Beranda / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่  30  วันพ่อ

Share

ตอนที่  30  วันพ่อ

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-28 01:24:30

 

เช้าวันพุธในเดือนธันวาคม อากาศเริ่มเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด  ลมหอบความสดชื่นจากยอดเขามาแตะริมรั้วโรงเรียนของน้องบัว วันนี้เป็นวันก่อนวันพ่อแห่งชาติหนึ่งวัน  และทางโรงเรียนจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ เขียนเรียงความหรือวาดภาพถึงคุณพ่อของตนเอง

กัทลีลางานในช่วงเช้าเพื่อมาร่วมกิจกรรมกับลูก แม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ในความหมายเดิม แต่วันนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็นมา  พวกเขาเดินทางมาพร้อมกันสามคนพ่อแม่ลูกตั้งแต่เช้า   หิรัญสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนที่น้องบัวเป็นคนเลือกให้   กัทลียืนอยู่มุมหนึ่งของห้องประชุมโรงเรียนเงียบๆ  คอยมองลูกและรอให้กำลังใจ

พิธีเริ่มต้นอย่างเรียบง่าย มีครูใหญ่ขึ้นมากล่าวถึงความสำคัญของวันพ่อ และเปิดเวทีให้นักเรียนบางคนที่กล้าแสดงออกได้อ่านเรียงความของตนเองหน้าชั้น

น้องบัวนั่งกอดกระดาษแผ่นเล็กๆ ของตัวเองแน่น พอถึงคิวของเธอ คุณครูก็เอ่ยเรียกชื่อ เด็กหญิงลุกขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วเดินขึ้นเวทีไปด้วยรอยยิ้มเขินอาย

“สวัสดีค่ะ  วันนี้หนูจะมาเล่าเรื่องคุณพ่อของหนูนะคะ  คุณพ่อของหนูชื่อหิรัญค่ะ”

เด็กหญิงเริ่มต้นเรียบง่าย เสียงของเธอดังกังวานแต่สั่นนิดๆ

“ตอนเด็กหนูไม่ค่อยได้อยู่กับคุณพ่อ เพราะคุณพ่อไปทำงานไกลบ้าน  แต่แม่บอกว่าคุณพ่อไม่ได้หายไปไหน  แค่ยังกลับมาหาหนูกับแม่ไม่ได้  คุณแม่บอกว่าพ่อทำงานหนักมากเพื่อหาเงินมาให้หนู  แต่หนูก็ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรเพราะหนูมีแม่  มีปู่มีย่าด้วยค่ะ”

หิรัญก้มหน้าลงซ่อนแววตาที่เริ่มแดงเอาไว้ ข้างตัวเขา พ่อแม่คนอื่นๆ ก็เริ่มเงียบฟัง

“แต่ว่าตอนนี้หนูมีข่าวดีคือคุณพ่อกลับมาแล้วนะคะ  และคุณพ่อปลูกต้นเม‍ล่อนให้หนู  ทำโรงเรือนให้หนูเดินเล่น และทำทุ่งดอกไม้ให้หนูถ่ายรูป”  

น้องบัวยิ้มกว้างขึ้น  น้ำเสียงเริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

“แม่บอกว่าคุณพ่อพยายามมากเพราะคุณพ่อเป็นวิศวกร  คุณพ่อปลูกอะไรไม่เป็นเลยแต่คุณพ่อก็พยายามเพราะจะได้อยู่กับหนูที่นี่   แม่บอกว่าพ่อเลี้ยงเด็กไม่เป็นแต่แม่ก็ยิ้มทุกครั้งที่เห็นคุณพ่อดูแลหนู ตอนนี้หนูมีความสุขมากๆ   แล้วหนูเลยคิดว่าคุณพ่อของหนูเก่งที่สุดในโลกค่ะ”

เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากเธอพูดจบ  หิรัญยืนขึ้นรับลูกลงจากเวทีด้วยอ้อมแขนอบอุ่น  กัทลียืนอยู่ตรงริมประตูมือเธอกำกระเป๋าแน่นโดยไม่รู้ตัว  น้ำตาไหลเงียบๆ จนเธอต้องรีบควานหากระดาษมาซับน้ำตา มันเป็นน้ำตาที่เกิดจากความอิ่มใจและการปล่อยวางอย่างแท้จริง

หลังจบกิจกรรม  น้องบัววิ่งไปหากัทลีก่อนจะพูดว่า “แม่เห็นหนูพูดไหมคะ”

หญิงสาวย่อตัวลงกอดลูกแน่น “เห็นจ้ะ  หนูเก่งมากแม่ภูมิใจในตัวหนูที่สุดเลย”

“หนูก็ภูมิใจที่เป็นลูกของแม่กับพ่อนะคะ   หนูรักแม่กับพ่อมากเลยค่ะ”  เด็กหญิงชะโงกใบหน้ามาหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่  และทำแบบเดียวกันนั้นกับหิรัญเช่นกัน

“คุณครูบอกว่าให้หนูรอรับเกียรติบัตรก่อนแล้วกลับบ้านได้เลยค่ะ   แม่ขา...  เราไปกินข้าวด้วยกันสามคนไหมคะ” 

เด็กหญิงถามเสียงใส  กัทลีหันไปสบตากับหิรัญที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มบางๆ แล้วรอคำตอบจากเธอ

“ก็ได้จ้ะ งั้นเราไปนั่งที่เก้าอี้กันรอหนูรับเกียรติบัตรก่อนนะคะ”  กัทลีหิ้วกระเป๋าเป้ของลูกขณะที่คนเป็นพ่ออุ้มลูก‍สาวเดินตามมาไปนั่งยังเก้าอี้ว่างในห้องประชุมนั้น  เพื่อรอพิธีต่อไปบนเวที

“สวัสดีค่ะ  คุณแม่น้องบัว”  ผู้ปกครองของเพื่อนร่วมห้องของเด็กหญิงทักทายกัทลีอย่างคุ้นหน้ากันดี

“สวัสดีค่ะ  คุณแม่น้องโอปอ”  หญิงสาวหันกลับไปยิ้มและทักทายกลับ

“ค่ะ  แล้วนี่จบงานโรงเรียนปิดหลายวัน  คุณแม่น้องบัวจะพาน้องไปเที่ยวที่ไหนกันคะ  นี่บ้านดิฉันว่าจะไปภูเก็ตกันน่ะค่ะไปนอนเล่นริมทะเลสักสองสามคืน”

กัทลียิ้ม  “ช่วงนี้คงไม่ได้ไปไหนไกลหรอกค่ะ  น้องบัวเขาเห่อพวกดอกไม้ผลไม้ที่ฟาร์มของคุณพ่อเขา  ต้องไปดูทุกวัน” 

“น้องบัวเป็นเด็กน่ารักจังค่ะ  จิตใจคงอ่อนโยนรักธรรมชาติขนาดนี้  แต่แหม... ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ  ว่าน้องบัวจะมีพ่อเอ้ยคุณพ่อจะหล่อขนาดนี้” 

จากคำทักทายปกติในทีแรก  แต่ประโยคที่สองสามเริ่มฟังดูแปลกๆ  กัทลีเริ่มขมวดคิ้วแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร  หิรัญก็เป็นคนตอบแทนหลังจากที่ฟังมาสักพัก

“ผมมาส่งลูกทุกเช้า  ถ้าคุณไม่เคยเจอผมแปลว่าแปลกไปหน่อย  สามีคุณผมยังรู้จักเลยว่าเป็นลูกหนี้แม่ผม” 

โอ๊ย...  กัทลีร่ำร้องในใจ  วันดีๆ กำลังจะมีเรื่องรึเปล่าเนี่ย

“คุณพูดอะไรน่ะ  คุณเป็นใคร เจ้าหนี้อะไรพูดดีๆ นะ”  แม่น้อง

โอปอน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแต่ไม่กล้าพูดดัง

หิรัญยกสองมือขึ้นปิดหูน้องบัวแล้วหันไปทางด้านแม่น้องโอปอและพูดว่า 

“ผมเป็นลูกชายของคุณนายจันทร์‍หอม  ที่สามีคุณเพิ่งไปทำสัญญาเงินกู้เมื่อสองวันก่อน  เห็นบอกว่าจะเอาเงินไปเที่ยวพาลูกเมียไปภูเก็ตแต่เงินไม่พอเลยต้องมากู้ไง  ผมเป็นคนทำสัญญาให้เองจะให้บอกด้วยไหมว่าสามีคุณชื่ออะไร” 

แม่น้องโอปอหน้าซีดก่อนจะรีบฉวยมือลูก‍สาวลุกขึ้น  “ลูกกลับบ้านเถอะค่ะ  ลานะคะคุณแม่น้องบัว” 

เธอรีบเดินฉับๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว  ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ ของผู้ปกครองคนอื่น  กัทลีเอื้อมมือไปหยิกแขนหิรัญอย่างหมั่นไส้  ส่วนชายหนุ่มก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“หิน  ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้นะ”

ร้านอาหารตามสั่งริมถนนหน้าทางเข้าวัดใกล้โรงเรียนมีโต๊ะไม้ยาวว่างอยู่หนึ่งโต๊ะ  ทั้งสามคนเลือกนั่งตรงม้าหินใต้ซุ้มต้นลดาวัลย์ที่กำลังออกดอกส่งกลิ่นหอมโชยไปทั่วบริเวณ    น้องบัวนั่งตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่   เด็กหญิงสั่งไข่เจียวหมูสับกับข้าวผัดกุ้ง  ส่วนหิรัญสั่งต้มยำไก่ใส่เห็ดและกัทลีเลือกส้มตำปูปลาร้าเผ็ดน้อย

ระหว่างรออาหาร หิรัญหยิบสมุดเล่มหนึ่งจากกระเป๋าแล้วส่งให้ลูก “พ่อทำปกให้ใหม่ด้วยนะครับลูก”

เป็นสมุดระบายสีเล่มเดิมที่น้องบัวเขียนข้อความถึงพ่อไว้ก่อนหน้า เด็กหญิงเปิดดูแล้วยิ้มกว้าง

“คุณพ่อวาดรูปปลาทองเก่งมากเลยค่ะ   แม่สอนความหมายของคำ ‘อดทน’ ด้วยนะคะคุณพ่อ”

“จริงเหรอครับ  แม่สอนว่าอะไรบ้าง” หิรัญถามอย่างสนใจ

“แม่บอกว่าอดทนคือการไม่หนี แม้จะเหนื่อย แต่ก็ยังอยู่ตรงนี้เพื่อคนที่เรารัก”

กัทลีเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะหันไปสบตากับหิรัญแล้วพูดว่า “น้องบัวเข้าใจอะไรมากกว่าที่เราคิดนะคะ”

ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างลึกซึ้ง และในวินาทีนั้นเอง หัวใจของใครบางคนก็เริ่มอ่อนโยนลงอีกนิดโดยที่ยังไม่มีคำว่ารักเลยสักคำ  แต่ความรู้สึกนั้นกลับฟูในใจของคนทั้งสาม  ที่รับรู้มันด้วยความรู้สึกไม่ใช่ภาษาพูด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status