Share

บทที่2

last update Last Updated: 2024-12-24 17:55:23

"ชนหน่อยหว่ะ"

"อาการมันเป็นยังไง"

"ไม่รู้หว่ะ รู้แต่โคตรปวดหัว"

"เออ ใจร่มร่ม"

ความโชคดีของผมวันนี้ คือการมีไอ้เตอร์ไอ้กายเป็นเพื่อน ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย แค่โทรตามคำเดียวพวกมันก็พร้อมจะมานั่งเป็นเพื่อนผมเหมือนตอนนี้ ก่อนที่ไอ้กายจะยื่นข้อเสนอโดยการจะเรียกสาวๆ มานั่งเป็นเพื่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่อิดออดและตอบรับ แต่ตอนนี้กลับรีบปฏิเสธ แค่ได้ยินคำว่า สาวๆ ของไอ้กาย หน้าของยัยลูกหมูก็ลอยมาทันที...ผมถึงกับต้องส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ภาพในหัว หลอนชะมัด

พวกผมนั่งดื่มกันสักพัก สายตาคมๆ ของผมก็ไปสะดุดกับหุ่นหมูหมูยืนเต้นส่ายสะโพกไปมาอยู่ตรงโต๊ะถัดไปไม่ไกลจากที่ผมนั่ง ไหนจะเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยโชว์ห่วงยางกับขาหมูนั่นอีก น่าสงสารสายตาพวกผู้ชายที่นั่งมองเธออยู่จริงๆ

"ไอ้เตอร์ มินมาหรอวะ"

"อืม มายชวน"

"อ่อ..."

ก่อนจะเหลือบไปเห็นเธอกำลังเดินไปทางห้องน้ำโซนวีไอพี ผมผู้ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมืออยู่แล้ว ลุกตามไปแกล้งยัยว่าที่คู่หมั้นซะหน่อยดีกว่า ผมยืนกอดอกพิงผนังอยู่หลายนาทียัยนั่นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเดินเชิดหน้าหยิ่งๆ ด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหันมาเห็นและทำตาโตใส่ผม 

"มาฉลองหรอคับ คุณว่าที่คู่หมั้น"

"นี่ นายมาได้ยังไง"

"ขับรถมา"

"หลบไปเลย เกะกะ"

"ยังไม่ตอบคำถามเลยนะ ยัยเตี้ย"

"มากินเหล้าย้อมใจ ก่อนจะตกนรก"

"ปากแจ๋วสุดสุด"

"ปากแซ่บมากด้วยจ่ะ ไอ้บ้า"

"แบร่"

"อื้อ"

ผมไม่ปล่อยให้ยัยลูกหมูที่กำลังจะเดินสะบัดหน้ากระแทกเท้ากลับโต๊ะ ลากแขนเรียวเล็กมาตรงมุมหลบสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี ดันให้แผ่นหลังบางชิดกำแพงและใช้สองแขนแกร่งกักขังเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน ก่อนจะใช้ริมฝีปากหนาของผมกดจูบริมฝีปากบางสีแดงของเธอ พยายามสอดลิ้นร้อนเข้าไปในปากเล็กเล็กที่เสียงแจ๋วใส่ผมเมื่อครู่ อยากจะรู้ว่าจะแซ่บเหมือนที่โอ้อวดรึป่าว ลิ้มลองความแซ่บอยู่นานเกือบสิบนาที จึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง เลิกคิ้วยียวนมองเธอที่กำลังถลึงตาเขียวใส่ผม ปากเล็กๆ บวมเจ่อ ชวนให้ผมก้มลงไปกดจูบอีกครั้ง ... จ๊วบ จุ๊บ แซ่บนิดหน่อย หึ

ผมค่อยๆ ผละตัวออก เอาสองมือล้วงกระเป๋า ผิวปาก เดินกลับโต๊ะอย่างสบายใจ อยู่ๆ ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ หูก็แอบได้ยินเสียงกระแทกเท้าของเธออย่างเอาแต่ใจ เดินตามหลังผมมาอยู่ห่างๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ผมกับเธอก็ไม่ลืมที่จะทำเนียนเป็นไม่เห็นกัน ทำตัวเฮฮาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน สายตาผมก็ทำทีมองโน่นมองนี่ไปรอบๆ ลอบมองเธอคอยจับผิด ว่าจะไปโปรยเสน่ห์ใส่หนุ่มๆ คนไหนรึป่าว เพราะมันเป็นหนึ่งในข้อตกลงระหว่างผมกับยัยลูกหมู...จะว่าไปคืนนี้ก็ไม่ได้แย่ หึ

"ฮัลโหล..."

"ลงมา"

"ใคร"

"จำเสียงว่าที่คู่หมั้นไม่ได้"

"นี่..."

"10 นาที ให้ไว"

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

ฉันที่กำลังนอนฝันหวานอยู่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด พอกดรับสายก็เป็นนายนั่นที่โทรมาเร่งๆ ฉันแต่เช้าแถมยังกดตัดสายฉันอีก ไม่มีมารยาทสุดๆ ถ้าเจอจะหยิกปากให้เลือดออกเลยคอยดู แล้วยังจะมาให้เวลาฉันแค่สิบนาทีอีก ชิ...เชิญรอให้ฉ่ำไปเลยจ๊ะ

ผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีที่ฉันใช้ไปกับการอาบน้ำ แต่งหน้าทำผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะวันนี้ฉันต้องไปลองชุดที่จะใส่ในวันหมั้น ฉันจึงเลือกหยิบเดรสยาวสีชมพูสายเดี่ยวมีซิปด้านหน้ามาใส่และรวบผมสูงคาดผมด้วยที่คาดผมสีชมพูแบรนด์ดัง ฉีดน้ำหอมนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปเลือกกระเป๋าหรูสีขาวในตู้มาถือ และเดินลงไปหา คนขับรถที่อาสามารอรับอยู่ข้างล่าง ทันทีที่ฉันเปิดประตูรถเข้ามาหย่อนสะโพกนั่ง เสียงน่ารำคาญก็ดังขึ้น

"หนึ่งชั่วโมง"

"อืม นานหรอ"

"หึ กล้าถามนะ"

"ขับรถไปเลย พูดมาก"

"แวะซื้อชาเย็นหน่อย"

"จิ๊! เรื่องมากจังวะ"

ฉันหันไปมองตาขวางใส่เขาทันทีที่ได้ยินเขาว่าฉัน แต่ต้องพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้เย็นที่สุด ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอ พองหนอ ไม่ให้ตัวเองโมโหมากจนเกินไปเดี๋ยวตีนกาจะขึ้นมาอยู่บนใบหน้าสวยๆ ของหนูมายหมด ก่อนที่เขาจะขับสปอร์ตหรูเข้าไปสั่งเครื่องดื่มผ่านช่องไดร์ฟทรูให้ฉันและเขา ฉันที่พึ่งสังเกตว่าวันนี้นายนั่นอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนปลดกระดุมโชว์แผงอกเล็กน้อย พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์พอดีตัวขายาว พอไปวัดไปวาได้ เพราะปกติเวลาไปกับเพื่อนๆ เขามักจะอยู่ในลุคเซอร์ๆ เสื้อยืดโอเวอร์ไซต์สีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวเสมอ

#ไม่รู้ว่าใครแสบกว่ากัน

#อ่านเพลินๆ เน้นฟิลกู้ด ขำๆ กันเหมือนเดิมนะ^^

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่42

    ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่41

    "สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษ​คับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์​ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่40

    และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณ​ตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่39

    และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่38

    เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่37

    "ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status