หน้าหลัก / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 3  ในระหว่างที่เราเติบโต  เราทำอะไรในชีวิตหล่นหายไปบ้าง

แชร์

ตอนที่ 3  ในระหว่างที่เราเติบโต  เราทำอะไรในชีวิตหล่นหายไปบ้าง

ผู้เขียน: Sitha
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-15 21:34:44

 

กัทลีมาถึงบ้านแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่มารอ  หิรัญนั่นเองเธอมองชายหนุ่มอย่างสงสัยว่าเขามาที่บ้านนี้ทำไมกัน

“กล้วย น้องบัว”  ชายหนุ่มลุกจากเทอเรซหน้าบ้านทันที  เขาว่าเขาตามเธอออกมาจากบ้านเวลาห่างกันไม่ถึงยี่สิบนาที  แต่มาถึงไม่เจอใครและต้องมานั่งรออยู่เกือบชั่วโมงแล้ว

“มาที่นี่มีอะไรเหรอหิน” 

น้ำเสียงของกัทลีราบเรียบจนหิรัญเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่เขากลับมาที่นี่อดีตภรรยาไม่เคยแสดงอาการเหวี่ยงวีนหรือโกรธเขาเลยสักครั้ง  ต่างจากเมื่อเจ็ดปีก่อนลิบลับที่หลังจากคลอดน้องบัว  กัทลีมักจะโทรหาเขาในตอนค่ำๆ  หิรัญในตอนนั้นเรียนปีหนึ่งเทอมสองเป็นช่วงที่ชีวิตในรั้วมหาลัยเริ่มลงตัว   มีสังคมใหม่  มีกิจวัตรใหม่ แรกๆ เขาก็รับสายของเธอดี 

แต่ช่วงหลังหิรัญเริ่มติดเพื่อน  เริ่มมีไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทในคณะซึ่งส่วนมากก็เป็นการเที่ยวกลางคืน  ทำให้เขาเริ่มไม่อยากรับสายกัทลีถึงรับก็พูดด้วยความเร่งรีบจนเธอเริ่มระแวงและหาเรื่องว่าเขาเปลี่ยนไป 

เมื่อถูกโวยวายชวนทะเลาะบ่อยๆ เขาเริ่มไม่รับสาย  และยกเลิกการกลับบ้าน  และจนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนไหนก็ไม่รู้ที่เขาไม่ได้สังเกตว่าเธอไม่ได้โทรหาเขาอีกเลย

“เอ่อ  ผมมาหาน้องบัวน่ะ  ซื้อของมาฝากจากในเมือง”  เขามองไปทางด้านหลังที่มีเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบยืนหลบอยู่หลังมารดา

“น้องบัวลูก  พ่อมาหาค่ะ  พ่อซื้อขนมมาให้หนูด้วยค่ะ”  หิรัญยื่นมือไปจะจับตัวเด็กหญิง  แต่น้องบัวเอี้ยวตัวหนีทันทีเธอหันไปถามมารดาด้วยความตกใจ

“ใครคะแม่” 

หิรัญชะงักเมื่อได้ยินคำถามนั้นจากปากลูก  ชายหนุ่มเงยหน้ามองกัทลีที่มองเขาด้วยสายตาเหมือนจะสมเพช

“คุณพ่อไงคะลูก  พ่อเขามาหาน้องบัวน่ะไปหาพ่อไหมคะ”  คนเป็นแม่หันไปบอกลูกอย่างอ่อนโยน  แต่เด็กหญิงส่ายหน้าหวือแทบไม่ต้องคิด

“ไม่ค่ะ  หนูไม่รู้จักคนชื่อพ่อ  แม่คะหนูจะเข้าบ้านแล้วหนูกลัว”  เด็กหญิงวิ่งไปทางตัวบ้านทันทีทำให้หิรัญมองตามไป

กัทลีมองขนมที่ชายหนุ่มถือมา  เธอพูดเสียงราบเรียบหนักกว่าเดิมแต่ก็ทำให้คนฟังหน้าชาได้ 

“คุณกลับไปเถอะ  ลูกไม่เคยเห็นหน้าคุณ ไม่เคยรู้จักพ่อ  ที่แกเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลก  ส่วนขนมนั่น...”  เธอหยุดมองหน้าเขาก่อนจะพูดต่อ 

“น้องบัวแพ้โกโก้คุณเอาช็อกโกแลตกลับไปเถอะ”

“ผมไม่รู้ว่าลูกแพ้โกโก้  ขอโทษนะ... ทำไมกล้วยไม่เคยบอก...”  หิรัญยังพูดไม่จบก็ต้องชะงักเมื่อกัทลีแทรกขึ้นมา

“ฉันเคยบอกคุณทุกเรื่องที่จำเป็นและสำคัญเกี่ยวกับลูก  ตั้งแต่ลูกเกิดจนถึงวันที่ลูกเข้าโรงเรียน” 

หิรัญพยายามคิด 

“ไม่นะกล้วย  คุณไม่เคยบอกผมจริงๆ เรื่องสำคัญถ้าคุณบอกผมก็น่าจะจำได้สิ”

“ฉันบอกไปในไลน์  ตั้งแต่น้องบัวเกิดใหม่ๆ ฉันโทรไปคุณก็ไม่อยากรับสาย  จนฉันเลิกโทรและใช้ไลน์ติดต่อคุณแทน  น้องบัวป่วย ไม่สบาย หาหมอ  ฉีดวัคซีน  คว่ำ คลาน ตั้งไข่ หัดเดิน  หัดพูด  ไม่มีอะไรที่ฉันไม่บอก  แต่คุณไม่เคยเปิดอ่านจนถึงวันที่ลูกเข้าอนุบาลฉันก็เลิกส่งข้อความหาคุณ  แล้วจะมาอยากรู้ตอนนี้ไม่สายไปหน่อยเหรอ” 

กัทลีเชิดหน้ากะพริบตาถี่ๆ “คุณกลับไปเถอะ  ไปใช้ชีวิตโสดของคุณแบบที่เคยเป็น  ลูกไม่ใช่ตุ๊กตาไม่ใช่หมาแมวที่พอคิดถึงเมื่อไหร่  ว่างเมื่อไหร่ก็จะมาเล่นด้วยพอหมดความสนใจแล้วก็ปล่อยแกไว้ที่เดิม” 

“ผมไม่เคยคิดแบบนั้นกับลูกนะกล้วย  พูดเกินไปหรือเปล่า”   ผู้หญิงมักจะดรามาแบบนี้เสมอใช่ไหม  นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาบอกตัวเองในเวลาที่รู้สึกผิดเรื่องกัทลีมาตลอดหลายปี 

“ฉันไม่มีเวลามาเถียงกับคุณหรอกหิน  ว่าอะไรที่เกินไปหรือไม่เกินแล้วก็ไม่รู้จะทำไปทำไมด้วย  คุณจะคิดยังไงก็ไม่มีผลกับฉันกับลูกคุณกลับไปได้แล้ว  ตอนนี้จะค่ำยามวิกาลฉันไม่ต้อนรับแขก”  

หญิงสาวเปิดประตูด้านหลังหยิบตะกร้าที่หิ้วมาจากบ้านปู่ย่าขึ้นมาก่อนจะกดล็อกรถ

ชายหนุ่มมองตามกัทลีเข้าบ้านไปพร้อมลูก  เขาเห็นเธอปิดประตูหน้าบ้านลงกลอนแน่นหนาจึงถอนใจ  หิรัญกลับเข้าไปนั่งในรถอยู่พักใหญ่  เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโปรแกรมสนทนาที่อดีตภรรยาพูดถึงเมื่อครู่  ไล่หาชื่อของเธอที่มันแทบจะอยู่ท้ายสุดของหน้าสนทนา 

เหตุเพราะเขาเคยตั้งปิดการแจ้งเตือนข้อความจากเธอและลืมเรื่องนี้ไปสนิทใจ  แต่เพราะว่ามันต้องย้อนไปไกลหลายปี  หิรัญจึงเปิดโน้ตบุ๊กที่วางอยู่บนเบาะข้างตัว  เขาเปิดโปรแกรมไลน์ในเวอร์ชันสำหรับคอมพิวเตอร์ดูข้อมูลและข้อความเก่าๆ ย้อนหลัง

หิรัญไล่ดูข้อความมากมายที่กัทลีเคยส่งหาเขาในช่วงแรกๆ หลังลูกคลอดแทบจะเป็นวันเว้นวัน  หลังจากนั้นมันเริ่มห่างเป็นเดือนละครั้ง 

จนถึงเป็นการส่งข้อความบอกเรื่องพัฒนาการของลูก  และจากสองสามเดือนครั้งก็กลายเป็นไม่มีข้อความจากเธออีกเลยเมื่อลูกอายุครบสามขวบ

ชายหนุ่มย้อนอ่านข้อความทั้งหมด  แปลกใจว่าทำไมตัวเองในตอนนั้นจึงไม่อยากรู้เรื่องของน้องบัวสักนิด  แต่ในตอนนี้เขากลับอยากจะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับลูก‍สาวและความอยากรู้นั้นก็เลยไปยังแม่ของเธอหรืออดีตภรรยาด้วย 

ชายหนุ่มกดที่ขมับเมื่อรู้สึกปวดศีรษะ  เหมือนถูกทุบด้วยของแข็งจนมึนงง  เขาเริ่มถามตัวเองว่าที่ผ่านมาเจ็ดแปดปีเขาทำให้กัทลีและน้องบัวหล่นหายไปจากชีวิตตอนไหน  เขาอยู่ตรงนั้นอีกหลายนาทีก่อนจะตัดสินใจยอมถอยไปก่อน  เพราะรู้ว่าถึงอยู่ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไรในวันนี้  ถึงอย่างไรลูกก็ยังไม่ยอมรับเขาแน่ๆ

“แม่  ลุงคนนั้นเขากลับไปแล้วค่ะ”  น้องบัวแอบเลิกผ้าม่านมองที่หน้าบ้านและเห็นว่าชายคนที่คุณแม่บอกให้เธอเรียกว่าพ่อเขาถอยรถกลับออกไปแล้ว

“ค่ะลูก  น้องบัวหิวหรือยังคะ  แม่อุ่นกับข้าวให้แล้วนะ”  กัทลีเบี่ยงเบนความสนใจของลูกจากหิรัญ  เธอไม่มีหน้าที่อะไรช่วยเขาในเรื่องของลูกหรือช่วยให้น้องบัวยอมรับพ่อแต่อย่างใด

“แม่ขา  ทำไมตรงรั้วบ้านเราไม่มีประตูคะ  น้องไม่ชอบเลย”  เด็กหญิงมองบริเวณบ้านของตนซึ่งเป็นลักษณะชุมชนต่างจังหวัดทั่วไป  ใช้แนวต้นไม้เป็นการแสดงอาณาเขตและไม่จำเป็นต้องมีประตูปิดเปิดเป็นเรื่องเป็นราว  เนื่องจากคนในละแวกนี้ก็รู้จักกันดีทั้งนั้น

“ทำไมเหรอคะลูก  หนูอยากได้ประตูใหญ่เหรอ”  กัทลีถามงงๆ

“ใช่ค่ะแม่  หนูไม่อยากให้ผู้ชายคนเมื่อกี้เขาเข้ามาได้อีก  แม่ทำประตูนะคะเราจะได้ปิดประตูไม่ให้เขามา” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 7  คำว่าแม่ไม่ใช่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบายๆ

    “แม่ต้องย้ายที่ทำงานพรุ่งนี้แต่โรงเรียนหนูยังไม่ปิดเทอม หนูไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าก่อนนะคะลูก แล้ววันหยุดแม่จะมารับไปนอนค้างกับแม่” “ค่ะแม่ หนูอยู่กับปู่ย่าได้แต่แม่อย่าลืมมารับหนูเย็นวันศุกร์นะคะ” เด็กหญิงกำชับ“แม่ไม่ลืมแน่นอนค่ะ ใครจะลืมลูกทั้งคนเนอะ” ใครจะลืม ถ้าไม่ใช่อดีตสามี ‘ไอ้บ้าหิน’ หญิงสาวอดคิดด่าฝ่ายนั้นในใจไม่ได้“โอเค นอนนะคะลูก คืนนี้แม่ขอนอนกอดหนูหน่อยนะคะ พรุ่งนี้แม่ต้องไปแล้ว” หญิงสาวเอื้อมมือไปหรี่ไฟเอนตัวนอนกอดเด็กหญิงไว้หลวมๆ ยังไม่ทันได้ห่างกันจริงๆ เธอก็ใจจะขาด แล้วต้องไปอยู่โน่นคนเดียวเป็นเดือนเธอจะทนไหวไหม กัทลีถามตัวเองเช้าวันต่อมากลุ่มเพื่อนๆ มาช่วยกัทลีขนของย้ายบ้านโดยที่เธอจะขนของที่จำเป็นไปทั้งหมดทีเดียว ยกเว้นของใช้ส่วนตัวของน้องบัวที่จะขนไปไว้ที่บ้านปู่เหมย่าจันทร์ชั่วคราว ในขณะที่เริ่มขนของขึ้นท้ายรถกระบะของวาตะที่ชายหนุ่มนำรถที่บ้านมาช่วยย้าย หิรัญก็ขับรถปิคอัพมาจอดที่หน้าบ้าน“ให้ไอ้หินมาช่วยขนของด้วยเหรอกล้วย” สไบนางถามเพื่อน“เปล่า ฉันยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าจะย้าย” กัทลีตอบพลางเดินไปหาแขกที่ไม่ได้เชิญว่าเขามาทำไม“คุณมาทำอะไรหิน”

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 6  จัดการเรื่องลูกก่อน  ส่วนแม่ค่อยว่ากัน

    น้องบัววิ่งเข้าไปหลบหลังแม่แล้วค่อยๆ โผล่หน้ามามองคนเป็นพ่อ หลังจากที่เห็นกันมาหลายครั้งแล้วเธอจึงไม่ตกใจมาก แต่ก็ยังมีท่าทีระแวงอยู่หิรัญย่อตัวลงนั่งลงบนส้นเท้าตัวเองเพื่อให้ใบหน้าตัวเองอยู่ในระดับสายตาของเด็กหญิง “น้องบัวคะพ่อมาหาค่ะลูก หนูออกมาหาพ่อได้ไหมคะ” “พ่อ...” เด็กหญิงทวนคำ “พ่อมาทำไมคะ” เพราะว่าเธอจำได้ว่าคนที่แม่เคยแนะนำว่าเป็น “คุณพ่อ” ช่วยเธอและแม่ไม่ให้คุณยายตีเมื่อเช้าวันนี้ เด็กหญิงจึงลดท่าทีไม่เป็นมิตรลงไปบ้างถ้าเทียบกับปฏิกิริยาของเธอในวันวาน“พ่อมาหาหนูไงคะลูก” หิรัญใจชื้นขึ้นเมื่อเด็กหญิงยอมพูดกับเขาบ้าง ดีกว่าท่าทางปฏิเสธเด็ดขาดแบบเมื่อวาน“น้องบัวออกไปบอกลุงลมให้ย่างหมูได้แล้วลูก เดี๋ยวแม่ตามออกไปนะคะ” กัทลีออกคำสั่งเบี่ยงเบนความสนใจของลูก ทำให้เด็กหญิงทำท่านึกออกว่าเธอกำลังจะออกไปหากลุ่มเพื่อนๆ ของแม่ “ค่ะแม่” เมื่อมารดาพยักหน้าให้เด็กหญิงก็เลยเลิกสนใจ ‘คุณพ่อ’ และวิ่งตื๋อออกไปอย่างรวดเร็วกัทลีมองตามหลังลูกจากนั้นกลับมามองอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิม “เรื่องเมื่อเช้าขอบคุณมากแต่เมื่อไหร่คุณจะกลับไปสักทีฮะหิน” “วันนี้กล้วยจะฉลองกับเพื่อนเก่าไม่ใช่

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 5  หย่ากันแล้วถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสามีแต่ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่

    ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านประตูรั้วมาจอดไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่ “ใครมา อ้าวไอ้ลม ไอ้จิณพวกมันมากันทำไม” หิรัญมองเพื่อนเก่าสองคนที่ลงจากรถ“อ้าวไอ้หินมันอยู่ด้วยเหรอวะมึง” วาตะกระซิบถามจิรัช“กูก็มาพร้อมมึง แล้วก็เห็นมันยืนอยู่พร้อมกันกูจะรู้ไหมล่ะ” จิรัชตอบจากนั้นเขาทักทายหิรัญและเจ้าของบ้านสาว“ว่าไงวะมึงไอ้หิน กูได้ข่าวว่ามึงจะกลับมาอยู่บ้านถาวรเลยเหรอ” “เออว่ะ ตอนนี้ทางโน้นปิดงานหมดกูเลยว่าจะมาหาอะไรทำที่บ้าน” หิรัญเดินไปหาเพื่อนสองคนที่เขาเคยสนิทและมาห่างกันช่วงไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี“ละมึงมาทำไมกัน ขนอะไรกันมาเยอะแยะ” ชายหนุ่มมองข้าวของในมือของวาตะที่ส่งมาให้จิรัชและตน เขารับมาช่วยถืออย่างงงๆ และพบว่ามันเป็นพวกน้ำแข็ง เครื่องดื่มนานาชนิดนั่นเองยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะตอบ กัทลีก็แทรกขึ้น “แล้วอีกสองสาวล่ะ ยังไม่มาเหรอ” “วันนี้วันเสาร์วุ้นมันไปเคลียร์งานครึ่งวันบีเลยจะไปรับแล้วจะมาพร้อมกัน เดี๋ยวคงมาถึงตะกี้มันโทรมาถามว่าฉันสองคนซื้ออะไรมาแล้วบ้าง” วาตะเป็นคนตอบพลางเดินนำเข้าบ้านเปิดประตูบ้านอย่างคุ้นเคย ส่งเสียงทักทายสาวน้อยวัยเจ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 4  ไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากคำพูดว่า “ผมขอโทษ”

    “กล้วย กล้วยเอ้ย อยู่ไหมลูก” นางกินรีมาตะโกนเรียกบุตรสาวที่หน้าบ้านในเช้าวันต่อมา ทำให้กัทลีที่กำลังจะเก็บถ้วยจานที่ใช้ในมื้อเช้าไปล้างต้องชะงัก หญิงสาวสบตาน้องบัวที่ลอบทำหน้าเบื่อเมื่อได้ยินว่าคุณยายมา กัทลีไม่ได้ว่าอะไรลูก‍สาวเพราะเธอเองก็เบื่อหน่ายไม่แพ้กัน เนื่องจากนางกินรีถึงจะมาที่นี่ไม่บ่อยแต่ว่าหากจะมาทีไร ก็มีแต่เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจหรือร้อนหูมาให้ไม่เคยว่างเว้น“หนูขึ้นไปทำการบ้านข้างบนไหมลูก เดี๋ยวแม่ตามขึ้นไปดูค่ะ” แต่เด็กหญิงส่ายศีรษะทันที “ไม่ค่ะ หนูจะอยู่กับแม่”หญิงสาวออกมาเจอมารดาหน้าบ้าน ไม่ได้เชิญให้นางเข้าไปคุยกันข้างในแต่อย่างใด“มาที่นี่มีอะไรเหรอคะแม่” “กล้วย เอ็งพอมีเงินให้แม่สักหน่อยไหมขอแค่สามหมื่น แม่ต้องใช้ด่วนวันนี้เลย” หญิงวัยกลางคนเริ่มต้นพูดธุระทันที ไม่มีแม้แต่จะไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ“ฉันไม่มีเงินให้แม่หรอก ถ้าแม่มาแค่เรื่องนี้ก็กลับไปเถอะ” ภาพที่นางกินรีหอบกระเป๋าใส่เงินห้าแสนที่นางเรียกเป็นค่าไม่ฟ้องผู้เยาว์หิรัญเมื่อแปดปีที่แล้ว ก่อนจะทิ้งเธอไว้กับครอบครัวของหิรัญยังคงชัดเจนในใจ“แต่พี่แกกำลังลำบากนะกล้วย แกเองก็ได้ดิบได้ดีแล้วไ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 3  ในระหว่างที่เราเติบโต  เราทำอะไรในชีวิตหล่นหายไปบ้าง

    กัทลีมาถึงบ้านแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่มารอ หิรัญนั่นเองเธอมองชายหนุ่มอย่างสงสัยว่าเขามาที่บ้านนี้ทำไมกัน“กล้วย น้องบัว” ชายหนุ่มลุกจากเทอเรซหน้าบ้านทันที เขาว่าเขาตามเธอออกมาจากบ้านเวลาห่างกันไม่ถึงยี่สิบนาที แต่มาถึงไม่เจอใครและต้องมานั่งรออยู่เกือบชั่วโมงแล้ว“มาที่นี่มีอะไรเหรอหิน” น้ำเสียงของกัทลีราบเรียบจนหิรัญเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่เขากลับมาที่นี่อดีตภรรยาไม่เคยแสดงอาการเหวี่ยงวีนหรือโกรธเขาเลยสักครั้ง ต่างจากเมื่อเจ็ดปีก่อนลิบลับที่หลังจากคลอดน้องบัว กัทลีมักจะโทรหาเขาในตอนค่ำๆ หิรัญในตอนนั้นเรียนปีหนึ่งเทอมสองเป็นช่วงที่ชีวิตในรั้วมหาลัยเริ่มลงตัว มีสังคมใหม่ มีกิจวัตรใหม่ แรกๆ เขาก็รับสายของเธอดี แต่ช่วงหลังหิรัญเริ่มติดเพื่อน เริ่มมีไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทในคณะซึ่งส่วนมากก็เป็นการเที่ยวกลางคืน ทำให้เขาเริ่มไม่อยากรับสายกัทลีถึงรับก็พูดด้วยความเร่งรีบจนเธอเริ่มระแวงและหาเรื่องว่าเขาเปลี่ยนไป เมื่อถูกโวยวายชวนทะเลาะบ่อยๆ เขาเริ่มไม่รับสาย และยกเลิกการกลับบ้าน และจนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนไหนก็ไม่รู้ที่เขาไม่ได้สังเกตว่าเธอไม่ได้โทรหาเขาอีกเลย“เอ่อ ผมมาหาน้อง

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 2  การรอคอยนั้นคุ้มค่า... แค่กับคนที่สมหวังเท่านั้น

    “ไปค่ะ หนูจะเอาขนมอะไรแม่ให้เลือกได้สองอย่าง” กัทลีจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อปากทางเข้าบ้านตามที่ลูก‍สาวร้องขอ“ค่ะแม่ แม่อยากกินอะไรไหมคะ” น้องบัวหันมาถาม“เรามีกับข้าวที่คุณย่าทำมาให้เยอะแล้วนะลูก ขนมก็มีไม่ใช่เหรอคะ”เด็กน้อยพยักหน้าตาม “จริงด้วยค่ะ งั้นเอาขนมไปไว้เผื่อกินพรุ่งนี้นะคะแม่ พรุ่งนี้วันอาทิตย์เผื่อไม่ได้ออกมา” กัทลีนึกขำในความ “ยังไงก็จะเอา” ให้ได้ของลูก‍สาว กระนั้นเธอก็อนุญาตเพราะคิดว่าดีเหมือนกัน พรุ่งนี้ลูก‍สาวจะได้ไม่รบเร้าให้พาออกมาซื้อของข้างนอกอีกใช้เวลาไม่นานสองแม่ลูกก็มาต่อแถวรอคิดเงิน กัทลีมองเด็กวัยรุ่นในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายชายหญิงคิวก่อนหน้าตนเองสามคิว ท่าทางบอกชัดว่าน่าจะเป็นคู่รักกันมากกว่าเพื่อน“ตัวเองจะยื่นพอร์ตที่ไหน เรายื่นที่เดียวกันนะ จะได้ไปเรียนที่เดียวกัน” เด็กหนุ่มพูด“เชียงใหม่ดีไหมเขาอยากไปเรียนเชียงใหม่ ไกลดี” เด็กสาวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะพูดต่อ “พูดเล่นน่ะ เราว่าไปกรุงเทพฯ ดีกว่า คณะ....น่าสนใจหรือตัวคิดยังไง” “ก็ดีเหมือนกัน คะแนนเขาน่าจะถึงเราเข้าวิศวะกันนะ ถ้าได้เข้าที่เดียวกันจะได้อยู่หอด้วยกัน”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status