Beranda / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 25  พายุในคืนหนึ่ง

Share

ตอนที่ 25  พายุในคืนหนึ่ง

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-28 01:20:51

 

ฟ้าคำรามลั่นตั้งแต่ช่วงเย็น ลมแรงพัดเอาใบไม้ปลิวว่อนทั่วฟาร์มเม‍ล่อนในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้

หิรัญยืนอยู่กลางโดมเพาะปลูก ตรงจุดที่เขาเพิ่งเปลี่ยนอุปกรณ์โครงหลังคาโรงเรือนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เขาเคยไว้ใจคำโฆษณาของเบญจา เชื่อว่าสิ่งที่เธอเสนอมาแม้จะแพงกว่าย่อมคุณภาพดีกว่า

ทว่าเมื่อพายุฤดูร้อนเริ่มมา  ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงโครมดังสนั่นเมื่อเขาวิ่งฝ่าฝนมาที่โรงเรือน  ก็ได้เห็นภาพโครงเหล็กบางส่วนพังครืนลงตรงหน้า  สิ่งพวกนี้บอกกับเขาอย่างชัดเจนว่าเขาคิดผิด

“พี่หิน ออกมาก่อนพี่  อันตรายนะพี่”

สิงห์ คนงานประจำฟาร์มตะโกนลั่นกลางสายฝนแต่ชายหนุ่มยังยืนอยู่ตรงนั้น  เขาตะโกนเรียกให้ลูกน้องรีบตัดไฟและหาทางปิดทางน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาในโดม

เสียงผ้าใบที่หลุดลงจากโครงเหล็กตีกับลมอย่างน่ากลัว  เสียงพายุโหมฟ้าลงเหมือนปีศาจกำลังโกรธ  ต้นยางนาที่มีหลายต้นกิ่งเริ่มหักตกลงมาที่พื้น  รวมถึงต้นเม‍ล่อนในโดมที่กำลังออกผลล้มระเนระนาดเกือบทั้งแปลง  กลิ้งกระจายเต็มพื้น

เขาไม่แน่ใจว่าสะโพกของตัวเองกระแทกกับอะไรตอนที่พยายามจะยกต้นเม‍ล่อนของน้องบัวขึ้นมา  ทุกอย่างพังพินาศในพริบตาเหมือนความหวังที่กำลังเริ่มก่อตัวแต่แล้วมันก็หายไปดื้อๆ

ในตอนเช้าพายุผ่านไปแล้ว  ฟ้าหลังฝนนั้นสดใสสวนทางกับใจของหิรัญที่กำลังหมดหวัง  เขายังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนชายหนุ่มช่วยกันเก็บของกับคนงานในฟาร์ม  จากนั้นพวกเขาก็รอดูสถานการณ์อีกทั้งคืน

เขานั่งอยู่เงียบๆ หน้าบ้านไม้ในฟาร์ม เสื้อเปียกชื้นแห้งไปแล้วแต่แววตาเหนื่อยล้ายังปรากฏอยู่ชัดเจน

น้องบัวลงจากรถของแม่  วิ่งเข้ามาในฟาร์มเหมือนทุกเช้าวันเสาร์ที่เธอมาที่นี่   แต่สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าทำให้เด็กหญิงชะงัก  ไม่มีโดมปลูกเม‍ล่อน  เหลือเพียงกองซากเหล็กและผ้าใบที่พังลงมาไม่มีชิ้นดีต้นไม้ยืนต้นหลายต้นบางต้นกิ่งหัก บางต้นก็ล้มทั้งต้น  รวมถึงต้นเม‍ล่อนที่ไม่เหลือเลยสักต้น 

ไม่มีป้ายชื่อของเธอที่เคยอยู่หน้าต้นเม‍ล่อนและไม่มีรอยยิ้มของพ่อที่รอรับเธออยู่ตรงหน้าบ้านเหมือนทุกที

“พ่อขา...” เด็กหญิงเรียกเสียงแผ่ว วิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่ที่หน้าบ้าน

หิรัญเงยหน้าขึ้นช้าๆ แววตาเขาแดงก่ำ  “ต้นเม‍ล่อนของลูก...มันตายหมดแล้วลูก พ่อขอโทษนะ”

น้องบัวไม่ตอบในทันที เธอเหลียวไปมองแปลงปลูกที่พังจนหมด  แล้วหันกลับมาหาพ่อ เธอค่อย ๆ ยกมือเล็กขึ้นแตะใบหน้าของหิรัญอย่างปลอบโยน

“ไม่เป็นไรนะคะพ่อ  เราปลูกกันใหม่ได้ค่ะ”

หิรัญชะงัก รู้สึกเหมือนบางสิ่งบางอย่างกำลังแตกออกภายในตัวเขา ความอ่อนแอทั้งหมดที่เคยสะสมมาเหมือนถูกมือเล็กๆ นั้นคลี่ออกอย่างแผ่วเบา

“ลูกไม่โกรธเหรอคะ” เขาถาม

“ไม่เลยค่ะ  หนูอยากช่วยพ่อทำอีก  คราวนี้หนูจะปลูกเองตั้งแต่ต้นเลยนะคะ”

เขายิ้มออกมาได้ในที่สุด น้ำตาซึมโดยไม่รู้ตัว เขาดึงลูกเข้ามากอดแน่น  กัทลีมองภาพสองพ่อลูกก่อนจะมองไปรอบๆ  เธอเดินไปถามอะไรบางอย่างกับพวกคนงาน  หญิงสาวพยักหน้ารับรู้และตัดสินใจบอกพวกเขาว่าฝากดูลูก‍สาวส่วนตัวเธอเองขับรถออกไปจากฟาร์ม

หญิงสาวหายไปราวครึ่งชั่วโมงเศษ  รถยนต์ของกัทลีก็กลับเข้ามาจอดที่เดิม  หญิงสาวลงมาเปิดท้ายรถและเรียกแม่ครัวและคนงานให้มาช่วยกันขนอาหารสำเร็จในกล่องแบบพร้อมกิน  และของสดบางส่วนที่เธอไปเหมาซื้อมาจากตลาดเช้าที่อยู่ห่างจากฟาร์มไปไม่กี่ร้อยเมตร

หญิงสาวมาเรียกน้องบัวให้ไปกินข้าวที่เธอจัดไว้ให้แล้ว  เมื่อเห็นสภาพโรงเรือนชัดๆ  เธอก็ถึงกับยืนอึ้งอีกรอบ

“ฟ้าลงที่นี่เมื่อคืนเลยสินะ…” เธอพึมพำเบาๆ  หญิงสาวแตะที่ต้นแขนของหิรัญ

“หิน  ไปกินข้าวพักผ่อนก่อนนะ  ค่อยมาคิดกันว่าจะทำอะไรต่อ” 

ชายหนุ่มหันมามองหน้าเธอเหมือนเพิ่งหลุดจากภวังค์  กัทลีจึงย้ำ  “เดี๋ยวเรามาคิดด้วยกันนะว่าจะทำยังไงต่อ” 

หิรัญเดินตามมาที่โต๊ะรับประทานอาหารในโรงครัว  ที่คนงานช่วยกันทำความสะอาดกันไปส่วนหนึ่ง  เขานั่งลงและรับอาหารจากมือเธออย่างเงียบๆ 

“กล้วย  ผมขอบคุณมากๆ นะ”  เมื่อท้องอิ่มชายหนุ่มก็เริ่มได้สติกลับมา  เขามองกัทลีที่ช่วยเข้ามาจัดการเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่ทำได้เลยอย่างขอบคุณ  มองลูก‍สาวตัวเล็กที่ช่วยเข้ามาเป็นกำลังใจแม้ว่าเธอเองก็มีสิ่งที่ต้องเสียใจเช่นกัน

เขาไม่รู้จะพูดอะไรอีก  เป็นอีกครั้งที่ผู้หญิงสองคนนี้ช่วยตอกย้ำว่าในวันที่เขามีปัญหา  พวกเธอก็คือคนที่อยู่เคียงข้างและช่วยเขาแก้ปัญหาโดยที่ไม่พูดอะไรมากมาย

กัทลีมองไปยังลูกที่นั่งจัดเรียงกระป๋องเมล็ดพันธุ์ที่กระจัดกระจายให้อยู่ด้วยกัน  โดยวางเรียงบนตะกร้าใบเดียวกันซึ่งเป็นงานที่เด็กทำได้

“คุณรู้ไหมหิน  ว่าลูกของเราเข้มแข็งกว่าที่เราคิด”

“ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้  แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วกล้วย”

“ฉันอยากบอกว่าแค่คุณยังอยู่ตรงนี้  แค่ไม่ยอมถอดใจ  ไม่ทิ้งฟาร์ม  ไม่ทิ้งแกไปไหน  น้องบัวก็จะไม่มีวันทิ้งคุณให้เจอปัญหาอยู่คนเดียว” 

ชายหนุ่มพยักหน้าช้าๆ ดวงตาสั่นไหวด้วยความรู้สึกผิดที่ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้และแม่ของแก

“ขอบคุณนะกล้วย  ขอบคุณที่คุณกับลูกไม่ทิ้งผมไปไหน”

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะท้อและไม่ใช่เวลาที่คุณจะรู้สึกผิดอะไรกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว  แต่คุณมีคนงานที่ต้องรับผิดชอบ  ฉันเข้าใจถ้าคุณจะผิดหวังหรือเสียใจแต่คุณต้องลุกให้เร็วนะหิน”   

ธนนท์เดินเข้ามาพอดี  เขาเห็นภาพกัทลียื่นมือไปตบไหล่หิรัญ

เบา ๆ ดวงตาของเธอไม่ได้แค่ให้กำลังใจ...แต่มันอ่อนโยนจนเกินกว่าคำว่า  “คนเคยรัก”

ธนนท์ยืนมองอยู่เงียบๆ  ไม่มีใครรู้ว่าเขามา  แต่แววตาของเขาเศร้าขึ้นเล็กน้อย...เพราะในที่สุด เขาก็เข้าใจ

          ช่วงบ่ายปู่เหมและนางจันทร์‍หอมมาที่ฟาร์มเพราะได้ข่าวพายุดังกล่าว  ชายสูงวัยทำท่าตกใจเมื่อบุตรชายบอกว่าจะขายรถหรูที่เคยหวงมาก

“จะขายทำไมหิน  ถ้าทุนหมดก็เอาที่พ่อใหม่ได้  เรื่องพายุพ่อเข้าใจถ้ากู้แบงก์  แบงก์ก็ให้ใหม่ได้อยู่ดี”          

          “เอาไว้มันก็ไม่ได้ใช้ครับพ่อ  ขายเถอะแล้วผมจะเอาเงินมาลงทุนทำฟาร์มใหม่อีกครั้ง  ผมเคยรักมันมากแต่ตอนนี้ผมมีสิ่งที่รักมากกว่าแล้ว”

          ปู่เหมมองตามสายตาลูกชาย  เห็นหิรัญมองตรงไปยังสองแม่ลูกที่อยู่ในโรงครัวกับแม่ครัวและย่าจันทร์‍หอมก็เข้าใจ  เขามองลูกชายด้วยสายตาแบบใหม่  สายตาที่ภูมิใจและดีใจว่าในที่สุด  หิรัญก็ “รัก” เป็นและรักมากพอที่จะเสียสละอะไรให้ใครได้แล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status