ้าเป็นสูตรเครื่องดื่มของฝรั่งอย่างเมนูสตรอว์เบอรี่มิ้นต์* พ่อว่าก็น่าจะเข้ากันดี” หิรัญตอบ ขณะขุดหลุมตามตำแหน่งที่ลูก‍สาวกำหนด

(*มิ้นต์และสะระแหน่  เป็นพืชในตระกูลเดียวกัน มีความคล้ายกันมากและมีจุดต่างกันคือ  มิ้นต์มีความเข้มข้นมากกว่า หอมกว่าและมีเมนทอลมากกว่า  โดยเฉพาะเปปเปอร์มิ้นต์” 

          “งั้นเราเพิ่มเมนูที่คาเฟด้วยดีไหมคะพ่อ  หนูว่าตอนนี้เขานิยมมิ้นต์กับมัทฉะค่ะ” 

“ก็ดีนะลูก  ช็อกโกแลตมิ้นต์แต่เราสองพ่อลูกแพ้ช็อก  งั้นก็กิน

สตรอว์เบอรี่มิ้นต์น่าจะดี  หรือไม่ก็เพียวมัทฉะเพื่อสุขภาพ”

“เดี๋ยวหนูไปบอกแม่ค่ะ  ดีใจจังเลยจะได้ชิมตัวอย่างเมนูใหม่แล้ว”  เด็กหญิงพูดถึงเมนูใหม่จนคุณพ่อมองอย่างเอ็นดู

แต่ระหว่างพักกินน้ำเย็นใต้ต้นกระท้อน หิรัญก็ถามขึ้นว่า

“น้องบัวคะ... เพื่อนผู้ชายที่มาบ่อยๆ นี่ชื่ออะไรนะ พ่อจำไม่ได้สักที”

เด็กหญิงหันมามองหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ “พ่อจะหวงหนูเหรอคะ”

“พ่อไม่หวง... แค่สงสัยเฉยๆ ว่าเด็กคนนั้นดีพอจะปลูก

สตรอว์เบอรี่กับเราหรือเปล่า”

“เขาช่วยหนูหาฟางคลุมดินได้นะคะพ่อ”

เด็กหญิงตอบแบบขำๆ แล้วเสริมว่า “แต่หนูสัญญาว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หนูก็จะเลือกคนที่รักธรรมชาติและครอบครัวเหมือนพ่อกับแม่  แต่ตอนนี้หนูยังไม่อยากมีแฟนหรอกค่ะพ่อ”

“แล้วแม่ของหนูเจอเพื่อนคนนี้หรือยังคะ”  ชายหนุ่มถามต่อ  ลูก‍สาวจึงพยักหน้ารับ

“เคยเจอแล้วค่ะ แม่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน  ช่วยเหลือกัน ชวนกันอ่านหนังสือแม่ไม่ว่าค่ะ”

เขารู้ว่าภรรยาของเขาฉลาดเสมอ  เธอให้พื้นที่ลูกในการเป็นตัวของตัวเอง  ให้น้องบัวได้ทำอะไรตามวัยโดยไม่ขัดแต่มีกรอบแบบหลวมๆ จนไม่มีใครอึดอัด 

“แม่ว่าไง  พ่อก็ว่างั้นล่ะลูก” 

หิรัญยิ้ม แล้วเอื้อมมือไปลูบศีรษะลูกเบาๆ  ลูก‍สาวเขาโตแล้ว แต่ในหัวใจของเขา เธอยังเป็นเจ้าหญิงตัวเล็กคนเดิมเสมอ

เขาหันไปมองต้นสตรอว์เบอรี่แถวใหม่ที่พวกเขาช่วยกันปลูก และเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นลูก‍สาวจดโน้ตในสมุดด้วยลายมือหวัดๆ

 “รดน้ำทุกเย็นหลังกลับบ้าน” เขาไม่แน่ใจว่าฟาร์มนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนในอนาคต แต่เขารู้แน่ชัดว่าทุกสิ่งที่ปลูกลงไปด้วยใจ จะไม่มีวันสูญเปล่า

เพราะลูก‍สาวของเขา... กำลังเติบโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่รู้จักดูแลหัวใจของตนเองและของผู้อื่นได้อย่างงดงาม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status